บทที่ 2. คู่แค้นคู่กัน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2. คู่แค้นคู่กัน
แทนฤทัยหน้าหงิกเมื่อบิดาเรียกเข้าไปพบเพื่อบอกว่าเธอจะต้องทำงานร่วมกับราฟาเอลในโปรเจ็คใหม่ของบริษัทและลูกค้าก็เลือกเธอกับราฟาเอลให้ทำงานชิ้นนี้ซึ่งแน่นอนว่าค่าตอบแทนมันมากเกินกว่าที่เธอจะปฏิเสธเพียงเพราะไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย ขืนเธอถอนตัวก็เท่ากับว่ายอมแพ้อีตานั่นน่ะสิ หญิงสาวคิดอย่างฉุนๆ ขณะเดินไปที่รถของตนแต่เมื่อเดินมาถึงรถก็ต้องตาโตด้วยความฉุนเฉียวหนักกว่าเดิม “นี่นาย อย่ามายืนพิงรถฉัน ออกมาห่างๆ เลย เดี๋ยวความชั่วร้ายของนายมันจะมาติดรถฉันและสีมันจะถลอก...” แทนฤทัยถลามาที่รถเมื่อพบว่าหนุ่มผมทองยืนพิงรถของเธอด้วยท่าทางแสนสบาย ท่าทางราว เจ้าชายอสูรจอมเจ้าเล่ห์ ของเขานี่เธอเกลียดที่สุดเลย... “คุณผู้หญิงครับ แค่พิงแค่นี้สีไม่ถลอกหรอกครับ แต่ถ้ายืนทำอย่างอื่น ก็ไม่แน่..” “คนลามก..” หญิงสาวหน้าแดงก่ำขึงตามองเขาแถบถลน แล้วภาพที่เขาจูบเธอในวันนั้นก็แวบเข้าในหัว แทนฤทัยเชิดหน้าขึ้นแล้วพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดทั้งที่ในใจเต้นรัว “อะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย มาว่าฉันลามกเธอนี่กำลังคิดมิดีมิร้ายกับฉันรึเปล่า” ราฟาเอลยิ้มยียวนพลางหลิ่วตาให้เธอยิ่งทำให้เธอพลุ่งพล่าน “อ๊ายยยย อีตาบ้า นายสิ คิดอะไรลามก ถอยไป..” “หึหึ หน้าแดงๆ แบบนี้คิดถึงจูบฉันล่ะสิ” ชายหนุ่มยังคงไม่เลิกกวนประสาทไม่เลิก แทนฤทัยกระทืบเท้าเร่าๆ อยากจะกระโจนมาข่วนหน้าหล่อๆ นั่นนัก “นาย ไอ้คนทุเรศ ฉันอยากจะ..” “เอ๊า.. จะไปกันรึยังฉันรออยู่นะเนี่ย” แทนฤทัยอ้าปากพะงาบๆ จะต่อว่าเขาแต่ราฟาเอลกลับพูดไปอีกเรื่องหน้าตาเฉย “จะไปไหนไม่ทราบ นายมาทางไหนก็ไปทางนั้นเลย” “จะให้ฉันขับรถให้หรือจะขับเอง แต่ว่าท่าทางเหมือนคนขาดสติแบบนี้มาฉันขับให้เอง...” เขาไม่สนใจคำพูดเธอด้วยซ้ำพอพูดจบเขาก็คว้ากุญแจจากมือเธอไปทันทีซึ่งแทนฤทัยก็ได้แต่ยืนอึ้งตามเขาไม่ทัน “นะ นี่ นาย..” “พูดมากจริง เข้ามาได้แล้วจะยืนโชว์หุ่นแห้งๆ ให้ใครดู” แทนที่เธอจะเป็นฝ่ายต่อว่าเขากลายเป็นว่าเธอถูกเขาว่าเสียอย่างนั้น แทนฤทัยอ้าปากจะคัดค้านราฟาเอลตวัดสายตามองเหมือนรำคาญแล้วรั้งให้เธอเข้าไปนั่งในรถอย่างง่ายดายโดยที่เธอไม่ทันได้พูดอะไรได้แต่มองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แทนฤทัยเคืองจัดจนไม่สามารถประมวลผลคำพูดจะมาต่อว่าได้ทันการกระทำของเขานั่นเอง ส่วนราฟาเอลก็ทำตัวเหมือนเจ้าของรถ เอื้อมมือไปเปิดเพลงจากเครื่องเสียงชั้นดีเบาๆ ด้วยความสบายอกสบายใจซ้ำยังผิวปากร้องคลอเพลงไปด้วย “เป็นไง เสียงฉันเพราะจนอึ้งไปเลยล่ะสิ” “ทุเรศ ฉันกำลังรำคาญย่ะ แล้วก็กรุณาจอดรถแล้วก็ลงไปจากรถฉันเสียด้วย..” จริงๆ แล้วเสียงของราฟาเอลเพราะมากเลยล่ะแต่เธอจะไม่ชมเขาแน่นอน “อ๊ะๆ เรายังมีสัญญากันอยู่นะครับ เหลือเวลาอีกตั้งสามวัน” “สัญญาบ้าบออะไรฉันไม่รับรู้ นายตกลงกับคุณพ่อเองก็ไปทวงเอากับท่านสิไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด” “แน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันทำแบบนั้น..” คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังทำให้คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีอย่างเจ็บใจเพราะเธอรู้ดีว่าถึงอย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกับเขาอยู่ดี “เอาน่า ไหนๆ เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว” “เชอะ ลงเรือลำเดียวกัน ฉันว่านายมันเป็นโจรสลัดที่ลักพาตัวโฉมงามอย่างฉันลงเรือมาด้วยเสียมากกว่า” “แต่สุดท้าย โฉมงามกับโจรสลัดก็ลงเอยด้วยการรักกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนะครับ..” ราฟาเอลยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาทำให้แทนฤทัยตาพร่าไปอยู่ไม่น้อยแล้วก็ต้องรีบตีสีหน้าเริดๆ เชิดๆ ไว้ข่มใจไม่ให้หวั่นไหวกับรอยยิ้มของโจรสลัดรูปงามอย่างราฟาเอล.. “แหวะ.. โฉมงามอย่างฉันไม่มีทางลงเอยกับจอมโจรสลัดเจ้าเล่ห์หน้าด้านหน้าทนอย่างนายแน่นอน...” ราฟาเอลไม่พูดว่ากระไรแต่ขับรถคันเล็กของเธอไปยังบริษัทของตนหน้าตาเฉยซึ่งแทนฤทัยจำต้องไปพร้อมกับเขาเมื่อเจอสีหน้าและแววตาจริงจังเอางานเอาการของเขา เธอต้องมาช่วยเขาดูการออกแบบและเจียระไนพลอยที่จะทำเครื่องประดับให้กับลูกค้าของราฟาเอลที่ต้องการตราประจำตระกูลที่งดงามอลังการ และตอนนี้บิดาของเธอกับราฟาเอลคือหุ้นส่วนกัน... ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ แทนฤทัยคิดอย่างขุ่นใจ “ถึงแล้วครับ เชิญครับคุณผู้หญิง” ราฟาเอลผายมือเชื้อเชิญ แทนฤทัยหน้างอแต่ก็ลงจากรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปในตึกสำนักงานของเขาด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย เป็นครั้งแรกในที่เธอได้มาเยือนอาณาจักรของเขา... “เป็นไงบ้างละแทมมี่ งานราบรื่นดีมั้ย” เสียงของบิดาทำให้หญิงสาวที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงักแล้วหันมายิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ “อ้าวคุณพ่อ กลับมานานแล้วหรือคะ” “ก็สักพัก แล้วเป็นไงบ้างร่วมงานกับราฟ” “ก็ดีค่ะ..” หญิงสาวตอบตามความจริงอย่างที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าราฟาเอลนั้นเป็นคนที่ทำงานเก่งฉลาดหลักแหลมและฉับไวไม่ด้อยไปกว่าพี่ธามของเธอเลยแม้แต่น้อย “เก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์จากพี่เขาเยอะๆ ล่ะ อย่ามัวแต่แง่งอนใส่พี่เขา” “โหย คุณพ่อน่ะ พูดเหมือนว่าแทมมี่เป็นเด็กเกเรไม่เอาไหนอย่างนั้นล่ะ” หญิงสาวหน้างอที่บิดาพูดเหมือนเข้าข้างราฟเอลและเธอก็คือเด็กเกเรเจ้าปัญหา “หึหึ ก็นี่ไง เราน่ะ มันเด็กเกเรชัดๆ เลย” คุณธีร์ขยี้เรือนผมสลวยของลูกสาวที่รักเบาๆ “คุณพ่อขา