ตอนที่ 1   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 1
“โอ๊ยยย ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เดย์..!!” แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก! เสียงฝีเท้าวิ่ง พร้อมกับเสียงบ่นที่คนรอบข้างไม่เข้าใจทั้งภาษาและความหมาย รวมไปถึงสีหน้าที่ดูร้อนรนของสาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในละแวกนี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในตึกหรูใจกลางเมืองนิวยอร์ก ต่างก็หันมามองอย่างพร้อมเพรียงกัน.. ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะใบหน้าโซนเอเชียที่ดูน่ารัก มีเสน่ห์น่าหลงใหล และการแต่งกายที่สวมเพียงเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ.. ซึ่งมันขัดกับลักษณะการแต่งกายของผู้คนแถวนี้เป็นอย่างมาก และอีกส่วนหนึ่ง น่าจะเพราะท่าทางที่ดูรีบร้อน และวิ่งด้วยความเร็วเหมือนสายลมมายังโซนประชาสัมพันธ์ทันที ที่เธอย่างก้าวเข้ามาในบริษัทแห่งนี้ ..เดย์..สาวไทยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ใบหน้าเรียวเล็ก ผิวขาวอมชมพู ตาโตกลมใส จมูกโด่งแต่ทว่าปลายจมูกกับเล็กรั้นน่ารัก รวมไปถึงปากเรียวบางสีชมพูอวบอิ่ม ..ผู้มาเหยียบแผ่นดินนิวยอร์กเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และตอนนี้กำลังอยู่ภายในบริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัท...Varenda อันที่จริงเธอควรจะถึงบริษัทนี้นานแล้ว ถ้ารถแท็กซี่ที่เธอนั่งจากสนามบินไม่จูบเข้ากับคันข้างหน้าอย่างจังซะก่อน และสาเหตุที่เกิด ก็มาจากการเร่งคนขับรถจากปากของเธอนั่นเอง นั่นเลยทำให้เธอไม่สามารถปลีกตัวออกเดินทางมาบริษัทนี้ต่อได้ เพราะต้องอยู่ทะเลาะใหญ่โตกับโชเฟอร์ทั้งสองคน และกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างได้ เวลามันก็ล่วงเลยจนสายไปมากเสียแล้ว “ดริพิยา ตัวแทนวาดรูปประเทศไทยค่ะ ที่นัดประชุมวันนี้..” ทันทีที่เธอถึงโซนประชาสัมพันธ์ เธอก็รีบเอ่ยติดต่อ แลกบัตร ก่อนจะวิ่งไปยังลิฟต์ของตึกแห่งนี้ด้วยความไว พร้อมกับดูเข็มนาฬิกาข้อมือที่มันเลยเวลานัดหมายไป 5 นาที.. “ฮืออออ ลิฟต์จ๋าา มาเร็วๆหน่อยซี๊ T ^ T ” ติ๊ง! ทันทีที่ลิฟต์มาถึง เธอก็รีบกระโจนเข้าไปข้างในทันที..ก่อนที่จะรีบกดสัญลักษณ์ปิดลิฟต์ แล้วกดยังไปชั้นสูงสุดของตึกนี้ด้วยความไว พร้อมกับภาวนาให้มีคนที่สายกว่าเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเป็นจุดสนใจของวันนี้.. เธอเป็นนักศึกษาปีหนึ่งหน้าใหม่ของมหาวิทยาลัย SIANTA ในประเทศไทย ที่ได้รับการไว้วางใจจากอาจารย์ในชมรมศิลปะที่เธอเข้าร่วมชมรมด้วยในมหาลัย ให้เธอมาเป็นหนึ่งในตัวแทนจากนักวาดรูป 10 คน 10 ประเทศ..ที่ได้มีส่วนร่วมกับโปรเจคยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ ของบริษัทในเครือ Varenda บริษัทที่มีโรงแรมและรีสอร์ทเป็นร้อยสาขาใน 10 ประเทศทั่วโลก โดยสาขาใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์ก หรืออาคารที่เธอกำลังเหยียบอยู่นั่นเอง และวันนี้ เวลานี้ ก็คือวันที่ทางบริษัท นัดรวมตัวนักวาดมือทองทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อชี้แจง..และอธิบายตัวโปรเจคอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจตรงกัน ..