ตอนที่32 XXX   1/    
已经是第一章了
ตอนที่32 XXX
  เป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ตั้งแต่ที่ แวนกัส ราชันย์สายฟ้า เดินออกมาจากห้องประชุมของกิลด์ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาใกล้ค่ำแล้ว บรรยากาศในเวลานี้นับได้ว่ามันน่าพักผ่อนหย่อนใจยิ่ง เขาเดินเที่ยวชมเมืองไปเรื่อยเปื่อยเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกของตัวเอง   พวกผู้เล่น รวมถึงเหล่า NPC ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอยู่เป็นประจำจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาเป็นอย่างดี เนื่องจากแวนกัสเป็นผู้ปกครองเมืองนี้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง และเขาเองก็ออกมาเดินตรวจตราเมืองของตัวเองอยู่บ่อยๆ ทำให้พวกที่อยู่ประจำจะไม่ตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของเขามากนัก   แต่ผิดกลับผู้เล่นขาจรที่นานๆจะเข้ามาทีย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดาที่ได้พบเห็นราชันย์ตัวเป็นๆแบบนี้ แต่ผู้เล่นเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขาแต่อย่างใด หรืออาจเป็นเพราะเกรงกลัวออร่าอันทรงพลังของเขาที่แผ่ออกมาอยู่ตลอดเวลาก็เป็นได้   แวนกัสชายขี้เบื่อเศร้าเหงาเซง พักหลังมานี้เขาเริ่มเบื่อกับการเล่นเนื่องจากหาความสนุกจากมันไม่ได้เลย เขามักจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาด้วยการท้าประลองกับคนเก่งๆอยู่เสมอ และนับตั้งแต่ที่เขาสามารถก้าวข้ามราชันย์แห่งสายฟ้าคนก่อน และชิงตำแหน่งราชันย์มาเป็นของตัวเองได้ นับแต่นั้นก็ไม่มีความท้าทายใดที่ทำให้เขาพึ่งพอใจได้เลย แม้จะเป็นคริส ราชันย์แห่งแสงที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันก็ไม่อาจจะมาเติมเต็มความกระหายในการต่อสู้ให้แก่แวนกัสได้แม้แต่น้อย เพราะชายคนนั้นมีวิธีการต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่ชอบเอาเสียเลย   แวนกัสคิดอยู่ตลอดเวลาว่าการเป็นราชันย์มันไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิด การเป็นผู้ที่ถูกชื่นชม ยกยอเรื่องความแข็งแกร่งอยู่ตลอดไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้เล่นที่เก่งทัดเทียมเขา หรือเก่งกว่าเขา แต่ด้วยตำแหน่งราชันย์ที่ได้มานี้ทำให้ไม่มีใครกล้าพอที่จะสู้กับเขาอีกต่อไป ไม่ว่าจะไปท้าสู้กับใคร หากพวกนั้นรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน คนพวกนั้นก็ถอดใจยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสู้แล้ว   แวนกัสพลันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเขาเดินมาถึงยังหอคอยแห่งผู้พิชิตเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว เหล่าผู้เล่นยังคนหนาแน่น