บทที่ 8   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8
ขวัญชนกเดินออกมาจากห้องน้ำใช้ผ้าขนหนูขาวสะอาดซับน้ำจากใบหน้ารู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน หญิงสาวแตะครีมบำรุงผิวค่อยๆ เอามาทาตรงใบหน้าและลำคอกำลังจะทาตามแขนเรียวงาม แต่เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาเสียก่อน ครูสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ามองเบอร์ที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ‘เบอร์ใครไม่คุ้นเลย’ “สวัสดีค่ะ ขวัญชนกพูดค่ะ” “สวัสดีครับ คุณครูคนสวย” ผู้กองพันเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงล้อเลียนติดกลั้วหัวเราะ “คุณได้เบอร์หลินมาจากไหน” ขวัญชนกเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเมื่อจำน้ำเสียงล้อเลียนได้ว่าเป็นของอีตาผู้กองจอมยียวน “ก็...ไม่ยากเกินไปสำหรับความสามารถของนายตำรวจมือฉกาจ” ผู้กองหนุ่มตอบไม่ตรงคำถามแต่กลับเอ่ยชมตัวเองเสียงกลั้วหัวเราะ “หมั่นไส้ เรื่องชมตัวเองไม่มีใครเกิน” ขวัญชนกทิ้งตัวนั่งบนเตียงนอนเอ่ยประชดผู้กองเจ้าเล่ห์ ผู้กองพันปล่อยหัวเราะร่วนออกมาเมื่อเจอคำประชดประชัน “ดึกดื่นป่านนี้แล้วจะโทรมารบกวนคนอื่นทำไมคะ” ขวัญชนกเอ่ยต่อว่าตรงๆ “โทรมารายงานตัวครับ” ผู้กอบพันตอบยิ้มๆ “รายงานตัว” ขวัญชนกทวนคำพูดด้วยอาการงงๆ “อ้าว...ก็บอกแล้วไงครับ ถ้ากลับถึงบ้านเมื่อไหร่ผมจะโทรมารายงานตัวทันที แค่นี้ก็ทำเป็นลืม” ผู้กองแกล้งต่อว่าคนขี้ลืม ขวัญชนกยิ้มนิดหนึ่งก่อนจะทำเสียงแข็งเอ่ยถามเรื่องที่เธอสั่งไว้ “คุณให้น้องอาร์ตกินยาหรือยังคะ” “กินแล้วครับ” “ทั้ง 2 ขวดหรือเปล่าคะ” “ทั้ง 2 ขวดเลยครับ อย่างละ 1 ช้อนชา พรุ่งนี้จะเอาใส่กระเป๋านักเรียนให้เรียบร้อย ไม่ลืมแน่นอนครับ” ขวัญชนกได้ยินคำตอบแล้วก็หัวเราะขำยกมือปิดปากไม่ให้เสียงหัวเราะลอดออกมา “หลินกลับถึงบ้านหรือยังครับ” ผู้กองพันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล “ถึงแล้วค่ะ กำลังจะเข้านอน มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ หลินง่วงแล้ว” ขวัญชนกรู้สึกอบอุ่นที่มีคนคอยห่วงใย “มีครับ” “อะไรคะ” “ผมคิดถึงหลิน นอนหลับฝันดีนะครับ” ผู้กองหนุ่มเอ่ยบอกเสียงหวาน “บ้า! เพิ่งเจอกันแค่วันเดียวก็บอกว่าคิดถึง มันไม่เร็วเกินไปหรือคะ” ขวัญชนกแกล้งต่อว่าแต่ในใจลึกๆ ก็แอบดีใจ “ช้าเกินไปล่ะไม่ว่า อยากจะโทรมาบอกว่าคิดถึงตั้งแต่หลินขับรถออกมาจากร้านอาหารแล้ว” ผู้กองหยอดคำหวานผ่านทางโทรศัพท์จนครูสาวหน้าแดงก่ำ “หลินจะนอนแล้วแค่นี้นะคะ” ขวัญชนกเขินอายจนไม่รู้จะตอบผู้กองหนุ่มว่ายังไง หญิงสาวกดวางโทรศัพท์แล้วยิ้มหวานเป็นนานกว่าจะล้มตัวลงนอน ‘ไม่เคยถูกใจใครเท่าครูหลินเลย ให้ตายเถอะ’ ร.