ตอนที่427 เปิดโปงความจริง

ตอนที่427 เปิดโปงความจริง “ทำไมผู้กำกับชนุดมจะต้องคอยตอบคำถามเค.เอฟด้วยล่ะครับ? เขาเลือกในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ปรียสที่อยู่ข้างๆยิ้มออกมาอย่างพอใจ เขาสามารถควบคุมทิศทางของสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว ชนุดมยืนอยู่บนเวที มองดูใบหน้าที่ไม่ได้รู้เรื่องราวใดๆของนักข่าว แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ พวกเขาคิดว่าคนที่ถูกเปลี่ยนตัวนั้นเป็นจิดาภาอย่างนั้นหรือ? มองดูความจริงไม่ออกกันอีกหรือ ถูกคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ปั่นหัวกันไปหมด ช่างน่าเศร้าใจจริงๆ! “ใครบอกว่าผมจะเปลี่ยนตัวคุณจิดาภาที่เป็นนางเอกของเรื่องกันครับ?” ชนุดมส่ายหน้าพลางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “อะไรนะคะ? ไม่ใช่คุณจิดาภาหรอกหรือ?” “แล้วจะเปลี่ยนใครคะ?” “เขา คุณปรียส!” ชนุดมชี้ไปยังปรียสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นข้างๆ น้ำเสียงเขานั้นเย็นชาเป็นอย่างมาก “เรื่องอื่นๆให้คุณจิดาภาได้เป็นคนพิสูจน์แล้วกันครับ แต่ผมสามารถพูดออกมาได้ วันนั้นที่กองถ่ายผมเป็นคนเห็นกับตาตัวเอง ว่ารถคันนั้นของคุณจิดาภามีคนดัดแปลงจริง เรื่องนี้ ทุกคนในทีมกองถ่ายของเราเป็นพยานให้ได้ครับ” บรรดานักข่าวต่างพากันอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยินนี้ เมื่อครู่นี้พวกเขาไม่ได้หูฟาดไป คนที่ถูกผู้กำกับชนุดมเปลี่ยนตัวไปนั้นไม่ใช่จิดาภา แต่เป็นปรียสที่ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นนั่น ทันใดนั้นปรียสก็ระเบิดขึ้นมาทันที “ผู้กำกับชนุดม คุณหมายความว่าอย่างไร? จิดาภากับทางเค.เอฟขู่คุณไว้ใช่ไหมครับ? เขากดดันคุณใช่ไหม?” “เปล่าเลย ภาพยนตร์เรื่องชั่วฟ้าดินสลาย ได้คัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบทเป็นพระเอกของเลือกแล้ว สิ่งที่ผมจะพูดก็มีแค่นี้แหล่ะครับ” ชนุดมพูดจบประโยคสุดท้ายนี้แล้ว จึงพยักหน้าให้กับจิดาภา หลังจากนั้นจึงไม่ได้มองหน้าปรียสอีกเลย เขาหันกลับแล้วเดินผ่านไป ดูแล้ว ปรียสเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้เสียหาย ทำไมทางทีมกองถ่ายถึงได้เปลี่ยนตัวเขากัน? หรือจะเป็นอย่างที่ปรียสว่าไว้เมื่อครู่ ทางทีมกองถ่ายอาจจะถูกทางเค.เอฟกดดันอย่างนั้นหรือ? “ผู้กำกับชนุดม!” ขณะที่ชนุดมกำลังจะเดินลงไปยังด้านล่างเวทีนั้น นวาระเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ก่อน “คุณปรียสได้รับบาดเจ็บก่อน แล้วฉันก็มาถูกใส่ร้าย คุณจะไม่สนใจเลยหรือคะ? แล้วนี่คุณยังจะมาเปลี่ยนตัวคุณปรียสอีก ทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะคะ” จิดาภาที่ยืนอยู่บนเวที รู้สึกว่าที่นวาระพูดออกมานั้นช่างน่าขำเสียจริงๆ “ฉันเคยให้โอกาสคุณแล้ว ตอนนี้ คุณยังคงไม่รู้จักที่จะรักษามันไว้อีกหรือคะ?” จิดาภาหันกลับมา เผชิญหน้ากับนวาระ “ฉันรู้ค่ะว่าคุณรู้สึกมาโดยตลอดว่าบทบาทของนางเอกเรื่องนี้เป็นของคุณ แล้วคุณก็คิดว่าฉันใช้เส้นสาย อาศัยอำนาจของเค.เอฟถึงได้รับบทนี้มา คุณเองหวังที่จะให้ฉันออกไปจากกองถ่ายเรื่องนี้มากกว่าใครๆอีก ถูกต้องไหมคะ?” “ไม่ใช่อย่างที่คุณพูดมาเลย!คุณจิดาภา คุณอย่าทำเป็นซื่อไปหน่อยเลย ไม่คิดเลยว่าคุณจะคิดหาข้ออ้างแบบนี้มาใส่ร้ายพวกเรา จิตใจคุณยังมีคุณธรรมอยู่หรือเปล่า?” “ทั้งหมดนี้เป็นฉันที่พูดโกหกใส่ร้ายพวกคุณอย่างนั้นหรือคะ? คุณนวาระ คุณพูดแบบนี้มาโต้ตอบฉัน คุณจะหลอกตัวเองและคนอื่นๆเกินไปแล้วนะคะ” จิดาภามองอาการของเธอนั้นด้วยความเย็นชา “คุณจิดาภา คุณพูดพอรึยัง? คุณจะหลอกทุกคนไปถึงเมื่อไหร่กันแน่? ทั้งที่คุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย แต่กลับมาโจมตีใส่ร้ายคนอื่นอยู่แบบนี้! หรือว่านี่เป็นเป็นวิธีการประชาสัมพันธ์ของบริษัทเค.เอฟอย่างนั้นหรือครับ?” ปรียสที่อยู่ข้างๆนั่งไม่ติดแล้ว เขาไม่สามารถทนดูจิดาภาพุ่งเป้าไปยังนวาระได้ ในใจของเขารู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย อยากจะให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ “ได้ค่ะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าอย่างพวกคุณไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตา” จิดาภาหยิบรูปถ่ายที่พวกเขาไปเดตกันนั้นออกมาจากในกระเป๋า ทั้งยังไม่ได้มีเพียงแค่ใบเดียว ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เดียว นั่นก็หมายความว่า ที่พวกเขาไปเดตกันนั้นอย่างน้อยๆก็เป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้ว! และในทันใดนั้นเอง สีหน้าของปรียสนั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที “รูปถ่ายเหล่านี้ถ่ายออกมาอย่างชัดเจนมาก รอยยิ้มของคุณกับคุณนวาระที่ยิ้มให้กันนั้นช่างหวานมากจริงๆนะคะ” จิดาภาเอารูปถ่ายเหล่านั้นส่งให้กับนักข่าวดู “ถ้าหากเป็นเพื่อนกันธรรมดาแล้วดูสนิทใกล้ชิดกันขนาดนั้น ฉันคงได้แต่บอกว่าแนวความคิดในการสร้างมิตรภาพของพวกคุณค่อนข้างจะประมาทเกินไปหน่อยนะคะ” นักข่าวเห็นความจริงนี้แล้วนั้น เป็นการถ่ายรูปที่ช่างดุเดือดเสียจริง! จิดาภาไม่ได้พูดออกมาเฉยๆเพียงเท่านั้น เธอได้หยิบเอารูปถ่ายเหล่านี้ออกมานั่นก็เป็นการพิสูจน์เรื่องความสัมพันธ์แบบคนรักของทั้งสองคนได้แล้วจริงๆ ปรียสยังจะปฏิเสธอีกอยู่หรือเปล่า? “ถ้าหากคุณแย้งว่ารูปถ่ายพวกนั้นเป็นรูปที่ตัดต่อขึ้นมา แล้วพวกข้อมูลการเปิดห้องโรงแรมเหล่านี้ล่ะคะ?” จิดาภาหยิบกระดาษสองสามแผ่นที่มีตัวหนังสือสีดำออกมา ซึ่งทุกคนสามารถมองเห็น “พวกเขาคบกันนานขนาดนี้แล้วหรือ?” “ดูเหมือนว่าพวกปาปารัซซี่จะไม่เคยมีใครแอบถ่ายรูปเวลาพวกเขาไปเดตกันได้เลยนะ เก็บรักษาความลับกันได้ดีเกินไปแล้ว มิน่าล่ะ ถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่ยอมรับกันอีก” “ตอนนี้ดูแล้วจิดาภาจะไม่ได้โกหกนะ ปรียสและนวาระคบหากันอยู่จริงๆ ถ้าอย่างนั้น......ปรียสจะเป็นเพราะทำเพื่อแฟนสาวของตัวเอง จึงวางแผนใส่ร้ายจิดาภาจริงๆหรือเปล่า?” บรรดานักข่าวพากันรู้สึกบ้าคลั่งยิ่งนัก พวกเขาไม่เคยเจอข่าวที่ดูรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย! เดิมทีแล้วทุกคนคิดว่าวันนี้จิดาภาจะไม่มีวิธีที่จะทำให้เธอสามารถเป็นอิสระจากเรื่องนี้ได้ แม้กระทั่งมีนักข่าวที่เตรียมร่างข่าวเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้คงจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว! ครั้งนี้จิดาภาตอกกลับไปได้อย่างน่าตื่นเต้นมากจริงๆ “อยากดูไหมครับ?” สุดท้ายแล้วข้อมูลบันทึกการเปิดห้องในโรงแรมนั้นตกมาอยู่ในมือของชนุดุม หลังจากที่เขาได้รับมันแล้ว เขาไม่ได้อ่านมัน แต่กลับส่งให้กับนวาระแทน นวาระยังคงยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าซีดเซียวปราศจากสีของเลือดฝาด เธอรับกระดาษสองสามแผ่นนั้นมาด้วยมือที่สั่นเทา ด้วยอาการที่รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก...... ตอนนี้เธอจะทำอย่างไรได้บ้าง? พวกเธอยังจะมีข้ออ้างอะไรที่จะสามารถปฏิเสธได้อีกกัน! ปรียสรู้ว่าไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ ราวกับต้องกัดฟันยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ยังคงฟ้องร้องจิดาภาด้วยจิตใจที่ยังคิดร้ายอยู่เช่นเดิม “ถึงแม้ว่าผมกับนวาระจะคบกันจริงๆ แล้วอย่างไรล่ะครับ? ความสัมพันธ์ของพวกเราไปเกี่ยวกับเรื่องที่คุณว่าจ้างให้คนมาทำร้ายผมอย่างนั้นหรือ?” “นั่นก็หมายความว่า คุณยอมรับความสัมพันธ์แบบคนรักระหว่างคุณกับคุณนวาระแล้วใช่ไหมคะ?” จิดาภาเลิกคิ้วขึ้น พลางมองไปยังปรียส ถึงแม้ว่าปรียสจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ปฏิกิริยาของเขานั้นถือว่าเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย “ถ้าอย่างนั้น ฉันอยากจะให้ทุกคนทำความเข้าใจกับเรื่องๆหนึ่งนะคะ พวกเขามีความสัมพันธ์แบบคนรัก หนึ่งคนเป็นพระเอก ส่วนอีกคนเป็นนักแสดงสมทบ ส่วนในฐานะที่เป็นนางเอกของเรื่องอย่างฉัน ที่พวกเขาคิดว่าฉันใช้เส้นสายเพื่อให้ได้บทนางเอกนี้มา พวกคุณคิดว่าฉันจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันคะ?” “ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากต่อสู้เป็นร้อยๆฉาก พวกเขาล้วนแต่เป็นนักแสดงที่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงของประเทศ ส่วนฉันที่จะต้องเข้าฉากต่อสู้กับพวกเขา ลองคิดตามนะคะ ถ้าหากพวกเขาจะทำให้ฉันได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ถ่ายทำ มันยากหรือเปล่าคะ?” “ถ้าหากฉันที่รับบทเป็นนางเอก เกิดอุบัติเหตุเข้า เช่นนั้นแล้ว คนเดียวที่จะรับบทนี้แทนนั่นก็คือคุณนวาระ” “เป็นเพราะแบบนี้จริงๆ” มีนักข่าวที่เห็นด้วยกับเหตุผลนี้ของจิดาภา เดิมทีในวงการนี้การเปลี่ยนตัวนักแสดงก็มีเห็นได้อยู่บ่อยๆ ถ้าหากจิดาภาได้รับบาดเจ็บระหว่างการถ่ายทำนั้น นวาระจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมาแทนที่เธอจริงๆ “หากถอยกลับมามอง พูดถึงเรื่องที่ฉันเอาตัวเข้าแลก พวกคุณรู้สึกว่าฉันจะเอาตัวเข้าแลกแบบนั้นจริงๆหรือคะ? สามีของฉันเป็นถึงเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิงนี้ ถ้าหากฉันต้องการบทบาทอะไร คงไม่ต้องใช้วิธีสกปรกแบบนั้นหรอกค่ะ!” “ฉันเป็นคนทำกับข้าวให้กับนักแสดงอาวุโสท่านนั้นจริงๆ แล้วมีปัญหาอะไรหรือคะ? ทำไมถึงไม่คิดว่าฉันขอแนะนำจากเขา แล้วเป็นวิธีหนึ่งที่จะใช้แสดงความเคารพที่มีต่อเขากันคะ?” ปรียสกำหมัดแน่น แล้วพูดแทรกขัดจิดาภา “อย่าพูดอีกเลย! อาศัยคำพูดพลิกแพลงสถานการณ์แบบนี้ คุณคิดจะลบล้างเรื่องที่คุณเป็นผู้ต้องสงสัยที่ว่าจ้างคนมาทำร้ายมอย่างนั้นหรือ?” ปรียสรู้ว่าเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับนวาระไม่สามารถปฏิเสธได้แล้ว ดังนั้นจึงดึงความสนใจของทุกคนมายังเรื่องที่เขาได้รับบาดเจ็บแทน