ตอนที่2
ตอนที่2
#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม
เป็นเพราะช่วงเช้าโดดเรียนไม่ได้เข้ากันทั้งกลุ่มเลยทำให้ในตอนนี้มีชายหนุ่มปีสามกลุ่มใหญ่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ริมสนามฟุตบอลซึ่งมีม้านั่งจัดไว้ให้นั่งเล่นอยู่ เสียงโวยวายดังตามประสาคนหมู่มากที่มีทั้งกำลังเล่นเกมและนั่งกินขนม ในขณะที่ภูกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งในปากและนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดส่องในเพจของมหาลัยที่ในตอนนี้มีหนึ่งโพสต์ที่กำลังได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์
....ดีกรีหนุ่มหล่อจากคณะแพทย์อินเตอร์ น้องคินของเราเอง งานนี้คงมีสาวๆอยากป่วยกันเพิ่มแน่หละ... หมากฝรั่งในปากถึงขั้นถูกคายทิ้ง ภูเบ้หน้า บรรดาคนที่ตามกรี๊ดคงยังไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ระดับความนิสัยเสียของมัน พอลองถามคนรู้จักในคณะแพทย์ถึงได้รู้ว่าภายในคณะก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าคินค่อนข้างจะหยิ่งและมนุษย์สัมพันธ์แย่ชนิดที่ว่าแทบไม่คุยกับใครเลย กดส่องเข้าไปในเฟสบุ๊คของอีกคนที่ตั้งสาธารณะ
“อวดรวยชิบหาย” ก่อนต้องพึมพำกับตัวเองเมื่อพบว่ามีแต่รูปถ่ายตอนไปเที่ยวหรือทานอาหารมื้อหรู
“วันก่อนมึงต่อยมันไปหรอ” กระทั่งเสียงถามจากเพื่อนดังขึ้น
“เออดิ แม่งปากดี เหยียดคนอื่นเก่งสัส”
“แล้ววันนี้มึงก็ต้องไปคุมมันซ้อมว่ายน้ำเนี่ยนะ”
“ใช่ โดนกูเล่นแน่” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมกลุ่ม ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะไม่ชอบขี้หน้าของคินด้วยเพราะถ้าฟังจากที่ภูเล่าก็ถือว่าไอ้เด็กนั่นค่อนข้างจะเปรี้ยวตีนพอสมควรเพราะฉะนั้นแล้วเรื่องอะไรที่พวกเขาจะต้องห้ามภูไม่ให้กลั่นแกล้งคินด้วย มีแต่จะช่วยแกล้งเพิ่มหละสิไม่ว่า
“มันรวยมากเลยหรือไงวะ เห็นทั้งรองเท้าเอยกระเป๋าเอย...ทั้งตัวมันหลายแสนเลย” ภูพูดมาอีก
“เห็นว่าแฟนใหม่แม่มันรวยมากนะ ตอนแรกก็ไม่ได้รวยอะไรขนาดนี้จนแม่มันได้แฟนใหม่”
“กูก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็เกาะคนอื่นเขานี่เอง” ยิ่งอคติไปกันใหญ่เมื่อได้ยินแบบนี้ นั่งคุยกันต่อในหัวข้อใหม่แต่แล้วสายตาของภูก็ไปสบเข้ากับใครบางคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อีกฝั่งขอบสนาม เพยิดหน้าไปทางนั้นจนเพื่อนมองตามและแล้วรอยยิ้มมุมปากปรากฏ ถือว่าคินดวงซวยที่มาเจอกันเร็วกว่ากำหนดทั้งที่ตอนเย็นก็มีนัดซ้อม
“ไปไหนไอ้ภู”
“บอกก็รู้ดิ ความลับเว้ย” ภูตะโกนสวนมาในขณะที่ขาวิ่งเข้าไปในสนามฟุตบอลแล้ว ทุกคนต่างจับจ้องว่าภูจะทำอะไร คงมีแต่คินที่เอาแต่จดจ้องอยู่กับการอ่านหนังสือจนไม่ได้สนใจมองว่าใครที่เพิ่งจะวิ่งลงไปเล่นบอลร่วมกับกลุ่มในสนาม
“อ่านถึงหน้าไหนหรอธาร”
“อาจารย์บอกว่าถึงหน้ายี่สิบนะเพราะพรุ่งนี้จะเรียนเรื่องนี้”
“อ๋อ ที่หัวข้อเรื่อ...”
...ปึก!!!..
“โอ้ยยย!!!” แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคลูกบอลที่ลอยอัดเข้ากลางจมูกก็ทำเอาคินต้องร้อง
“คิน!” ตามมาด้วยเสียงตกใจจากเพื่อนสนิทตัวเล็ก ธารหน้าเสีย รีบเข้าไปดูคนตรงข้ามที่นั่งกุมจมูกของตัวเองก่อนต้องตกใจหนักไปอีกเมื่อพบว่าคินกำลังเงยหน้าขึ้นเมื่อสิ่งที่ไหลย้อนออกมาจากจมูกคือเลือด รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเลือดให้กระทั่งที่เสียงฝีเท้าหลายคู่วิ่งตรงเข้ามาหา
“เล่นไม่ดูกันเลยเนี่ย!เพื่อนผมเจ็บนะ!” คนเจ็บยังไม่ได้พูดแต่คนเป็นห่วงอย่างธารหัวเสียแล้ว
“ขอโทษครับขอโทษ ไปห้องพยาบาลไหม” แล้วในตอนนี้นักฟุตบอลทั้งหลายต่างเดือดร้อนยกใหญ่ส่วนคนทำจริงกลับยืนกอดอกมองด้วยแววตาพึงพอใจ ภูเดินแหวกฝูงนักฟุตบอลเข้าไปและนั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่คินมองมาพอดี
“ไอ้ภูมึงไปขอโทษน้องเขาเลย”
“ต้องขอโทษด้วยหรอวะ สนามฟุตบอลก็มีไว้เล่นบอลหนิ เสือกมานั่งกันเอง” ประโยคแอบคุ้นเหมือนที่คินเคยพูดกับภูตอนขับรถชน คนเจ็บกำหมัดแน่น ถือเป็นรอบสองแล้วที่เขาเจ็บตัวเพราะความตั้งใจของภู ลุกขึ้นยืนก่อนเดินตรงเข้าไปหาคนที่ยืนจ้องอยู่
“สงสัยแค่ข้อมือคงไม่เข็ดนะครับ งั้นคราวหลังผมจะเล็งขาพี่แล้วกัน”
“..........”
“จะได้ไม่ต้องมาเป็นปัญหาให้คนอื่นเขาแบบนี้” ถ้อยคำเรียบนิ่งตามแบบฉบับและธารจับแขนของคินเอาไว้เพราะกลัวว่าคนสองคนจะเผลอกระโจนเข้าต่อยกันแต่เหมือนว่ารอบนี้ภูจะมีสติมากกว่าทุกครั้ง ไม่ได้ดิ้นพล่านในตอนที่โดนต่อว่าทั้งที่ในใจโกรธจัด เก็บข่มอารมณ์ไว้แล้วทำเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าของคิน
“เรียนหมอมาเพื่อทำร้ายร่างกายคนอื่นเขาหรอมึงน่ะ?”
“หืม ก็ไม่หนิครับ...กับคนผมไม่ทำร้ายนะ แต่กับอย่างอื่น...” พูดไม่พอแต่สายตาเหยียดที่มองมา ภูกำหมัดแน่น รู้สึกว่าปากเขาจะไม่ดีเท่ามันจะมีดีกว่าก็คงแค่เรื่องใช้กำลังเก่งมากกว่านี่แหละ ธารมีสีหน้าที่ไม่ดี ไม่อยากให้คินมีเรื่องถึงพยายามรั้งเพื่อนของตัวเองให้ออกมาจากตรงนี้ซะเช่นเดียวกับฝั่งภูเหมือนกันที่เหล่าเพื่อนนักฟุตบอลก็พากันดึงให้ถอยออกมาแตกต่างจากเพื่อนทีมว่ายน้ำที่กรูกันเข้ามาล้อมคินเหมือนพร้อมต่อย
ธารเป็นห่วงมาก
นี่คินต้องอยู่ร่วมทีมกับคนพวกนี้จริงหรอ
“ไปลาออกมาอยู่ชมรมเดียวกันกับเราไหมคิน” ระหว่างที่นั่งทำแผลให้ธารอดจะถามไม่ได้
“ไม่เอาหรอก ธารก็รู้ว่าเราชอบว่ายน้ำแค่ไหน”