รวมไปถึงการเซ็นสัญญาเข้าร่วมโปรเจคนี้ด้วย อันที่จริงทางบริษัทออกค่าเครื่องบินให้นักวาดรูปทุกคน และในตารางบินนั้นต้องถึงนิวยอร์กตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เธอเองที่อยากจะเลื่อนมาเป็นวันนี้ และคิดไว้ว่าเมื่อมาถึงก็มาที่บริษัทนี้ได้ทันทีไม่มีปัญหาแน่นอน แต่แล้วเธอก็คิดผิด..เพราะตอนนี้มันได้เลยเวลานัดไปแล้วถึง 10 นาที “ตายแน่ๆ อาจารย์เฌอแตมฆ่าแน่งานนี้ ไอ้เดย์เอ้ยย ” ติ๊ง! ทันทีที่เสียงลิฟต์นั่นเปิดออก เธอก็เริ่มกลับมามีวิญญาณนักวิ่งอีกครั้ง เธอ..วิ่งไปยังห้องที่ได้รับจากจดหมายเชิญในอีเมล ที่มันอยู่ใกล้บริเวณลิฟต์นี้ไม่มากนัก และทันทีที่ไปถึง..เธอก็พบกับหญิงสาวต่างชาติ แต่งตัวเนี้ยบที่ยืนทำสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ก็เปลี่ยนไปในทันที..เมื่อพบกับเธอที่วิ่งหน้าตาแตกตื่นเล็กน้อยเข้ามา “แห่กๆ สวัสดีค่ะ ฉันดริพิยา ตัวแทนวาดรูปประเทศไทย” ในขณะที่เดย์กระหืดกระหอบจากการวิ่งมาตลอดทางตั้งแต่หน้าตึก อีกฝั่ง ก็แสดงสีหน้ากังวลใจเล็กน้อยแทนผู้หญิงที่ยืนหอบพร้อมรอยยิ้มอยู่ตรงหน้า ที่เธอคิดเช่นนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าเจ้านายของเธอ ไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา และที่สำคัญ เขาก็ไม่ใช่คนที่ใจดี ที่จะยอมอะไรง่ายๆ งานทุกอย่างที่ผ่านมาต้องเนี้ยบและเป๊ะ รวมถึงเรื่องเวลาด้วยเช่นกัน เขาคือ มิสเตอร์อมิธ ฮอว์ค หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท Varenda บริษัทของพ่อเลี้ยงของเขา แม้ว่าเขาจะยังอายุเพียง 20 กว่าๆเท่านั้น แต่อายุของเขาไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถเขาเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกหน้าตา การวางตัว การทำงานที่ว่องไว ความฉลาด ความสามารถในการบริหารงานทุกส่วนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม รวมไปถึงการวางแผนที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วจากเดิม ทำให้บริษัท ขยายได้ถึง 10 ประเทศ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีกว่าๆเท่านั้นเอง ทำให้พนักงานที่นี่ทุกคนไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำ ต่างก็ยอมรับในตัวของเขากันอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น และที่สำคัญ คือ รัศมีความน่าเกรงขามที่มันออกมาจากตัวของเขา... สายตาที่เหมือนกับเพลิงไฟบรรลัยกัลป์ เพียงแค่เขามองด้วยสายตานิ่งเรียบ..คนที่ได้รับสายตาคู่นั้น ก็รู้สึกร้อน..ราวกับกำลังโดนเผาให้มอดไหม้ไปในทันที ..และนั่นเลยทำให้ไม่ว่าใครในที่นี้ ต่างก็ยำเกรงและเกรงกลัวเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา.. นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไม พนักงานที่ยืนรอผู้มาสายอยู่หน้าห้องถึงแสดงสีหน้าเช่นนั้น ..ก็เพราะว่า ตอนนี้เจ้านายของเธอที่ว่า กำลังรอ..สมาชิกคนสุดท้าย อยู่หลังประตูบานนี้ยังไงล่ะ.. “เชิญค่ะ” สิ้นเสียงภาษาท้องถิ่นในดินแดนที่เธอเหยียบอยู่ เดย์ก็หายใจเข้าอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสดใส เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ข้างหน้า พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปในห้องประชุมที่ ประตูกำลังเปิดกว้างขึ้น ด้วยท่าทางที่มั่นใจ และทันทีที่เท้าเธอย่างกราย พร้อมกับกวาดสายตาไปยังผู้คนในห้องที่หันมามองผู้มาใหม่อย่างเธอ เธอก็นิ่งงันไปทันที..