เราเปลี่ยนบริษัทดีลงานกับเราไม่ได้เหรอคะ” หญิงสาวโอบกอบเอวที่หนาขึ้นเล็กน้อยของบิดาแล้วซบหน้าลงกับอกกว้างของท่านอย่างออดอ้อนด้วยความหวังว่าบิดาอาจจะใจอ่อนเปลี่ยนใจตามที่ตนขอร้อง “ลูกกลัวราฟเหรอถึงไม่กล้าทำงานกับเขา” “ใครบอกว่าแทมมี่กลัว อีตานั่นไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวสักนิดเลย วันๆ เอาแต่โปรยเสน่ห์ไปทั่ว” หญิงสาวผละออกจากอกของบิดาแล้วโวยวายหน้างอง้ำรู้สึกเดือดดาลทันทีที่มีใครสักคนมาพูดในทำนองว่าตนสู้ราฟาเอลไม่ได้ คนอย่างแทมมี่ไม่เคยแพ้ใครและไม่เคยกลัวใครมีหรือจะยอม “อืม.. แล้วทำไมถึงได้อยากจะเปลี่ยนคนดีลงานล่ะ แบบนี้ก็เท่ากับว่าลูกกลัวพี่เขาน่ะล่ะน่า เอาเถอะๆ หากแทมมี่ทำไม่ได้พ่อก็ไม่ว่าอะไรเดี๋ยวพ่อหาคนมาดีลแทนราฟก็แล้วกัน” “ไม่นะคะคุณพ่อ แทมมี่ไม่ได้บอกว่าอยากได้คนมาดีลงานแทนตานั่นเสียหน่อย แค่บอกว่าหากเป็นไปได้คราวหน้าแทมมี่ขอเลือกคนดีลงานเอง” แทนฤทัยรีบแย้งหน้ามุ่ยเมื่อบิดาพูดเหมือนดูถูกตน “ก็เรียกพี่เขาดีๆ หน่อยสิลูก” “ค่าคุณพ่อ แทมมี่เหนื่อยแล้วขอขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์เลยนะคะ” พูดจบก็หอมแก้มบิดาเสียฟอดใหญ่ก่อนจะวิ่งตื๋อขึ้นห้องไปราวเด็กๆ คุณธีร์มองตามหลังธิดาคนเล็กแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างรู้ทัน และได้แต่หวังว่าสิ่งที่ตนคาดหวังไว้คงจะสำเร็จลงด้วยดี... ทางด้านแทนฤทัยที่กลับเข้าในห้องนั้นเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มแล้วถอนใจกับตัวเองเบาๆ พลางย่นจมูกใส่ลมฟ้าอากาศแล้วบ่นอุบอิบ “อีตาราฟบ้าเอ๊ย ทำไมคุณพ่อต้องให้อีตานั่นเข้ามาวุ่นวายกับงานเราด้วยนะ รู้ทั้งรู้ว่าเราไม่ชอบหน้าหมอนั่น คุณพ่อนะคุณพ่อ หึ แต่อย่านึกนะว่าคุณพ่อเข้าข้างนายแล้วจะชนะฉันได้ง่ายๆ นะ” หญิงสาวทุบที่นอนเบาๆ อย่างเจ็บใจขึ้นมาทุกทีที่นึกถึงคนที่พูดถึง แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแทนฤทัยเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วก็ต้องใจเต้นแรงเมื่อเห็นชื่อคนโทร. มา อีตาบ้า คือชื่อที่เธอตั้งไว้สำหรับราฟาเอล... “อีตาบ้าโทร. มาทำไมกันนะ รับดีมั้ยเนี่ย” หญิงสาวมือสั่นน้อยๆ ใจก็สั่นไหวไปด้วยอย่างน่าโมโหก่อนจะตัดสินใจรับสาย “โทร. มาทำไมยะ” “โอ้โห คงคิดถึงกันมากสินะ คงแทบจะรีบรับสายเลยสิท่า เสียงเหมือนดีใจมากเลยที่ได้ยินเสียงฉัน” ทางด้านผู้โทรมาเย้าเสียงระรื่นทำให้แทนฤทัยแทบอยากจะทะลุสัญญาณเข้าไปบีบคอคนพูดนักแต่สิ่งที่เธอทำได้แค่ขับเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว “คนจะหลับจะนอนโทร. มารบกวนทำไม” หญิงสาวถามเสียงห้วนๆ พลางมองดูเวลาเพิ่งจะสองทุ่มเศษ “โห... คนสวยเขาพูดกันแบบนี้เหรอครับ” “นี่นายอย่ามากวนประสาท มีอะไรก็ว่ามา นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วคนเขาจะหลับจะนอนไม่ว่างคุยเรื่องไร้สาระ” “ฉันนอนไม่หลับ..” ทางปลายสายพูดเบาๆ มาตามสาย