“แต่ว่าสังคมชมรมนั้นมัน...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะเพราะยังไงก็มีโค๊ทคุมอยู่ พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรเราหรอก” ต้องโกหกไปเพราความจริงแล้วขนาดโค๊ทนั่งอยู่ภูยังกล้าวิ่งตามมาต่อยเขาเลย ช่วงบ่ายเรียนไม่รู้เรื่องเพราะในหัวคอยคิดแต่ว่าเย็นนี้จะต้องเข้าไปซ้อมว่ายน้ำร่วมกับพวกของภูจริงหรอ ถึงแม้ในทีมจะมีคนอื่นที่คินพอจะคุยด้วยได้แต่คือส่วนใหญ่ก็จะมีแต่รุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนของคินไง
แต่ก็เลือกอะไรมากไม่ได้หรอก
เพราะงั้นเมื่อตกเย็นหลังเรียนเสร็จ
...ปึก...! ภาพเดิมกลับมาอีกครั้งกับการที่คินขับรถเพื่อไปสระว่ายน้ำ แต่วันนี้แปลกไปเพราะตอนที่ขับผ่านช่วงหน้าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สิ่งที่เห็นคือร่างสูงของคนที่เจอเมื่อตอนกลางวันซึ่งในตอนนี้กำลังยืนคุยกับหญิงสาวหน้าตาดีอยู่ เหมือนกำลังทะเลาะกันนะดังนั้นคินเลยเลือกจะขับรถผ่านไปดีกว่าเพราะไม่อยากจะต้องพาลไปมีเรื่องกับภูอีก
..หมับ!.. แต่กับหนึ่งคนตรงนี้กำลังวุ่นวาย
“แนทอย่าเพิ่งไป ภูยังไม่รู้เลยว่าภูผิดอะไรถึงมาบอกเลิกกันแบบนี้” มือที่พยายามจะจับแขนของหญิงสาวในขณะที่ฝ่ายแม่สาวสวยก็สะบัดแขนหนีอย่างไร้เยื่อใย คบกันมาเป็นปีทะเลาะกันซักครั้งยังแทบไม่มี กระทั่งมาพักหลังที่แนทเปลี่ยนไปจนภูสังเกตได้ จนที่เพื่อนมาบอกว่าเห็นอีกคนไปเดินกับผู้ชายอื่น เลยเริ่มทะเลาะกันเรื่อยมาจนถึงตอนนี้
“ภูไม่ได้ผิดอะไร แต่แนทแค่เจอคนที่ดีกว่าก็เท่านั้น”
“ดีกว่า?นี่ภูยังดีไม่พออีกหรอ” น้ำเสียงที่จวนจะร้องไห้เต็มที่ทั้งที่ฝ่ายผู้หญิงดูไม่ได้มีความอาลัยอาวรณ์เลย
“เบื่อนั่งรถเมล์ เบื่อซ้อนมอเตอร์ไซค์...แล้วก็เบื่อหอพักนักศึกษาเล็กๆที่ร้อนจนหงุดหงิดนั่นด้วย!”
“...........”
“ภูไม่ได้ไม่ดี แต่ภูแค่ยังดีไม่พอสำหรับแนทก็เท่านั้น...ที่คบด้วยเห็นว่าดัง ว่ายน้ำเก่ง...แต่ดูตอนนี้สิ มือก็เดี้ยง ยังเหลืออะไรให้แนทอยากคบด้วยหรอคะ?” ตอนนี้ชัดเจนแล้วทุกอย่างว่าสาเหตุของการถูกบอกเลิกในครั้งนี้คืออะไร มองตามแผ่นหลังบอบบางที่เดินห่างออกไปจนสุดท้ายที่อดีตคนรักเปิดประตูรถยนต์คันสวยแล้วเข้าไปนั่งด้านใน เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของผู้ชายฝั่งคนขับแต่ภูจำได้ดีเพราะชุดของอีกคนรวมไปถึงเครื่องกลัดตามตัวมันเหมือนกับที่บางคนใส่
เด็กแพทย์อินเตอร์
อีกแล้ว...
