บทที่ 2. ข้อหาติดตัว ติดใจ...   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2. ข้อหาติดตัว ติดใจ...
หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วพลอยไพลินก็ออกมาหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่แทนชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เธอสวมอยู่ก่อนหน้านี้แล้วก็ต้องตาโตกับชุดสวยที่วางพาดอยู่บนเตียง มือบางลูบเนื้อผ้านั้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้ แล้วพลอยไพลินก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างๆ กัน นั่นคือชุดชั้นในขนาดเท่ากับที่เธอใส่อยู่พอดี... “หึ คงรวยน่าดูสินะ ดูสิยี่ห้อดังเสียด้วยไม่รู้เป็นบุญหรือเวรกรรมนะยายลิน...” หญิงสาวบ่นเบาๆ กับตัวเองแล้วรีบสวมใส่ชุดสวยทันที และทันทีที่เธอสวมเสื้อเสร็จเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงร้องเรียกของคนที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาแต่เธอกลับจำน้ำเสียงเขาได้ขึ้นใจ “เธอแต่ตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถามเสียงห้วนพลอยไพลินพยักหน้าช้าๆ “ดี งั้นตามฉันมา” เขาสั่งอีกเช่นเคย... ตั้งแต่เจอหน้า เขาก็สั่งๆ อย่างเดียวจริงๆ พลอยไพลินแอบแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างของคนตัวโตซึ่งเดินนำหน้าไปอย่างหมั่นไส้เหลือแสนแล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ หญิงสาวมองกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องลงชื่อในสิ่งที่เรียกว่า สัญญา กับเขาด้วย อาเธอร์ คิงส์ ในที่สุดเธอก็รู้จักชื่อของเขา แต่ชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกเป็นเชลยของเขาได้อย่างไรซ้ำอาเธอร์ยังทำท่าราวกับเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ สายตาของเขาที่มองมามันไม่เป็นมิตรและเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชัง เขาเกลียดเธอหรือ เกลียดด้วยเรื่องอะไรล่ะ เธอไปทำอะไรให้เขา... พลอยไพลินคิดอย่างวิตกและอยากรู้ “ในสัญญานั้นจะทำให้เธออยู่ในสายตาฉัน และยังได้เงินเดือนอีกด้วยแค่ช่วยฉันตามหาพี่สาวเธอ” “แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากกลับบ้านคุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแค่พี่สาวฉันคนเดียวคุณก็คงจัดการได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” หญิงสาวบอกเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในถิ่นของคนที่เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่ามาเฟียมาก ดูสิลูกน้องเขาเต็มบ้านหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับใคร และทุกคนก็มองเธอด้วยความเฉยเมยเหมือนเธอไม่มีตัวตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ บ้านหลังงามที่นึกนิยมในใจว่ามันงดงามน่าอยู่ร่มรื่นติดภูเขาและทะเล แต่คนที่นี่โดยเฉพาะเจ้าของบ้านไม่น่าอยู่ใกล้เลยสักนิด “เธอไม่มีทางเลือก... ตอนนี้แม่ของเธอขายบ้านขายทุกอย่างเพื่อใช้หนี้สินที่พี่สาวเธอก่อไว้เพื่อสร้างตัวเองให้ดูเป็นสาวไฮโซไว้หลอกฝรั่งหน้าโง่ สุดท้ายพี่เธอก็โดนหลอกเสียเอง ไม่แน่นะตอนนี้พี่สาวเธออาจจะอยู่ในซ่องที่ไหนสักแห่ง ไม่อยากช่วยพี่สาวหรอกเหรอ” “แต่ว่าฉัน...” หญิงสาวลังเลในใจกระหวัดถึงมารดาที่เธอนึกกังวลว่าหากมารดารู้เรื่องพี่สาวจะเสียใจมากแค่ไหน “ไม่ต้องห่วงเรื่องแม่ของเธอหรอก