ตอนที่24 XXII   1/    
已经是第一章了
ตอนที่24 XXII
“นายเป็นใครกัน! มาบุกกิลด์ของพวกเราทำไมหะ!!” ธีระที่เอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงแข็งพร้อมกับในมือที่ถืออาวุธคู่กายไว้แน่นพร้อมจะหาดฟันใส่ศัตรูตรงหน้าของเขาแล้ว ผมหยุดมองพร้อมยกเลิกการปล่อยจิตสังหารออกไป “แค่แวะมาทักทายน่ะ แล้วก็....” ผมเว้นระยะหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงเรียบๆดังเดิม “ทดสอบฝีมือ!” พูดจบผมยกธนูขึ้นหมายจะยิงใส่พวกเขาทันที แต่ทันใดนั้นเองได้มีเงาปรากฏขึ้นมาด้านหลังผมพร้อมวาดมีดสั้นคู่ในมือหมายจะฟันเข้าด้านหลัง นั่นจึงทำให้ผมต้องยกเลิกการยิงออกไปก่อน และเอี้ยวตัวหลบคมมีดที่เข้ามาแทน ซึ่งเป็นสิงค์เองที่มาอยู่ด้านหลังของผมได้ด้วยความเร็วขนาดนี้ จากนั้นผมหมุนตัวกลับหลังเตะสวนกลับใส่สิงค์ไป แต่เขาก็โน้มตัวหลบได้ทันแบบเฉียดฉิวเช่นกัน ธีระเห็นดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้้รีบพุ่งเข้ามาช่วยสิงค์ทันที เขาเหวี่ยงหอกในมือฟันเข้าที่ซี่โครงซ้ายของผม แต่ทว่าผมก็ใช้คันธนูรับอย่างไม่อยากเย็นเท่าไหร่นัก ผมรีบกระแทกหอกของธีระออกไปเพื่อนเว้นระยะห่างไว้ยิงธนูลูกต่อไป แต่สิงค์ที่คาดการไว้แล้วจึงไม่ยอมให้ผมได้ถอยไปโดยง่าย ทั้งหน้าทั้งหลังตอนนี้ผมถูกทั้งสองเข้าปะชิดตัวเรียบร้อยแล้ว การต่อสู้เริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อธีระ และสิงค์เริ่มใช้ทักษะของตัวเองออกมาบ้างแล้ว ผมหลบการโจมตีพวกนั้นได้ไม่ยากเย็นนักเพราะด้วยระดับที่มากกว่ากันถึง 2 Class ทำให้ความต่างชั้นของพลังนั้นมีมากจนเกินไป พวกเขาไม่สามารถทำอะไรผมได้เลย จนในที่สุดเขาทั้งสองก็เริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด “อ่อนแอเกินไป!” ผมพูดเสียงเรียบพร้อมยกธนูขึ้นยิงใส่เจ้าสองหน่อที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นในระนาบเดียวกัน ‘Shadow shot’ ศรเงาพุ่งเข้าใส่ร่างของเพื่อนทั้งสองด้วยความรวดเร็ว แต่ก่อนที่การโจมตีจะถึงเป้าหมายกลับมีร่างของชายตัวสูงใหญ่พร้อมโล่ทรง 5 เหลี่ยมในมือเข้ามาบังการโจมตีเอาไว้ก่อน เกร๊งงง...!! เสียงศรเงาเข้ากระทบกับโล่เหล็กกล้า ด้วยทักษะที่ค่อนข้างรุนแรงในระดับหนึ่งส่งผลให้การ์เดียนหนุ่มถอยหลังไปถึงเมตรกว่า ผมสังเกตเห็นแสงที่คลุมตัวการ์เดียนหนุ่ม และโล่ของเขาเอาไว้ ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเขาถึงหยุดทักษะของผมได้ ซึ่งเป็นเพราะพรีซที่อยู่ด้านหลังคอยบัพสนับสนุนให้อย่างเต็มที่นั่นเอง