บทที่2.จบตอน
อาเธอร์มองคนของตนที่ออกไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเงียบๆ ร่างสูงเดินไปยังชายหาดขาวสะอาดหน้าบ้านพักอย่างไม่สบอารมณ์ ความรู้สึกที่หัวใจเต้นกระหน่ำเมื่อครู่ก่อนยังก่อกวนจิตใจเขาไม่หาย
กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างสาวที่เขาสัมผัสได้ว่าร่างบางๆ นั้นซ่อนความอวบอิ่มเต็มตึงไว้อย่างมิดชิด ผิวเนื้อเนียนละเอียดที่เขาได้แตะต้องอย่างไม่ตั้งใจเมื่อครู่ก็นุ่มมือน่าลูบไล้จนเขาใจสั่นแทบจะยั้งมือไว้ไม่ได้ อีกทั้งริมฝีปากอิ่มระเรื่อที่เผยอค้างด้วยความตกใจนั้นเหมือนสั่นระริกชวนเชิญจนเขาเกือบจะอดใจไม่ไหวทาบริมฝีปากหยักของตนลงไปแล้วจูบเธออย่างที่ใจนึก เป็นไปไม่ได้ เขาจะรู้สึกอย่างนั้นกับผู้หญิงที่เขาเพิ่งเจอหน้าซ้ำยังเป็นผู้หญิงไทยที่เขาจงเกลียดจงชังอีกด้วย
“เธอมันก็แค่นั้นล่ะ ฉันไม่มีทางหวั่นไหวกลืนน้ำลายตัวเองหรอก” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างฉุนเฉียวจนเสียงเรียกของริชาร์ตดังขึ้นแทรกเข้ามาในความคิด
“คุณอาร์ครับ”
“อะไรวะ...” อาเธอร์หันมาตวาดคนสนิทเสียงขุ่นดวงตาสีฟ้าเข้มนั้นเข้มจัดเลยทีเดียวบ่งบอกว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ที่ไม่น่าอยู่ใกล้นัก ริชาร์ตคิดในใจ
“อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับ”
“ฉันไม่กิน กินไม่ลง” ชายหนุ่มตอบเสียงห้วนจนริชาร์ตอยากจะหัวเราะ เพราะเขาเองได้ยินกับหูว่าเจ้านายหนุ่มอยากรับประทานอาหารจึงให้พลอยไพลินทำให้ แต่พอตอนนี้ก็บอกว่ากินไม่ลงเสียอย่างนั้น
“แต่ว่า...”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่กิน”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะกินเองแล้วจะเก็บไว้ให้พวกนั้นด้วย คุณลินทำกับข้าวเสียเยอะเชียวครับ” ริชาร์ตกล่าวแล้วเดินกลับเข้าบ้านปล่อยให้เจ้านายหัวเสียอยู่คนเดียวยิ่งได้ยินริชาร์ตเอ่ยชื่อของหญิงสาวเสียสนิทสนมเขาก็ยิ่งรู้สึกโมโหไม่รู้ทำไมสิน่า...
“บ้าจริง พลอยไพลิน ฉันจะให้เธออยู่ต่อไม่ได้แล้ว...”
เสียงหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานทำให้เท้าแกร่งชะงักเดินแล้วตามเสียงนั้นไปพบว่าริชาร์ตกำลังคุยอยู่กับพลอยไพลินอย่างออกรสซึ่งทั้งสองกำลังช่วยกันล้างจานท่าทางสนิทสนมจนน่าหมั่นไส้
“พี่ริคว่าพวกพี่ๆ เขาจะชอบอาหารที่ลินทำมั้ยคะ ไม่รู้ว่าทานเผ็ดได้มั้ย”
“โอ๊ย ลินไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้พวกนั้นมันลิ้นจระเข้ กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ”
“ดีจังค่ะ ลินดีใจที่ได้ทำอะไรบ้างไม่อย่างนั้นฟุ้งซ่านแย่เลย”
หญิงสาวพูดจากใจจริงและรู้สึกไว้วางใจผู้ชายคนนี้ แววตาใสซื่อทว่าแข็งแกร่งของเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจเหมือนเขาเป็นพี่ชายของเธอคนหนึ่ง และเมื่อได้พูดคุยกับริชาร์ตแล้วก็พบว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่มีอารมณ์ขันมากทีเดียวและยังเป็นคนที่น่าเข้าใกล้กว่าเจ้านายหน้าดุของเขาเป็นไหนๆ
“ทำอะไรกันอยู่ไอ้ริค” เสียงห้าวเข้มขุ่นด้วยอารมณ์ถามขึ้นอย่างไม่เบานักทำให้คนที่กำลังเช็ดจานเพลินๆ แทบทำจานหลุดมือดีที่ว่าริชาร์ตเอื้อมมือมาคว้าไว้ได้ทันและกลายเป็นว่าเธอกับเขากุมมือกันมั่นมองผู้เข้ามาใหม่ตาโต
“เอ่อ... คือ ผม...”
“นายออกไปทำงานของตัวเองได้แล้วริค ส่วนเธอตามฉันเข้าไปในห้องทำงาน” อาเธอร์สั่งเสียงเข้มหน้าคมนั้นก็เข้มจัดตามไปด้วยหากพลอยไพลินตาไม่ฝาดเธอเห็นว่าเขาหนวดเครากระตุกเลยละ เหมือนเขาโกรธเธออีกแล้ว โกรธเธอด้วยเรื่องอะไรอีกล่ะ หรือว่าโมโหหิว...
