บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ
บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ \"เธอหมายถึงหูหง?\" หวังเสวี่ยถาม หลินอี๋เจียพยักหน้าคล้ายกับไม่แน่ใจ \"น่าจะไม่ใช่เขานะ ดูจากเมื่อวานผู้จัดการหวังก็ไม่ได้ใส่ใจหูหงสักเท่าไหร่\" หวังเสวี่ยส่ายหน้า \"แล้วจะเป็นใครกัน? กล้าออกตัวแทนพวกเราต่อหน้าเศรษฐีลู่ ก็หมายความว่าตัวตนของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ เราไม่เคยรู้จักคนสูงส่งแบบนี้มาก่อนนี่นา\" หลินอี๋เจียก็งงงวยเช่นกัน สองแม่ลูกคาดเดาไปต่างๆนานา แต่ทั้งสองไม่แม้แต่จะคิดว่าจะเป็นลู่เฉินที่ช่วยพวกเธอ สำหรับพวกเธอแล้วลู่เฉินนั่นเป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐีลู่ ถ้าทั้งสองจะมีความข้องเกี่ยวก็แค่บังเอิญแซ่เดียวกันเท่านั้น “ช่างมันเถอะ เซ็นต์สัญญาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วลองถามผู้จัดการหวังดูว่าเขาเป็นใครมาจากไหน” หวังเสวี่ยพูด ลู่เฉินเพิ่งกลับมาจากกินข้าวเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสองแม่ลูก ก็รู้ได้ว่าคนจากจวินเยวี่ยโทรหาพวกเธอเรียบร้อยแล้ว “ดูแลฉีฉีให้ดี พวกเราจะเดินทางไปจวินเยวี่ยจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญา” หวังเสวี่ยพูดด้วยอารมณ์แจ่มใส น้ำเสียงของเธอก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ลู่เฉินพยักหน้า สองคนแม่ลูกกำลังจะจากไปทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลินอี๋เจียก็ดังขึ้น หลังโทรเสร็จเรียบร้อยเธอพูดขึ้นว่า “ แม่คะ รออีกเดี๋ยว หูหงมาเยี่ยมฉีฉี ตอนนี้ถึงโรงพยาบาลแล้ว” สักครู่หูหงก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ เป็นแก้วมังกรนำเข้า เด็กๆน่าจะชอบกิน สายตาที่หูหงมองมาทางลู่เฉินวันนี้ต่างไปจากเดิม ไม่เหมือนเมื่อวานที่เต็มไปด้วยความดูถูก ก็ไม่แปลก เมื่อวานที่จวินเยวี่ยพวกเขานั้นพ่ายแพ้ แต่เลขาส่วนตัวของเศรษฐีลู่ได้ปฏิบัติต่อลู่เฉินอย่างนอบน้อม เขาคิดเหมือนกับสองแม่ลูกคู่นั้น คาดว่าตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉินน่าจะไม่ธรรมดา แต่หูหงไม่ได้พูดอะไรออกมา ลู่เฉินก็เช่นกัน เขารู้ดีว่าหูหงไม่ได้ตั้งใจมาเยี่ยมลูกสาวของตน จึงไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ “ใช่แล้วหูหง คุณให้คุณพ่อออกหน้าแทนเราเหรอ ผู้จัดการหวังจากจวินเยวี่ยกรุ๊ปเพิ่งโทรหาแม่ฉัน ให้พวกเราเดินทางไปคุยเรื่องเซ็นต์สัญญา พวกเขาจะผลิตภัณฑ์ยาจากบริษัทของแม่ฉันล่ะ” หลินอี๋เจียถาม ณ เวลานี้เธอคิดว่ามีเพียงหูหงเท่านั้นที่สามารถช่วยแม่ของเธอได้ “หา ?“ หูหงตกใจเล็กน้อย ในใจคิดว่าพ่อของตนจะเอาอะไรไปออกหน้าแทนได้ ถึงแม้เขาจะกล้าไปขอร้องพ่อให้ออกหน้าแทน คาดว่าพ่อคงไม่สนใจเขาอยู่ดี “แม่บอกแล้ว เมื่อวานไม่เห็นผู้จัดการหวังมีท่าทีเกรงใจอาหูเลย น่าจะเป็นคนอื่นออกตัวช่วยพวกเรา” หวังเสวี่ยพูดขึ้นหลังเห็นท่าทางของหูหง หลินอี๋เจียเองก็พยักหน้า เธอมองไปที่หูหงด้วยสายตาผิดหวังเล็กน้อย “คุณป้าเสวี่ยครับ ผู้จัดการหวังโทรมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?