น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนล้าจนหัวใจสาวทางนี้แฟบลงไปไม่น้อยอย่างบอกไม่ถูกว่าทำไมต้องรู้สึกเช่นนั้น “แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า...” แล้วหญิงสาวก็ใจเต้นแรงกับคำพูดประโยคต่อมาของเขา “ก็แค่คิดถึง คิดว่าหากได้ยินเสียงของใครบางคนแล้วจะนอนหลับ แต่ตอนนี้คาดว่านอกจากจะนอนไม่หลับแล้วยังจะฝันร้ายอีกด้วย...” “อี๊ แล้วจะโทร. มาทำไมยะ ถ้าอย่างนั้นจะวางแล้วนะ” แม้จะใจเต้นแรงแต่แทนฤทัยก็หน้าหงิกทันทีเมื่อเขาพูดว่าเธอจะทำให้เขาฝันร้าย และฉุนน้อยๆ เมื่อได้เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาดังแว่วๆ “ถ้าอย่างนั้นก็แค่นี้ล่ะ ฝันดีนะครับ...” ราฟาเอลวางสายไปนานแล้วแต่หญิงสาวยังคงถือโทรศัพท์แนบหูไว้อยู่อย่างนั้นใบหน้างามร้อนผ่าวเมื่อเธอคิดว่าตนเองหูไม่ฝาดได้ยินเสียงจุ๊บเบาๆ มาตามสัญญาณที่ถูกตัดไป “คนบ้า แค่นี้ก็โทร. มา แล้วโทร. มาแค่นี้นะ เชอะ คนไม่เต็มเต็ง...” หญิงสาวล้มตัวลงนอนอมยิ้มอยู่คนเดียวมองชื่อ อีตาบ้า บนหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างขัดเขิน แล้วนึกถึงความใกล้ชิดที่เธอได้ทำงานร่วมกับเขาในวันนี้ก็พบว่าราฟาเอลเป็นคนที่ทำงานจริงจังมากคนหนึ่ง เขามีพรสวรรค์ด้านดนตรีและการออกแบบอยู่ไม่น้อยและที่สำคัญเขามีฝีมือทางการวาดภาพด้วยสีน้ำมันมากทีเดียวและเธอก็ได้มีโอกาสเห็นผลงานที่เขาวาดด้วย พรุ่งนี้เขาบอกว่าจะพาเธอไปดูเหมืองพลอยที่กาญจนบุรี แม้ใจหนึ่งเธอจะอยากไปแต่ใจหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมันหน่วงๆ หนักๆ ด้วยความกังวลบางอย่างที่เธอเองก็หาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร... แต่จะว่าไปแล้วถึงเธอไม่อยากไปสุดท้ายบิดาก็จะให้เธอไปกับเขาอยู่ดี แล้วก็กลับกลายเป็นว่าเธอนั่นล่ะที่นอนไม่หลับเสียทีสามทุ่มก็แล้วสี่ทุ่มก็แล้ว และกว่าจะข่มตาลงก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืน... ส่วนทางด้านราฟาเอลนั้นก็กำลังยิ้มบางๆ กับตัวเอง หัวใจที่แกร่งกระด้างอ่อนลงเมื่อได้ยินเสียงหวานแต่ห้วนจัดของแทนฤทัย แต่เขาพยายามบอกตัวเองว่าที่ทำไปทั้งหมดเพื่อหาทางเอาชนะเธอและเพื่อสั่งสอนแม่สาวแสนซนที่บังอาจมาปั่นป่วนเขาให้ใจเขาไหวหวั่น และนับตั้งแต่เจอหน้าแทนฤทัย ไม่ใช่สิ... ตั้งแต่ที่เขาได้จูบเธอต่างหากล่ะ... ตั้งแต่วันนั้นเขาก็นอนหลับโดยไม่ฝันร้ายมาหลายวันแล้วซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสดชื่นปลอดโปร่งเมื่อตื่นขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาไม่ฝันร้ายแต่เขาก็ยังต้องการจะเอาชนะแทนฤทัยอยู่ดี... แทนฤทัยหน้าบึ้งรู้สึกเหมือนเสียฤกษ์เสียยามที่ดีไปทันทีเมื่อเดินทางมาที่บริษัทของราฟาเอลแล้วก็พบกับ อาภาภรณ์ หรือ พอลล่า นางแบบลูกครึ่งสาวสวยเซ็กซี่ซึ่งเป็นนางแบบดาวรุ่งของนิตยาสารชื่อดังชื่อกระฉ่อนโลกนั่งอยู่ในห้องรับรองแขกที่เป็นส่วนตัวของราฟาเอล
已经是最新一章了
加载中