“เร็วๆ เข้า พลอยไพลินอย่าให้ฉันรอนาน” เสียงนั้นร้องตามมาทำให้เธอหันมามองหน้าริชาร์ตเมื่อเขาพยักหน้าให้ช้าๆ หญิงสาวรีบวางจานในมือแล้วรีบตามร่างสูงใหญ่ไปทันที ริชาร์ตมองตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งจี๋ตามติดเจ้านายของตนไปอย่างนึกขัน ดูเหมือนอาเธอร์จะแปลกๆ ไป จนเขารู้สึกได้ แต่เก็ภาวนาว่าให้เจ้านายของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
“ฉันจะปล่อยให้เธอกลับบ้าน” อาเธอร์กล่าวเสียงเรียบในขณะที่ยืนหันหลังให้ซึ่งมันทำให้คนฟังดีใจแทบกระโดดตัวลอย เธอจะได้กลับบ้านแล้ว แม้ว่ามารดาอาจจะไม่ยินดียินร้ายที่เธอหายตัวไปแต่เธอก็คิดถึงท่านที่สุด
“จริงๆ นะคะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างดีใจ โดยไม่ทันได้สังเกตว่าเขาใจดีกับเธอเกินไปหรือเปล่า
“แน่นอน ฉันอนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ กลับตอนนี้ก็ได้นะ”
“แล้ว เอ่อ แล้วฉันจะกลับอย่างไรล่ะค่ะ ในเมื่อฉันไม่รู้เลยว่าที่นี่ที่ไหนและจะกลับอย่างไร” พลอยไพลินถามเขาอย่างยังไม่หายตื่นเต้น และก็เพิ่งนึกได้ว่าเธอไม่มีอะไรมีค่าติดตัวเลย
“อืม จริงสินะ ถ้าอย่างนั้นฉันมีข้อแลกกับการไปจากที่นี่” อาเธอร์บอกอย่างใจดีซ่อนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไว้มิดชิด ชนิดที่ว่าพลอยไพลินไม่มีโอกาสได้รู้หรือตามเขาทันแน่นอน
“ยังไงคะ” พลอยไพลินถามอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาหันมาเผชิญหน้าความตื่นเต้นของเธอลดลงครึ่งต่อครึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแววตาของเขาทำให้รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...
“ก็แค่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ฉันสักเดือน ทำทุกอย่าง... เมื่อได้เงินเดือนเธอก็สามารถกลับบ้านได้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดีส่งเธอกลับบ้านเฉยๆ เหรอ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะปากโป้งเรื่องที่ฉันยิงไอ้ดอนมันรึเปล่า ดังนั้นหนึ่งเดือนเธออยู่ที่นี่ เป็นแม่บ้านให้ฉัน”
“แต่ฉันทำสัญญากับคุณไปแล้วนี่คะ สัญญาที่ฉันจะทำหน้าที่ติดตามหาพี่สาวฉัน”
“ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นคนที่มีอำนาจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้นะ ฉันทำสัญญาและหน้าที่ใหม่ให้เธอแล้วเพราะฉันเพิ่งเก็บคำพูดเธอไปคิดว่าถึงไม่มีเธอฉันก็ตามหาแพรดาวได้ ฉันเห็นตามนั้นเลยล่ะ... ตกลงจะเอาไง” เขาถามเสียงเข้มจ้องหน้าอ่อนใสนั้นอย่างคาดคั้นและเหนือกว่า รู้อยู่แล้วว่าพลอยไพลินไม่อาจจะปฏิเสธสิ่งที่เขาเสนอให้ไม่ว่าอะไรก็ตาม...
“คุณนี่มัน...” พลอยไพลินพูดไม่ออกไม่รู้จะว่าเขาอย่างไรดี หมดคำพูดจะมาต่อว่าเขา จริงอยู่แม้เธอจะเป็นแม่ค้าขายขนมแต่ไม่ใช่แม่ค้าปากตลาดด่าไฟแลบนี่นา เธอเคยด่าว่าใครเขาเสียที่ไหนล่ะ แต่ อ้อ.. เมื่อครู่ใหญ่ๆ เธอว่าเขาไอ้ฝรั่งบ้า... ไปคำหนึ่งเท่านั้นเอง
“เอาล่ะ ถ้าตกลง ก็มาทำหน้าที่แรกของเธอก่อน...” อาเธอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ที่เขาก็ยังแปลกใจตนเองเช่นกันที่ทำน้ำเสียงแบบนั้นได้อย่างไร ซ้ำยังทำอะไรบ้าๆ โง่ๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วย นั่นก็เพราะหญิงสาวหน้าตาจืดๆ ตัวเล็กๆ อย่างพลอยไพลินคนเดียว
อาเธอร์คิดอย่างไม่สบอารมณ์นัก ตั้งแต่ที่พลอยไพลินเข้ามาในชีวิตของเขาก็ดูเหมือนว่าระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ของเขาเริ่มสั่นคลอน ผู้หญิงไทยตัวเล็กๆ คนนี้เริ่มทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เสียงเล็กๆ ในหัวก็กระซิบอย่างเจ้าเล่ห์ว่าเขาน่าจะลองหาอะไรสนุกๆ แปลกใหม่เล่นดูบ้างในเมื่อมีเหยื่อหลงเข้ามาแล้ว แค่เดือนเดียวเท่านั้นแล้วพลอยไพลินจะหมดความหมายสำหรับเขา
ใช่... เขาน่าจะลองเล่นเกมสนุกๆ ดูสักตั้ง...