บทที่1.จบตอน
เสียงร้องโอดโอยและเสียงปืนดังสนั่นไปทั้งบ้านหลังงามพร้อมกับประตูห้องนอนหรูหราที่พร่าความสาวของหญิงสาวมานับไม่ถ้วนถูกกระแทกอย่างแรงจนบานประตูที่ว่าแข็งแรงนั้นพังลงมาทำให้ร่างสูงของผู้เป็นเจ้าของห้องที่กำลังก้มลงดอมดมความหอมละมุนจากทรวงสาวอวบอิ่มต้องชะงักมองผู้บุกรุกด้วยความโกรธแต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววยโสอวดดีนั้นก็พลันซีดขาวราวไก่ต้ม ในขณะที่พลอยไพลินพยายามตะเกียกตะกายหาผ้ามาปกปิดร่างเปลือยเปล่าของตนด้วยความทุลักทุเลแล้วกลิ้งมาหลบอยู่ข้างเตียงอย่างใจหายใจคว่ำมองดูกลุ่มคนตรงหน้าด้วยสายตาพร่าเลือนพร้อมกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั้งกายเพราะดอนได้ชกเธออีกหลายทีทั้งใบหน้าและตามร่างกาย
“ไอ้อาร์...” ดอนเอ่ยชื่อของผู้บุกรุกเสียงแผ่วก้าวลงจากเตียงอย่างรวดเร็วมองหาทางหนีทีไล่แต่ดูเหมือนจะหมดสิ้นหนทางจากหางตาที่มองเห็นลูกน้องฝีมือดีของเขาหลายคนนอนจมกองเลือดอยู่
“เออ กูเอง”
“มะ มึง กล้าเข้ามาในบ้านกู ฆ่าคนของกูเลยเหรอ”
“กูกล้าทำมากกว่านี้อีกหากกูไม่ได้ของกูคืน” ชายหนุ่มสองคนยืนประจันหน้ากันโดยไม่มีใครสนใจหญิงสาวที่หลบอยู่ในห้องอีกคน เสียงพูดแว่วๆ ของคนทั้งสองฟังดูวุ่นวายจนจับใจความไม่ได้แต่พลอยไพลินก็พยายามที่จะฟังว่าเขาคุยอะไรกันทำไมถึงได้ทำเหมือนจะเข่นฆ่ากันเช่นนี้ แล้วดวงตากลมโตของพลอยไพลินเบิกกว้างเมื่อชายผู้มาใหม่จ่อยิงดอนอย่างเลือดเย็นพร้อมกับสติของเธอที่ดับวูบไป เสียงปืนและเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของดอนก้องอยู่ในหัว...
“เก็บกวาดให้เรียบร้อย เอาตัวมันไปด้วยหากไม่ได้ของคืนก็ค่อยจัดการมันทีหลัง” อาเธอร์สั่งลูกน้องที่ติดตามเข้ามาเสียงเครียดเมื่อดอนไม่ยอมเอ่ยปากถึงของที่ขโมยมาทั้งยังไม่ยอมบอกด้วยว่าของยังอยู่กับตัวเองหรืออยู่กับใคร
สำหรับอาเธอร์แล้วเขาไม่มีวันปล่อยอะไรจากมือง่ายๆ และยิ่งหากเกี่ยวกับของสำคัญของตนแล้ว ต่อให้นำร่างไร้วิญญาณของดอนกลับไปถามหาความจริงได้เขาก็จะทำ อาร์เธอมองร่างที่ไร้สติเพราะความปอดแหกของดอนนิ่งอย่างสมเพชนี่เขาแค่ยิงขู่มัน มันยังกลัวจนสลบไปหากยิงโดนมันจริงๆ ดอนคงช็อกตายตรงนี้แน่ๆ แต่เขายังให้มันตายไม่ได้...
