บทที่ 5 ตัวแทน
บทที่ 5 ตัวแทน
จ้าวลิ่วยังมีทีท่าเลิกลัก ยืดคอมองให้แน่ใจว่ามองไม่เห็นเด็กคนนั้นแล้ว จึงปล่อยข้อมือของหมิงเยว่
“เมื่อกี้ข้าบอกว่าเจ้านายของพวกเราสุขภาพไม่ค่อยดีใช่ไหม? ดังนั้นจึงต้องการคนมาช่วยป้องกันไสยศาสตร์ ซึ่งก็คือเด็กคนเมื่อกี้ ไม่แน่ใจว่าน้าจากเรียกว่าอะไร......อ๋อ เรียกว่าฝูเจ้า ฟังดูแล้วเหมือนจะดี แต่จริงๆแล้วคือฮั่วเฉียง มีหน้าที่ป้องกันภัยและวิญญาณชั่วร้ายให้แก้เจ้านายโดยเฉพาะ
หมิงเยว่เป็นหมอผียิงยาง ทำไมจะไม่รู้ว่านี่คืออะไร? จริงๆแล้วไม่ได้มีชื่อเรียกว่าฝูเจ้าหรือฮั่วเฉียงแต่เรียกว่าตัวแทน ความหมายเช่นเดียวกับตัวตายตัวแทน
สำหรับวิญญาณแล้ว เพื่อที่จะหลุดพ้นจากที่ที่ตัวเองตาย ก็จะต้องหาคนมาแทนที่ เรียกว่าตัวตายตัวแทน
สำหรับคน เพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อ ก็ต้องหาคนมาตายแทนเขา เรียกว่าตัวแทน
คนที่จะมาเป็นตัวแทนจะต้องมีชะตาที่สดใสรุ่งโรจน์ มีเบญจธาตุครบถ้วน และต้องเป็นศุภมงคล ต้องปราศจากสิ่งอัปมงคลทั้งหมด พูดง่ายๆก็คือคนที่ดวงดีนั่นเอง ประการที่สอง เมื่อเอาดวงมาเทียบกับเจ้านาย จะต้องไม่มีดวงกินเจ้านาย และอีกประการหนึ่งคือ ในพื้นดวงต้องได้รับพรจากดวงดาวแห่งโชคลาภ
หมอผียิงหยางจะใช้พิธีกรรมทางยิงหยาง เพื่อให้ตัวแทนทำหน้าที่รับชะตากรรมแทนเจ้านาย ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ หรือความชั่วร้ายต่างๆ และส่งผ่านความโชคดี อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และสิ่งที่เป็นพรต่างๆกลับมาสู่เจ้านาย ดังนั้นคนจึงมักจะเรียกตัวแทนให้ฟังดูสวยงามว่า ฝูเจ้า
ใช้โชคดูแลเจ้านาย
น่าจะเป็นเพราะอ๋องเย่นสุขภาพอ่อนแอ เพื่อที่จะปกป้องลูกชายของตัวเอง ฮ่องเต้จึงใช้ลูกของคนอื่นมาเป็นตัวแทน เรื่องแบบนี้พบเห็นได้บ่อย แต่คนที่น่าสงสารเช่นนี้ มักจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นดวงดาวแห่งอนิฏฐารมณ์ ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว
จ้าวลิ่วเป็นพวกขี้ขลาดแต่ชอบพูดคุยเรื่องผี ตัวเองยังไม่เคยเจอผี แต่เมื่อเล่าให้จ้าวหมิงเยว่ฟัง กลับพูดน้ำไหลไฟดับ
“โชคดีที่อยู่ในจวน ฝูเจ้าจึงไม่ต้องคอยติดตามเจ้านาย หากเจ้านายออกมาเมื่อไหร่ ก็ต้องคอยเดินตาม ว่ากันว่าถ้าหากเจ้านายออกมาบ่อยๆ ฝูเจ้าก็จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน อีกทั้งฝูเจ้าที่อยู่ข้างกายเจ้านาย ส่วนใหญ่จะตายในคืนโส้เยว่(คืนที่ไม่มีพระจันทร์) ซึ่งจะตายในลักษณะแห้งตาย
คืนโส้เยว่ เป็นคืนที่วิญญาณชั่วร้ายออกมามากที่สุด
จ้าวลิ่วบอกว่า “ไม่มีฝูเจ้าคนไหนสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงครึ่งเดือนเจ็ด ดังนั้นก่อนถึงครึ่งเดือนเจ็ด หมอผียิงหยางจะต้องพาฝูเจ้าคนใหม่มารอเพื่อรับหน้าที่แทน”
ครึ่งเดือนเจ็ด เทศกาลผี
แล้วชะตาของอ๋องเย่นเป็นเช่นไร? เว้นเสียแต่ว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยห้าทุกข์ มิเช่นนั้นก็ไม่น่าจะหายนะเช่นนี้
หมิงเยว่ฟังจ้าวลิ่วพูดอย่างต่อเนื่อง “เมื่อกี้คือฝูเจ้าที่เพิ่งมาใหม่ล่าสุด อายุเพิ่งจะสิบสามปี ถือว่าเป็นลูกของครอบครัวข้าราชการ แต่เป็นเพียงลูกนอกสมรส มารดาผู้ให้กำเนิดป่วยหนัก หลังจากที่เขาถูกหมอผียิงหยางเจอตัวเข้า พ่อของเขาก็ขอร้องให้เขาเข้ามาในจวนท่านอ๋องเพื่อเป็นฝูเจ้า เพื่อจะได้มีเงินรักษาโรคให้แม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่ แต่ว่า ข้าจะแอบบอกให้นะว่า......”
