บทที่2 อกหัก (3)

แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นบีบบังคับ เธอต้องอำลาลุคผู้หญิงมาดเซอร์นั่นทิ้งไปซะ และเปลี่ยนเป็นลุคคุณหนูที่สวยโฉบเฉี่ยวอย่างที่เธอเคยแต่งอยู่ที่เมืองไทยมาใช้ จากประสบการณ์ยอดแย่รัดเกล้าได้เรียนรู้ด้วยตนเองแล้วล่ะว่า การเป็นผู้หญิงที่สวยและดูดีจะสามารถสร้างโอกาสดี ๆ ให้ตัวเองได้ ดังนั้นเธอจะมาจมอยู่กับกองน้ำตาและความเศร้ากับคนที่ไม่เคยแยแสเธอต่อไปไม่ได้ ในเมื่อชีวิตต้องดำเนินต่อไป และเธอควรเลือกหาสิ่งดี ๆ ให้ตัวเธอเอง พอคิดได้เช่นนั้นรัดเกล้าจึงโทร ฯ นัดไอริส เพื่อนสาวร่วมคลาสเรียนที่เธอสนิทสนมออกมาเดินช้อปปิ้งเพื่อแก้เครียดซะ ซึ่งไอริสตอบรับนัดเธอเป็นอย่างดี แต่พอได้เจอหน้ากันไอริสถึงกับตกตะลึงตาค้างกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของเธอเลยเชียว เส้นผมยาวสลวยถึงกลางหลังของรัดเกล้าถูกตัดทิ้ง เหลือผมซอยสั้นที่รับกับใบหน้ารูปไข่ และรวมไปถึงการแต่งตัวที่แปลกตาออกไป “เธอทำให้ฉันแปลกใจมากเลยนะเทียร่า เธอสวยและดูดีกว่าทุก ๆ วันที่ฉันเคยเห็นมา” ไอริสเอ่ยปากชม “ขอบใจสำหรับคำชม ฉันแค่เบื่อตัวเองเลยอยากเปลี่ยนลุคเพื่อสิ่งใหม่ ๆ บ้าง” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ และรอยยิ้มที่ส่งให้ไอริสก็ไม่สดใสเท่าที่ควร “เธอพูดเหมือน... คนอกหัก” ไอริสตั้งข้อสังเกต ซึ่งรัดเกล้ายอมรับแต่โดยดี “ใช่ไอริส มันแย่มากเลยล่ะ” เอ่ยออกมาได้แค่นั้น หยดน้ำตาซึ่งน่าจะเหือดแห้งจากการร้องไห้หนักถึงหนึ่งคืนและหนึ่งวันเต็มกลับไหลออกมาพรั่งพรูเปื้อนแก้มเนียนที่แต่งหน้าเอาไว้อย่างสวยงามอีก ไอริสรีบเข้าไปโอบกอดรัดเกล้าทันที พร้อมลูบหลังเบา ๆ “หากมันแย่มากก็ร้องไห้ออกมาให้หมดเทียร่า” รัดเกล้าทำตามคำแนะนำนั่น พอรู้สึกโล่งแล้วนั่นล่ะเธอจึงเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม ทั้งที่คิดว่าเธอทำใจยอมรับกับเรื่องของฟาบิโอได้แล้วเชียว แต่เมื่อนึกถึงเขาขึ้นมา ความรู้สึกแย่ ๆ จึงตามมาหลอกหลอนเธอได้อีก “สบายใจขึ้นหรือยัง?” รัดเกล้าพยักหน้าให้น้อย ๆ “ก็นิดหน่อย” ไอริสสบสายตากับเพื่อนสาวชาวเอเชียด้วยสายตาห่วงใย “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ บอกฉันได้นะ เผื่อจะทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นกว่านี้” “เราไปหากาแฟดื่มกันก่อนเถอะ แล้วฉันจะเล่าให้เธอฟัง” อึดใจเดียวสองสาวสวยจึงมานั่งอยู่ในร้านกาแฟซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว จากนั้นรัดเกล้าจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องของฟาบิโอให้ไอริสฟังจนหมด ซึ่งรวมไปถึงเรื่องที่ฟาบิโอนำผู้หญิงสองคนมานอนในห้องพักของเขาด้วย “ฟาบิโอบอกเลิกฉัน ต่อหน้าแม่สาวทรงโตพวกนั้น” “โอ้พระเจ้า!” ไอริสอุทานเอามือทาบอก ก่อนเลื่อนมือมากุมมือบางของรัดเกล้าเอาไว้ แล้วบีบมือเบา ๆ เพื่อปลอบใจ “ฟังแล้วดูแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?” “ใช่ มันแย่มาก ๆ มากกว่าทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับฟาบิโอนักรักที่ฉันเคยได้ยินมา” ไอริสแสดงความคิดเห็น “ยังมีเรื่องแย่ ๆ กว่านี้อีกเหรอ?” “ฉันเคยได้ยินมาว่าฟาบิโอติดยาด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่” รัดเกล้าพยักหน้ารับแล้วเงียบไป ดวงตางดงามแฝงฝังความเศร้าทอดสายตามองออกไปนอกกระจก และหยุดที่ไม้ประดับหน้าร้าน อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะฟาบิโอเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้นเขาจึงรีบเผ่นแนบไปเลย “ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน หากพูดให้ถูก ฉันอาจไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของฟาบิโอเลยก็ได้” ไอริสพยักหน้า “แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เธอยุติความสัมพันธ์กับฟาบิโอเพียงเท่านี้ ฉันเชื่อว่าสิ่งที่ดีกว่าจะมาหาเธอในเร็ววันแน่นอน” รัดเกล้าซึ่งคนกาแฟร้อนหยุดมือแล้วสบตากับเพื่อนสาวด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบใจมากนะไอริส” “ฉันอยู่เคียงข้างเธอนะ” รัดเกล้ายิ้มเซียวให้อีก “ฉันจะเลิกร้องไห้ แล้วฉันจะเป็นคนใหม่ที่ทำให้ฟาบิโอรู้สึกเสียดายที่สุดเมื่อเขามองย้อนกลับมา” “นั่นล่ะ คือสิ่งที่เธอควรทำ” สองสาวสบตากันแล้วพากันหัวเราะชอบใจ ก่อนพากันออกไปเดินช็อปปิ้งเพื่อเลือกดูเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับกระจุกกระจิกซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั้งโลกชื่นชอบและไม่อาจปฏิเสธได้ ความเครียดสะสมของรัดเกล้าจึงอันตรธานหายไปชั่วขณะเมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เธอชื่นชอบ รัดเกล้ารู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่เธอมีโอกาสได้มาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่น และต้องยอมรับเลยว่าเมืองมิลานเป็นเมืองชั้นนำแห่งแฟชั่นที่ไม่แพ้นิวยอร์ค ปารีส และลอนดอนเลยทีเดียว หญิงสาวเดินดูเครื่องแต่งกายต่าง ๆ จนจุใจ แต่ไม่คิดซื้อติดมือกลับมาสักตัว เพราะเธอสามารถออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าพวกนี้เองได้ จากนั้นไอริสจึงพารัดเกล้าไปนั่งเล่นที่ห้องพักของเพื่อนสาวอีกคน และที่นี่เองที่รัดเกล้าได้ทำความรู้จักกับ ‘แอนนา’ เพื่อนสาวของไอริสซึ่งเรียนที่เดียวกับเธอ และเป็นช่างสักแทตทูมือสมัครเล่น พอได้พูดคุยกับแอนนาเท่านั้น รัดเกล้าจึงรู้สึกต้องอัธยาศัยกับแอนนาขึ้นมาทันที แอนนาเป็นสาวเท่ มีเสน่ห์ อารมณ์ดีและคุยสนุก ซึ่งความเหมือนในข้อนี้เองจึงทำให้รัดเกล้ารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจเป็นอย่างมากเมื่อได้พูดคุยกับแอนนา นอกจากนี้รัดเกล้ายังตัดสินใจทำสิ่งที่ไอริสคิดไม่ถึง นั่นก็คือเธอเป็นหนูลองยาให้แอนนาเพื่อนสาวของไอริสสัก ‘รอยจูบสีแดง’ ที่ข้อขาตามคำชักชวนของแอนนาซะ