ตอนที่ 4   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4
“นายอยู่ที่ไหน.. จริงเร้อ.. ไม่ใช่มาทำเป็นคนโรคจิตแถวๆ นี้นะ.. ถ้าอยากให้เชื่อก็จะเชื่อแต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าน้องสาวเราน่ะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะหวาดผวาว่าคนโรคจิตจ้องจะทำร้าย” “พี่ชายว่ายังไงคะ” ในทันทีที่เขาวางสายคนที่นั่งจ้องเขาโทรศัพท์ตาแป๋วอยู่นี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “อยู่สุเมตรากำลังร่วมงานเปิดศูนย์การศึกษาแห่งใหม่” “อ้าว! งั้นที่เราสงสัยก็ไม่ใช่ซิคะ อย่างนี้แล้วใครกันล่ะที่ไปซุ่มดูน้ำตาลหรือว่าจะเป็นคนโรคจิตจริงๆ เอริทคะ.. เอริท!” สามีที่เหมือนจะอยู่ในภวังค์ความคิดโดยไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอเอ่ย ทำให้ฮาน่าต้องเรียกซ้ำอย่างงงๆ ในกิริยาที่เขาเป็นก่อนดวงตาหวานที่มากมายไปด้วยความรักนั้นจะส่งผ่านความห่วงใยไปให้ “ครับ.. ผมไม่เป็นอะไร แค่นึกสงสัยบางอย่างเท่านั้น” “อะไรล่ะคะที่สงสัย แล้วเกี่ยวกับพี่ชายหรือเปล่า” “ไม่หรอก.. เดี๋ยวผมไปข้างนอกหน่อยนะ คุณแม่ยังสาวยังสวยต้องรีบนอนนะครับเดี๋ยวพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้คุณลูกโมโหเอาได้ แล้วคุณพ่อสุดหล่อก็ไม่อยากเจอเหวี่ยงด้วย” คำพูดหยอกเย้าก่อนที่คนร่างสูงจะก้มลงมาหอมแก้มนวลที่เริ่มซับสีระเรื่อเสียฟอดใหญ่ เพราะไอ้อาการเหวี่ยงที่เขาบอกนั้นคงไม่พ้นเรื่องที่เธอเหม็นขี้หน้าสามีทุกครั้งที่เกิดความเครียดจนไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ แต่ยิ่งเธอเหวี่ยงก็ยิ่งไปกระตุ้นความต้องการบางอย่างของเขามากยิ่งขึ้นเพราะ “ฮาน่า.. คุณรู้มั้ย เวลาคุณท้องน่ะ..เซ็กซี่มาก” เสียงทุ้มสั่นๆ ที่เอ่ยทุกครั้งยามแอบอิงชิดกันนั้นมันให้ความรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาเสียดื้อๆ “คิดลึกอีกแล้วนะเราน่ะ ไปล่ะ.. กลับไม่ดึกนะจ๊ะ แต่ถ้ากลับเช้าจะโทรมาบอก” “เอริท! อุ๊บ!” น้ำเสียงเย้ายั่วพร้อมสีหน้าท่าทางที่เหมือนบ่งบอกว่าจะไปในสถานที่ต้องห้ามทำให้ฮาน่าร้องเสียงหลงก่อนจะตกใจเพราะความอุ่นวาบทาบทับลงมาที่ริมฝีปากบอบบางอีกครั้ง และต้องยิ้มกับคำทิ้งท้ายที่ฝากไว้ให้เลือดลมฉีดพล่านเล่นๆ “จะไปมีใครได้ล่ะทูลหัว แค่นี้ผมก็..เหนื่อยแล้ว หึหึหึ...” ฮาน่ามองตามสามีของเธอที่เดินออกไปพลางฝ่ามือบางลูบไล้หน้าท้องที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอมีเวลาอีกแค่ 3 เดือนที่จะเตรียมตัวเป็นคุณแม่คนใหม่ แต่ปัญหาที่ต้องสะสางให้เสร็จก็คือเธอต้องการกลับไปคลอดชายหนุ่มน้อยๆ นี้ที่อารันดา