หนี - 52
วันนี้คุณแม่ของผมก็ยังขอตามผมมาเยี่ยมแอปเปิ้ลทุกวัน แต่ถึงท่านจะมาเยี่ยมก็คงจะถูกไล่อีกตามเคย ทุกคนคงสงสัยสิ่นะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ย้อนกลับไปตอนที่ 49
ผมที่พยายามขับรถออกตามหาแอปเปิ้ล และที่ต่างๆที่คิดว่าคาร่ามักจะไปสุดท้ายก็ไม่พบ จึงตอนนี้มันเรื่องใจคอไม่ดีแล้วด้วย
"มึงใจเย็นก่อนนะเว้ย ไอ้เหี้ยแม็ททิว!!!" เสียงฟิวเวอร์พูดขึ้น หลังจากที่ไอ้แม็ททิวโทรไปขอความช่วยเหลือ
"เย็นเหี้ยอะไร!! เมียกูกับลูกกูจะเป็นตายร้ายดี!!..กูก็ไม่รู้"
"อะไร....อะไรนะ...เมียมึงท้องหรอ" ฟิวเวอร์ที่ได้ยินสิ่งที่ไอ้แม็ททิวพูดออกมา มันทำให้เขาตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมาก
"เออ!!"
จังหวะที่ผมกำลังนั่งหน้าเครียดกับปัญหาที่ไม่มีทางแก้ เสียงแอดมินชั่นไลน์ก็ดังขึ้น ผมจึงก้มลงไปหยิบมือถือและกดเข้าไปดู
ผู้หวังดี : ถ้าไม่อยากให้ลูกและเมียตาย รีบไปที่นี่โดยด่วน ก่อนจะสายไป!!
ผู้หวังดี : ได้ส่งโลเคชั่นให้คุณ
"เฮ้ย!! แล้วนั้นจะไปไหนว่ะ รอกูด้วย!!" ฟิวเวอร์ที่ยืนตกใจก็หันกลับไปถามที่เห็นไอ้แม็ททิวที่ตอนแรกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่รถ
ไอ้ฟิวเวอร์ที่เห็นเขาวิ่งตรงไปที่รถเฟอร์รารี่สีดำที่จอด ก่อนจะขับออกไปดีที่เขาวิ่งตามไปติดไม่งั้น ถูกมันทิ้งไว้แน่นอน
หลังจากที่ผมได้โลเคชั่นจากใครไม่รู้ที่ส่งมาให้ มันทำให้ผมรีบขับรถไปตามที่อยู่ที่ได้รับ ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงโกดังร้างไกลจากตัวเมือง ผมจอดรถและรีบเปิดประตูก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านในอย่างเร่งรีบ
ตุ๊บ!! ตุ๊บ!! ตุ๊บ!! ตึ๊บ!!
"กริ๊ดดดดด!!" เสียงกรีดร้องตกใจของแอปเปิ้ลและไหนจะเสียงเหมือนคนตกบันไดลงมา ผมก็รีบวิ่งไปดู สิ่งที่ผมเห็นคือร่างบางของแอปเปิ้ลนอนไม่ได้สติ และเลือดก็ไหวออกมาตรงบริเวณขา
แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นคาร่ายืนมองลงมา ก่อนที่เธอจะตกใจที่เห็นผมยืนอยู่
"ไม่ใช่!!! ฉันไม่ได้ทำ!!!" เสียงร้องอย่างคนขาดเสียของคาร่าดังขึ้น มันทำให้ผมเดินขึ้นบันไดไปหาเธอช้าๆ ไม่นานก็เดินมาถึงตัวของคาร่าที่ตอนนี้ยืนตัวสั่นและล้มลงกองกับพื้น
ผมจึงนั่งลงและเอื้อมมือไปจับที่ใบหน้าของคาร่า ก่อนจะออกแรงบีบจนใบหน้าของคาร่าเจ็บปวด แต่มันก็ไม่เท่ากับหัวใจของผมที่มาเห็นสภาพเมียตัวเองเป็นแบบนั้น
"มึงกล้าดีอย่างไรมาทำร้ายเมียกูกับลูกกู"
"เมีย!! ถ้าไม่มีมันพี่ก็ต้องเป็นของฉัน...ฮือออ...ถ้าไม่มีมัน..."
เพียะ!!