ต.อ.พันธวุธยิ้มกว้างพึมพำออกมา มือใหญ่หยิบใบนัดที่เพื่อนรักเขียนให้ขึ้นมาดูแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นี่ไง...แผนแรกของเขา “ไอ้หมอนัดเจอตอน 6 โมงเย็น พรุ่งนี้เจอกันคุณครูคนสวย” เช้าวันถัดมา...ขวัญชนกต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นรถเก๋งคันงามของผู้กองจอมยียวนมาจอดเทียบท่าหน้าโรงเรียนแต่เช้า หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา 7 โมงตรง “ฝนตกน้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่ อีตาผู้กองมาส่งลูกแต่เช้า” ขวัญชนกพึมพำด้วยความแปลกใจ ร.ต.อ.พันธวุธถือกระเป๋าลูกข้างหนึ่งมืออีกข้างก็กำข้อมือน้องอาร์ตไว้ นายตำรวจหนุ่มเดินยิ้มร่ามาแต่ไกล ไม่ได้ส่งลูกแค่หน้าโรงเรียนแล้วให้น้องอาร์ตลงมาจากรถเองเหมือนแต่ก่อน วันนี้ผู้กองหนุ่มเดินลงมาจากรถมาส่งลูกชายถึงมือคุณครูคนสวย “สวัสดีตอนเช้าครับ” ผู้กองยิ้มกว้างเอ่ยทักทาย “เมื่อคืนฝันถึงผมหรือเปล่า” ผู้กองเขยิบเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามครูหลินด้วยสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่” ขวัญชนกหน้าแดงก่ำเอ่ยตอบน้ำเสียงห้วนๆ แบบมะนาวไม่มีน้ำ “หว๋า...” ผู้กองหนุ่มแกล้งรอออกมาด้วยความผิดหวัง “ผมอุตส่าห์ฝันถึงคุณทั้งคืนเลย ไม่ฝันถึงผมสักนิดเลยหรือครับ” “ไม่ฝันถึงใครทั้งนั้นแหละ” ขวัญชนกแกล้งทำหน้าบึ้งข่มความอาย เรื่องอะไรจะให้รู้ว่าเราก็ฝันถึงคนถามเหมือนกัน “วันนี้มาส่งน้องอาร์ตได้แต่เช้าเลยนะคะ” “วันนี้คุณพ่อตื่นเช้าครับเลยมาส่งน้องอาร์ตได้แต่เช้า คุณพ่อบอกว่าอยากมาเจอครูหลินเร็วๆ” น้องอาร์ตเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการตอบแทนพ่อ “เรื่องจริงน่ะครับ ผมไม่ได้โกหก” ผู้กองเจ้าเล่ห์รีบบอกเมื่อเห็นดวงตากลมโตของครูสาวทำท่าไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ “ค่ะ! เชื่อค่ะว่าพูดจริง” ขวัญชนกมองค้อนพูดประชดผู้กอง “น้องอาร์ตเข้าไปในโรงเรียนก่อนนะคะ” “ครับ สวัสดีครับคุณพ่อ” น้องอาร์ตยกมือไหว้พ่อแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนๆ ผู้กองพันมองตามลูกชายแล้วก็หยิบใบนัดหมอยื่นให้ขวัญชนก “หมอนัดให้น้องอาร์ตไปพบตอน 6โมงเย็น เดี๋ยวผมจะมารับน้องอาร์ตสักประมาณ 5 โมงเย็นน่ะครับ” ขวัญชนกก้มลงมองเวลาที่หมอเขียนไว้ในใบนัด “คุณมาที่โรงเรียนเร็วนิดหนึ่งได้มั้ยคะ หลินกลัวรถติดเดี๋ยวจะไปไม่ทันเวลาที่หมอนัด” “ไปไม่ทันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ไอ้หมอศิวากรมันรอได้และมันต้องรอด้วย” ผู้กองหนุ่มเผลอพูดออกมาอย่างลืมตัว จนขวัญชนกชักเริ่มสงสัยออกมา “คุณว่าอะไรนะคะ” ขวัญชนกร้องถามด้วยความสงสัย “เออ...