เพราะต้องการให้ลูกที่เกิดมาอยู่ในฐานะท่านชายรัชทายาทแห่งอารันดาอย่างถูกต้องตามกฎหมายอารันดาทุกประการ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะต้องการครอบครองแผ่นดินอารันดาต่อจากชี้คฟีรอสผู้เป็นพี่ชายแต่เป็นเพราะไม่ต้องการให้มีคำครหาเกิดขึ้นในอนาคตหากชี้คฟีรอสไม่มีทายาทไว้สืบสายโลหิต และเหตุผลที่ลึกลงไปกว่านั้นที่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเธอก็คือ เธอต้องการพาหัวใจที่หลุดลอยจากอารันดามาถึงเมืองไทยนี้..ไปส่งคืน ที่สุเมตราหนึ่งในชนเผ่าแห่งอารันดา ในงานเลี้ยงต้อนรับบรรดาคณะของชี้คฟีรอสและผู้ติดตามที่เดินทางมาเปิดศูนย์การศึกษาครบวงจรแห่งใหม่ ชี้คฟีรอสในชุดประจำชาตินั่งเป็นประธานในพิธีโดยมีองครักษ์นั่งขนาบข้างกาย บรรยากาศงานเลี้ยงเป็นไปอย่างชื่นมื่นสนุกสนาน ทว่าชี้คฟีรอสที่นั่งเป็นประธานในพิธีได้แต่ก้มศีรษะน้อมรับหรือยินดีในสิ่งที่มีคนพูดคุยด้วยเท่านั้นหรือหากจะมีข้อโต้แย้งธาธีองครักษ์คู่ใจก็จะเป็นผู้เอ่ยแทน เหตุเพราะท่านชี้คเป็นหวัดทำให้ไม่มีเสียงที่จะพูดและต้องปิดบังใบหน้าเพราะกลัวว่าจะเป็นการแพร่เชื้อหวัดไปถึงผู้ร่วมประชุมท่านอื่นๆ ด้วย “น่าเสียดายนะขอรับที่ท่านชี้คเป็นหวัด ไม่งั้นคงจะได้พูดคุยกันได้ออกอรรถรสมากไปกว่านี้” “นั่นซินะขอรับ เมื่อครั้งก่อนที่ท่านชี้คแนะนำว่าเราควรจะออกไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศบ้าง เพื่อที่จะได้นำมาปรับปรุงระบบต่างๆ ของอารันดาให้ทันสมัยสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ชนอารันดาเป็น กระผมก็เห็นด้วยและก็สนใจที่จะไปที่ประเทศไทยมากเลยนะขอรับ ท่านหญิงฮาน่าก็จะได้ดีใจที่พวกเราไปเยี่ยมด้วย ใช่มั้ย” คนพูดหันไปพยักพเยิดกับคนอื่นๆ ซึ่งก็ได้รับคำสนับสนุนกลับคืนมา ธาธีเอี้ยวตัวเข้าหาเมื่อท่านชี้คฟีรอสที่นั่งฟังคำเจรจานั้นอย่างตั้งใจให้สัญญาณ ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับเอ่ยในสิ่งที่ท่านชี้คต้องการพูด “ท่านชี้ครู้สึกยินดีที่ทุกท่านให้ความสนใจกับสิ่งที่ท่านเสนอแนะ และยินดีที่พวกท่านทั้งหลายต้องการจะไปเยี่ยมเยือนประเทศไทย แต่นั่นคงต้องใช้เวลาเตรียมการกันหลายเดือนหน่อย เนื่องจากเราต้องติดต่อไปยังสถานฑูตเพื่อขอความร่วมมือและคำแนะนำ อีกทั้งเราเองก็ยังต้องศึกษาเรื่องราวของประเทศไทยเพิ่มเติมจะได้ได้ประโยชน์สูงสุดในยามไปเยือน แต่อย่างไรก็ต้องขอขอบใจทุกท่านด้วยที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ซึ่งนับว่าอารันดาเราเดินมาถูกทางแล้ว” ธาธีเอ่ยคำที่ท่านชี้คฟีรอสต้องการสื่อสาร ในขณะที่องครักษ์นายหนึ่งทำหน้าที่จดบันทึกทุกรายละเอียดที่ได้พูดคุยกัน และอีกนายหนึ่งนั่งขนาบข้างท่านชี้คอย่างป้องกันระวังภัยซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติและรักษาเท่าชีวิต
已经是最新一章了
加载中