"ไอ้แม็ททิว!! มึงไปดูเมียมึงก่อน" ไอ้ฟิวเวอร์ที่เดินตามมาที่ก็เห็นร่างบางของแอปเปิ้ลนอนหมดสติอยู่ แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นว่าบริเวณหว่างขามีเลือดไหวออกมา
"ต่อให้ไม่มีแอปเปิ้ล...กูก็ไม่เอามึง!!!" ผมที่อยากจะฆ่าคาร่าให้ตายคามือ ก็ต้องชะงักเสียงเรียกของไอ้ฟิวเวอร์ที่ตะโกนเสียงดัง
"ไม่จริ...ง...ไม่จริง....กริ๊ดดดดดด!!!"
’ไอ้เปเปอร์’
(......)
"มาหากูที่โกดังร้าง"
(อื้ม)
หลังจากที่ผมโทรหาไอ้เปเปอร์และส่งโลเคชั่นไปให้มันแล้ว ผมก็หันไปมองคาร่าที่ถูกไอฟิวเวอร์จับกระชากแขนให้ลงบันไดมา
"กริ๊ดดดดด....ฮืออ...เจ็บบ..." พอเหลืออีกสามขั้นมันก็ผลักเธอล้มลงไปนอนกองกับพื้น
ผมจึงเลิกสนใจเดินตรงไปหาแอปเปิ้ลที่นอนหมดสติอยู่และอุ้มร่างบางขึ้น ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น
ผมวิ่งมาที่รถและวางร่างที่หมดสติลงก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับและขับรถออกไปทันที ผมขับรถมุ่งตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง....
ผมอุ้มร่างบางออกมาจากรถและวางเธอลงบนเปล ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข็นเปลเข้าไปในโรงพยาบาล
"ญาติรอข้างนอกก่อนนะคะ!!"
นางพยาบาลเข้ามาขวางทางไม่ให้ผมตามเข้าไปในห้อง ICU ผมได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอกห้องฉุดเฉิง ผมรู้สึกไม่ดีเลยได้แต่เดินไปเดินมาอย่างหนูติดจั่น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมที่กำลังเดินไปเดินมาก็ต้องชะงักและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
’ไอ้ฟิวเวอร์’
"อื้ม"
(จะมาจัดการเองหรือจะให้คนของไอ้เปเปอร์จัดการให้!!??)
"จัดการ....."
(อะไรนะ!!??....)
"รอแปบ!!"
ผมที่กำลังคุยโทรศัพท์และจะบอกว่าผมจะกลับไปจัดการคาร่าเอง แต่ก็ต้องหยุดสนทนาไว้เพราะประตูห้องฉุกเฉินได้เปิดออก พร้อมกับคุณหมอที่สวมชุดสีเขียวเดินออกมาด้วยใบหน้าเศร้า
"หมอ!!! เมียกับลูกผมเป็นไงบ้างครับ!!" ผมที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ก็ต้องหยุด และเดินตรงไปหาคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องICU ก่อนจะถามคุณกมออย่างร้อนรน
"เอ่อ...." คุณหมอที่เดินออกมาจากห้องไอซียู และก็ต้องชะงักเพราะญาติของคนไข้ถามเรื่องการรักษา
"หมอ!! ลูกเมียผมปลอดภัยใช่ไหม!!!" ผมที่ถามคุณหมอและเห็นท่าทางลำบากใจของคุณหมอ มันทำให้ผมต้องถามซ้ำอีกรอบ
"ภรรยาของคุณปลอดภัยดีครับ แต่เด็กในท้อง" คุณหมอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะบอกข่าวดีและข่าวร้ายให้สามีคนไข้ได้รู้
"ลูกผมปลอดภัยใช่ไหมหมอ!!!" เมื่อได้ยินว่าเมียตัวเองปลอดภัยมันก็ทำให้ผมรู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อย แต่ยังเหลืออีกคนนั้นก็คือลูกของผม เด็กในท้องของแอปเปิ้ลที่ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง
"ผมเสียใจด้วยครับ เราไม่สามารถช่วยเด็กในท้องได้"
"ไม่จริง!!....ฮืออ....หมอโกหก!!...ลูกของผ....ผม.." พอผมได้ยินสิ่งที่คุณหมอบอกว่า เขาไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในท้องของแอปเปิ้ลได้ มันให้ผมล้มทั้งยืนก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ
"ผมขอโทษจริงๆครับ...เราไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้" คุณกมอที่เห็นสามีของคนไข้ล้มทั้งยืนและร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ คุณหมอจึงย่อตัวลงและเอื้อมไปจับบ่าของเขา และกล่าวขอโทษเขาอีกครั้ง
"ไม่จริง!!!....ฮือออ....ลูกพ่อ!!!" ผมได้แต่ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
(ไอ้แม็ททิว!!!...เกิดอะไรขึ้น!!??)
"ฮือออ...ไอ้ฟิวเวอร์เดี๋ยวกูไปจัดการอีนั้นเอง!!"
(เออ!!...เดี๋ยวกูกับไอ้เปเปอร์ไปหามึงที่โรงพยาบาล!!)
หลังจากที่ผมกดวางสายไอ้ฟิวเวอร์ ไม่นานประตูห้องไอซียูก็เปิดออกพร้อมกับเจ้าหน้าที่ กำลังเข็นเปลออกมา ทำให้ผมที่นั่งอยู่ก็รีบลุกขึ้นและวิ่งตรงไปหาแอปเปิ้ลที่นอน
เจ้าหน้าที่เข็นเปลไปที่ห้องพักVIP พอเจ้าหน้าที่จัดการย้ายตัวคนไข้ลงบนเตียงนอนเรียบร้อย และนางพยาบาลและผู้ช่วยต่างวัดความดันวัดไข้ก่อนจะเดินออกไป
ก๊อก
ก๊อก
ก๊อก
แอ๊ด!!
"น้องเป็นไงบ้างว่ะ!!??" เสียงเปิดประตูห้องคนไข้พร้อมกับเสียงทักถามของบุคคลเข้ามาใหม่ ผมที่นั่งจับมือแอปเปิ้ลอยู่ก็หันกลับไปมอง ก็เห็นไอ้ฟิวเวอร์และไอ้เปเปอร์เดินตรงมาหาผม
"ปลอดภัยดีแต่....ฮืออ" ผมหันไปตอบคำถามของไอ้ฟิวเวอร์ ก่อนจะสะอื้นออกมาเมื่อคิดถึงลูกในท้องของแอปเปิ้ล
"กูเสียใจด้วย!!" ไอ้ฟิวเวอร์ที่เห็นน้ำตาลูกชายของแม็ททิว เขาก็เดินตรงมาหาและเอื้อมมือไปจับบ่า ก่อนจะแสดงความเสียใจที่เพื่อนของเขาเสียลูกไป
"กูเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน...ไม่สามารถปกป้องลูกเมียได้!!.....ฮืออ" ผมที่ตอนนี้อ่อนแอและรู้สึกผิดต่อหน้าที่ของตัวเอง ได้แต่ร้องไห้และโทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องคนสำคัญไว้ได้
"ตั้งสติก่อน!!!....ไอ้แม็ททิว!!" ไอ้ฟิวเวอร์รีบเข้าไปห้ามเหมือนเห็นแม็ททิวกำลังทำร้ายตัวเอง มันทำให้เขาต้องเข้าไปเตือนสติเพื่อนตัวเอง
ผัวะ!!
"ไอ้เหี้ยเปเปอร์...มึงทำอะไรของมึงว่ะ!!??" จังหวะที่ไอ้ฟิวเวอร์กำลังห้ามแม็ททิว เปเปอร์ที่ยืนดูอยู่นานก็เดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสอง ก่อนจะจับเสื้อของแม็ททิวขึ้นมาและชกเข้าไปที่ใบหน้าอย่างแรง
ฟิวเวอร์ที่ยืนมองเปเปอร์อย่างงงปมสงสัย ก็จะถามเปเปอร์ขึ้นมา
"คนที่เสียไม่ได้มีแค่มึง...ถ้าน้องตื่นและรู้เรื่องลูก...เมียมึงนี้ล่ะที่เสียใจมากที่สุด....ตอนนี้มึงต้องเข้มแข็งเพื่อเมียมึง ไม่ใช่ร้องห่มร้องไห้แบบนี้!!" เปเปอร์ที่ชกเข้าไปที่ใบหน้าของแม็ททิว ก่อนจะตวาดเสียงดังอย่างเหลืออด
"ฮืออออ" ผมที่คลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเอง ก่อนจะโดนไอ้เปเปอร์ชกเข้าไปที่ใบหน้า ไอ้เวรนี้หมัดหนักซิ่ เมื่อผมได้สติก็คิดว่าถ้าเมียผม เธอคงเสียใจมากกว่าใคร
"ร้องไห้ให้พอ และเรื่องคู่หมั้นมึงจะจัดการเองใช่ไหม!!??"