..พรึบ!!!.. เดินเข้ามาถึงในอาคารชมรมว่ายน้ำภูโยนกระเป๋าวางไว้ที่เก้าอี้ขอบสระ
“วิ่งรอบสระยี่สิบรอบ!วอร์มร่างกายต่อ แล้วว่ายฟรีสไตล์เก็บระยะให้ครบหมื่นเมตร!” เสียงสั่งตะโกนลั่น เหล่าเพื่อนในทีมยังพากันงงว่าภูไปหงุดหงิดมาจากไหนแต่ถ้าเอาตามความจริงคือก็ต้องทำตามคำสั่งของกัปตัน ที่ถึงแม้ว่ามันจะโหดเกินกว่าที่ควรจะเป็นการซ้อมวันแรกก็เถอะ
..ตู้มม!.. เสียงเพื่อนร่วมทีมที่เริ่มกระโดดลงสระเพื่อทำตามคำสั่งของกัปตัน ในขณะที่คินยังยืนนิ่ง
“มันมากไปหรือเปล่ากับการวอร์มซ้อมครั้งแรก ถ้าร่างกายนักกีฬาเจ็บขึ้นมามันจะเป็นปัญหาใหญ่อีกนะ” ถึงขั้นต้องเดินเข้าไปหาภูที่ยืนหน้านิ่งอยู่ขอบสระซึ่งอีกคนตวัดสายตามองมา ในรอบนี้คินรู้สึกว่าอีกคนดูไม่เป็นมิตรมากกว่าปกติ
“ทนไม่ได้มึงก็ออกจากทีมไป”
“กัปตันที่ดีแต่ใช้อารมณ์แบบนี้ ทีมว่ายน้ำเราคงจะไปกันรอดเนอะครับ”
“ก็ถ้ามึงเก่งมึงก็ทำตามที่กูสั่งให้ได้สิ” คำท้าและสายตาเหยียดจากภูที่ส่งมา ไม่มีคำตอบใดจากคิน มีเพียงมือที่ยกขึ้นรั้งแว่นว่ายน้ำลงมาใส่ เดินไปยังขอบสระและประจำยังลู่ที่ไม่มีใครว่ายอยู่
..ตู้มม!... เสียงกระโดดน้ำที่มาพร้อมการกระตุกยิ้มมุมปากของภู มีสระว่ายน้ำหลายสระที่ต้องคอยดูแต่เหมือนภูจะสนใจอยู่แต่กับคนเดียวที่ว่ายอยู่สระริมสุด ตอนนี้คนอื่นหยุดว่ายแล้วหันมาสนใจเด็กหนุ่มปีหนึ่งที่กำลังว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ด้วยความเร็วที่เร็วมากเสียจนพวกเขายังต้องยอมรับว่าอีกคนเก่ง
“เชี่ย มึงดูมันดิไอ้ภู...แม่งเก่งสัสเลยว่ะ” เพื่อนหนึ่งคนที่ปีนขึ้นจากสระแล้วมากระซิบใส่ข้างหูของภู
“กูว่า...เจอฉลามอีกตัวของทีมแล้ว มึงอย่าบีบน้องมันออกเลยนะไอ้ภู เสียดายฝีมือมัน”
“เรื่องอะไรกูต้องเก็บมันไว้ให้รำคาญตา” พูดจบประโยคนี้ภูเดินตรงเข้าไปยืนยังขอบสระฝั่งที่คินกำลังว่ายอยู่ ก่อนที่เสียงตบมือที่เป็นสัญญาณบอกทุกคนในสระว่าให้หยุดจากภูจะดังขึ้น ทุกคนรวมไปถึงคินด้วยที่โผล่ขึ้นจากน้ำแล้วมองตรงมายังกัปตันทีม
\"ทุกคนพอแล้วสำหรับวันนี้ เอาแค่นี้ก่อน...กูแค่อยากดูว่าสโตรกตอนว่ายฟรีไตล์ของพวกมึงสวยแล้วก็ถูกต้องกันแค่ไหน”
“..........” ทุกคนเงียบ และสายตาของภูก้มมองลงที่คินอีกครั้ง
“ส่วนกับคนที่สโตรกยังห่วยเหมือนเด็กอนุบาลอยู่ ก็อยู่ซ้อมต่อ...ซึ่งมีมึงคนเดียวไอ้คิน” ไม่ใช่แค่คินที่เงียบแต่ขนาดเพื่อนของภูยังพากันร้องหูยเพราะถ้าเอาตามความจริงแล้วทั้งองศาการว่าย การกวาดใต้น้ำหรือแม้แต่การหักศอกรวมไปถึงการวางแขนของคินคือมันถือว่าสมบูรณ์แบบมาก แต่ภูก็คือภู เพราะถ้าไม่ชอบขี้หน้าใครก็จะหาเรื่องแกล้งได้อยู่ดี
