บทที่ 1   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1
“เอ้าดื่ม...ดื่มให้หมดแก้วเลยนะ” วีนัสหรือ “วี” และนภผู้ช่วยของเธอ รวมถึงทีมงานทุกคนชวนกันมาดื่มฉลองที่การถ่ายทำงานโฆษณาเสร็จตามที่กำหนดไว้ โดยเลือกที่จะดื่มกันที่ผับหรูภายในบริเวณโรงแรมที่ทีมงานพักในจังหวัดภูเก็ต ทุกคนมีหมายกำหนดการที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในบ่ายวันรุ่งขึ้น คืนนี้เลยดื่มฉลองกันเต็มที่เพราะพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องตื่นเช้า “วีนัส” เป็นคนดื่มไม่เก่งดื่มเพียงแค่สองสามแก้วก็จะรู้สึกมึนแล้ว แต่คืนนี้เธอดื่มไปมากกว่าปกติเพราะน้อง ๆ และทีมงานคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม “พี่วีมาชนแก้วกันหน่อย...ต้องดื่มให้หมดแก้วเลยนะพี่” นภชายหนุ่มรุ่นน้องผู้ช่วยคนสำคัญของวีนัสเอ่ยขึ้น “นภพี่ดื่มแก้วนี้เป็นแก้วสุดท้ายแล้วนะ ดื่มมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว” “โอเคครับแต่แก้วนี้พี่วีต้องดื่มทีเดียวให้หมดเลยนะ” วีนัสพยักหน้าก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่มโดยมีน้อง ๆ ช่วยกันเชียร์ “หมดแก้ว...หมดแก้ว” เมื่อหญิงสาวดื่มหมดแก้วก็ขอตัวกลับขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง โดยไม่ลืมที่จะทิ้งเงินไว้ที่นภในจำนวนที่ค่อนข้างมากสำหรับจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มในค่ำคืนนี้ “สนุกกันให้เต็มที่เลยนะพี่ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อน” จากนั้นก็ลุกไปนภเห็นว่าหญิงสาวเดินไม่ค่อยจะตรงทางนักก็รู้สึกเป็นห่วงจึงเดินตามไป “พี่วีเดินไหวหรือเปล่าให้ผมพาขึ้นไปส่งบนห้องไหม” แต่เธอปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกนภพี่ไม่เป็นไรไปเองได้ นภกลับไปสนุกกับเพื่อน ๆ ต่อเถอะ” พูดจบก็เดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปบนห้องพัก นภรอจนเธอขึ้นลิฟต์ไปแล้วจึงเดินกลับเข้าไปสมทบกับเพื่อนทีมงาน เพื่อดื่มกันต่ออย่างสนุกสนาน ในขณะนั้นเองวีนัสก็พยายามที่จะเปิดประตูห้องของตนเองแต่ไม่สำเร็จ อาจเพราะเนื่องมาจากการดื่มมากจนเกินไปนั่นเองทำให้สติพร่าเลือน จนไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปในห้องได้ “หรือว่าจะไม่ใช่ห้องนี้” วีนัสพยายามเพ่งสายตามองไปยังเลขที่ห้องที่ติดไว้ที่ประตูอีกครั้ง แต่เธอเห็นตัวเลขซ้อนกันและนั่นทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนเองเปิดผิดห้อง จึงเดินไปที่ห้องถัดไปกำลังจะเปิดประตูก็พบว่าประตูมันถูกเปิดแง้มไว้อยู่แล้ว “นี่เราปิดประตูไม่สนิทงั้นเหรอ ก่อนที่จะลงไปก็เช็คอย่างดีแล้วนี่นาว่าปิดประตูเรียบร้อย” วีนัสไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไรนักด้วยเพราะคิดว่าคงจะเป็นความเลินเล่อของตนเอง เธอเปิดเข้าไปในห้องพร้อมกับไม่ลืมที่จะปิดประตูและคล้องโซ่ที่ประตูอย่างดี และก็จัดการถอดกางเกงยีนส์ตัวเก่งที่สวมใส่อยู่เหลือเพียงชุดชั้นในสองชิ้นและเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหลวม จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับไปทันทีด้วยความมึนเมา ร่างสูงเกือบเปลือยก้าวออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับฮัมเพลงเบา ๆ เขามีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวเนื้อนุ่มเพียงผืนเดียวเท่านั้นที่พันรอบกายท่อนล่างของเขาเอาไว้ ส่วนช่วงบนตั้งแต่เอวขึ้นไปไม่มีผ้าสักชิ้นห่อหุ้ม เผยให้เห็นแผงอกล่ำสันที่มีละอองน้ำเกาะพราวไปทั้งตัว ท่อนแขนใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแขนข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นสูงพร้อมกับขยุ้มผ้าขนหนูสีขาวอีกผืนที่คลุมศีรษะซึ่งเปียกอยู่แล้วเช็ดผมไปมา ทันใดนั้นเองสายตาของเขาก็หันไปเห็นสิ่งแปลกปลอมบางอย่างจึงหยิบมันขึ้นมาดู “นี่มันกางเกงยีนส์ของใคร” ดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นของผู้หญิงซะมากกว่า และมันมาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร เขามองไปรอบห้องเพื่อหาร่องรอยที่มา และก็พบว่ามีหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงของเขา ทำให้เขาเดินเข้าไปมองใกล้ ๆ มองไล่มาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และก็ไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเรียวขาขาวที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ ที่หญิงสาวแปลกหน้าสวมใส่อยู่ น่าแปลกใจผู้หญิงคนนี้เป็นใครและเข้ามาในห้องนี้เพื่ออะไร ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปมองใบหน้าของเธอพร้อมกับปัดผมที่ลงมาปรกหน้าเพื่อเผยให้เขาเห็นใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้าชัดขึ้น “สวยนี่หว่า!” เขาได้กลิ่นเหล้าจากตัวของเธอ “สงสัยจะเมาเลยเข้าผิดห้อง” ชายหนุ่มแอบลูบไล้ใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะไปใส่กางเกงและขึ้นไปนอนเคียงข้างเธอ วีนัสลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ต้องปรับสายตาอยู่สักพักจึงรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนมากอดเอวของเธอเอาไว้ เธอไล่สายตาตามมือนั้นไปสุดท้ายก็พบกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ที่กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข “นี่มันอะไรกันผู้ชายคนนี้เป็นใคร” หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับสำรวจตัวเอง ทำไมกระดุมเสื้อของเราถึงได้หลุดรุ่ยแบบนี้ เธอเอามือกุมหัวพร้อมกับพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่กลับจำอะไรไม่ได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วนายคนนี้เป็นใครมาจากไหนทำไมถึงมานอนบนเตียงเรา วีนัสตัดสินใจที่จะปลุกเขาขึ้นมาถามให้รู้เรื่อง แต่เขารู้สึกตัวขึ้นมาซะก่อน “Hi!” “นายเข้ามาทำอะไรในห้องของฉันและเข้ามาได้ยังไง” วีนัสเปิดฉากการสนทนาขึ้นมาทันที และยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะสนใจในสิ่งที่เธอถาม แถมยังนั่งบิดขี้เกียจอีกต่างหาก “หูหนวกหรือไงถึงไม่ได้ยินที่ฉันถาม” แต่เขายังคงทำหน้างุนงงเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด และยิ้มให้เธอซึ่งวีนัสคิดว่ามันเป็นยิ้มที่ยียวนกวนประสาทมาก ๆ ‘หรือว่าเขาจะไม่เข้าใจภาษาไทย’ และก็ได้รับคำตอบเพราะเขาพูดกับเธอเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงดีทีเดียว เขาบอกกับเธอว่าเขาเป็นคนเกาหลีและรู้ภาษาไทยบ้างเพียงแต่ว่าเธอต้องพูดช้า ๆ ชัด ๆ เขาถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด และนั่นทำให้วีนัสต้องถามคำถามนั้นอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษแทน ความจริงเธอก็พูดเกาหลีได้เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง แต่แทนที่เขาจะตอบคำถามเธอเขากลับย้อนถามว่า “ผมต้องเป็นฝ่ายถามคุณต่างหากว่าคุณเข้ามาทำอะไรในห้องของผม” “อะไรนะ! คุณบอกว่านี่เป็นห้องของคุณงั้นเหรอ” “ใช่ห้องของผม” ‘ตายล่ะเมื่อคืนเราเข้าผิดห้องงั้นเหรอ...ทีนี้เราจะทำยังไงดี...โอ๊ยไม่น่าดื่มหนักเลยเราเป็นเรื่องจนได้’ หญิงสาวได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ “เมื่อคืนคุณทำอะไรฉันหรือเปล่า” เขาเหลือบตาไปมองที่หน้าอกของเธอที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาวนั่น เป็นเพราะกระดุมเสื้อของเธอมันหลุดลงมา ทำให้วีนัสรีบตะปบไปที่คอเสื้อ “มองอะไร...ห้ามมองนะ...ไม่อย่างนั้นฉันจะควักลูกตาของคุณออกมาเลย” “เพิ่งจะมาอายอะไรตอนนี้ช้าไปหน่อยหรือเปล่า” “พูดแบบนี้หมายความว่าไง เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา คุณทำอะไรฉันหรือเปล่า” “แย่จังนี่คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ...เมื่อคืนนี้เราสองคนมีความสุขกันมากเลย” “อะไรนะนี่นายข่มเหงฉันเหรอ” วีนัสพูดพร้อมกับประเคนกำปั้นไปที่ตัวเขาไม่ยั้ง ทำให้เขาต้องจับมือของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง “ผมเจ็บนะอารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะคุณ...ในเมื่อคุณจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมว่าเรามาทบทวนกันอีกสักรอบสองรอบเป็นไง มามะมาสานต่ออีกสักรอบผมรับรองอารมณ์ของคุณต้องดีขึ้นแน่” “ปล่อยฉันนะ...ปล่อยสิ...ฉันบอกให้ปล่อยไง” เขายอมปล่อยเธอแต่โดยดี “ฉันจะกลับละ” “เชิญตามสบายผมไม่ได้รั้งคุณไว้นี่” “นายหันหน้าไปก่อนสิ” เพราะความสนุกทำให้เขาอยากที่จะแกล้งเธอ “ทำไมผมต้องทำตามที่คุณสั่งด้วย ไม่ต้องอายหรอกมากกว่านี้ผมก็เคยเห็นมาแล้ว ผมน่ะเห็นร่างกายของคุณทุกซอกทุกมุม” ชายหนุ่มเน้นคำว่าทุกซอกทุกมุมอย่างจงใจ “ถือว่าฉันขอร้อง” เขาเห็นดวงตากลมโตของเธอคลอไปด้วยหยาดน้ำใสใสเจียนจะหยด ทำให้เขายอมหันหน้าไปทางอื่น วีนัสรีบถือโอกาสนี้หยิบกางเกงขึ้นมาใส่พร้อมกับติดกระดุมเสื้อ หยิบการ์ดสำหรับใช้เปิดประตูห้องของตนเอง จากนั้นก็เดินไปที่ประตูแต่ยังไม่วายได้ยินเสียงของเขาลอยมากระทบโสตประสาท “จะไปโดยที่ไม่ร่ำลากันหน่อยหรือ ผมยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลยนะ” “ไม่จำเป็น...เราคงไม่ได้พบเจอกันอีกแน่” พูดจบก็เดินออกจากห้องไป และก็พบนภมายืนรอด้วยอาการร้อนรนอยู่ที่หน้าประตูห้องของเธอ “พี่วี...เป็นอะไรหรือเปล่า” “พี่ไม่ได้เป็นอะไรนภมานานแล้วเหรอ” ชายหนุ่มรุ่นน้องพยักหน้า “ผมเคาะประตูเรียกพี่อยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ ยังคิดอยู่เลยว่าเมื่อคืนพี่วีดื่มหนักจะไม่สบายหรือเปล่า ลองโทรเข้ามือถือของพี่ตั้งหลายครั้งแต่ว่าพี่ปิดเครื่อง” “สงสัยแบตจะหมด” “ว่าแต่พี่วีเข้าไปทำอะไรในห้องนั้น” นภหมายถึงห้องที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา “อ๋อ...เอ่อ...พอดีเมื่อคืนพี่เจอเพื่อนแล้วเขาพักอยู่ที่ห้องข้าง ๆ เราก็เลยคุยกันจนดึก แล้วพี่ก็เลยเผลอหลับไป” นภยังไม่หายสงสัยแต่ยังไม่ทันได้ซักถามอะไร ประตูห้องเจ้าปัญหาก็เปิดออกมาซะก่อน ชายแปลกหน้าที่ถึงแม้จะเพิ่งตื่นนอนผมยุ่งเหยิง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงไป เขาสวมใส่แต่กางเกงนอนเพียงตัวเดียวเดินมาตรงที่นภกับวีนัสยืนอยู่ “คุณลืมไอ้นี่ไว้ที่ห้องผม” เขาพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุดให้หญิงสาว วีนัสเอื้อมมือไปหยิบแต่เขาไม่ยอมปล่อยมือเธอง่าย ๆ ทำให้หญิงสาวต้องดึงมือออกมาจากการเกาะกุมของเขา “ขอบใจ” “ไม่เป็นไร” พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าห้องไป นภเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เลยถามหญิงสาวตรงหน้า “เขาเป็นเพื่อนคนที่พี่พูดถึงเหรอ” “เอ่อ...ใช่” “พี่กำลังจะบอกกับผมว่าเมื่อคืนพี่คุยกับเพื่อนเพลิน จนเผลอนอนหลับไปในห้องของเพื่อนผู้ชายคนเมื่อกี้นี้ใช่ไหม” “จะถามอะไรนักหนามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ” วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เปล่าซะหน่อย...เพื่อนก็เพื่อนสิทำไมต้องอารมณ์เสียด้วย...ว่าแต่เพื่อนของพี่คนนี้หน้าตาคุ้น ๆ นะเหมือนผมเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก” “นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึกเอาเวลาไปเตรียมตัวเก็บของจะดีกว่า พี่ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนส่วนนายก็ไปบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเก็บของเดี๋ยวเราจะได้ไปสนามบินกัน” นภพยักหน้าและรอให้หญิงสาวเข้าห้องไปก่อนจากนั้นค่อยกลับไปที่ห้องพักของตนเอง
已经是最新一章了
加载中