บทที่ 11 ถูกจับได้ 2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 11 ถูกจับได้ 2
ธารทิพย์ยืนโบกมือให้วารุณีที่เข้าไปนั่งในรถสปอร์ตคาร์ของนานโอ เมื่อรถแล่นออกไปจากจุดที่จอด หล่อนหมุนตัวเดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์เพื่อกลับขึ้นห้อง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคน ที่รีบก้าวลงจากรถยนต์ที่บุรินทร์เช่ามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ “น้ำ” เสียงเรียกชื่อคุ้นหู ทำให้คนที่กำลังใช้ลูกกุญแจเปิดห้องต้องหันมามองต้นเสียง พอเห็นหน้าบุรินทร์ที่เดินตรงมาหา ใบหน้าธารทิพย์ซีดลง ความตกใจเข้ามาในความรู้สึก “ไหนบอกว่าติดธุระด่วนไงคะ แล้วมาได้ไง” ธารทิพย์ทำใจดีสู้เสือ ยิ้มหวานส่งให้บุรินทร์ “เข้าไปคุยกันในห้องดีกว่า” เขาพูดขณะเปิดประตูห้อง แล้วดันร่างงามเข้าไปด้านใน หญิงสาวดูจากสีหน้าและการกระทำของเขาแล้ว หล่อนรู้สึกได้เลยว่า ต้องมีอะไรแน่ๆ “มีอะไรเหรอพี่น็อต ท่าทางเครียดนะเนี่ย” “นี่อะไร อธิบายมาสิ” บุรินทร์ยกมือถือที่ถ่ายรูปวารุณีกับนานโอ รวมทั้งตัวธารทิพย์เองก็อยู่ในภาพนั้นด้วยให้อีกฝ่ายดู หล่อนมองภาพในมือถือ สลับกับมองหน้าบุรินทร์ สีหน้าธารทิพย์เริ่มเปลี่ยน จากที่ซีดก่อนหน้าเริ่มซีดหนัก ความตกใจเพิ่มระดับขึ้นด้วย “อธิบายมาสิว่า คุณนานโอมายุ่งวุ่นวายกับวาทำไม แล้วปิดบังพี่ทำไม” “พี่รู้จักคุณนานโอด้วยหรือคะ” ธารทิพย์ถามกลับด้วยความแปลกใจ “อย่าลืมสิว่าพี่อยู่ที่นี่มายี่สิบกว่าปีแล้วชื่อเสียงของคุณนานโอก็ใช่หยอก พี่ไม่รู้สิแปลก” บุรินทร์ตอบกลับ “พี่ว่า น้ำตอบคำถามพี่มาดีกว่า อย่าโยกโย้” “ก็...” ธารทิพย์หัวสมองตันขึ้นมาทันที “ไม่ต้องโกหก พี่อยากรู้ความจริง ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้รู้ถึงหูเหนือแน่” บุรินทร์ขู่ “พี่จะพูดครั้งสุดท้ายนะ ถ้าน้ำยังไม่พูดความจริง พี่จะส่งรูปนี้ให้เหนือดู รับรองว่าเหนือแทบจะเหาะมาที่นี่แน่” “ถ้าน้ำบอกทุกอย่างให้พี่น็อตรู้ พี่น็อตต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่บอกให้พี่เหนือรู้” หล่อนยังมีเงื่อนไข ทั้งที่สถานการณ์นี้ บุรินทร์ถือไพ่เหนือกว่า “อืม พี่สัญญา” “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ...” ธารทิพย์คายความจริงให้บุรินทร์รับรู้ หล่อนเล่าเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้น ซึ่งบุรินทร์ก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ “พี่น็อตอย่าบอกพี่เหนือนะคะ ถ้าบอก วาตายแน่ๆ” บุรินทร์มองหน้าธารทิพย์อย่างคาดโทษ คนถูกมองหน้าเจื่อนลง หลุบตาต่ำไม่กล้าสบตา