ตอนที่411 ฉันช่วยคุณแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่411 ฉันช่วยคุณแล้ว
ตอนที่411 ฉันช่วยคุณแล้ว ฝ่ามือของนวาระนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำไมเธอถึงไม่สังเกตเห็นให้เร็วกว่านี้ ว่าทั้งหมดนี้จิดาภารู้ทุกอย่างมาตั้งแต่แรกแล้วกัน! และเวลานี้เองที่ทางทีมงานได้เตรียมพร้อมในการถ่ายทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชนุดมเองก็นั่งประจำอยู่ตรงที่ของผู้กำกับแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นนวาระที่ขวางปรียสไว้อีกครั้งแล้ว จึงดึงหูฟังออก แล้วเอ่ยถาม “อะไรกันครับ? เรื่องแบบนี้มีอะไรให้ต้องแย่งกันอย่างนั้นหรือ?” นวาระพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เธอมองจิดาภา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะยอมปล่อยพวกเขาไป เพียงแต่จิดาภาหันกลับไปมองด้วยความสงสัย “ใช่ค่ะ พี่นวาระคะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันต้องมาถ่ายทำฉากแอ็คชั่นที่รุนแรงแบบนี้ แต่เพียงแค่คุณปรียสนำฉันอยู่ทางด้านหน้า ฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วค่ะ” นวาระเห็นว่าจิดาภาไม่ยอมถอยง่ายๆ ในหัวของเธอนั้นรู้สึกว่างเปล่าเหลือเกิน “คุณปรียส เริ่มได้แล้วครับ” ชนุดมเหมือนจะหมดความอดทนลงแล้ว อย่างไรเสียวันนี้ยังมีอีกหลายหน้าที่ที่จะต้องมีการถ่ายทำ ไม่สามารถให้ความคืบหน้าของงานมาหยุดอยู่แค่ตรงนี้อยู่เช่นนี้ ปรียสผลักนวาระออก แล้วเดินขึ้นรถและปิดประตูลง เขาไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ว่าเบรกของรถคันนี้มีปัญหา ไม่คิดเลยว่าเขาจะตกมาอยู่ในกำมือของจิดาภาเสียเอง! เขาลดกระจกลง แล้วส่งสายตาเป็นการบอกกับนวาระให้ออกไป แล้วตอนที่หันกลับมามองจิดาภานั้น แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่แสนจะอันตราย ถ้าหากจะบอกว่าจิดาภาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาไม่เชื่ออยู่แล้ว! แต่เธอสังเกตเห็นได้อย่างไรกัน? ผู้หญิงที่มีดีแต่รูปลักษณ์หน้าตาเกาะผู้ชายเพื่อให้ได้บทบาทนี้คนนึงเพียงเท่านั้น มีสิทธิอะไรที่จะมายืนอยู่ตรงนี้....... นวาระเซถอยหลังออกไป ลึกๆในใจของเธอนั้นมีความคิดหนึ่งเข้ามา ว่าตอนนี้จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาเลยดีหรือเปล่า เรื่องราวก็จะสามารถแก้ไขได้ทัน.....ถึงแม้ว่าเธอจะต้องใช้ทั้งชีวิตเธอเพื่อมาชดใช้ความผิดพลาดในวันนี้ก็ตาม เธอไม่สามารถยืนมองปรียสไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นได้! ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมากับเขา แล้วเธอจะทำอย่างไร? ตอนนี้คนที่เธอสามารถจะพอขอร้องได้ก็คงมีแต่จิดาภาเพียงเท่านั้น ดังนั้นจึงใช้โอกาสในช่วงที่ทุกคนกำลังเตรียมจะถ่ายทำนั้น ดึงจิดาภาออกมายังด้านข้าง “จิดาภา คุณพูดอะไรออกมาหน่อยได้ไหมคะ อย่าให้ปรียสขับรถคันนั้นเลยนะคะ เรื่องนี้พวกเราทำผิดไปแล้ว ขอให้คุณ......” “ทำไมถึงขับรถคันนั้นไม่ได้คะ?” จิดาภาย้อนถามกลับไป นวาระกัดริมฝีปากตัวเองแน่น “ฉันสามารถค่อยๆอธิบายเรื่องนี้ให้คุณฟังได้ แต่ฉันไม่อยากให้พวกคุณหรือแม้แต่ใครซักคนต้องมาได้รับบาดเจ็บจริงๆนะ คุณเชื่อฉันเถอะ ฉันขอร้อง” “ถ้าหากว่าตอนนี้คนที่นั่งอยู่ในรถคันนั้นเป็นฉัน คุณก็จะขอร้องกับคุณปรียสแบบนี้รึเปล่า?” แววตาของจิดาภานั้นค่อยๆเย็นชาขึ้น “ฉันยืนอยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้ก็เป็นการพิสูจน์ที่ดีที่สุดแล้วค่ะ! ฉันตั้งใจที่จะลองขับก่อนคุณ” “คุณคิดว่าคุณใช้วิธีนี้ขัดขวางเขาได้หรือคะ? ถึงแม้วันนี้ทุกอย่างจะราบรื่น แล้วพรุ่งนี้ หรือวันมะรืนนี้ล่ะคะ?” ประโยคที่จิดาภาถามย้อนกลับไปนั้นทำให้นวาระถึงกับตะลึง เธอไม่สามารถจะขัดขวางเขาทุกครั้งได้..... “ชีวิตเป็นของฉัน ไม่ใช่ฐานรองที่ใครจะเหยียบเพื่อที่จะก้าวไปให้สูงขึ้นได้ ในเมื่อเขาทำในสิ่งที่ไม่ควรทำก่อน ก็จะต้องยอมรับกับผลที่จะตามมา” จิดาภากล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ฉันจะบอกคุณไว้นะคะ ถึงแม้ตอนนี้คุณจะมาคุกเข่าขอร้องตรงหน้าฉัน ฉันก็จะมองดูเขาขับรถคนนั้นอยู่ดี เรื่องบางเรื่องไม่สามารถพูดแค่คำว่าขอโทษออกมาแล้วจะแก้ไขทุกอย่างได้หรอกนะคะ” เนื่องจากเธอเองก็มีคนที่ตัวเองรักและอยากจะอยู่ด้วยเหมือนกัน ชีวิตมีค่าขนาดนั้น เธอจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่เธอรักเช่นกัน สองขาของนวาระนั้นราวกับไร้ความรู้สึกใดๆ ทำไมเธอถึงไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นเช่นนี้ ความสับสนวุ่นวาย ความกลัวนั้นเข้ามาอยู่ในหัวเธอเต็มไปหมด “เตรียมตัว เริ่ม!” ชนุดมพูดใส่วิทยุสื่อสาร นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว คนในกองถ่ายทุกคนต่างก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ปรียสเหยียบคันเร่ง แล้วขับไปยังเส้นทางที่กำหนดไว้ ทักษะการขับรถที่ยอดเยี่ยม ผู้คนต่างพากันส่งเสียงเชียร์ออกมา! เพียงแต่ เขาจำได้อยู่แล้วว่ารถคันนี้ไม่มีเบรก แต่เขาหยุดรถไม่ได้ และยิ่งไม่สามารถแสดงออกถึงท่าทางความหวาดกลัวออกมาได้เลย หากเขาทำเช่นนั้น ชีวิตของเขาจะต้องพังลงอย่างแน่นอน ผู้หญิงคนนั้น จิดาภา ช่างร้ายกาจเสียเหลือเกิน เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องเสี่ยงดู..... “ผู้กำกับชนุดม ทำไมเขายังไม่จอดรถ? อีกอย่างดูเหมือนกำลังขับวน....” ทางทีมงานพบถึงความผิดปกติ จึงพูดใส่วิทยุสื่อสารออกมา ชนุดมรีบมองไปไปยังหน้าจอนั้น หลังจากนั้นรีบลุกขึ้นยืน “รีบไปดูเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น!” ปรียสบังคับหมุนพวงมาลัยอยู่ในรถ ต้องการจะใช้วิธีการเปลี่ยนเกียร์เพื่อควบคุมความเร็วของรถ เนื่องจากว่าเส้นทางนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่อยู่มาก แต่ยังดีที่ทักษะการขับรถของเขาดีพอ ความเร็วของรถจึงถูกควบคุมให้ช้าลงมาได้ “คุณปรียส รถมีปัญหาหรือเปล่าครับ?” “คุณปรียส โดดลงมาครับ!” ทีมงานที่อยู่ข้างทางตะโกนบอกเขา ภายใต้ความพยายามควบคุมอย่างสุดความสามารถของปรียส รถได้พุ่งชนที่กั้นตรงข้างทางทางด้านขวามือของเขา หลังจากที่เสียงพุ่งชนนั้นดังขึ้นแล้ว ตามมาด้วยควันที่ลอยขึ้นมาจากตัวรถ..... ทางทีมงานรีบตรงเข้าไปหาเขา