“คุณอาร์ครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ตรงนี้ครับ เธอหมดสติไปไม่รู้ว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน” ริชาร์ตรายงานเมื่อเขาเดินมาสำรวจรอบห้องก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนอนสลบอยู่ข้างเตียงกว้าง สภาพเธอเหมือนหนอนดักแด้ไม่มีผิดเพราะผ้าห่มที่ห่อหุ้มกายซึ่งเขาเดาได้ไม่ยากว่าภายใต้ผ้าห่มหนาเธอคงเปลือยเปล่า...
“สงสัยเป็นพวกอยากมีผัวฝรั่งล่ะสิ อยากได้ผัวฝรั่งรวยๆ จนตัวสั่นสุดท้ายก็เป็นเหยื่อของไอ้ดอนได้หากิน”
“ไม่ทราบครับ แต่ผมว่าเธอคงไม่ได้เต็มใจ ดูหน้าเธอสิครับช้ำไปหมดน่าสงสารนะครับ” ริชาร์ตกล่าวอย่างที่รู้สึกจริงๆ และเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวนิรนามคนนี้ อาเธอร์เดินมามองหญิงสาวที่กล่าวถึงอย่างนึกสมเพชและชิงชัง ผู้หญิงไทยก็เป็นแบบนี้ล่ะ คิดแต่จะหาสามีต่างชาติรวยๆ
“ถ้าอย่างนั้นเอาตัวเธอไปด้วย ไม่แน่ เธออาจจะรู้ก็ได้ว่าของฉันอยู่ไหน”
“ครับ เดี๋ยวผมจะอุ้มเธอไปเอง”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายไปดูความเรียบร้อยรอบๆ บ้านของมัน ค้นทุกห้อง หาให้ทั่วอย่าให้อะไรเล็ดลอดสายตาไปได้อีก” อาเธอร์บอกเสียงห้วนจัด ริชาร์ตค่อนข้างแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เจ้านายหนุ่มจะพาหญิงสาวคนนี้ไปเอง เพราะปรกติแล้วเจ้านายของเขาเกลียดผู้หญิงไทยมากที่สุดเพราะมีปมในใจ
“ครับ” แต่สุดท้ายริชาร์ตก็ได้แต่รับคำสั่งแล้วเดินออกไป
ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้งเมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้งแล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงามผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลง
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...
“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอยากลำบากเมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วยเมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกายแต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดและเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นด้วย...
“ฟื้นแล้วเหรอ..” เสียงห้ามทุ้มด้วยภาษาอังกฤษชัดเจนทำให้พลอยไพลินหันไปมองทันที ใบหน้าเขียวช้ำซีดลงเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าที่เรียบเฉยเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้มกับเรือนร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขาม และแววตาของเขาก็น่ากลัวยิ่งนักเขาคงไม่ได้เป็นคนที่พาเธอมาที่นี่หรอกนะ หรือบางทีเขาก็อาจเป็นพลเมืองดีก็ได้... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานา มองคนตัวโตตรงหน้าอย่างหวาดระแวง
“พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย” เขาถามซ้ำแล้วเดินเข้ามาใกล้พลอยไพลินขยับกายชิดหัวเตียงดึงผ้าห่มมาคลุมกายเหมือนมันจะสามารถปกป้องเธอจากชายคนนี้ได้กระนั้น อาร์เธอมองหญิงสาวที่พยักหน้าช้าๆ อย่างนึกอย่างเหยียดๆ ว่าผู้หญิงหน้าตาจืดๆ บ้านๆ เหมือนสาวบ้านนอกมากกว่าสาวเมืองกรุงพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยหรือ
“ค่ะ ฉันพูดได้” พลอยไพลินตอบไปตามความจริงซึ่งจริงๆ แล้ว เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งและดีกว่าแพรดาวที่พยายามจะพูดเพื่อสื่อสารกับหนุ่มต่างชาติเพราะอยากได้สามีฝรั่งรวยๆ เพราะสมัยที่เธอเรียนอยู่นั้นอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาอังกฤษนั้นเอ็นดูเธอและสอนภาษาให้ฟรีโดยไม่ต้องไปร่ำเรียนให้เปลืองเงินจนเธอสามารถพูดได้คล่องสื่อสารได้ทั้งพูดและเขียน ซึ่งชื่อของอาจารย์คนนั้นเธอก็ยังคงจำได้ดีไม่มีลืมแม้จะไม่ได้เจอท่านมาเกือบห้าปีแล้วก็ตาม
“ดี งั้นตอบฉันมาว่าเธอรู้อะไรบ้าง” พลอยไพลินงงกับคำถามของเขานัก อะไรคือรู้อะไรบ้าง เธอจะไปรู้อะไรล่ะนอกจากโดนพี่สาวหลอกมาขาย หญิงสาวมองเขาอย่างงงๆ และไม่รู้จะตอบอย่างไรกับคำถามนั้นดี
“ไม่รู้ค่ะ... ลิน เอ่อ ฉันไม่รู้ ว่าคุณหมายถึงอะไร”
“พลอยไพลิน พรเกษม อายุยี่สิบสามปี อาชีพค้าขาย สถานะโสด จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากโรงเรียนพาณิชยการ... อ้อ เคยทำงานในโรงแรมของคิงส์คอปอเรชั่นหลังเรียนจบอยู่หนึ่งปีก่อนจะลาออกไปขายขนม... พี่สาวชื่อแพรดาวอยากได้ผัวฝรั่งมากจนหลวมตัวเสียท่าให้ไอ้ดอนและคิดขายน้องสาวให้มันด้วย... ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้ถ้าฉันอยากจะรู้ แล้วเธอล่ะรู้อะไรบ้าง” อาเธอร์พูดเรื่อยๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศแต่มันทำให้คนฟังหน้าซีดลงเพราะนึกกลัวเขา ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...
“คุณ... เป็นใคร”
“เป็นคนที่กุมชะตาชีวิตเธอไง ฉันช่วยเธอออกมาจากการโดนไอ้ดอนมันข่มขืนและเธอก็เป็นหนี้ชีวิตฉัน ที่สำคัญฉันรู้มาว่ามันใช้พี่สาวเธอไปส่งของสำคัญ ซึ่งมันเป็นของของฉัน...”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลยนี่คะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร”
“เกี่ยวสิ เพราะเธอต้องรู้ว่าพี่สาวของเธอติดต่อกับใครบ้างและไปหลบอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้ที่บ้านมีเพียงแม่ของเธออยู่คนเดียวและฉันก็เฝ้าแม่ของเธอไว้ทุกฝีก้าว หากพวกเธอตุกติกแม่ของเธอคือคนที่จะรับผลทั้งหมด” เขาพูดอย่างเลือดเย็น
“คุณเป็นพวกค้ามนุษย์เหมือนไอ้คนสารเลวนั้นใช่มั้ย เลวที่สุดเลย” พลอยไพลินเอ่ยอออกมาอย่างอัดอั้นเมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยว่าตนเองกำลังเจอกับอะไร และใครเพราะเมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็เจอเขาผู้ชายที่มีหนวดเคราครึ้มดุดันน่ากลัวที่สำคัญเธอจำได้ลางๆ ว่าเขายิงดอนจนนอนจมกองเลือด แล้วยังยัดเยียดข้อหาต่างๆ มากมายให้เธออีกด้วย...
“เอาไว้เธอจะรู้ว่าฉันสามารถเป็นได้มากกว่านั้น เอาล่ะลุกขึ้นได้แล้ว รีบจัดการธุระส่วนตัวซะ ออกไปทานข้าวแล้วเธอจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง...” ชายหนุ่มบอกเธอเสร็จสรรพแล้วเดินออกไปทำให้พลอยไพลินมองตามอย่างไม่เข้าใจ
นี่มันอะไรกันมัดมือชกชัดๆ บ้าไปแล้ว...