บทที่13 คาดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อจะพาเธอออกไป
1/
บทที่13 คาดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อจะพาเธอออกไป
รักแรกกพบ ท่านประธานอ่อยเก่งจัง
(
)
已经是第一章了
บทที่13 คาดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อจะพาเธอออกไป
บทที่13 คาดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อจะพาเธอออกไป “คุณรู้ไหม ผมหวังดีกับคุณ มีคนมากมายที่อยากจะได้ผู้หญิงของผม ฉะนั้นคุณอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย” “ไม่ใช่สักหน่อย สัญญาแต่งงานระหว่างเราไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ไม่มีใครรู้หรอก”หลินโย่ยี ฟังแล้วรู้สึกไม่พอใจแล้วไม่เป็นธรรม เหมือนกำลังจะโทษเขา “คนทั่วไปไม่รู้แน่นอน แต่ศัตรูผมนั้นเยอะมากมาย แน่นอนว่าต้องการจะทำร้ายผมตลอดเวลา เช่น เริ่มจากคุณเป็นต้น” ยินเซิงเจ๋อขู่เธอ แต่ที่พูดก็เป็นความจริง คนที่อยากทำร้ายเขาเยอะมาก ศัตรูของเขาก็เยอะมากเช่นกัน ยินเซิงเจ๋อรู้สึกตั้งแต่ที่แต่งงานกับเธอ ก็เหมือนกับไม่มีความรู้สึกที่ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว เพราะว่ามีเธอ เขาไม่สามารถเอาเธอไปเดิมพันหรือเห็นเป็นสิ่งของแลกเปลี่ยนได้ “คุณอยากไปเที่ยวที่ไหน?” ยินเซิงเจ๋อถามแบบเรียบๆ หลินโย่ยีคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเธอ “ฉัน ฉันอยากไปหลายที่ แต่ยังไม่ได้เจาะจงว่าจะไปไหนดี” หลินโย่ยีรู้สึกตัวเองโง่เขลาสิ้นดี ไม่ง่ายเลยที่ตัวเองจะมีสิทธิ์ได้พูดว่าจะไปไหน ตัวเองกลับไม่รักษาโอกาสไว้ “แล้วคุณอยากจะทำอะไร?” ยินเซิงเจ๋อถามต่อด้วยคำถามเดิม เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการพูด ปกติเขาจะไม่เคยคิดว่าจะออกไปเที่ยว ก็แค่ดื่มเหล้า ถ้าเกิดว่าเครียดจริงๆก็สูบบุหรี่สักหนึ่งม้วน ไม่มีกระจิตกระใจที่จะออกไปเที่ยวเหมือนเด็กๆแล้ว “ฉัน ฉันอยากเล่นรถละตินเรซซิ่ง อยากไปดูทะเล อยากอยู่ทั้งวันทั้งคืนที่นั่น ตอนเย็นดูพระอาทิตย์ตกดิน ตอนเช้าก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้า และยังมี……”หลินโย่ยีเงยหน้าขึ้นมองยินเซิงเจ๋อ ทันใดนั้นรู้สึกตัวเองพูดมากไปแล้ว พูดความคิดของตัวเองสักหมดเปลือย หลินโย่ยีคิดดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ทำอะไรทั้งวันแล้วพาเธอไปเที่ยวเป็นเพื่อนที่ชายหาดโดยเฉพาะหนึ่งคืน?ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ไม่น่าสนใจอย่างนี้ แต่ก็ไม่มีทาง เธอก็เป็นคนอย่างนี้แหละ หลินโย่ยีพูดเสร็จก็ไม่เห็นเขาพูดอะไร ก็รู้สึกว่าช่างมันเถอะ ฟังเขาก็แล้วกัน คิดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อเดินขึ้นไปชั้นบน เดินตามทางหมุนของบันไดขึ้นไป รู้สึกว่าข้างหลังไม่มีความรู้สึกที่คุ้นเคยตามมา ก็รู้ว่าเด็กโง่คนนี้ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับอีกแล้ว ยินเซิงเจ๋อยืนอยู่ชั้นบนพลางวางข้อศอกลงที่ราวบันได หลินโย่ยีมองผู้ชายคนนี้ที่ไม่ว่าจะทำท่าอะไรก็ดูดีไปหมด เต็มเปี่ยมไปด้วยฮอร์โมนเพศชาย ยินเซิงเจ๋อเห็นเธอจ้องเขาไม่พูดอะไร คิดในใจว่าอาการเด็กโง่กำเริบอีกแล้ว “คุณโง่ไปแล้วหรือไง?ผมมีอะไรน่ามอง?หา?”หลินโย่ยี……ออ……รีบก้มหน้าลง “รีบขึ้นมา อยากออกไปแต่ยังชักช้าอยู่ได้ ไม่ใช่จะไปทะเลหรือ?เร็วเข้า ระวังผมจะเปลี่ยนใจนะ”ยินเซิงเจ๋อพูดแบบข่มขู่ หลินโย่ยีไหวพริบดี “ออ ค่ะค่ะค่ะ!” แล้วรีบวิ่งเหยาะๆขึ้นตึกไป รอเธอขึ้นตึกมา ยินเซิงเจ๋อก็พูดว่า“รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว ผมจะพาคุณไปกินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จค่อยไปแข่งรถ แล้วไปชายหาดเป็นลำดับสุดท้าย”” หลินโย่ยีดีใจจนกระโดดโลดเต้น “จริงหรือค่ะ?พาฉันไปจริงหรือค่ะ?ดีจังเลย!”ยินเซิงเจ๋อมองแบบชื่นชมเธอที่เธอดีใจจนกระโดดเหมือนเด็ก ชอบความจริงใจที่มีในตัวเธอ เพราะเขารู้ว่ามันมีค่ามาก “พอแล้วพอแล้ว รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”ยินเซิงเจ๋อเร่ง “ไม่เปลี่ยนไม่ได้เหรอ ที่ฉันใส่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วนิ ทำไมต้องเปลี่ยนด้วย”ยินเซิงเจ๋อปวดหัวทำไมเธอถึงมีปัญหามากจัง ดังนั้นจึงได้แต่พูดว่า “ไม่มีอะไร ผมเปลี่ยนคุณก็ต้องเปลี่ยน” ยินเซิงเจ๋อไม่ได้พูดต่อ ก็ปลดกระดุมเสื้อเลยหลินโย่ยีมองท่าทางของเขาพลางพูดอย่างกังวลว่า“คุณทำอะไร?คุณจะเปลี่ยนก็ไปเปลี่ยนที่อื่นสิ!” ยินเซิงเจ๋อไม่มีอะไรจะพูด คุณให้ผมออกไป?“นี่คือห้องของผม”ยินเซิงเจ๋อพูดในแนวเผด็จการ หลินโย่ยีดึงสติกลับมา ใช่สิ นี่เป็นบ้านของเขา ตัวเองไปดีกว่า“ได้ค่ะ ฉันไป”หลินโย่ยีอยากไปห้องรับแขกของเธอ ไม่รอเธอเคลื่อนไหวยินเซิงเจ๋อก็ดึงคุมเธอเอาไว้ “คุณออกไปเลย ข้างนอกมีแต่บอร์ดี้การ์ด มีแต่ผู้ชาย คุณจะตีผมใช่ไหม?”ยินเซิงเจ๋อพูดแบบอวดดีและโมโห “โอ๊ะ คุณทำไมเป็นแบบนี้?ฉันไม่ได้ไปห้องรับแขกสักหน่อย ฉันจะไปห้องของฉัน”หลินโย่ยีอธิบาย “ห้องนอนสำหรับแขกก็ไม่ได้!”