และรู้สึกเหมือนกำลังถูกสาปให้เป็นหิน พร้อมกับเวลาที่มันหยุดเดินอย่างกะทันหัน.. นั่นไม่ใช่เพราะว่าเธอเขินอาย หรือเสียความมั่นใจในการมาสายครั้งนี้..แต่เป็นเพราะสายตาคมที่แสนคุ้นเคย ของคนที่นั่งหัวโต๊ะของการประชุมครั้งนี้ต่างหากล่ะ... ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ ผู้ชายที่เธอไม่ได้เจอมาแล้วเกือบ 3 ปี ผู้ชายที่ทิ้งเธอมาอย่างเจ็บปวด.. เขาคนนั้น คือ..เฮียโซ่ ผู้ชายที่มีใบหน้าที่ได้รูปลงตัว คิ้วดกเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน และมีดวงตาคม พร้อมกับสายตาคมกริบ สายตาที่เหมือนปีศาจเปลวไฟอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าตอนนี้เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่เธอเจอ แต่เขาก็ยังเหมือนเดิม..เขายังคงดูดี ลึกลับ น่าค้นหา และน่ากลัว..เหมือนเดิม “ผม..นัดคุณกี่โมงครับ” แต่แล้วเสียงทุ้มที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากชายตรงหน้า..พร้อมกับสายตานิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ ทำให้เดย์สะดุ้งออกจากภวังค์ ก่อนที่จะปรับสายตาเป็นปกติ..และเอื้อนเอ่ยออกมา ราวกับว่า เธอและเขา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม้ว่าเธอจะตกใจ.. แต่เธอก็ยังมีสปิริตมากพอ ที่จะแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน..ในตอนนี้ “ฉันขอโทษค่ะ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อย” เธอเอ่ยกล่าวจบก็เดินไปนั่งยังตำแหน่งเก้าอี้ที่ว่างเพียงตัวเดียวของห้อง..และมันก็อยู่ใกล้กับผู้ชายคนนั้นที่สุด.. พรึ่บ.. เธอนั่งลงพร้อมกับคิดว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่มีทางถอยแน่ เธอจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง และแม้ว่า สายตาและน้ำเสียงของคนข้างๆในตอนนี้ จะทำให้ทั้งห้องยกเว้นเธอ รู้สึกเกร็งและหายใจไม่ทั่วท้องก็ตาม “ถ้าคุณมากับไฟล์ทที่ทางบริษัทกำหนดแต่แรก ปัญหานี้ก็คงไม่เกิด ..ผมไม่ต้องการร่วมงานกับคุณ เชิญ..” เขาเอ่ยปากออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งสายตาไปยังประตูที่เธอเพิ่งเดินเข้ามาไม่ถึงนาที เพื่อสื่อให้เธอออกไป..ในขณะที่ทั้งห้องเงียบกริบและมองดูสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความลุ้นระทึก และรับรู้ได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากผู้เป็นเจ้าของโครงการและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแห่งนี้.. รวมไปถึงจากผู้หญิงที่มาสายอีกฝ่าย ก็แผ่รังสีความไม่เกรงกลัวออกมา ไม่น้อยไปกว่ากัน แน่ล่ะ เพราะผู้หญิงที่เพิ่งโดนเชิญออกไปในเมื่อครู่..เธอก็ไม่ใช่คนธรรมดา.. เธอเป็นถึงลูกมาเฟีย และนิสัยของเธอก็ไม่เคยยอมใคร..ยกเว้นพี่ชายของเธอ และคนตรงหน้าเท่านั้น แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องของอดีต ในตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว โดนไล่ให้หน้าแตกกลางห้องประชุมแบบนี้ มีหรือเธอจะยอม.. “เพิ่งรู้นะคะ ว่าเจ้าของบริษัทที่นี่ วิสัยทัศน์แคบ...” เดย์ยังคงนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่เดิม..