และคึกคักกันแม้จะเป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว เขาอยู่ตรงนั้นซักพัก ยืนมอง และซึมซับบรรยากาศอยู่ครู่หนึ่งจนพอใจก่อนจะมีเสียงข้อความแจ้งเตือนมาจากคนในกิลด์ว่าให้เขากลับไปเพื่อตัดสินข้อสรุปที่ได้มา แวนกัสเห็นดังนั้นก็พร้อมจะกลับไปที่ห้องประชุมแต่โดยดี   แต่ช่วงเวลาที่เขากำลังจะหันหลังกลับไป จู่ๆราชันย์สายฟ้าเหลือบไปได้ยินเสียงฮือฮาบางอย่างดังขึ้นอยู่ที่หน้าประตูวาปหอคอยแห่งผู้พิชิต เสียงมันดังโหวกเหวกมากจนทำให้เขาเกิดความสนใจในทันที   ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพราะหากเกิดเรื่องอะไรไม่ดี เขาที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยเช่นกัน   เมื่อเดินเข้ามาถึงจุดหมาย สิ่งที่แวนกัสเห็นตรงหน้ากลับทำให้เขาอดที่จะตะลึงไม่ได้ จู่ๆสัญชาตญาณนักสู้พลันตื่นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว เพราะว่าสิ่งตรงหน้าที่เขาเห็นมันอาจจะเติมเต็มอะไรบางอย่างแก่เขาก็เป็นได้   “นี่นาย.....!?”   . . . .     ย้อนกลับมาในหอคอยแห่งผู้พิชิต   ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่หอคอยแห่งผู้พิชิต ผมได้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายในแต่ละชั้นขึ้นมา ทั้งมอนสเตอร์หลากหลาย เหล่ากับดักมากมายที่รออยู่ ทั้งยาก และง่ายปะปนกันไป   นับตั้งแต่ชั้น 80 ขึ้นไป ผมค่อนข้างลำบากเล็กน้อยกับการต่อสู้ เนื่องจากพวกมอนสเตอร์นั้นมีคลาสที่สูงถึงคลาส 8 ปลายๆ หรือคลาส 9 ต้นๆ ซึ่งมันมีระดับที่มากกว่าผม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ผ่านมันมาได้จนในตอนนี้ก็ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว   และในตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองวันแล้วที่ผมอยู่ในนี้ ทั้งตัวของผมมอมแมม เต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้มากมาย โพชั่นเสริมถูกเรียกใช้เป็นชุดที่ 4 แล้ว ผมพึ่งผ่านชั้นที่ 99 มาได้ และกำลังจะขึ้นไปสู่ชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 100 นั่นเอง   บอส วีรชนผู้หลงผิด ไซก้า ธาตุ ไร้ธาตุ Class. 9 Lv. 949   เสียงระบบดังขึ้นในหัวพร้อมกับบอสชั้นที่ 100 ปรากฏตัวออกมา ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดเกราะอ่อนเต็มยศดูสง่า ในมือของเขานั้นว่างเปล่าไม่ได้ถืออาวุธใดๆ มีเพียงผ้าพันหมัดเอาไว้เท่านั้น ดวงตาของเขาสีขาวโพลนดูว่างเปล่าราวกับไร้ชีวิต และจิตวิญญาณ   เราทั้งสองสบสายตากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ไซก้าจะปลดปล่อยจิตสั่งหารที่รุนแรงถึงขั้นที่ทำให้ผมต้องสะท้านไปทั่วทั้งตัว ผมรีบตั้งสติกลับคืนมา จากนั้นก็ปล่อยจิตสังหารแห่งราชันย์ขั้นรุนแรงสวนกลับไปบ้าง