โชคดีที่ปรียสไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่ตกใจไปอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว “แปลกจัง รถคันนี้น้ำมันก็มีไม่เยอะนี่นา” ผู้รับผิดชอบนั้นพยุงตัวของปรียสออกมาจากรถ แล้วสังเกตมองไปที่หน้าปัดหน้ารถ นวาระรู้สึกแทบบ้า เธอวิ่งเข้าไปหาเขา โดยไม่ได้สนใจคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้นเลย "เป็นอย่างไรบ้างคะ?" "ผมไม่เป็นไร" สายตาของปรียสจ้องมองพื้น แล้วเอ่ยตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพยายามควบคุมแล้ว แต่ด้านหลังของเขานั้นเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เมื่อครู่เขารู้สึกถึงความเป็นความตายเข้าแล้วจริงๆ กับดักนี้เขาเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง แต่กลับเป็นเขาเองที่ได้ไปประสบกับมันครั้งหนึ่ง ประสบการณ์ในครั้งนี้สอนให้เขาได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกนี้อย่างถึงแก่นแท้ อีกทั้งตอนที่เขาควบคุมความเร็วรถแล้วหยุดรถได้ในตอนสุดท้ายนั้น เขาพบว่ามีคนทำอะไรกับรถคันนี้อีก ไม่ว่าใครจะเป็นคนขับรถคนนี้ สุดท้ายแล้วก็จะหยุดได้เองอัตโนมัติ "เกิดอะไรขึ้น! คุณปรียส ไม่เป็นไรใช่ไหม? ไปเช็คเร็วเข้า ว่ารถมีปัญหาอะไร" ชนุดมเอ่ยถามอย่างร้อนใจ "ไม่เป็นไรครับ เบรกน่าจะขัดข้องขึ้นมากะทันหัน" ปรียสตอบกลับไป "รีบไปตรวจสอบกันเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น! ใครเป็นคนรับผิดชอบ ทำไมถึงได้ประมาทจนทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่แบบนี้ขึ้นได้? พวกคุณรู้ไหมว่าถ้าคนที่ขับรถคันนี้ไม่ได้เป็นคุณปรียส แต่เป็นคุณจิดาภา สุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?" ผู้กำกับตวาดใส่ทางทีมงานด้วยความโมโห เมื่อปรียสและนวาระได้ยินคำเหล่านี้ ก็รู้สึกเกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้น พวกเขาที่คนหนึ่งเป็นคนได้เห็นเหตุการณ์นี้กับตาตัวเอง ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคนประสบกับเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขารู้ดีถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้! "โชคดี....ที่คนไม่เป็นอะไร" นวาระยืนขึ้นมา สายตาเหลือบขึ้นมามองชนุดม "ไม่ได้ จัดรถเดี๋ยวนี้ ส่งตัวคุณปรียสไปโรงพยาบาล เลื่อนถ่ายฉากนี้ไปก่อน" ถึงแม้ว่าชนุดมอยากจะถ่ายให้ได้ตามแผนที่วางไว้ แต่จะมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าชีวิตของนักแสดงอีก? "ขอบคุณครับผู้กำกับชนุดม" ปรียสเดินออกไปโดยมีผู้ช่วยของเขาและนวาระช่วยกันประครองเขา แต่ก่อนที่จะกลับออกไปนั้น นวาระหันกลับมาแล้วพูดกับจิดาภา "จิดาภา พวกเราแพ้แล้ว หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงแค่ตรงนี้นะคะ" จิดาภามองเธอกลับไปอย่างเฉยชา แล้วตอบกลับ "ใครไม่มาทำฉัน ฉันก็จะไม่ทำเขา" ชนุดมมองพวกเขาเดินออกไป กลัวว่าอารมณ์ของจิดาภานั้นจะได้รับผลกระทบนี้ จึงเดินเข้าไปหาเธอเพื่อปลอบใจ "ตกใจเลยใช่ไหมครับ?" "ไม่เลยค่ะ......" "ดีแล้วครับ คุณจิดาภา ถือว่าคุณโชคดีจริงๆ"
已经是最新一章了
加载中