ไม่มีอะไรหรอกครับ เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันน่ะครับ” ผู้กองเอ่ยขอตัวแล้วรีบเดินไปที่รถ พอขับรถผ่านหน้าครูสาวผู้กองก็เอากระจกรถลงโบกมือและยิ้มกว้างให้ครูสาว ขวัญชนกยิ้มสดใสให้ผู้กองหนุ่มแต่ไม่กล้ายกมือบ๊ายบายให้ เพราะกลัวจะเป็นที่ผิดสังเกตของครูคนอื่นๆ ครูสาวรอรับนักเรียนจนนักเรียนมาครบทุกคนแล้วจึงเข้าไปในโรงเรียนและสั่งให้ยามปิดประตูรั้วโรงเรียนให้แน่นป้องกันนักเรียนหนีออกไปอีก ร้อยเอกหนุ่มลูกน้องคนสนิทของพลโทธิติ ลดกล้องถ่ายรูปลงเมื่อลูกสาวของท่านนายพลเดินเข้าไปในโรงเรียนแล้ว ร้อยเอกหนุ่มแอบถ่ายภาพระหว่างครูสาวกับนายตำรวจหนุ่มมากเป็นพิเศษ เพราะสังเกตว่าเวลาทั้งสองคนคุยกันครูสาวจะหน้าแดงตลอดเวลา ร้อยเอกหนุ่มคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะเป็นคนที่ท่านนายพลต้องการทราบประวัติมากที่สุด... 17.00 น. ผู้กองพันก็จอดรถหน้าโรงเรียนอนุบาล ขวัญชนกกับน้องอาร์ตรออยู่แล้ว ครูสาวเดินมาส่งน้องอาร์ตที่รถผู้กอง “คุณไปกับน้องอาร์ตนะคะ เดี๋ยวหลินขับรถตามไป” ขวัญชนกกำลังจะเปิดประตูรถให้น้องอาร์ตเข้าไปนั่งด้านหน้าแต่ถูกผู้กองหนุ่มจับมือบางไว้ก่อน “ไปด้วยกันนี่แหละครับ” ผู้กองเอ่ยท้วง “หลินขี้เกียจกลับมาเอารถอีกทีค่ะ เดี๋ยวไปเจอกันที่โรงพยาบาลเลย” ครูหลินพยายามดึงมือกลับ แต่ผู้กองกำข้อมือครูสาวแสนสวยไว้แน่นไม่ปล่อยง่ายๆ “เปลืองน้ำมัน ไปที่เดียวกันก็ไปด้วยกันสิครับ ประหยัดช่วยชาติ” ผู้กองเอ่ยแซวยิ้มๆ “จอดรถไว้ที่นี่น่ะครับ เดี๋ยวขากลับผมไปส่งที่บ้านเอง” ผู้กองยิ้มเจ้าเล่ห์ ถ้าได้ไปส่งครูสาวที่บ้าน นั่นก็หมายความว่าเขาได้อยู่ใกล้ชิดกับครูสาวนานขึ้นอีก “ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ประเทศชาติน่ะ ถึงยอมไปด้วย” ขวัญชนกแซวยิ้มๆ ก้าวเข้าไปนั่งด้านหน้าซึ่งนายตำรวจหนุ่มยิ้มกริ่มเปิดประตูรถรออยู่แล้ว “น้องอาร์ตขึ้นรถครับ เดี๋ยวเราไปหาอาหมอที่โรงพยาบาลครับ” ผู้กองพันเดินไปเปิดประตูรถให้น้องอาร์ตเข้าไปนั่งด้านหลัง พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลสาวๆ ต่างพากันมองนายตำรวจหนุ่มด้วยสายตาที่แสดงความชื่นชอบที่เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน วันนี้ผู้กองพันสวมเครื่องแบบตำรวจแบบเต็มยศ ร่างสูงใหญ่กำยำบึกบึน ดูหล่อสง่างามกับชุดตำรวจที่เข้ารูปพอดี อกกว้าง ไหล่ผึ่ง หน้าท้องแบนราบปราศจากไขมัน ไม่เฉพาะพยาบาลสาวๆ เท่านั้นที่มองนายตำรวจหนุ่ม คนไข้สาวๆ ที่นั่งรอตรวจก็มองชายหนุ่มรูปงามไม่วางตา ใช่ว่าผู้กองหนุ่มจะถูกสาวๆ มองแค่ฝ่ายเดียว ขวัญชนกเองก็ถูกหนุ่มๆ มองไม่วางตาเหมือนกัน ผู้กองหนุ่มหน้าถมึงทึงทำตาขวางใส่หนุ่มๆ ที่จ้องมองครูสาว วันนี้คนไข้มีค่อนข้างมากช่วงที่ยื่นใบนัดให้ประชาสัมพันธ์ ขวัญชนกถูกคนไข้ผู้ชายเบียดเกือบล้ม ผู้กองหนุ่มรีบคว้าตัวครูสาวมากอดด้วยความหวง มองชายที่เบียดขวัญชนกด้วยสายตาเขียวปัดไม่พอใจ เมื่อถึงคิวเข้าพบแพทย์ ขวัญชนกขอเข้าไปในห้องตรวจด้วย นายแพทย์ศิวากรเห็นครูสาวเข้ามาในห้องตรวจด้วยถึงกับทำหน้าเครียดจะร้องไห้ เพราะกลัวโกหกได้ไม่แนบเนียน “สวัสดีค่ะคุณหมอ วันนี้หลินขออยู่ในห้องตรวจด้วยนะคะ” ขวัญชนกยิ้มหวานทักทายคุณหมอพลางเอ่ยขออนุญาต นพ.ศิวากรทำหน้าเหยเกมองข้ามไหล่หญิงสาวไปสบตาเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างหลังครูสาว “นัดตรวจอีก 1 วัน” ผู้กองพันทำปากพะงาบๆ บอกเพื่อนรัก นพ.ศิวากรพยักหน้ารับบอกให้ทราบว่าเข้าใจสิ่งที่เพื่อนบอก “เชิญคุณครูนั่งก่อนครับ หมอขอตรวจอาการน้องอาร์ตสักครู่” ขวัญชนกนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของคุณหมอ “อาการของน้องอาร์ตเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมั้ยคะ” ขวัญชนกมั่วแต่เป็นห่วงอาการเจ็บป่วยของอาร์ตจนไม่รู้สึกตัวว่าผู้กองหนุ่มที่ยืนแนบชิดอยู่ข้างหลังเอามือมาวางไว้บนบ่าเธอทั้งสองข้าง นพ.ศิวากร นึกขอโทษครูบาอาจารย์ที่สอนวิชาแพทย์ให้กับตัวเอง จะขอโกหกครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อช่วยเพื่อนให้สมหวังในความรัก ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว “อาการดีขึ้นมากแล้วครับ แต่อีก 2 วัน หมอขอนัดตรวจอีกทีครับ” นายแพทย์หนุ่มบอกแบบกระอักกระอ่วนใจ “ค่อยยังชั่วหน่อย หลินนึกว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงดวงตา” ขวัญชนกเงยหน้ายิ้มให้ผู้กองหนุ่มอย่างโล่งอก “เดี๋ยวไปรับยาได้เลยน่ะครับ” นพ.ศิวากรเอ่ยกับครูสาว “กลับแล้วน่ะครับอาหมอ” น้องอาร์ตยกมือไหว้ลาอาหมอแล้วเดินออกไปนอกห้องตรวจพร้อมครูสาว ผู้กองพันกำลังจะเดินออกไปเหมือนกันแต่ถูกเพื่อนรักดึงแขนไว้ก่อน “ไอ้พัน! ถ้ากันถูกถอนใบอนุญาต แกต้องรับผิดชอบน่ะโว้ย” แพทย์หนุ่มโวยวายใส่เพื่อน ผู้กองหนุ่มหัวเราะฮึๆ “เออ...น๊า...กันไม่พูด นายไม่พูดใครจะไปรู้ อย่าทำหน้าซีเรียสสิว่ะ ช่วยเพื่อนให้มีความรัก...ได้บุญเยอะน่ะไอ้หมอ” ผู้กองเอ่ยกลั้วหัวเราะ “เรากลัวจะได้บาปก่อนจะได้บุญน่ะสิ” นายแพทย์ค้านเพื่อนหน้าเหยเก “ไปล่ะ จะรีบไปเอายา เดี๋ยวครูหลินสงสัยอีก” ผู้กองพันเดินเข้าไปสมทบครูสาวหน้าแผนกการเงินซึ่งขณะนี้ขวัญชนกจ่ายค่ายาเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปรับยาที่ช่องจ่ายยา ขวัญชนกก็ต้องเก็บอาการสงสัยไว้อีกครั้ง วันนี้เภสัชกรจ่ายเฉพาะวิตามินซีที่เป็นแบบน้ำมาขวดเดียว “วันนี้มีแค่วิตามินซีขวดเดียวหรือคะ” ขวัญชนกเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ค่ะ วันนี้คุณหมอสั่งยาให้แค่นี้ค่ะ” เภสัชกรยิ้มชี้แจงให้ทราบ ขวัญชนกไม่ได้เอ่ยถามต่อ ครูสาวเก็บความสงสัยไว้ในใจ เอาไว้คืนนี้เธอจะโทรมาถามเพื่อนเธอซึ่งเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้เหมือนกัน “ไอ้หมอมันคงเห็นว่ายาเหลืออยู่มั้งครับ มันถึงไม่จ่ายยาอื่นมาให้” ผู้กองพันรีบแก้ตัวให้เพื่อน อีกอย่างก็กลัวความลับจะแตกด้วย ขวัญชนกหยุดเดินหันมามองสบตากับผู้กองเจ้าเล่ห์ ดวงตากลมโตมองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของผู้กอง “อย่าให้รู้นะคะว่า...สมรู้ร่วมคิดกับคุณหมอ” ขวัญชนกเอ่ยขู่เสียงเย็น ผู้กองพันเห็นสายตาและน้ำเสียงคาดโทษของครูสาวแล้วชักจะหวั่นๆ ทำเป็นหัวเราะฮึๆ กลบเกลื่อนอาการพิรุธ “โธ่...ใครจะเอาอาการเจ็บป่วยของลูกมาล้อเล่นล่ะครับ” ผู้กองพูดอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียงนัก “ฮึ...ก็บอกแล้วไงค่ะ ว่าอย่าให้รู้ ไม่งั้นเจอดีแน่” ขวัญชนกขู่อีกรอบ “หิวแล้ว ไปกินข้าวร้านเดิมน่ะครับ” ผู้กองหนุ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว สงสัยจะโกหกครูสาวได้อีกไม่นาน ร.ต.อ.พันธวุธ พาขวัญชนกกับน้องอาร์ตมารับประทานอาหารที่ร้านเดิม ครูสาวทำหน้าที่สั่งอาหารและคอยดูแลน้องอาร์ตเหมือนเมื่อวาน “วันนี้ผู้กองห้ามดื่มเบียร์เด็ดขาด ขับห้ามเมา เคยได้ยินมั้ยคะ คุณตำรวจ” ขวัญชนกเอ่ยห้ามเสียงจริงจัง “กินขวดเดียวได้มั้ยครับ” ผู้กองหนุ่มเอ่ยต่อรองด้วยสีหน้ายิ้มๆ จริงๆ แล้วผู้กองไม่ได้อยากดื่มเบียร์สักเท่าไหร่ แต่อยากหาเรื่องมาต่อล้อต่อเถียงกับครูสาวเสียมากกว่า “ไม่ได้ค่ะ จะกินขวดเดียวหรือแก้วเดียวก็ไม่ได้ ถ้าผู้กองกินเบียร์ หลินไม่ให้ไปส่งที่บ้าน หลินจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเอง” ขวัญชนกจ้องหน้าผู้กองเขม็ง “ตกลงครับ เมาห้ามขับ เพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารัก“ ผู้กองหนุ่มมองขวัญชนกด้วยสายตาหวานเยิ้มตอนที่พูดประโยคสุดท้าย ขวัญชนกอายหน้าแดงก่ำเมื่อเจอคำพูดบอกรักกลายๆ ครูสาวทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเอ่ยให้สองพ่อลูกทานข้าว ผู้กองหนุ่มจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ของครูสาว ขวัญชนกลงจากรถแล้วไล่ให้ผู้กองรีบกลับเพราะสงสารน้องอาร์ตที่นอนหลับอยู่เบาะหลัง “ขอบคุณค่ะที่มาส่งหลิน ผู้กองรีบกลับเถอะค่ะ สงสารน้องอาร์ต ดูสิคงง่วงนอนมากหลับไม่รู้เรื่องเลย” “พรุ่งนี้หลินจะไปโรงเรียนยังไง ให้ผมมารับมั้ยครับ” ผู้กองอาสาด้วยความเต็มใจ ขวัญชนกหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงกลั้วหัวเราะ “จะตื่นมารับทันหรือคะ หลินต้องจากจากบ้านตั้งแต่ตี 5” “ทันสิครับ ถ้าตั้งใจแล้วก็ตื่นมาได้” ผู้กองตอบรับเสียงแข็งขัน “ไม่ต้องมารับหรอกค่ะ ผู้กองตื่นไปส่งน้องอาร์ตให้ทันเคารพธงชาติก็พอแล้วค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หลินจะให้คุณพ่อไปส่ง” ขวัญชนกหัวเราะเอ่ยแซวผู้กองด้วยสีหน้ายิ้มๆ ผู้กองพันยิ้มด้วยอาการเก้อเขินเมื่อเจอแซว “เข้าบ้านเถอะครับ” ขวัญชนกยิ้มหวานพิมพ์ใจให้ผู้กองก่อนจะเข้าไปในบ้านซึ่งคนสวนเปิดประตูรั้วหน้าบ้านรอนานแล้ว ผู้กองรอจนครูสาวเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้วจึงขับรถออกไป ขวัญชนกยังไม่ขึ้นไปบนห้องนอน หญิงสาวนั่งอยู่ตรงศาลากลางน้ำแล้วกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสาวที่เป็นหมออยู่ในโรงพยาบาลเดียวกันกับนพ.ศิวากร “สวัสดีจ้ะผึ้ง ยุ่งอยู่หรือเปล่า หลินมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย“ ขวัญชนกเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเกรงใจกลัวว่าเพื่อนจะอยู่เวรดึกและติดดูแลคนไข้อยู่ “ว่ายังไงย่ะยายหลิน มีเรื่องอะไรจะปรึกษาจ๊ะ ตอนนี้ฉันว่างยังไม่มีคนไข้ ปรึกษาเรื่องหัวใจได้เลย” แพทย์หญิงอรพรรณเอ่ยถามออกมาเป็นชุด ขวัญชนกหัวเราะออกมานิดหนึ่งเมื่อเจอเพื่อนรักแซว “หลินอยากรู้ว่าวันมะรืนผึ้งเข้าเวรตอนเย็นหรือเปล่า” “ทำไมย่ะ จะพาไปเลี้ยงข้าวหรือยังไง” “เลี้ยงแน่นอน แต่อยากให้ช่วยอะไรหน่อย” ขวัญชนกเอ่ยขอร้องเพื่อนสาว เธออยากรู้ว่าเรื่องที่เธอสงสัยจะเป็นจริงหรือเปล่า “ให้ช่วยอะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เพื่อนสาวแสนสวยคนนี้ยินดีเสมอ “ “วันมะรืนหลินจะพาเด็กนักเรียนของหลินไปพบแพทย์ตรวจอาการรอบๆ ดวงตา หลินอยากให้ผึ้งเป็นคนตรวจจะได้หรือเปล่า” “เป็นมากหรือเปล่าหลิน” คราวนี้แพทย์หญิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นงานเป็นการไม่มีแววล้อเล่นอีก “ไม่รู้สิ เมื่อวานหลินพาไปตรวจ หมอก็จ่ายแค่ยาแก้อักเสบกับยาแก้ไข วันนี้หมอนัดอีกบอกว่าไม่เป็นอะไรมากแล้วก็จ่ายแค่วิตามินซีมาให้ขวดเดี๋ยว หลินอยากรู้ว่าอีตาผู้กองพันพ่อเด็กกับอีตาหมอที่รักษาจะสมรู้ร่วมคิดกันหลอกหลินหรือเปล่า” แพทย์หญิงอรพรรณหัวเราะออกมาจับน้ำเสียงได้ว่าเพื่อนรักจะเน้นหนักตรงคำว่า ‘ผู้กองพัน’ “หมอนัดกี่โมงล่ะหลิน” “นัด 6โมงเย็น” ขวัญชนกบอกเวลาที่หมอนัดให้เพื่อนสาวทราบ “เดี๋ยวตอนที่หลินยื่นใบนัดกับประชาสัมพันธ์ หลินบอกว่าต้องการพบเราน่ะ เดี๋ยวเราจะไปสั่งพยาบาลไว้ด้วย” “ได้จ้ะ ขอบใจมาก วันมะรืนเจอกันนะ” ขวัญชนกนัดแนะเวลากับเพื่อนรัก “จ้ะ บายจ้ะเพื่อน” แพทย์หญิงเอ่ยลาเพื่อนสาว ขวัญชนกกดวางโทรศัพท์แล้วก็คิดถึงใบหน้าคมเข้ม ยิ้มกวนๆ ของผู้กองพัน “เดี๋ยวก็ได้รู้กันว่าผู้กองหลอกหลินหรือเปล่า”
已经是最新一章了
加载中