"ไม่!! มึงจัดการเลย...เอาให้สาสมกับสิ่งที่มึงทำกับลูกเมียกู!!" ผมที่ได้ยินไอ้เปเปอร์บอกเรื่องของคาร่า ตอนแรกผมก็อยากจะจัดการเองมากกว่า แต่ตอนนี้สภาพจิตของแอปเปิ้ลสำคัญมากกว่า ถ้าเธอตื่นขึ้นมาและรู้เรื่องลูกเธอคงจะเสียใจมาก
ผมจึงบอกให้ไอ้เปเปอร์มันจัดการเลย และยังบอกเจตนาของตัวเองทำอย่างไงก็ได้ให้มันสาสมกับสิ่งที่เธอทำกับลูกเมียผม
"หึหึ..ถ้ากูทำมันตายคงไม่โกรธกูนะ"
"หึหึ..กูไม่อยากให้ตาย ทรมานให้มันตายทั้งเป็น" ผมหัวเราะในลำคอที่ได้ยินสิ่งที่เปเปอร์มันพูด ตายงั้นหรอ มันง่ายไปและไม่สาแก่ใจผมด้วยคนอย่างคาร่ามันต้องตกนรกทั้งเป็น
"ตามนั้น"
"กูขอพูดอะไรหน่อย!!" ฟิวเวอร์ที่ยืนฟังสิ่งที่สองคนนี้พูดคุยกัน มันทำให้เขารู้สึกว่าเพื่อนของเขาทั้งสองมันแบบว่า
"._." ผม
"._." เปเปอร์
"พวกมึงสองตัวนี้ โคตรน่ากลัวเลยว่ะ ไอ้พวกโรคจิต!!" ฟิวเวอร์ที่เห็นสายตาของทั้งสองคน ถึงกับขนลุกเลยที่เดียว ก็จะบอกพวกมันสองคนที่ทำตัวอย่างกับพวกโรคจิตเลย
"หึหึ"
กลับมาปัจจุบัน.....
วันนี้ฉันตั้งใจที่จะหนีเขา และครอบครัวของนายแม็ททิว เพราะฉันคงทนอยู่เห็นหน้าคุณหญิงกัลยาและคู่หมั้นของเขาไม่ได้ ฉันไม่ได้เอาอะไรไปเลยนอกจากเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า คงจะสงสัยใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงมีเงิน เพราะครอบครัวฉันมีธุรกิจส่งออกเครื่องประดับ แต่บริษัทไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย แต่อยู่ที่อิตาลีส่วนเงินที่เธอใช้อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเงินของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นคนส่งมาให้
’คุณแม่’
(ฮัลโหลลูกสาว โทรหาแม่มีอะไรหรือเปล่า)
"คุณแม่ค่ะ!! หนูอยากไปอยู่ที่อิตาลีค่ะ!!"
(มีอะไรหรือเปล่าลูก!!??) เสียงในปลายสายถามขึ้นอย่างสงสัย ที่บุตรสาวบอกว่าจะกลับอิตาลี
"อ่อ...หนู...." ฉันไม่รู้จะตอบคำถามของคุณแม่อย่างไรดี เพราะเธอไม่เคยบอกอะไรท่านเลย มันทำให้เธอพูดไม่ถูก
(เอาล่ะ!! แม่จะไม่ถามอะไรมาก...แต่ถ้าหนูอยากมาอยู่ที่อิตาลี เดี๋ยวแม่จะจองตั๋วไว้ให้ จะมาเมื่อไหร่)
"ตอนนี้ค่ะ!!"
(ทำไมถึงรีบมา....แล้วเรื่องเรียนของหนูล่ะ)
"หนูจะดร็อปไว้ก่อนค่ะ"
(โอเค..แม่จองให้แล้วนะ เร็วสุดตอน ห้าทุ่มครึ่ง)
"ขอบคุณค่ะ หนูรักแม่นะคะ"
(จ้า...แม่ก็รักลูกนะ)
หลังจากที่ฉันโทรไปหาคุณแม่และขอร้องให้ท่านจัดการจองตั๋วสนนามบินให้เธอ เพราะคืนนี้เธออยากกลับบ้านกลับไปหาพ่อกับแม่ที่อิตาลี
เพราะตั้งแต่ที่เธอต้องย้ายมาเรียนที่ประเทศไทยเธอยังไม่มีโอกาสกลับไปหาพวกท่านเลย ถึงการกลับไปครั้งนี้จะเป็นการหนีและทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี้ก็ตาม แต่ถ้าเธอเข้มแข็งพอเธอก็จะกลับมาเอง
ส่วนคาร่าเห็นพวกพี่ฟิวเวอร์และพี่ดปเปอร์บอกว่า จัดการให้เรียบร้อยแล้วแต่พอเธอถามว่าจัดการอย่างไร พวกเขาก็ไม่ยอมบอกและยังพูดอีกว่า
"ถ้าอยากรู้ก็ลองไปถามไอ้แม็ททิวดู"
พอพี่เปเปอร์พูดแบบนี้ฉันก็ไม่คิดอยากจะรู้อีกเลย ถึงแม้ว่าตัวเองจะอยากรู้มากก็ตาม แต่ถ้าให้ถามเขาเรื่องของคาร่าเธอก็ไม่อยากจะพูดขึ้นและคิดถึงมัน
ก๊อก
ก๊อก
ก๊อก
แอ๊ด!!