“พี่มีปัญญาว่ายได้ดีเท่าผมหรือเปล่า” แต่รอบข้างต้องส่งเสียงฮือฮากันอีกครั้งเมื่อคนในสระอย่างคินสวนมาแบบนี้ ไม่มีเสียงใดจากภูที่ตอบกลับมา มีเพียงร่างกายของอีกคนที่นั่งย่อลงยังขอบสระ รอยยิ้มมุมปากจากคนเป็นกัปตันทีมปรากฏอีกครั้งในขณะที่มือก็ล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมากดเปิดบางอย่าง
..หมับ!.. โทรศัพท์ถูกโยนลงให้คินและเด็กหนุ่มรีบคว้าไว้ก่อนที่จะพลาดทำหล่นลงน้ำ
คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยกล้องจากใต้น้ำที่ติดอยู่ตามขอบสระ
ปรากฏภาพของภูที่กำลังว่ายท่าฟรีสไตล์โดยถูกถ่ายและปรับภาพให้ช้าเพื่อง่ายต่อการเลียนแบบ
“แหกตาดูซะนะ”
“........” โทรศัพท์มือถือในมือถูกแย่งไปโดยเจ้าของ คินเงยหน้ามองอีกคน
“แล้วถ้าไม่มีปัญญาว่ายได้ดีเท่ากูก็อย่าเสือกปากเก่ง...วันนั้นมึงชนะกูได้เพราะแค่โชคช่วยมึงตางหาก” พูจบประโยคถูลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หันไปบอกย้ำให้นักกีฬาร่วมทีมกลับไปได้แล้ว ถัดจากนั้นเพียงไม่นานรอบสระถึงเหลือเพียงหนึ่งร่างของบุคคลที่ยังคงอยู่ในสระน้ำ และกับหนึ่งคนที่ยืนกอดอกอยู่ขอบสระ
“ว่ายต่อสิ หยุดทำไม” เสียงฮึดฮัดไม่พอใจจากคินดังมาเมื่อถูกสั่งแต่ถึงอย่างนั้นแล้วเด็กหนุ่มก็ยอมทำตาม
แถมในระหว่างที่ว่ายยังมีเสียงต่อว่าดังตามมาไม่หยุด
“เร็วกว่านี้!ทำดีได้แค่นี้จะไปแข่งกับเด็กอนุบาลหรือไง!”
“สโตรกเพี้ยน!แค่ท่าฟรีสไตล์ยังไม่รอดทำอยากลงแข่งจริง”
“นี่มึงเป็นนักกีฬาโรงเรียนมาจริงๆหรอวะ?” กระทั่งประโยคนี้จากภูดังขึ้น
“มันจะมากไปแล้วนะ!ผมว่ายดีกว่าบางคนในทีมพี่อีกด้วยซ้ำ!!” ตะโกนสวนกลับมาพร้อมการปีนขึ้นจากสระ ไม่ซ้อมต่อหรืออะไรทั้งนั้น ไม่มีความยุติธรรมเลยซักนิดแล้วเรื่องอะไรถึงจะต้องยอมให้โดนอีกคนเอาเปรียบด้วย
“เอาอะไรมามั่นใจว่าว่ายดีกว่าเด็กในทีมกู กูนี่คนตัดสิน”
“รอแขนหายแล้วมาว่ายแข่งกับผมอีกรอบแล้วกัน” ทิ้งประโยคนี้เอาก่อนที่คินจะเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ภูเดินตามมาถึงห้องที่ใช้สำหรับการเก็บเสื้อผ้า
ยืนกอดอกมองไอ้คนที่กำลังเปลี่ยนใส่ชุดเดิม
“ถ้างั้นมึงรอกูหายแล้วมาดวลกัน” เสียงนี้ดังขึ้นมาและคินหันไปมองพร้อมจัดเสื้อของตัวเอง
“ได้ พี่จะได้เลิกปากดีซักที” ภูมองตามแผ่นหลังของคนอายุน้อยกว่าที่เริ่มเดินห่างออกไป เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าท้าเขาขนาดนี้เลย แล้วไอ้เด็กนั่นมันคิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนกัน
...มึงกับกูยังต้องได้วัดกันอีกหลายรอบแน่ไอคิน...
# # # # # # # #
ถึงตอนนั้นใครจะแพ้ใคร หรือใครจะยอมแพ้ก็ไม่รู้อะนะ5555555