ตอนนี้แม่ของเธอถูกควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้สร้างปัญหา” อาเธอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันเล็กน้อยและมันทำให้พลอยไพลินมองเขาอย่างขุ่นเคืองที่ไม่มีหญิงสาวคนไหนเคยมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นซึ่งมันก็ทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจนัก “สุดท้ายคุณมันก็เห็นแก่ตัว เลวเหมือนกันกับไอ้ดอนนั่นล่ะ หลอกใช้ผู้หญิง” พลอยไพลินทนไม่ไหวโพล่งออกมาอย่างระงับความรู้สึกไม่อยู่ แล้วก็ต้องหน้าซีดเมื่อเขาเข้ามาประชิดตัวกุมแขนเรียวไว้แน่นจนเธอรู้สึกเหมือนแขนจะหัก “ระวังปากเธอด้วยนะพลอยไพลิน เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับฉัน ฉันใจดีกับเธอมากนะจำใส่หัวเธอไว้หากฉันไม่เข้าไปวันนั้นเธอก็ถูกไอ้ดอนมันขายทอดตลาดหลังจากที่มันฟันเธอจนฉ่ำปอดแล้วก็ได้” อาเธอร์พูดลอดไรฟันจ้องหน้าใสซีดนั้นเขม็งเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดและน้ำใสคลอครองหน่วยตากลมโตนั่นล่ะเขาถึงได้รู้ตัวว่าเธออาจจะเจ็บก็เป็นได้ อาเธอร์ปล่อยร่างบางที่ดูบางกระจ้อยร่อยไปเมื่อเทียบกับร่างใหญ่โตของเขา ร่างบอบบางถอยห่างเขาไปไกลด้วยความตระหนกหรือกลัวก็ไม่ทราบได้ ชายหนุ่มมองคนตัวเล็กที่เดินไปนั่งลงบนโซฟารับรองแล้วจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปในสัญญาที่เขาร่างมันขึ้นมาเมื่อคืนด้วยความพอใจ ชายหนุ่มเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่มองดูหญิงสาวเงียบๆ อย่างพิจารณา ในวันที่เขาพาพลอยไพลินมาด้วยสภาพร่างกายบอบช้ำในแวบแรกเขารู้สึกสงสารและคิดว่าดอนช่างโหดร้ายทารุณกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอแม้ว่าเขาเกลียดผู้หญิงไทยที่โลภมากพวกนี้ก็ตาม แต่รอยฟกช้ำบนร่างกายบอบบางที่ดูเหมือนจะแตกหักได้ทุกเวลานั้นทำให้เขาตัดสินใจพาเธอกลับมารักษาตัวที่บ้านพักหลังงามของเขาแทนที่จะส่งไปโรงพยาบาลอีกทั้งแพรดาวพี่สาวของเธอก็เป็นคนที่ดอนใช้ให้ไปส่งของซึ่งเขามั่นใจว่าตอนนี้ของของเขาได้อยู่กับนักธุรกิจชาวอิตาเลี่ยนคนหนึ่ง พลอยไพลินอาจจะไม่ได้มีประโยชน์มากนักแต่เขาจำเป็นจะต้องกักตัวเธอไว้ เพราะหญิงสาวอาจจะรู้เห็นมากเกินไป อย่างน้อยๆ เธอคงเห็นว่าเขายิงดอนล้มลงจมกองเลือดแม้จะเป็นแค่การยิงขู่ก็เถอะ... “เสร็จแล้ว อยากให้ฉันทำงานให้เลยมั้ยคะเจ้านาย” “อย่าประชดฉันนะพลอยไพลิน” เขารับกระดาษกลับคืนมาเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เปล่าค่ะ ฉันพูดจริงๆ” หญิงสาวกล่าวเหมือนยอมรับชะตากรรมของตัวเองใบหน้าขาวซีดของเธอดูหม่นหมองแต่มันไม่ได้ช่วยให้อาเธอร์ใส่ใจมากไปกว่านึกทึ่งที่เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วทีเดียว “ทำไมเธอพูดภาษาอังกฤษได้คล่องจัง หรือว่ารับแขกบ่อย” “นี่คุณ....” หญิงสาวหน้าแดงอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดเหมือนเหยียดหยันนั้น “นี่ล่ะคือสิ่งที่เจ้านายอย่างฉันอยากรู้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วมอง อย่างท้าทายและแอบพอใจกับใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เอ๊ะพอใจเหรอ... ไม่จริง... อาเธอร์รู้สึกตกใจตัวเองไม่น้อยแล้วรีบกลบเกลื่อนเป็นโกรธเธอแทน “เอาเถอะ เธอจะพูดได้เก่งเพราะรับแขกหรืออะไรก็แล้วแต่เธอฉันไม่สนหรอก ฉันหิวแล้วไปทำอาหารเที่ยงให้ฉันกินหน่อยสิ” “ค่ะ เจ้านาย... ว้ายยยย” หญิงสาวรับคำอย่างข่มความไม่พอใจนิดๆ แล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องทำงานโอ่อ่าของเขาแต่ขาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกันเองจนร่างบางถลาลิ่วไปหาร่างสูงที่กำลังจะเดินไปเช่นกัน จนคนตัวโตที่ไม่ทันตั้งตัวเซทรุดลงไปนั่งกองกับพื้นพรมนิ่มพร้อมกับมีร่างเล็กๆ ของเธอเกยอยู่บนตักกว้างใบหน้านวลซุกอยู่กับอกกว้างรีบเงยขึ้นอย่างตระหนกและเป็นจังหวะเดี่ยวกับที่อาเธอร์ก้มลงมามองเธอเช่นกันทำให้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันแค่เพียงเส้นด้ายกางกั้น... “เอ่อ... คือ ฉัน... ปละ ปล่อ...” ไม่ทันที่เธอจะทันได้อ้าปากให้เขาปล่อยเธอ อาเธอร์ก็ผลักร่างเล็กๆ นั้นออกจากตักทันทีอย่างไม่เบานักจนพลอยไพลินนั่งจุกอยู่กับพื้นพรมมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินหน้าตึงออกไปอย่างเจ็บใจและเจ็บก้นเพราะเหมือนเธอโดนเขาโยนลงมาจากตักเขาเมื่อครู่ ทั้งหัวใจสาวก็ยังเต้นตึกๆ ดังโครมครามๆ อย่างหวั่นไหว... “โอ๊ย... ไอ้ฝรั่งบ้า คนใจร้าย อูย... เจ็บไปทั้งตัวเลยที่นี้ ทำไมพลอยไพลินถึงได้ซวยนักนะเจอแต่ฝรั่งโรคจิต” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจความหมายในแววตาของเขา ผู้หญิงไทยก็คงเป็นโสเภณีในสายตาของเขาสินะอาเธอร์จึงได้มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันอยู่เสมอ... และนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอด่าใครสักคน หญิงสาวยันกายลุกขึ้นสูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง... ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหารอยู่ในครัวจนกลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั้งบ้านหลังงามทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ในที่แห่งนี้หันมองไปตามกลิ่นและเห็นร่างเล็กๆ ของพลอยไพลินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวหรูซึ่งพวกเขาทำได้แค่มอง ผู้หญิงของเจ้านาย ที่กำลังทำอาหารเงียบๆ ริชาร์ตมองร่างบางผ่านกระจกใสอย่างครุ่นคิดพลางเหลือบสายตาไปยังห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม “พวกแกไปทำงานได้แล้วไป ส่งคนของเขาไปดูความเคลื่อนไหวของคุณลูเชียส แล้วแกสามคนไปดูลาดเลาที่คาสิโนที่ไอ้ดอนมันเข้าออกบ่อยๆ ส่วนแกไปตามดูที่บ้านของคุณพลอยไพลินว่าพี่สาวของเธอติดต่อกลับมาบ้างมั้ย” ชายหนุ่มสั่งงานแทนเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ บรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ซึ่งเป็นลูกน้องฝีมือดีของอาเธอร์รับคำอย่างเสียดายเล็กน้อยที่จะไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลิ่นหอมฟุ้งนั้น ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นแก่กินแต่กลิ่นอาหารที่หญิงสาวคนนั้นทำในเรียกน้ำย่อยได้ไม่ใช่น้อยซ้ำพวกเขายังไม่เคยได้เห็นว่าที่มาของอาหารที่รับประทานนั้นมันมาจากไหนและปรุงอย่างไร เพราะได้เห็นหน้าตามันก็ตอนที่จะกินแล้วเท่านั้นการที่เห็นว่ามีคนมาทำอาหารและมีกลิ่นหอมขณะที่กำลังปรุงนั้นทำให้พวกเขาตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย... “พี่ริค หากเจ้านายกินอาหารไม่หมดเก็บไว้ให้พวกเรามั่งนะ” “ไอ้โจ แกนี่ทะลึ่งแล้ว ไปรีบไปเลย...” ริชาร์ตหันมาเอ็ด โจ บอดีการ์ดหนุ่มรุ่นน้องหน้าทะเล้นแล้วส่ายหน้าอย่างระอาในความทะเล้นของโจ
已经是最新一章了
加载中