คุณพ่อผมจัดการได้รวดเร็วเหมือนกันนะครับ ผมเพิ่งจะเรียนเรื่องนี้กับท่านไปเมื่อเช้านี้เอง ให้ท่านช่วยออกหน้าให้ ท่านบอกว่าวันนี้จะหาเวลาว่างไปพบผู้จัดการหวัง ผมยังคิดว่าท่านแค่พูดปัดๆไปเสียอีก” หูหงตอบไปหลังครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ อย่างไรเสียเขาก็ไม่กลัวที่จะถูกเปิดเผย แม้ในอนาคตจะโดนจับได้เขาก็คงได้หลินอี๋เจียไปครองแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจอีกต่อไป ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เขาสงสัยว่าทางจวินเยวี่ยกรุ๊ปน่าจะดูรายละเอียดความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว วันนี้ถึงได้ติดต่อมา ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งไม่มีเรื่องต้องกังวล ตรงกับจังหวะที่หลินอี๋เจียสงสัยว่าเป็นเขา เมื่อถึงเวลาเขาจะได้ทั้งหลินอี๋เจียและผลงาน โอกาสดีๆแบบนี้จะปล่อยให้หลุดไปได้ยังไง “คุณให้คุณพ่อช่วยออกหน้าให้จริงๆด้วย ขอบคุณมากเลยนะคะ!”หลินอี๋เจียมองมาทางหูหงด้วยความซาบซึ้ง เธอคิดอยู่แล้วว่านอกจากหูหง จะมีใครยื่นมือมาช่วยพวกเธอสองแม่ลูกได้อีก “อาหู ป้าขอบใจมากนะลูก” หวังเสวี่ยเองก็ตื้นตันใจและคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหูหงจริงๆ ลู่เฉินมองไปที่หูหงด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าเจ้านี่จะไร้ยางอายถึงขนาดนี้ “คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนให้พ่อออกหน้าช่วยแม่ผม?” ลู่เฉินพูดกับหูหงแบบกึ่งยิ้ม หูหงมีท่าทีตกใจ ดวงตาของเขาก็ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย “ถ้าไม่ใช่หูหงจะเป็นคุณงั้นเหรอ? คิดว่ามีความสามารถพอไหม?” หลินอี๋เจียจ้องไปที่ลู่เฉิน ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกลูก เราไปจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญากันดีกว่า” หวังเสวี่ยเองก็มองลู่เฉินด้วยท่าทางดูถูกจากนั้นพาหลินอี๋เจียและหูหงออกไป ลู่เฉินหัวเราะแล้วส่ายหัว เขาขี้เกียจจะไปใส่ใจเรื่องของหูหง เพราะมันไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียวสำหรับเขา “คุณพ่อคะ ทำไมคุณน้ากับคุณยายถึงดุคุณพ่อจัง?” ฉีฉีถามลู่เฉินด้วยความสงสัย ลู่เฉินยิ้ม เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เขาไม่สามารถตอบไปว่าเพราะสองคนนั้นคิดว่าเขาไร้ประโยชน์ ต่อหน้าลูกสาวเขาต้องทำตัวเป็นฮีโร่เสมอ ในวันต่อมาลู่จงได้หาไขกระดูกที่ตรงกับฉีฉีพบ และทางโรงพยาบาลได้ลงมือผ่าตัดแก่ฉีฉีทันที การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ฉีฉีฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลินอี๋หวินมีความสุขมากจนลืมถามถึงค่ารักษาพยาบาลอีกทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลู่เฉินย้ายฉีฉีมาห้องวีไอพีด้วย