ยินเซิงเจ๋อพูดแบบแน่วแน่อย่างทะนงตน “ในห้องนอนสำหรับแขกคนอื่นไม่เห็นสักหน่อย”หลินโย่ยีไม่เข้าใจที่ห้องนอนสำหรับแขกบอร์ดี้การ์ดไม่เข้ามา ทำไมถึงไม่ให้เธอไป? “ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ทางที่ดีคุณควรจะรีบเร่งเวลานะ”ยินเซิงเจ๋อรู้ว่าไปห้องนอนสำหรับแขกบอร์ดี้การ์ดมองไม่เห็น แต่นึกภาพตอนเธอถอดเสื้อแล้วอาจจะถูกคนอื่นมองแล้ว เขาไม่ชอบใจนัก มีเพียงอยู่ข้างกายเขา เขาถึงจะวางใจ แน่นอน เขาไม่ใช่ประสงค์จะดูเธอ เพียงแค่อยากจะดูแลเธอให้ปลอดภัยก็แค่นั้นเอง “ไม่ได้ คุณอยู่ที่นี้ฉันไม่เปลี่ยน ฉัน……”หลินโย่ยีรู้สึกอึดอัด เธอไม่อยากจะถอดเสื้อต่อหน้าเขาจริงๆ มิเช่นนั้นทุกอิริยาบถจะสามารถเผาตัวเองให้ไหม้เกรียมได้ “อย่าพูดมาก คุณจะรอให้ผมเปลี่ยนให้ไหม?”หลินโย่ยีรู้ว่าเขาพูดจริงทำจริง ช่างมันเถอะเปลี่ยนตรงนี้แล้วกัน “งั้นคุณหันหลังไป”หลินโย่ยีรับไม่ได้ที่จะให้ดูเธอ “ผมเป็นสามีของคุณ แค่ดูจะเป็นอะไรไป แล้วอีกอย่าง หุ่นอย่างคุณผมไม่มีอารมณ์หรอก” ยินเซิงเจ๋อพูดไม่ตรงกับใจ ที่จริงแล้วแค่ถูกตัวเธอก็เกิดความปรารถนาอย่างมิอาจห้ามใจได้ หลินโย่ยีได้ยินเขาพูดแบบนี้ ในใจไม่รู้เป็นอะไรรู้สึกเสียใจนิดๆ ใช่ หุ่นเธอไม่ถือว่าแบนเรียบ แต่ก็ไม่ได้เด้งหน้าเด้งหลัง มีส่วนโค้งส่วนเว้าที่สมบูรณ์ หลินโย่ยีตอบคำพูดเขา “ใช่ค่ะ หุ่นของฉันมันไม่ดี ผู้ชายไม่มีอารมณ์กับฉันและไม่มีคนชอบฉันด้วย แต่ฉันเชื่อว่าฉันรอคนคนนั้นได้ คนที่รักและรับฉันได้”หลินโย่ยีจงใจพูดแบบนี้ เขาว่าเธอไม่ดี เธอจึงบอกเขาว่าเธอต้องมีคนรักแน่นอน ถึงแม้คนคนนั้นจะไม่มาถึง “หลินโย่ยี!คุณแต่งงานแล้วนะ ยังจะรอใครอีก?คุณพูดแบบนี้ไม่ใช่กำลังบ่นที่ผมไม่ดูแลคุณดีๆใช่ไหม?”ยินเซิงเจ๋อฟังแล้วโมโห หญิงที่สมควรตาย ยังคิดจะหาคนอื่นอีก?นึกถึงภาพหุ่นของเธอถูกผู้ชายคนอื่นดู เขาก็อยากจะคว้าลูกตาคนคนนั้นออกมา “ฉันไม่ได้บ่นว่าคุณ?คุณอย่าใส่ร้ายฉัน”หลินโย่ยีพูดอย่างเบื่อหน่าย “ทำไมจะไม่มี?วันนี้ขอพูดกับคุณให้เข้าใจก่อนเลยนะ ถ้าคุณกล้าไปพัวพันกับผู้ชายคนอื่น ผมจะตัดขาคุณทิ้ง ส่วนผู้ชายคนนั้นก็จะหายไปจากโลกใบนี้เลย” ที่จริงแล้วยินเซิงเจ๋อก็ไม่รู้ว่าหากเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา เขาจะทำอย่างไรกัน ตอนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ พอถึงเวลานั้นก็คงไม่สามารถควบคุมได้เช่นกัน เขารับเรื่องอย่างนี้ไม่ได้จริงๆ ยิ่งไม่อนุญาตให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแน่นอน ถึงแม้ว่าตอนแต่งงานอ้างเรื่องสัญญาระหว่างกัน แต่รู้ว่านี้เป็นแค่วิธีการหลอกให้เธอมาแต่งงานด้วย เขาต้องการให้เธออยู่ข้างกายเขาตลอดไป ถึงแม้จะเป็นวิธีกักขังก็ตาม เวลาผ่านไปตั้งนานก็ยังเปลี่ยนเสื้อไม่เสร็จ หลินโย่ยีฟังคำพูดของยินเซิงเจ๋อก็รู้สึกมันช่างโหดร้ายเหลือเกิน “ยินเซิงเจ๋อ ทำไมคุณถึงก้าวร้าวอย่างนี้ ถ้าคุณตัดขาฉันทิ้งจริง ฉันจะเกลียดคุณจนวันตาย ฉัน……ฉันก็จะฆ่าตัวตาย”หลินโย่ยีพูดอย่างไม่ลังเล ดวงตามีความโกรธแฝงอยู่ “ดังนั้น คุณก็ทำตัวดีๆ อย่าไปยั่วยวนคนอื่น” หลินโย่ยีรู้สึกว่าทำไม ตอนนั้นพูดแล้วว่าเป็นเพียงแค่ตกลงแต่งงาน เรื่องราวระหว่างเขาทั้งสองมันเป็นมูลเท็จ “ยินเซิงเจ๋อ ตอนสัญญาจะแต่งงานกันได้พูดไว้อย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นเพราะเวลาผ่านไปนานจนทำให้คุณลืม งั้นฉันขอเตือนสติคุณว่าเราต่างฝ่ายต่างไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย ดังนั้นความรู้สึกส่วนตัวของฉันคุณไม่สามารถมายุ่งได้” ยินเซิงเจ๋อรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่คำพูดของเขาไม่มีความหมายสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งเลย ยินเซิงเจ๋อโกรธจนเดินเข้าไปใกล้เธอ บีบให้เธอถอยไปที่โซฟา แผ่นหลังของหลินโย่ยีพิงอยู่ที่โซฟา ต้องทนการควบคุมของเขา ยินเซิงเจ๋อใช้สองขาหนีบเธอไว้ ไม่ให้เธอหนีไปไหน สายตาคมแหลม “ผมไปยุ่งไม่ได้?คุณจะมีความรู้สึกส่วนตัวอะไร?คุณยังมาเตือนสติผม?”ยินเซิงเจ๋อหัวเราะแบบไม่รู้จะพูดยังไงดี แล้วพูดต่อว่า “งั้นผมก็ต้องขอเตือนคุณว่า คุณไม่มีช่องว่างของความเป็นส่วนตัว นอกจากผม ถ้าผมไม่อนุญาตก็ไม่สามารถให้ผู้ชายคนอื่นเดินเข้ามาในชีวิตของคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี ไม่ต้องไปแล้ว” หลินโย่ยีเห็นเขาไม่มีเหตุผล แถมยังจะมาเปลี่ยนใจอีก ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้?! “ยินเซิงเจ๋อ ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้ ลูกผู้ชายอย่างคุณไม่รักษาสัจจะซักเลย รับปากว่าจะพาออกไป เสื้อผ้าก็เปลี่ยนเสร็จแล้ว คุณยังจะมาบอกว่าไม่ออกไปแล้ว นี่คุณคิดจะแกล้งฉันใช่ไหม” หลินโย่ยีรู้สึกว่าเขาจงใจทำ เป็นเพราะเมื่อกี้พูดไม่เข้าหูก็เลยไปใส่อารมณ์ที่เรื่องอื่น “ผมอยากจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ถ้าเกิดคุณให้ผมรู้ว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น ที่ผมเคยพูดไว้ก็จะเป็นจริงขึ้นมา” “ฉันไม่สน ฉันจะออกไป” หลินโย่ยีทำปากจุก สีหน้าไม่พึงพอใจ ไปนั่งโซฟาอย่างไม่มีมารยาท “ไม่ได้ วันนี้คุณทำให้ผมอารมณ์เสีย ลงโทษคุณด้วยการไม่ให้ออกไป นี้เป็นการลงโทษที่เบาแล้ว