"พี่ไปซื้อผลไม้มาให้ทาน...ลองทานหน่อยนะมันมีประโยชน์" ผมที่ออกไปซื้อผลไม้มาให้แอปเปิ้ล พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเธอนั่งพิงหัวเตียงอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะยกถุงผลไม้ให้แอปเปิ่ลดู
"ฉันไม่หิว!!" ฉันที่พึ่งวางสายคุณแม่ไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูดังพร้อมกับคนที่เปิดเข้ามาใหม่ พอเธอรู้ว่าใครมาเธอก็หันกลับไปมองด้านนอกหน้าต่างเหมือนเดิม
ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาฉันและยกถุงผลไม้ขึ้นมาให้เธอดู และส่งยิ้มหวานมาให้เธอมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่เธอตัดสินใจจะหนีเขาฉันจึงหันหน้าหนี
"ทานอะไรซะนิดนะครับ..มาเดี๋ยวพี่ปอกให้"
"ก็บอกว่าไม่หิวไง!!!"
"หนูยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะ"
"ฉันจะนอน...นายก็กลับไปได้แล้ว...วันนี้ไม่ต้องเฝ้าฉัน"
"แต่...."
"ออกไป!!!.....ฉันบอกให้ออกไปไง...ออกไป!!!" ฉันไม่สนใจว่าเขาจะพูดอะไร เธอตวาดเสียงดังและออกปากไล่เขาให้กลับไป เพราะเธอไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก
"ครับๆ...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาหาใหม่!!" ผมทำได้แต่ยอมเพราะไม่อย่างให้สภาพจิตของแอปเปิ้ลแย่ไปมากกว่า ผมจึงยอมเดินออกมาจากห้องพักแต่ไม่ได้ไปไหนไกล ผใเลือกจะมานั่งเฝ้าแอปเปิ้ลอยู่ที่หน้าห้องพัก
หลังจากที่ฉันไล่นายแม็ททิวให้ออกไปจากห้องพักได้ เธอก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนก่อนจะหันไปมองจานผลไม้ที่เขาเป็นคนปอกให้ เธอหยิบจานนั้นขึ้นมาก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ
"ฮืออออ"
"ฮืออออ....ขอโทษ....ฮืออออ"
ฉันที่ร้องไห้จนพอใจแล้วและเตรียมตัวจะหนีออกจากโรงพยายาล เธอยกแขนที่มีเข็มน้ำเกลืออยู่ ก่อนจะกระชากสายน้ำเกลือออกจนเลือดไหวออกมา
ฉันรู้สึกเจ็บแขนที่กระชากสายน้ำเกลือออก แต่ก็ต้องอดทนและลุกขึ้นยืน จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และค่อยๆเดินตรงมาที่ประตูห้องและเปิดออกเล็กน้อยเพื่อดูว่าเขาอยู่ไหม
ก็เห็นนายแม็ททิวนอนหดตัวอยู่บนเก้าอี้ยาว ฉันจึงเดินเข้าไปใกล้ๆและย่อตัวลงนั่งตรงหน้าเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเขาเบาๆเพื่อไม่ให้เขารู้สึกตัว
"ฮือออ....ขอโทษที่หนีไป...ฮือออ"
"ฮืออ..พี่แม็ททิว...หนูอยู่ที่นี้ต่อไปไม่ได้....ฮืออ"
"หนูรักพี่นะคะ"
จุ๊บ!!
ฉันบอกลาเสร็จก็ก้มลงจุมพิตริมฝีปาดของเขาเบา และถอยออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินออกไปทันที เธอยกมือขึ้นปิดปากตัวเองที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
เธอพึ่งรู้สึกตัวว่ารักเขามากแต่ก็ต้องหนีเขาไป เพราะเธอไม่อยากจะจดจำเรื่องเลวร้ายที่นี่ พอเดินออกมาจากโรงพยาบาลได้เสร็จฉันก็รีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ และมุ่งหน้าตรงไปสถานีสนามบินทันที
-------------------------------------------