ฉีฉีออกจากโรงพยาบาลมาสองวันนี้หลินอี๋หวินใช้เวลาอยู่กับลูกสาวของเธออย่างคุ้มค่า “ตอนนี้ฉีฉ๊ก็สามขวบแล้วนะ เราส่งลูกไปโรงเรียนดีไหม คุณวางแผนไว้ว่ายังไง?” หลินอี๋หวินถามลู่เฉินขึ้นหลังจากปิดไฟนอน “วางแผนอะไรนะ?” ลู่เฉินกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ ไม่ทันได้ฟังคำพูดของหลินอี๋หวินเมื่อสักครู่ “ติดหนี้สินเยอะขนาดนี้ คุณไม่คิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้บ้างเหรอ?” หลินอี๋หวินขมวดคิ้วถาม “ผมติดหนี้ตู้เฟยแค่ห้าหมื่น สองสามวันนี้หาไปคืนเขาก็เรียบร้อย” ลู่เฉินพูด “ลู่เฉิน คุณหมายถึงค่ารักษาต่อไปนี้ของฉีฉีอีกตั้งหลายแสน จะให้ฉันทำงานมาใช้หนี้เองทั้งหมดใช่ไหม?” หลินอี๋หวินมองไปทางลู่เฉินที่อิงหมอนสูบบุหรี่อยู่ด้วยใบหน้าเยือกเย็น เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าลู่เฉินจะเป็นอย่างนี้ นี่คือผู้ชายที่เธอเลือกมาร่วมชีวิตด้วยในตอนนั้นเหรอ? “คุณเป็นอะไรไป ผมไม่ได้พูดเลยว่าจะให้คุณมารับผิดชอบตรงนี้ ค่ารักษาหลังจากนี้ผมจะเป็นคนหาเอง แค่ว่าตอนนี้ผมติดตู้เฟยอยู่ห้าหมื่นเท่านั้น” ลู่เฉินขำ “เงินของคุณ? คุณรู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายต่อจากนี้อย่างน้อยต้องมีห้าแสน คุณคิดว่าฉันโง่หรือไง?” หลินอี๋หวินพูดด้วยความโมโห “ที่รักครับ ผมคงต้องบอกความจริงต่อคุณเสียที ที่จริงแล้วผมเป็นทายาทเศรษฐี......” ลู่เฉินทิ้งก้นบุหรี่แล้วหันมากอดหลินอี๋หวิน เตรียมตัวบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาต่อภรรยา เขาต้องการชดเชยที่ทำให้หลินอี๋หวินต้องทนลำบากมากับเขาตลอดหลายปีนี้ “ไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ !” เขาคาดไม่ถึงว่าหลินอี๋หวิน จะผลักเขาด้วยความโกรธแบบนี้ “ลู่เฉิน คุณทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ นี่คุณไม่อยากทำงานถึงขนาดหาเหตุผลบ้าๆแบบนี้มาอ้างเลยเหรอ คุณยังเป็นผู้ชายหรือเปล่า?ฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลยนะ คุณจะทำงานหรือไม่จากนี้ไม่เกี่ยวกับฉันอีก ถ้าหากมีใครมาตามทวงหนี้ ฉันจะขอหย่ากับคุณทันที” หลินอี๋หวินพูดแล้วดึงผ้าห่มออกลุกไปจากเตียง เธอโกรธมากจริงๆ ตอนนั้นตัดสินใจแต่งงานกับเขาเพราะความรัก แม้ว่าลู่เฉินจะไม่ประสบผลสำเร็จด้านธุรกิจ แม้ช่วงที่ลูกสาวคนเดียวของเธอจะนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล อาจทำให้เธอรู้สึกท้อบ้างในบางครา แต่เธอก็เพียงแค่บ่นกับลู่เฉินเท่านั้น “คุณจะทำอะไรน่ะ?”ลู่เฉินถาม “แยกห้องนอน!” หลินอี๋หวินตอบแล้วเดินจากไป ทำไมทุกครั้งที่เขาพูดความจริงถึงไม่เคยมีคนเชื่อเลย? เมื่อเห็นหลินอี๋หวินกระแทกประตูเดินออกไป ลู่เฉินได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา แต่ในตอนนี้ลู่เฉินใช้ข้ออ้างไร้สาระนี่โกหกเธอเพื่อจะได้ไม่ต้องออกไปทำงานหาเงิน มันทำให้เธอผิดหวังมากจริงๆ
已经是最新一章了
加载中