ขณะที่ผมกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จู่ๆก็บังเกิดวงเวทย์ขนาดกว่า 2 เมตรเกิดขึ้นใต้เท้าของผม ผมไม่ได้ถอยหนีแต่อย่างใด ทำเพียงแค่กวาดสายตามองไปยังเจ้าของวงเวทย์บทนี้ ซึ่งเห็นเป็นนักเวทย์สาวที่โผล่มาพร้อมกับเจ้าเพื่อนสองคนนั้นเอง ‘สามคนที่มาพร้อมกับเจ้าสองคนนั่นคงเป็นคนที่มีฝีมืออยู่ในระดับบนๆสินะ ใช้ได้เลยทีเดียว...’ ผมคิดอยู่ในใจโดยไม่สนใจวงเวทย์ใต้เท้าแม้แต่น้อย ‘Sonic’ ผมเริ่มกระโดดขึ้นเหนือพื้นดินแล้วยิงธนูสวนเข้าใจกลางวงเวทย์ทันที ‘Drilled Shot’ เพล๊ง...!! วงเวทย์เกิดแตกสลายทันทีที่โดนโจมตีใส่ท่ามกลางสายตาที่ตกใจของผู้เล่นที่มุงดูกันอยู่ ทักษะที่ผมใช้นั้นเดิมทีเป็นสกิลโจมตี แต่มันสามารถทำลายวงเวทย์ที่มีระดับต่ำกว่าตัวเองลงได้เหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นแค่ออฟชั่นเสริมเท่านั้น เพราะสิ่งที่ผมยิงไปนั้นมันยังไม่หายไป ครืนๆๆ.....เสียงบางอย่างดังอยู่ใต้พื้นดิน และทันใดนั้นเอง ตู้มมม.....!!! ศรเวทย์พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินตรงจุดที่คนทั้ง 5 คนอยู่พอดี อ๊ากกกก....พวกเขาถูกศรเวทย์อัดใส่เข้าเต็มๆจนกระเด็นลอยขึ้นมา และตกลงไปนอนกองกับพื้นดินจนไม่เหลือสภาพที่จะต่อสู้ได้อีกเลย ผมเดินตรงเข้าหาเพื่อนทั้งสองคนตรงหน้า พร้อมปล่อยจิตสังหารเข้มข้นจนพวกที่จะเข้ามาช่วยหัวหน้ากิลด์ของพวกมันต้องกระอักกระอวนจนไม่กล้าเข้ามาทันที “ถ้านายไม่อยากให้กิลด์ของนายต้องจบลงวันนี้ ตามฉันเข้าไปด้านในซะ! ธีระ...” ผมพูดทิ้งท้ายด้วยการเรียกชื่อของเขาไว้ พร้อมตบไปที่บ่าของเขาเบาๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างในกิลด์ทันที ทิ้งให้พวกคนที่เหลือยืนตัวเกร็งกันยกใหญ่ . . . ในห้องประชุมของกิลด์ อินทรีย์ถหลาลม “มึงเล่นเชี่ยไรเนี่ย ไอคิ๊นนนนนนน!” เสียงธีระร้องโวยวายใส่ผมหลังจากที่ได้รู้ความจริง ซึ่งตอนนี้ผมก็นั่งหัวเราะร่าอยู่ตรงที่นั่งของหัวหน้ากิลด์ซึ่งผมในตอนนี้ลดผ้าปิดปากลงแล้วทำให้เพื่อนทั้งสองรู้ความจริงทันที “ฮ่าๆ มาหาเฉยๆมันไม่เท่นี่นา โทษทีๆ” ผมตอบหน้าตายภายใต้สายตาของคนทั้ง 5 คนที่อยู่ในห้อง ซึ่ง 3 คนด้านหลังของเพื่อนทั้งสองก็คือคนที่ผมพึ่งสู้ด้วยไปเมื่อครู่ เป็นนักเวทย์สาว หนุ่มการ์เดียนร่างใหญ่ และสาวน้อยพรีซ “กูแวะเอาของมาให้พวกมึงน่ะ อะ เอาไป” ผมพูดออกไปพร้อมเรียก ง้าวลวดลายสวยงามมีสายฟ้ากระจายอยู่รอบๆ กับ มีดคู่ที่มีโซ่เชื่อมทั้งสองข้างเอาไว้ และโยนให้เพื่อนทั้งสองคนทันที ทั้งสองคนรับสิ่งของพวกนั้นมาอย่าง งงๆ และตรวจสอบทันที “เชี่ยยย!” ธีระอุทานออกมาคำโต เพราะสิ่งที่ผมยื่นให้ทั้งคู่นั้นเป็นไอเทมระดับ SS ซึ่งเป็นไอเทมที่หาได้ยากยิ่งถึงแม้ว่าเกมจะเปิดมาเป็นเวลานานแล้วก็ตามที “ฉันได้ยินข่าวว่าพวกนายกำลังมีปัญหาอยู่ใช่ไหม?” ผมเอ่ยออกไปโดยไม่สนว่าทั้งสองกำลังตกใจกับของก่อนหน้านี้มากน้อยแค่ไหน “ก็อย่างที่นายว่านั่นแหละ พวกเราถูกกิลด์อัสนีบาต ท้า GuildWar เข้า กิลด์ไหนแพ้ต้องยุบกิลด์ พวกเราคิดว่าจะปฏิเสธพวกมันอยู่เหมือนกัน” เป็นธีระที่ยอมละความสนใจจากไอเทมตรงหน้า และตอบกลับไป \"ทำไมล่ะ พวกนายกลัวหรอ?\" \"แกว่าไงนะ! เหอะ! พวกเราก็แค่ยังไม่พร้อมแค่นั้นเอง ใจพวกเราเต็มร้อยอยู่แล้วเว้ยยย\" “ต้องพร้อมก่อนสินะ.......งั้น..ตอบตกลงไปเลย ธีระ เดี๋ยวฉันช่วยพวกนายเอง.....” . . . เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งสัปดาห์ของโลกภายในเกมแล้วตั้งแต่ที่ผมได้เข้าไปหาเพื่อนรักทั้งสองที่กิลด์ เจ้าสองคนนั้นโวยวายใส่ผมหนักมากที่ผมให้ตกลง Guild War กับกิลด์ใหญ่แบบนั้น ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาผมพาพวกคนในกิลด์ลงดันเก็บระดับแบบมาราธอนกันแบบไม่มีพักกันเลย อีกทั้งยังเป็นการหาของไอเทมต่างๆไปในตัวด้วย เพื่อเป็นการเตรียมตัวเองให้พร้อมกับศึกที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ ซึ่งหากไม่เตรียมตัวให้ดีมันจะกลายเป็นปัญหาในระยะยาวได้ โฮกกก..!!! ตู้มม!! เสียงการต่อสู้ของผู้เล่นปะทะกับราชาหมาป่ายักษ์ซึ่งเป็นบอสแมพที่จะสุ่มเกิดใหม่ไปเรื่อยๆไม่ซ้ำที่หลังจากมันตาย โดยจะทิ้งระยะห่างไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ และไม่ใช่ใครที่ไหนที่กำลังสู้อยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็คือ กิลด์อินทรีย์ถลาลม ของเพื่อนผมนั่นเอง ก่อนหน้านี้ลูกกิลด์ของเจ้าพวกนั้นบังเอิญไปเจอตอนเก็บระดับอยู่จึงรีบแจ้งไปยังช่องสนทนากลุ่มเพื่อเรียกคนมาช่วย เพราะหากช้าอาจจะโดนกิลด์อื่นมาแย่งไปก็ได้ เป็นที่รู้กันว่าบอสแมพนั้นมีโอกาสดรอปของระดับสูง รวมทั้งของแรร์ ที่ใครๆต่างก็อยากได้ อีกทั้งยังให้ค่าประสบการณ์สูงอีกด้วย “ทีมแทงค์พยายามยื้อไว้ให้นานที่สุด! พรีซแบ่งทีมคอยฮิวเลือด และบัพเสริมพลังไว้ด้วย ทีมโจมตีกระจายตัวรอบบอส คอยผลัดเปลี่ยนกันโจมตีอย่าให้มันได้ตั้งตัว ทีมโจมตีระยะไกลคอยหาจังหวะช่วยสนับสนุนกันด้วย เร็วเข้า! เราต้องแข่งกับเวลา!” ธีระหัวหน้ากิลด์ของพวกเขากำลังสั่งการอย่างแข็งขัน เป็นเวลาหลายสิบนาทีแล้วที่พวกเขาลุมโจมตีบอสแมพตรงหน้าอยู่ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ยอมล้อมให้เขาซักที “ศิลา พร้อมหรือยัง!” ธีระตะโกนถามการ์เดียนอันดับหนึ่งของกิลด์ที่กำลังปะทะกับบอสแมพอยู่ตรงหน้าสุด “พร้อมแล้วครับ ทุกคนเปิดใช้สกิลพร้อมกัน!” ศิลาพูดกับคนในทีมพลันเรียกใช้สกิลดึงดูดความสนใจบอส พวกเขาจะมีพลังป้องกันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการขาดอิสระในการเคลื่อนที่ แต่นั่นก็เกิดพอแล้วเพราะมันเป็นการสร้างโอกาสให้คนที่เหลือโจมตีบอสแมพได้อย่างสบายใจ ธีระเห็นดังนั้นจึงสั่งให้ทีมโจมตีเร่งเข้ารุมบอสทันที ง้าวระดับ SS ที่พึ่งได้มาไม่นานถูกยกขึ้นมาพร้อมเรียกเสริมทักษะธาตุสายฟ้าเข้าไป เกิดสายฟ้าประกายรอบง้าวของเขา ด้วยท่าทีที่อยากลองของใหม่นี้เขาพุ่งเข้าหาบอสแมพอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด ท่วงท่าการโจมตีของเขาทั้งสวยงาม และพริ้วไหวท่ามกลางการต่อสู้ ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ง้าวถูกลากตั้งแต่หน้าท้องยาวไปจนสุดทาง เลือดไหลพุ่งกระฉูดออกมาจากท้องของมันราวเขื่อนแตก ดาเมจเด้งขึ้นบนหัวถี่ยิบ ส่งผลให้ราชาหมาป่ายักษ์ร้องคำรามอย่างเจ็บปวด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น สิงค์เรียกใช้ทักษะพลันกลายเป็นเงาสีดำพุ่งแหวกอากาศเข้าไปวนอยู่รอบๆคอของบอสแมพ ร่องรอยการฟันเกิดขึ้นถี่ยิบที่บริเวณคอของมันจนยากจะมองทัน การโจมตีของเขาทั้งหนักหน่วง และรวดเร็วจนคอของมันแทบจะหลุดออกมาจากลำตัวแล้ว ฟิ้วว!! ฉัวะ ฉัวะ...!! ตัวเลขดาเมจเด้งขึ้นรัวๆ “ทุกคน รีบถอยออกมาเร็ว!” เบลบีก้านักเวทย์สาวตะโกนบอกให้ทุกคนถอยมา เนื่องจากทีมนักเวทย์ของเธอร่ายเวทย์บทใหญ่จวนจะเสร็จพร้อมจะโจมตีใส่บอสแมพแล้ว ไม่นานเกินรอ ได้บังเกิดวงเวทย์น้อยใหญ่นับสิบวงบนพื้นที่บอสแมพได้ยืนอยู่ ลำแสงธาตุต่างๆถูกปลดปล่อยออกมาจากวงเวทย์พุ่งเข้าใส่ร่างของราชาหมาป่ายักษ์เข้าเต็มเปา ตู้มม! ดาเมจมหาศาลลอยขึ้นมาถี่ยิบ แต่นั่นก็ยังไม่มากพอที่จะสังหารมันลงได้อีกเช่นกัน ในเวลานี้เองบอสแมพค่อยๆพยุงร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงลุกขึ้นยืน 4 ขาอย่างช้าๆ พร้อมกับดวงตาของมันที่เริ่มถูกย้อมกลายเป็นสีแดงฉาน ตัวของมันขยายใหญ่ขึ้นจากเดิมเล็กน้อย อุ้งเท้าใหญ่ขึ้นบวกกับเขี้ยวเล็บที่ดูดุดันแหลมคมกว่าเดิม รอบตัวมันมีสายลมอ่อนๆเป็นเกลียวหมุนวนอยู่ตลอดเวลา มันได้กลายเป็นทั้งเกราะป้องกัน และคมดาบโจมตีไปในตัว บอสแมพ ราชาหมาป่าวายุ ธาตุลม คลาส 6 ระดับ 699 เกิดสภาวะคลั่ง เลื่อนระดับเป็น 701 คลาส 7 ค่ะ \"ซวยแล้วล่ะ...........!!\" 
已经是最新一章了
加载中