ไม่ได้ลุกขึ้นออกไปไหนอย่างที่เขาพูดออกมา ก่อนจะโต้กลับไปนิ่งเรียบ ท่ามกลางการกลั้นหายใจของพนักงานภายในห้องแห่งนี้..ที่เกิดขึ้นพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย “หึ.. ถ้างั้น.. ขอให้คนที่วิสัยทัศน์กว้างแบบคุณ อธิบายหน่อยครับว่า ทำไมผมต้องลดเวลาที่มีค่าของผมไปสิบนาที เพื่อรอคนอย่างคุณ” “เรื่องที่ฉันจองตั๋วเองแล้วไม่เผื่อเวลา ฉันยอมรับผิด แต่คนเราก็ต้องมีเรื่องที่พลาดกันทั้งนั้น ..ตัวอย่างง่ายๆ ฉันมั่นใจว่าทุกคนในห้องนี้ ในวันแรกที่เราเริ่มวาดรูป กับในวันนี้ที่เราวาดรูป มันไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน และถ้าพวกเรายึดคติที่เอาเรื่องพลาดในวันนั้น จนไม่ให้โอกาสตัวเองใหม่ พวกเราก็คงไม่มีวันนี้.. คำว่า ให้โอกาส มันสำคัญมากนะคะ ไม่ว่าจะให้โอกาสกับตัวเอง...หรือให้โอกาส..กับคนอื่น” ทันทีที่เธออธิบายจบ ผู้ฟังอีกเก้าคน ที่เป็นนักวาดรูปไม่ต่างกันกับเธอต่างก็พยักหน้าและเข้าใจในสิ่งที่เธอสื่อออกมา ในขณะที่อีกคนก็กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงนิ่งออกมาเช่นเดิม.. “คุณจะบอกว่า ผมควรให้โอกาสคุณ?” “ฉันไม่มีสิทธิ์ไปออกคำสั่งกับผู้บริหารชั้นสูงอย่างคุณหรอกค่ะ ...แต่ใครจะไปรู้ว่า การจ้างฉัน อาจจะคุ้มกว่าสิบนาทีที่คุณเสียไปก็ได้..” เดย์ยังคงอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง..ไร้ความเป็นเด็กน้อยอย่างเมื่อก่อนที่เขารู้จักโดยสิ้นเชิง..ก่อนที่จะส่งยิ้มไปยังอีกฝ่าย.. ความเจ็บปวดและเรื่องราวในอดีต มันสอนให้เธอเข้มแข็ง และทำให้เธอกลายเป็นเธออย่างในวันนี้.. ทันทีที่เธอพูดจบ อีกฝั่งก็ทำเพียงแค่ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเรียบ “แล้วผมจะรอดู ว่าคุณจะคุ้มกับสิบนาทีที่ผมเสียไปหรือเปล่า..หึหึ..เชิญคุณจอร์นอธิบายโปรเจคนี้ได้เลยครับ” ทันทีที่เสียงนั่นเอ่ยจบ ..พนักงานในห้องต่างก็ถอนหายใจโล่ง ที่เจ้านายของเขา..ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แม้ว่าจะแปลกใจที่ครั้งนี้เจ้านายของพวกเขายอมง่ายกว่าทุกครั้ง แต่มันก็เป็นเรื่องดี เพราะนั่นหมายความว่าพวกเธอไม่ต้องหานักวาดรูปฝีมือดีมาเสนอเจ้านายใหม่ ให้เขาคัดจนวุ่นวายเหมือนกับนักวาดเซตนี้ที่กว่าจะได้.. และก็เป็นเซตที่รวมนักวาดมืออาชีพทุกคน ยกเว้นเธอ คนที่ต่อปากต่อคำเจ้านายเขาไปเมื่อครู่.. คนที่เป็นเพียงนักวาดสมัครเล่นเท่านั้นเอง..แต่ถึงอย่างนั้นฝีมือของเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใครในห้องแห่งนี้หรอกนะ เป็นเวลาชั่วโมงเศษๆ ที่ห้องนี้ต่างก็เต็มไปด้วยเนื้อหาและรายละเอียดของแคมเปญใหญ่ แคมเปญที่จะให้นักวาดรูปที่เชิญมาในวันนี้ รังสรรค์ผลงานศิลปะที่สื่อถึง โรงแรมในเครือของแต่ละประเทศ ก่อนที่จะเอาภาพวาดเหล่านั้นไปประมูลขายและนำรายได้ส่วนหนึ่งไปสมทบช่วยเหลือคนจรจัดไร้บ้าน นอกจากจะได้ช่วยเหลือผู้คน ได้เงินมหาศาลจากการประมูลภาพ ได้โปรโมทโรงแรมในเครือแล้ว ยังทำให้เจ้าของไอเดียแคมเปญนี้..ได้เจอกับคนที่เขาไม่ได้เจอเป็นเวลานานอีกด้วย ยังไงซะ เธอก็ไม่มีวันหนีซาตานอย่างเขาพ้นหรอก ...เดย์
已经是最新一章了
加载中