ทันใดนั้นเองทั่วทั้งห้องบอสพลันเกิดแรงสั่นสะเทือน ผืนดิน และกำแพงแตกแขนงเป็นรอยร้าวเป็นทางยาว   ผมในตอนนี้ทำท่าทีจริงจังแบบสุดๆ ด้วยบอสระดับนี้ ทำให้ผมประมาทไม่ได้เลย เราทั้งคู่สลายจิตสังหารออกไปพร้อมกัน ก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกันกลางทาง แม้ว่าผมจะเป็นอาชีพโจมตีระยะไกลที่ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ แต่ผมก็เป็นคนที่ชอบวัดกำลังกับศัตรูซึ่งๆหน้าอยู่เสมอ   หมัดที่พุ่งเข้าหาถูกหยุดไว้ด้วยคันธนูระดับ L เกิดคลื่นกระจายออกมาจากแรงปะทะที่รุนแรงนั้น ไซก้าถอนหมัดกลับไป และชกเข้ามาอีกครั้งที่จุดเดิมด้วยความรุนแรงที่มากกว่าเดิม   ตัวผมที่ยังห้าวไม่หยุด อยากลองวัดกำลังกับมันดูซักครั้งจึงลองรับหมัดของมันซึ่งๆหน้าดู และผลที่ได้ก็คือ ร่างของผมถูกแรงหมัดส่งให้ตัวเองลอยพุ่งไปติดผนังกำแพงอีกฝั่งทันที   ตู้ม...อัก..!!   ผมกระเด็นติดกำแพงก่อนจะหล่นลงสู่พื้นพร้อมกับความเจ็บปวดที่ค่อยๆแล่นไปทั่วทั้งร่าง ทางด้านของไซก้ายังยืนอยู่มองผมอยู่ที่เดิมไม่ได้เข้ามาโจมตีซ้ำแต่อย่างใด สมกับเป็นวีรชนผู็ยิ่งใหญ่ที่จะไม่ซ้ำผู้ที่ล้มเมื่อเมื่อโอกาส   ผมเงยหน้าขึ้นมองไปยังไซก้าที่ยังอยู่ที่เดิม การโจมตีเมื่อครู่ชั่งรุนแรงเหลือเกินหากคราวหน้าคิดจะรับไว้ตรงๆคงไม่ดีแน่ ผมใช้ Sonic วิ่งหมุนไปรอบๆตัวของไซก้าด้วยความเร็วที่อยากจะมองทัน พร้อมกับยิงศรเจาะเกราะออกมาเรื่อยๆในจุดรับสายตาระหว่างหมุนรอบตัวมันเพื่อเบี่ยงความสนใจของจุดนำสายตาออกไป   แต่วีรชนไซก้าก็ยังคงเยือกเย็นดังเดิม มันรีบรวมสติ และหลบศรที่พุ่งเข้าหาได้ทันที ศรดอกไหนที่หลบไม่ทันมันก็สวนหมัดชกกลับไปจกศรนั้นแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ไซก้ารวบรวมพลังไปที่หมัดของตัวเองจนเกิดแสงเรืองรองสีขาวไปทั่วก่อนจะชกลงพื้นไป   ตู้มมม....   พื้นแตกร้าวเป็นวงกว้างส่งผลให้ผมเสียจุดเคลื่อนที่อย่างสะดวกไปจนไม่สามารถก่อกวนมันได้อีก ไซก้าเมื่อเห็นผมหยุดก่อกวนมันก็ได้โอกาสพุ่งเสยหมัดใส่ผมที่โดดลอยอยู่กลางอากาศ พรึบ..   ผมเอี้ยวตัวหลับได้ทันเวลาก่อนจะยิงสวนกลับไปยังไซก้าให้ล่วงหล่นลงสู่พื้นไป พร้อมกับง้างคันธนูระดับ L ยิงเสริมซ้ำลงไปอีกชุดหนึ่ง   เพลิงสวรรค์ทลายดารา – เสริมคุณสมบัติธาตุไฟ   ฟิ้วว.. ตู้มม..   ศรเพลิงที่ถูกอัดเน้นไปด้วยพลังธาตุไฟพุ่งปะทะร่างของมันเข้าอย่างจัง ไซก้าที่โดนโจมตีจนตัวอัดลงกับพื้นมันถึงกับสตั้นอยู่กับที่ซักพักก่อนจะลุกขึ้นมายืนดังเดิม วีรชนไซก้าตัวสั่นระริก เกราะของมันยังไม่ได้พังทลายลงแต่ร่างภายในคงช้ำจนไม่เหลือชิ้นดีไปแล้ว   ไซก้าพลันหยุดนิ่งอยู่ซักพัก รอบตัวของมันค่อยๆเกิดแสงสีเหลืองอ่อนๆห่อหุ้มเอาไว้ ตอนนี้ร่างกายของมันค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างช้าๆ ผมที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบโจมตีซ้ำไปอีกครั้ง แต่เหมือนจะช้าไปเมื่อจู่ๆไซก้ากลับมาโผล่เอาด้านหลัง และชกเข้าเต็มแรง   ผมที่ถูกชกจนกระเด็นออกมาไกลจากจุดเดิม ด้วยความแรงของหมัดทำให้ผมต้องทรุดตัวลงชันเขาไปกับพื้นอีกครั้งแม้จะป้องกันเอาไว้ได้ทันก็ตามที ผมรีบถีบตัวเองให้ลุกขึ้นเตรียมพร้อมสู้อีกครั้ง ทางด้านของไซก้าเองก็ดูเหมือนจะพอใจกับคู่ต่อสู้ตรงหน้าไม่น้อยที่ทำให้มันต้องเอาจริงแบบนี้   เราทั้งคู่มองดูเชิงกันพักหนึ่งก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกันอีกครั้ง แต่ครั้งดีจะเป็นการต่อสู้ที่รุ้นแรงมากกว่าเดิมจนผนังกั้นชั้นที่ 100 แทบจะพังทลายลงแล้วจากพลังของทั้งสอง พวกเราสู้กันอยู่พักใหญ่ๆจน HP ของทั้งสองนั้นเหลือน้อยเต็มที่แล้ว และท้ายที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดตัดสินเสียที ผมส่งการโจมตีเพื่อผลักทั้งพวกเราแยกออกจากกันไปเตรียมตัวใช้ทักษะปิดท้าย ทั่วทั้งห้องบอสในตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้ สภาพของทั้งสองสาหัสไม่ต่างกัน ต่างฝ่ายต่างเหลือแรงที่จะกวัดแกว่งอาวุธของตัวเองไม่มากแล้ว   กว่าร้อยหมัดพันหมัดที่พุ่งเป้าเข้ามาหาอย่างพายุคลั่ง ซึ่งผมหลบการโจมตีเหล่านั้นได้บ้างไม่ได้บ้าง และกว่าหมื่นพันศรธนูทีพุ่งใส่ไซก้า แต่มันก็ยังทนรับเอาไว้ได้จนผมต้องใช้ทักษะใหญ่เล่นงานมันทันที   “ถึกนักใช่มั้ยย!” ผมพูดเบาๆพร้อมเรียกใช้งานสกิลขึ้นมา   Sonic Shooter ผมหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ และโผล่ไปมาๆรอบตัวของมัน จากนั้นจึงระดมสกิลนับไม่ถ้วนใส่มันไม่ยั้ง ตัวของไซก้าเองก็ไม่ได้อยู่นิ่งรอความตายแต่อย่างใด มันเริ่งออร่าสีขาวเหลืองขึ้นปกคลุมไปทั่วตัวเพื่อเสริมพลังให้กับตัวเองก่อนที่ใช้สายตาที่แหลมคมหาตามหาตัวจริงของผมที่วิ่งมาไปด้วยความเร็ว และท้ายที่จุดมันก็พบ ไม่รอช้าไซก้าพุ่งเข้าหาผมพร้อมกับหมัดที่ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังงานทั้งหมดที่มันที ผมเห็นดังนั้นก็รีบส่งการโจมตีสุดท้ายอัดเข้าสวนไซก้ากลับไปในระยะประชิดทันที   ตู้ม..ตู้ม..ตู้ม..   เกิดฝุ่นควันคละคลุ่งไปทั่วพร้อมกับร่างของทั้วสองที่ร่าวงหล่นลงพื้นดินไป เป็นไซก้าที่สภาพร่อแร่เต็มกลืนที่แม้แต่ยืนยังเซก็คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ แต่ทว่าตอนนี้มันยังคงยืนอย่างสง่าอยู่ที่เดิมแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม จากนั้นวีรชนผู้หลงผิด ไซก้า ค่อยๆกลายเป็นแสงหายไปพร้อมกับเสียงของระบบที่ดังขึ้น   ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นที่สามารถเคลียร์หอคอยแห่งผู้พิชิตได้ค่ะ ผู้เล่นจะได้รับรางวัลพิเศษในการพิชิตหอคอย ดังนี้ค่ะ   