หัวใจเต้นแรงเกรงว่าเขาจะผิดคำสัญญา นำเรื่องนี้ไปบอกเหนือเมฆ อันที่จริงแล้วอายุของวารุณีมากพอที่จะมีคนรัก หากเทียบกับหญิงสาววัยเดียวกัน บางคนแต่งงานมีครอบครัวด้วยซ้ำไป แต่เขาในฐานะที่มีน้องสาวก็เข้าใจความรู้สึกและความเป็นห่วงที่เหนือเมฆมีต่อวารุณี แม้ว่าบางครั้งเขามองว่ามากเกินไป แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ อย่างที่รู้กันว่า ตอนน้องสาวเขาไปอยู่เมืองไทย เหนือเมฆทำตามสัญญา ดูแลน้องสาวเขาอย่างดี บุรินทร์จึงต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้ดีที่สุดเช่นกัน แล้วเหมือนเป็นความบังเอิญอันน่าเหลือเชื่อ ที่นานโอเป็นคุณอาของราซิเอลโล่ สามีของเพชรหอมเพื่อนสนิทของช้องนาง นั่นเท่ากับว่า อยู่ในแวดวงคนรู้จัก ชื่อเสียงของนานโอ การ์รัซซีโน่ เขาพอรู้มาบ้าง เพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของอิตาลี ชื่อเสียงในทางดีคือ เป็นนักธุรกิจมืออาชีพ จับงานไหนได้เงินงานนั้น เป็นคนเด็ดขาด จริงจัง ส่วนชื่อเสียงทางเสียก็คงเป็นเรื่องการใช้ผู้หญิงที่เปลืองมากคนหนึ่ง แต่เขากลับมองว่า เป็นเรื่องปกติของหนุ่มโสด ที่หาซื้อผู้หญิงมาระบายความใคร่ ซึ่งเขาก็ทำในบางครั้งคราว หากเจอผู้หญิงถูกใจก็จะปักหลักกับผู้หญิงคนนั้น “พี่จะไม่บอกเรื่องนี้กับเหนือ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” บุรินทร์วกเข้ามาเรื่องตัวเอง ธารทิพย์มองหน้าผู้พูด ในสมองหล่อนไม่ได้คิดว่า เขาประสงค์ร้าย แต่แปลกใจมากกว่า “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรคะ” “น้ำต้องเป็นแฟนพี่หนึ่งเดือน” ถ้าหากธารทิพย์กำลังดื่มน้ำ หล่อนคงสำลักน้ำ ถ้าหากกำลังทานอาหารก็คงพ่นอาหารออกมาจากปาก ท่าทางของธารทิพย์ตอนนี้คือ อ้าปากค้าง ม่านตาขยายกว้าง ความตกใจเต็มในความรู้สึก “พี่น็อตว่าอะไรนะ” “หูตึงขึ้นมาทันทีเลยนะ พี่บอกว่า น้ำต้องมาเป็นแฟนจำเป็นของพี่หนึ่งเดือน” บุรินทร์ตอบเสียงดังฟังชัด เพราะเขาต้องการให้ธารทิพย์ได้ยินชัดเจน “ทำไมล่ะคะ เกิดอะไรขึ้น พี่น็อตถึงได้ทำแบบนี้” เมื่อความตกใจเบาบาง ความสงสัยก็ตามมา “ก็คุณแม่พี่น่ะสิ จะให้พี่แต่งงานกับลูกสาวของเพื่อน พี่เลยบอกท่านว่า พี่มีแฟนแล้ว เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องหาแฟนที่พี่อ้างพาไปให้คุณแม่รู้จัก” เขาบอกเหตุผล “แล้วทำไมต้องเป็นน้ำ” หล่อนถามต่อ “ก็เพราะเป็นของแลกเปลี่ยนระหว่างเราไง ถ้าน้ำยอมเป็นแฟนจำเป็นของพี่ เรื่องของวาก็จะเป็นความลับตลอดไป แต่ถ้าน้ำไม่ตกลง พี่ก็พร้อมจะปากสว่าง” บุรินทร์พูดไปยิ้มไปอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า “ถ้าพี่ปากสว่าง วาไม่ได้ไปถ่ายโฆษณาแน่นอนและเส้นทางความรักมีอันต้องถูกตัดขาด โถๆๆ โถ น่าสงสารวาจังเลย แต่ถ้าน้ำยอม ทุกอย่างราบรื่นสบายใจ” เสียเปรียบและไม่มีทางเลือก... นี่คือความคิดของธารทิพย์ เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจไปทิศทางใด บุรินทร์ได้เปรียบตนหมด ครั้นจะไม่ยอมก็ไม่ได้ ธารทิพย์ตกอยู่ในภาวะจำยอม “อย่างกับว่า น้ำมีทางเลือก” ธารทิพย์หน้างอใส่บุรินทร์ ทว่าอีกใจกลับดีใจที่อย่างน้อยๆ ตนได้เป็นแฟนจำเป็นของเขา คิดในแง่ดีว่า ดีกว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย “น้ำถามหน่อยเถอะ ถ้าสมมุติว่าพี่น็อตไม่รู้เรื่องนี้ แล้วพี่น็อตจะหาใครไปเป็นแฟนหลอกๆ” “ก็น้ำไง พี่กะมาขอความช่วยเหลือจากน้ำอยู่แล้ว เพราะมองไม่เห็นใครที่จะฉลาดเป็นกรด เอาตัวรอดได้เก่ง และแสดงบทบาทได้แนบเนียนเท่าน้ำ ไปจ้างคนอื่นมีหวังความแตก” ธารทิพย์ร้องฮึ่มๆ ในใจ เขาตั้งใจไว้วานตนอยู่แล้ว หากเขาไม่รู้เรื่องนี้ หล่อนอาจปฏิเสธไม่ช่วยเหลือเขาเรื่องนี้ แต่นี่ปฏิเสธไม่ได้ แค่คิดว่าไม่ ยังไม่ได้เลย “ถ้าพี่น็อตไม่รู้เรื่องนี่ล่ะก็ น้ำจะไม่ช่วย” “แต่เผอิญพี่รู้ และน้ำก็ต้องช่วยพี่” บุรินทร์ยิ้ม “เอาล่ะ เราออกไปหาซื้อชุดกันดีกว่า” “ซื้อชุด ชุดอะไร” ธารทิพย์ถามกลับ สีหน้ามีความงุนงงกระจายเต็มไปหมด “อ้าว ก็ชุดสวยๆ ไง แฟนพี่ทั้งคนนะน้ำจะใส่ชุดเหมือนพื้นๆ บ้านๆ อย่างนี้ไม่ได้ คุณแม่พี่ไม่ชอบ พี่จะพาน้ำไปซื้อชุดใหม่สักสองสามชุด เอาไว้ใส่ตอนที่พี่พาไปหาคุณแม่ แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ไป น้ำก็ใส่ชุดที่น้ำใส่ปกติ” บุรินทร์ตอบ “อ๋อ” ธารทิพย์ทำเสียงเข้าใจ “หิวด้วยอ่ะ เลี้ยงข้าวด้วยนะ” “ถ้างานนี้สำเร็จ พี่จะเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ เลี้ยงทุกอย่างที่น้ำต้องการไปตลอดชีวิตเลยเอ้า” บุรินทร์เป็นเจ้าบุญทุ่ม “สัญญานะ” เรื่องแบบนี้ธารทิพย์ชอบ “สัญญาลูกผู้ชาย” บุรินทร์ชูสองนิ้วขณะพูด “น้ำไปหยิบกระเป๋าแปปนะพี่น็อต” ธารทิพย์ลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตนมาคล้องบ่า ก่อนเดินกลับมาหาบุรินทร์ที่ลุกขึ้นยืนเดินมาจับมือหล่อน ธารทิพย์ก้มมองมือใหญ่ที่กุมมือตน สลับกับเงยหน้ามองเขา แต่ก็ไม่ได้ชักมือกลับ ปล่อยให้เขากุมมือตนไว้ เพราะในส่วนลึกหล่อนอยากให้มือของตนอยู่ในอุ้งมือใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในช่วงเวลานี้หล่อนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่กระจายจากมือแข็งแรงเข้าสู่ร่างกายตน เป็นความสุขเล็กๆ ในจิตใจของหล่อนอีกด้วย “เพื่อความสมจริงและไม่เคอะเขินเวลาพี่พาน้ำไปหาคุณแม่ เราต้องซ้อมกันหน่อย” “ซ้อมอะไร ยังไง” “คนเป็นแฟนกันก็ต้องจับมือกัน พี่ก็จะจับมือน้ำไง จับมือพาเดินไปชอปปิ้ง ดูหนัง ทำนั่นทำนี่ ทำให้ชินไงล่ะ” เขาตอบ ธารทิพย์ที่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย พยักหน้ารับรู้ ยอมให้เขาจับมือตนพาเดินออกไปจากห้อง เส้นทางรักระหว่างนานโอกับวารุณีราบรื่น เพราะได้เพื่อนดีๆ อย่างธารทิพย์ช่วยเหลือ แล้วเส้นทางรักของธารทิพย์จะเป็นอย่างไร จะสุขสมหวังหรือไม่มีหวัง คงต้องลุ้นกัน การเดินทางมาเกาะชิชิลีครั้งนี้ของวารุณี ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต ระยะเวลาเกือบสี่ปีที่มาศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีที่อิตาลี หล่อนไม่เคยออกนอกกรุงโรมเลย หากจะเที่ยวก็เที่ยวแต่ในเมืองนั้น ไม่เคยเปิดโลกไปดูความงามต่างเมือง หากออกนอกเมืองคือกลับเมืองไทย เป็นนักศึกษาคนอื่น ยามว่างคือการท่องเที่ยว หาความสุขและสิ่งแปลกใหม่ให้ชีวิต แต่ไม่ใช่วารุณีที่ไม่ชอบเที่ยว หล่อนชอบอยู่กับกองหนังสือ มีความสุขที่ได้อ่านหนังสือมากกว่า แน่นอนว่าพอเห็นความงามของเกาะชิชิลีและศิลปกรรมอันล้ำเลิศ วารุณีจึงตื่นเต้น ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพความประทับใจไปตลอดทาง “ถ้าเเอรี่ไม่เหนื่อยเกินไป เย็นนี้ผมจะพามาขับรถเล่นนะครับ ตบท้ายด้วยดูพระอาทิตย์ตกดิน รับรองว่าแอรี่ต้องชอบและประทับใจแน่นอนครับ” นานโอกล่าวชวน ขณะนั่งอยู่ในรถมินิแวน ยานพาหนะที่จะนำเขากับวารุณีไปยังบ้านพักตระกูลการ์รัซซีโน่ “ฉันไม่เหนื่อยค่ะ ฉันอยากไปค่ะ” คนเพิ่งเคยท่องโลกกว้างตอบกลับทันที “ฉันอยากว่ายน้ำด้วยค่ะ อยากว่ายน้ำทะเลมาตั้งนานแล้ว” “ได้ตามประสงค์ครับ พอเราถึงบ้านของผม พักสักสองชั่วโมงนึงก่อน แล้วออกมาเล่นน้ำกัน เล่นน้ำเสร็จก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน ใกล้ๆ เวลาพระอาทิตย์ตกดินเราค่อยไปดูกัน” เขาบอกโปรแกรม “ดีค่ะ ดีมากๆ ค่ะ” วารุณียิ้มกว้าง แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อนึกได้เรื่องหนึ่ง “แต่ฉันไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมาด้วยน่ะสิคะ ทำไงดีล่ะ” “นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ คุณลืมไปแล้วหรือครับว่าผมเป็นใคร” เขาพูดขึ้น “ผมเป็นเจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำที่ใหญ่ระดับต้นๆ ของอิตาลี จะหาชุดว่ายน้ำให้คุณใส่คงไม่ใช่เรื่องยาก เดี๋ยวผมให้ไอริสจัดการให้ครับ” วารุณีลืมข้อนี้ไปเสียสนิท พอรู้ว่าจะมีชุดว่ายน้ำให้ใส่ หล่อนก็อยากเร่งเวลาให้ถึงเวลานัดหมายเร็ว อยากจะกระโจนตัวแหวกว่ายในน้ำทะเลเต็มแก่ “การที่คุณให้ฉันกับทีมงานไปพักที่บ้านของคุณ จะไม่เป็นการรบกวนคุณแม่กับคุณตาของคุณหรือคะ คุณตาของคุณอายุมากแล้วด้วย คนไปเยอะๆ ท่านคงไม่ได้พักผ่อน” “คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ครับ ตอนนี้คุณแม่ผมพาคุณตาไปพักผ่อนที่เวนิสครับ กว่าจะกลับก็เดือนหน้า” เขาตอบให้หล่อนสบายใจ “อีกอย่างสถานที่พักของทีมงานคือบ้านพักรับรองที่อยู่ด้านหลังของบ้านหลังใหญ่ครับ ที่นั่นมีห้องพักมากพอจะรองรับทีมงาน มีความสะดวกสบายทุกอย่างครับ” “อ๋อค่ะ” วารุณีทำเสียงรับรู้ การสนทนาของทั้งสองหยุดลง เมื่อรถมินิแวนเลี้ยวเข้ามาในอาณาเขตบ้านที่ต้องขับรถไปกว่าสองร้อยเมตรกว่าจะถึงตัวบ้าน ที่ไม่น่าเรียกว่าบ้าน น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า ตลอดสามร้อยเมตรที่ว่านี้ รถยนต์ขับผ่านต้นไม้นับร้อยต้นที่ปลูกอยู่สองข้างทาง ริมถนนเส้นเล็กที่ทอดตัวสู่บ้าน ปลูกต้นไม้ที่ตัดแต่งมีความสูงเลยเข่าเล็กน้อย แล้วยังมีรูปปั้นรูปต่างๆ ประดับตกแต่งด้วย พอไปเห็นคฤหาสน์หลังงามก็จะเห็นน้ำพุรูปปลาโลมาที่ตั้งเด่นอยู่หน้าบ้าน “เป็นไงครับ บ้านของผม” นานโอถามวารุณีหลังจากก้าวลงมาจากรถ “สวยและใหญ่มากค่ะ” วารุณีตอบตามตรง ยกมือถือขึ้นถ่ายคฤหาสน์ตรงหน้า “ฉันขออนุญาตคุณตรงนี้เลยนะคะ ถ้าเผื่อว่างจากการถ่ายโฆษณา ฉันขอเข้าไปถ่ายรูปบ้านคุณ ฉันจะเอาไปอวดลอร่าค่ะ” “ด้วยความยินดีครับ คุณอยากถ่ายภาพตรงไหน มุมไหนของบ้านหลังนี้ ตามสบายครับ” ขณะที่นานโอตอบ วารุณีเห็นมาจิลลูกน้องของเขายกกระเป๋าตนเข้าไปในคฤหาสน์ แทนที่จะเอาไปไว้ที่บ้านอีกหลัง ที่ให้ทีมงานอยู่อาศัย หรือว่ามาจิลจะนำกระเป๋าไปให้ตนที่นั่น “พี่มาจิลคะ เดี๋ยววายกกระเป๋าไปที่บ้านรับรองเองค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” “ใครบอกคุณครับว่า คุณจะพักที่นั่น” คำพูดของนานโอ ทำให้ใบหน้าวารุณีเต็มไปด้วยความสงสัย “แล้วจะให้ฉันพักที่ไหนคะ” “คุณเป็นคนพิเศษของผม จะพักที่ไหนได้ล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ที่นี่” วารุณียิ้มเขินกับคำพูดหวานหูที่ได้ฟังครั้งใด หล่อนจะรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงทุกครั้ง “ผมว่า คุณไปพักที่ห้องดีกว่าครับ อาบน้ำนอนยืดเส้นยืดสายสักหน่อย แล้วลงสองชั่วโมงมาเจอกันที่ห้องโถง” เขานัดหมาย “ค่ะ ได้ค่ะ” นานโอให้เกียรติวารุณีเต็มที่ เขาเดินไปส่งวารุณีที่ห้องรับรอง ก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องพักของตัวเอง รอเวลานัดหมายไปเที่ยวกันสองต่อสอง
已经是最新一章了
加载中