จ้าวลิ่วหยุดผ่าฟืนแล้วหันไปกระซิบจ้าวหมิงเยว่ว่า “เมื่อสิบวันก่อนแม่ของเขา......ตายไปแล้ว”
“ตายไปแล้ว?”
จ้าวลิ่วมองซ้ายมองขวา “เจ้าห้ามพูดออกไปเด็ดขาดนะ ข้าแค่บังเอิญไปได้ยินน้าจางพูดเข้า”
จ้าวลิ่ว แต่ปากของเจ้าเองก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกันมิใช่หรือ? นางเพิ่งจะรู้จักเขาเพียงไม่กี่วัน เขาก็เล่าทุกอย่างให้นางฟังหมดสิ้น เช่นนี้นางควรจะดีใจหรือเสียใจดี?
หมิงเยว่หัวเราะแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่พูดออกไปหรอก”
แม้แต่เรื่องของตัวนางเองยังแก้ไม่ตกเลย
จ้าวหมิงเยว่ชูขวานขึ้น แล้วผ่าฟืน!
จ้าวลิ่วยังพูดอีกว่า “เมื่อข้าได้ยินความหมายที่น้าจางพูดในวันนั้นก็เข้าใจดีว่า ฝูเจ้าทำหน้าที่ได้เพียงแค่ช่วยบรรเทา แต่ไม่สามารถที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงโชคร้ายที่เจ้านายจะต้องเผชิญได้ จะต้องหา......ไท่อะไรหลินซี จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของเจ้านายได้”
แผละ
ขวานบนมือของเจ้าหมิงเยว่เกือบจะสับลงบนเท้าของตัวเอง มองไปทางจ้าวลิ่ว “เจ้าบอกว่าต้องหาอะไรให้เจอนะ?”
“อะไรหลินซี หรือว่าไท่อะไรซีนี่แหละ......”
“ไท่ยิงหลินซี?”
“ใช่แล้ว!” จ้าวลิ่วตบมือฉาด “อันนี้แหละ ไท่ยิงหลินซี! ได้ยินมาว่าเพื่อที่จะหาไท่ยิงหลินซีมาช่วยอ๋องเย่น ฮ่องเต่ทรงเกณฑ์หมอผียิงหยางจำนวนมากออกตามหา แต่ว่าหามาหลายปีก็ยังไม่มีใครหาพบ......”
เหอะๆ นี่สินะที่เขาเรียกว่าย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย! ? นางได้ยินข่าวเกี่ยวกับ “ไท่ยิงหลินซี” ที่นี่อย่างแท้จริง อีกทั้งฮ่องเต่ฉู่ยังเกณฑ์หมอผียิงหยางจำนวนมากออกตามหา! ? นี่ยังยากกว่าให้นางงมเข็มในมหาสมุทรคนเดียวหลายเท่า!
ดังนั้นตราบใดที่นางยังอยู่ในจวนท่านอ๋อง ข่าวเกี่ยวกับไท่ยิงหลินซีจะไม่อยู่ในกำมือได้อย่างไร?
แต่ว่า ใครจะนำข่าวเข้ามาบอกคนใช้ห้องครัวละ? ถ้าเช่นนั้นนางคงต้องหาทางเข้าใกล้อ๋องเย่นอีกหน่อย
แต่ปัญหาตอนนี้คือ นางจะเข้าใกล้อ๋องเย่นได้อย่างไร? ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถรู้ข่าวได้เป็นคนแรก?
หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะเข้าใกล้อ๋องเย่น เพราะแม้แต่เงาของอ๋องเย่นนางก็ยังไม่เคยได้เห็น! กฎเกณฑ์ในจวนอ๋องมีมาก ปกติแล้วคนใช้ห้องครัวไม่มีทางได้เดินไปที่วิหารหลัก ตำหนักจิ้นอันที่อ๋องเย่นฉู่จื่อเย่นพักอยู่ยิ่งเป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปก็ได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้หมิงเยว่รู้สึกปวดหัว ช่วงนี้จวนอ๋องเย่นเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว
ชวนหลิง สาวใช้ผู้ซึ่งมีหน้าที่ส่งอาหารให้กับอ๋องเย่นโดยเฉพาะ ได้ตกลงไปในน้ำเมื่อคืนนี้ และเสียชีวิต!