ฉายา ผู้พิชิต (สวมทับกับฉายาอื่นได้) เพิ่มค่าสถานะถาวร 20% เพิ่มอัตราการต้านสถานะ 10% เพิ่มอัตราการต้านทานการโจมตีด้วยธาตุ 20%   กล่องสุ่มระดับ (SS) จำนวน 2 กล่อง   ค่าชื่อเสียงจำนวน 100,000   เมื่อเสียงของระบบหยุดลง ผมพลันเปิดหน้าต่างของระบบขึ้นมาเพื่อจัดการข้อมูลของตัวเอง ผมเรียกใช้ฉายาที่พึ่งได้มาใหม่ขึ้นใช้งานทันทีเพราะมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้มากขึ้นไปอีก ส่วนกล่องสุ่มระดับ SS ผมเก็บเอาไว้ก่อนเพราะยังไม่อยากเปิดตอนนี้ หรืออาจจะเอาไปขายในภายภาคหน้าก็เป็นได้ ส่วนค่าชื่อเสียงที่ได้มานี้เมื่อรวมกับค่าชื่อเสียงที่มีก่อนหน้าก็นับว่ามีมากโขอยู่ ซักวันคงต้องหาทางใช้ไปบ้าง   ระดับของผมตอนนี้อยู่ที่ 845 แล้วอาจเป็นตัวเลขที่น้อยแต่ก็ถือว่าไวมากแล้วกับการใช้เวลาแค่ 2 วันเท่านั้นในหอคอยผู้พิชิตแห่งนี้ ซึ่งในตอนนี้ร่างกายของผมก็ล้าแบบสุดๆเลย แม้ว่าพลังชีวิต และค่าความเหนื่อยล่าผมจะสามารถพื้นฟูมันให้กลับมาเต็มได้ แต่ยังไงซะสภาพจิตใจ และสมองที่อ่อนล้าจากการต่อสู้มาเป็นเวลานานก็อยู่นอกเหนือจากการฟื้นฟูพวกนั้น ผมกวาดสายตาไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่มีอะไรแล้วผมจึงกดออกจากหอคอยแห่งนี้เพื่อไปหาที่พักผ่อนเพื่อคลายอารมณ์ของตัวเองซักหน่อย   ผมกลับออกมาโผล่ข้างนอกหน้าจุดวาปจุดเดิมเหมือนตอนที่เข้ามาทันที แต่แปลกตรงที่ทำไมตอนนี้ถึงมีแต่คนมองผมด้วยท่าทีแปลกๆ ทั่วทั้งลานหน้าหอคอยที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านเสมอ จู่ๆพวกเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวนั้น และมองมาที่ผมด้วยความพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมาย ทุกคนต่างพุ่งเป้ามองมาที่ผมด้วยสายตาที่ต่างกันไป และเริ่มเป็นไทยมุงขึ้นเรื่อยๆจนผมอึดอัด และในที่สุดผมก็เอะใจขึ้นมาได้   “เวรละ...!” ผมสบถออกมาเพราะนึกขึ้นได้ว่าลืมถอดฉายาแห่งราชันย์ออกนั่นเอง แต่ไม่นึกว่าด้วยเหตุผลนี้จะทำให้ผู้เล่นรอบๆแตกตื่นได้เพียงนี้ ผมที่กำลังจะออกไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุดก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นผู้เล่นคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาผมด้วยจิตสังหารที่รุนแรง พร้อมกับสายตาที่พร้อมจะฟาดฟันกับผมให้ตายไปข้าง   เขาคนนั้นคือผู้เล่นคนหนึ่งที่เป็นเหมือนผม ที่เป็นราชันย์เช่นเดียวกับผม ที่บนหัวของเขามีสัญลักษณ์แห่งราชันย์แห่งสายฟ้าอยู่เช่นเดียวกับผม และเขากำลังเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆพร้อมกับพวกผู้เล่นที่ค่อยๆขยับออกเพราะรู้สึกถึงจิตสังหารที่แข็งแกร่ง   “นี่นายมัน....ราชันย์แดง!!?”   “เวรละ เวรของจริง เวรสุดๆ!!!!!” . . . .
已经是最新一章了
加载中