ตอนที่ 10 เวลาผ่านคนก็เปลี่ยน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 เวลาผ่านคนก็เปลี่ยน
ร่างบางถูกยัดไว้เบาะหน้าคู่คนขับ หล่อนรู้สึกขัดใจอยากโวยวาย กรีดร้องเสียให้สมใจอยาก ดูเขาสิน่าหมั่นไส้เสียจริงๆ “ฉันไม่ไปหาหมอเด็ดขาด คุณได้ยินไหม” หล่อนยังยืนยันคำเดิม “ถ้าไม่ไปหาหมอก็บอกมาบ้านอยู่ไหน” จะได้รู้สักทีว่าหล่อนใช่คนเดียวกับเมื่อเช้าหรือเปล่า แต่ดูเหมือนหล่อนไม่คิดตอบเอาแต่นั่งเงียบ “อยู่บ้านคุณชัยเดชใช่หรือเปล่า” เขาเลยถามเอง มิลันดาหันมองเขาก่อนพยักหน้าช้าๆ เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าหล่อนอยู่ที่นั้น คงเห็นหล่อนผ่านหน้าต่าง น่าแปลกไหม รู้ว่าอยู่บ้านพ่อแต่กลับจำไม่ได้ว่าหล่อนเป็นใคร ถูกลืมจริงๆ แล้วสินะเรา น้ำตามันเริ่มเอ่อคลอ อย่าร้องเชียวนะมันน่าสมเพช มิลันดาเตือนตนเอง หน้างอๆ ตอนนี้มันคุ้นตาจริงๆ หล่อนเป็นใครกันแน่ อยากนึกให้ออกเหลือเกิน ชายหนุ่มหยุดมองใบหน้าจนเผลอลอบสำรวจเรือนร่าง แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าหัวใจดันเต้นแรงทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน รถจอดเทียบหน้าบ้านเขาลงมาเปิดประตูให้ มิลันดาไม่อยากให้เขารู้ว่าหล่อนเป็นใคร รีบเขย่งเท้าหมายจะหนีเข้าบ้านในทันที แต่กลับถูกเขารั้งท่อนแขนไว้ “ผมจะเข้าไปส่ง” “ไม่ต้อง!” หล่อนรีบปฏิเสธ “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องปฏิเสธความช่วยเหลือของผมด้วย” “เพราะฉันไม่ต้องการ ส่งฉันแค่นี้ก็พอแล้ว” มิลันดาสะบัดท่อนแขนตนเองออก ชายหนุ่มไม่ยอมก้าวออกจากตรงนั้น อยากรู้นักว่าหล่อนคือใคร คงไม่มีใครตอบได้นอกจากคนของบ้านหลังนี้ เขาถามอาดาวเรืองในภายหลังก็ได้ จังหวะนั้นรมย์รวัตรแวะมาหามิลันดาที่บ้าน เขาลงจากรถแท็กซี่สายตาเหลือบเห็นชายหนุ่มท่าทางภูมิฐาน ยืนคุยกับเพื่อนอยู่ หล่อนสบตาเพื่อนแล้วขยิบตาให้เพื่อส่งสัญญาณไม่ให้รมย์รวัตรเรียกชื่อ แต่อีกฝ่ายดันพาสาวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้า พอเห็นเท้าเพื่อนบวมเลยสงสัย “อ้าวมิ เป็นอะไรทำไมขาเป็นอย่างนั้น” รมย์รวัตรทัก มิลันดาแทบอยากบีบคอเพื่อนตอนนี้เสียให้ได้ คมฉณัฐนิ่งอึ้งไปสักพักเมื่อได้ยินชื่อ เขารีบปรับสีหน้าตนเองให้เป็นปกติ พิศมองใบหน้าหล่อนอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้คือมิลันดา ไม่แปลกที่หล่อนจะตั้งท่ารังเกียจเขา ไม่อยากเชื่อน้องมิเปลี่ยนราวกับคนละคน อยากจะบ้าตายที่ตาถั่วจำไม่ได้เลยสักนิด จะให้จำได้ได้ยังไงเล่า ในเมื่อรูปร่างเคยอวบในวัยเด็กกลับมีทรวดทรงองเอวน่ามอง แก้มเคยยุ้ยกลายเป็นเรียวและขาวอมชมพูจนเขาไม่อาจละสายตา ดวงตาเรียวสวยนั้นกลับดูสวยยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เขาแทบบ้าตายกว่าเขาจะรู้ตัวว่าได้พลาด มันก็สายเสียแล้ว “มาได้ยังไงวัตร” มิลันดาจำต้องทักกลับ เห็นสายตาที่เขามองมายิ่งทำให้เหล่อนประหม่า หล่อนต้องไม่แสดงให้เขาเห็นว่าหล่อนอ่อนแอเด็ดขาด “มาแท็กซี่นะสิ ถามได้” รมย์รวัตรกวน “ถามดีๆ ตอบกวนเดี๋ยวเจอ!” มิลันดาบ่นพร้อมยกมือโชว์กำปั้น หากหล่อนคือน้องมิ เขาอยากบอกหลายเรื่อง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ลืมเลือนเช่นเดียวกัน ความผิดในอดีตที่ตนได้กระทำไว้ อยากให้มิลันดาอภัย แล้วกลับมาพูดคุยสนิทสนมกันเช่นเดิม “น้องมิ พี่ขอคุยกับน้องมิหน่อยได้ไหม” พอได้ยินคำพูดเดิม ความรู้สึกบางอย่างมันกำลังกระทบกระเทือนความรู้สึกภายใน หล่อนแอบซ่อนมันไว้มานาน ไม่อยากให้มันกระเพื่อมไหวอีกครั้ง “ขอโทษนะคะ คุณไม่จำเป็นต้องเรียกฉันว่าน้องมิก็ได้ มันเป็นอดีตไปแล้ว ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน” หล่อนปฏิเสธแล้วหันไปหาเพื่อน“วัตรพยุงหน่อยดิ ปวดขา” “มาถึงก็ใช่เลยนะ ยัยป่าเถื่อนชอบวางอำนาจ!” รมรวัตรบ่น “อยากเจอดีหรือไง ไอ้วัตร!” หญิงสาวดุ รมย์รวัตรจึงต้องประคอง แม้จะรู้สึกขัดใจ เมื่อข้อเท้าไม่ทำตามคำสั่ง มันดันเจ็บจนต้องนิ่วหน้าทำให้เพื่อนชายต้องลำบากในการพยุง “คงต้องอุ้มแล้วละไม่ไหวแบบนี้ตายพอดี!” “อืม อุ้มก็อุ้มสิ” รมย์รวัตรช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเดินเข้าไปในบ้าน คมฉณัฐมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกขัดใจ แต่มิลันดากลับยิ้มพรายพูดคุยกับเพื่อนชายอย่างมีความสุข “กินไรมาเนี่ยมิหนักสุดๆ” “อย่ามาบ่นได้ไหมวัตร” คมฉณัฐถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเหมือนตนเองกำลังถูกกรรมตามสนอง มิลันดาคงไม่มีวันให้อภัยแน่ๆ วันนี้คงต้องทำงานก่อน แต่เขายืนยันไม่มีวันยอมแพ้เรื่องมิลันดาแน่นอน รมย์รวัตรอุ้มหล่อนเข้ามาในบ้าน ดาวเรืองประคองบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง เพื่อนหนุ่มเลยยกมือไหว้ดาวเรือง หล่อนรับไหว้และจำได้ดีว่าหนุ่มคนนี้คือเพื่อนบุตรสาวเคยเจอกันที่อังกฤษ “เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมข้อเท้าบวมแบบนี้” ดาวเรืองถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” “ไม่ไปหาหมอเหรอลูก” “ไม่ต้องหรอกคะแม่ หนูทำแผลเองได้อย่าลืมนะคะว่าหนูจบหมอมาค่ะ” “จ้าๆ แม่หมอคนเก่ง ถ้าบวมมาแล้วไม่หายแม่จะหัวเราะให้” มิลันดาจัดการทายาและพันข้อเท้าของตนเอง โดยมีรมย์รวัตรเป็นคนช่วยเหลือ “มิแน่ใจเหรอไม่ต้องไปหาหมอ จับดูแล้วเหมือนมันจะร้าวนะ” รมย์รวัตรเตือน “ไม่ดีกว่าวัตร แค่นี้ไม่น่าเป็นไรหรอก” “อย่าทำเป็นเล่น เดี๋ยวมันบวมแล้วอักเสบจะรักษายากเอานะ” “รอดูพรุ่งนี้ก่อนว่ามันเป็นไง” รมย์รวัตรเลยถอนหายใจ เมื่อคนเจ็บไม่ยอมฟัง “เฮ้อ... ตามใจก็แล้วกัน” มิลันดาขึ้นห้องไปนอนพลางก้มดูอาการบาดเจ็บของตนเอง หญิงสาวรู้สึกว่ามันจะบวมขึ้นมากหล่อนคงต้องไปหาหมอจริงๆ เพราะอาการแย่กว่าที่คิด หล่อนเอนกายลงนอน พยายามลบภาพของเขาออกจากสมอง แต่ยิ่งลบกับยิ่งจดจำ เลยถอนหายใจยาวในเมื่ออยากคิดก็คงต้องปล่อยไป แต่หล่อนจะไม่มีวันให้เขาได้ล่วงรู้ความรู้สึกในตอนนี้เด็ดขาด
已经是最新一章了
加载中