หลินโย่ยีคุณยังคิดที่จะมาต่อรองอีกเหรอ” วันนี้ยินเซิงเจ๋อก็อยากพาเธอออกไป คำพูดเมื่อกี้ทำให้เขาอารมณ์เสียจริง แต่ที่จริงเขาอยากจะให้เธอมาขอร้อง มาอ้อนวอนเขา ไม่พูดไม่ได้แล้วยินเซิงเจ๋อเป็นคุณชายที่เลือดดำนัก เป็นเพราะยินเซิงเจ๋อรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ้อนคนน้อยมาก เขาจงสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้อ้อนคนเป็นหรือเปล่า หลินโย่ยีอยากออกไปมาก เพราะไม่ง่ายเลยที่เขาจะตอบตกลง แล้วไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะเป็นเมื่อไหร่ และวันนี้ก็ตอบตกลงแล้วด้วย ความอยากออกไปได้ทวีคูณขึ้น ตอนนี้กลับบอกว่าไม่ไป ความรู้สึกนั้นมันเหมือนตกลงไปที่เหวลึก รู้สึกแย่มาก “โอ๊ะ คุณอย่าเป็นแบบนี้สิ คุณรู้ไหมว่าฉันอยากออกไปมากเลย ฉันอยากออกไปจริงๆ คุณดูอากาศวันนี้สิดีๆ้ เหมาะที่จะไปดูพระอาทิตย์ตกดินมากๆเลย” หลินโย่ยีอ้อนวอน ยินเซิงเจ๋อไม่ได้มองเธอ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ เหมือนไม่ได้ยินยังไงอย่างงั้น หลินโย่ยีเห็นเขาไม่สนใจเธอ ร้อนรนไม่รู้จะทำยังไง เธอรู้จักด้านนี้ของยินเซิงเจ๋อดี ถ้าเธอพูดแข็งกระด้างใส่เขา เขาก็จะแข็งกว่า ไม่ให้เธอสมใจอยากแน่นอน ดังนั้นเธอคิดได้แค่ต้องอ้อนเขา ไม่แน่ว่าอาจจะได้ออกไป หลินโย่ยีเข้าใกล้เขาอย่างระมัดระวัง ดึงแขนเสื้อเขาไว้พลางโย้กไปมา พูดเบาๆว่า “ ฉันอยากออกไปจริงๆ ชายหาดสวยมากเหมาะที่จะไปกับคนที่ตัวเองรัก และฉันก็อยากไปมาก คุณไม่ไปก็ได้ให้คนขับรถไปส่งฉันก็พอ” มองดวงตาที่น่าสงสารของหลินโย่ยี เขาเริ่มเปลี่ยนใจแล้ว ยินเซิงเจ๋อคิดในใจยัยซื่อบื้อคนนี้อ้อนคนไม่เป็นจริงๆ แต่ท่าทีของเธอยังใช้ได้ ยินเซิงเจ๋อจี้จุดบกพร่องต่อ พูดว่า “คุณจะไปเอง?ถ้าเหมาะที่จะไปกับคนรัก คุณไม่ให้ผมไปแล้วอยากให้ใครไปล่ะ?” หลินโย่ยีรู้สึกว่าถูกใส่ร้าย เธอพูดผิดอะไรอีกแล้ว?ทำไมเขาถึงชอบดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้องเสมอ?และคนนี้ก็ไม่มีตัวตนอยู่เลย หลินโย่ยีรู้สึกว่า เวลาที่ผู้ชายโกรธแบบไม่มีเหตุผลมักจะโวยวายมากกว่าผู้หญิง ฟังจากคำพูดของเขาเหมือนกำลังหึงอยู่ แต่หลินโย่ยีไม่อยากคิดว่าเป็นการหึง เธอไม่อยากคิดเองเอ่ยเองอยู่ฝ่ายเดียว อาจจะเป็นเพียงเพราะต้องการหาเรื่องก็ได้ ความคิดผู้ชายเธอไม่เข้าใจ ใครจะไปรู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไง?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่13 คาดไม่ถึงว่ายินเซิงเจ๋อจะพาเธอออกไป
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A