บทที่ 1 (1)   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 ภายในคลับหรูบนดาดฟ้าของโรงแรมย่านสุขุมวิท แสงสีเหลืองนวลของไฟสนามทำให้บรรยากาศรอบกายดูโรมแมนติก มุมหนึ่งของคลับถูกจองเป็นพื้นที่ส่วนตัว สาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มกระดกแก้วเครื่องดื่มพลางเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะถามออกไป “คราวนี้คุณมากี่วัน? แต่น่าโมโหชะมัดอุตส่าห์มาทั้งที แล้วทำไมไม่เอาพี่สาวฉันมาด้วยล่ะ” เจ้าหล่อนต่อว่าทำหน้ามุ้ย เพราะคิดถึงพี่สาวที่ตอนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่โชคดีที่สุด เพราะได้แต่งงานกับหนึ่งในนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งอิตาเลี่ยน-ไทยอย่างเขา แต่การแต่งงานนั้น ทำให้ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าได้กลายเป็นพี่เขยของหล่อนอย่างเต็มตัวไปแล้ว “ฉันมาทำธุระแค่สองสามวัน อีกอย่างพี่สาวของเธอก็ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วด้วย ฉันไม่เสี่ยงให้เดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ หรอก มันไม่ปลอดภัย แล้วถ้างานนี้ไม่ใช่งานสำคัญฉันก็ไม่มาหรอก ฉันอยากอยู่ใกล้ๆ ต้นน้ำเวลาคลอด” “โอ๊ยเลี่ยน” หล่อนบ่นแล้วแกล้งว่า “ฉันน่ะคิดถึงพี่น้ำจะแย่ คุณเอาพี่สาวฉันไปอยู่ที่โน้นแล้ว แทนที่จะให้พี่น้องได้พบหน้ากันบ้าง ใจร้าย...” “คิดถึงก็บินไปหาสิคุณน้ำฟ้า” ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มย้อนกลับด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า ดวงตาของเขามีแววอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความดุดันอยู่ในที ยกเว้นแต่ลูกน้องสองคนที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังที่พากันอมยิ้มกับคำยั่วเย้าของเจ้านาย ที่นับวันจะยิ่งชอบแหย่น้องเมียคนนี้มากขึ้น เพราะหล่อนสมควรโดนแหย่จริงๆ “ค่าเครื่องบินมันแพงนะคะ” หล่อนตอบเสียงกระฟัดกระเฟียดก่อนจะหันไปไล่เบี้ยกับลูกน้องของเขา เป็นการเฉไฉแทน “พวกนายสองคนต้องช่วยดูพี่น้ำให้ดีด้วยรู้ไหม” “ครับคุณน้ำฟ้า” น้ำฟ้า หรือ วิลาสินี กุลวนาพิพัฒน์ ค้อนขวับให้อีกวงด้วยความหมั่นไส้ทั้งเจ้านายและลูกน้อง ที่ดูจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยดี แต่หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะจะว่าไปแล้วคนที่ส่งพี่สาวให้ไปแต่งงานกับผู้ชายตรงหน้าก็คือหล่อนนั่นเอง เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว หลังจากที่หล่อนวางแผนให้พี่สาวของตัวเองไปเป็นนางบำเรอของพ่อหม้ายลูกติดที่ทั้งหล่อ รวย และแสนดีที่สุดอย่าง ภาคิน หรือ ทริเซียนโน เทรซ ทาลอสซา จนในที่สุดทั้งสองคนก็ลงเอยด้วยการแต่งงาน มีครอบครัวที่แสนสุขอย่างที่ใครๆ ต่างอิจฉา ส่วนหล่อนที่เป็นน้องสาวนี่สิเล่าก็ยังคงลอยไปลอยมา แถมยังลอยหนักกว่าเดิมเสียด้วย เนื่องจากตอนนี้หล่อนลาออกจากการเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินชื่อดังแล้ว เพราะเริ่มรู้สึกตัวว่าอยากจะทำอะไรที่ท้าทายมากกว่านี้ ทำอะไรที่เหมือนกับไล่ตามเป้าหมายที่มากกว่า ตอนที่เป็นนักเรียน หล่อนเคยตั้งมั่นไว้ว่าอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส หล่อนก็ทำมันจนสำเร็จและทำได้ดีเสียด้วย พอตอนนี้เป้าหมายของหล่อนสำเร็จไปแล้ว มันก็เหมือนกับไม่มีเป้าหมายอะไรให้หล่อนไขว่คว้าไว้ได้อีก ความท้าทาย ความมีชีวิตชีวามันเหมือนจะหายไป ดังนั้นหล่อนจึงอยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้าง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร ซึ่งแน่นอนด้วยบุคลิกภาพที่สวย สูง สง่า มีทักษะทางด้านภาษาและผ่านงานสายการบินชื่อดังมาแล้ว มันไม่ยากเลยหากหล่อนคิดจะหางานทำ เพียงแต่หล่อนไม่อยากทำอะไรแบบเดิมๆ หล่อนอยากทำอะไรที่ท้าทายมากกว่านี้ “แล้วเธอคิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ” น้ำเสียงถามจากผู้ชายตรงหน้าเริ่มจริงจังมากขึ้น เพราะเขาจำเป็นต้องห่วงหล่อนทั้งในฐานะเพื่อนและพี่เขย “ได้ข่าวว่าลาออกจากสายการบินแล้ว เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?” “ก็คิดว่าชีวิตของฉัน มันคงไม่จบแค่เป็นแอร์ไปจนตายนะสิ” วิลาสินีตอบกลับมาชัดถ้อยชัดคำ ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงไม่ได้บอกเลยว่าล้อเล่น หญิงสาวรู้ดีว่าตัวเองคิดอะไรได้แปลกกว่าคนอื่น ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไป การได้เป็นแอร์โฮสเตส การได้ยืนอยู่บนจุดนี้มันถือว่าเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจและไม่น่าทิ้งมันไปง่ายๆ แต่หล่อนกลับทิ้งมันมาอย่างง่ายดาย “เธอเบื่อการเป็นแอร์โฮสเตส?” “เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เบื่อ ฉันรักงานนี้และฉันก็ภูมิใจกับอาชีพที่ฉันทำ แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตมันมีอะไรที่ให้ขวยขวายมากกว่านี้ ตอนนี้ฉันประสบความสำเร็จต่อเป้าหมายที่ฉันตั้งใจไว้แล้ว ฉันเลยต้องตั้งเป้าหมายใหม่” “แล้วเธออยากทำอะไรต่อไป” เขาถามอีก “ไม่รู้สิคะ แต่ฉันคิดว่าชีวิตฉันมันต้องมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้ ฉันคิดว่า อยากทำอะไรที่มันท้าทายมากขึ้น แบบที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน” “อยากเป็นนางบำเรอหรือไง?” เขาถามเชิงสัพยอกอย่างไม่คิดอะไรก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบพลางลอบมองใบหน้าสวยของคู่สนทนาที่หันมาแยกเขี้ยวใส่เขาทันที เพราะรู้ว่าถูกล้อเลียนจากฤทธิ์เดชที่หล่อนส่งพี่สาวตัวเองมาเป็นนางบำเรอให้เขาเมื่อคราวก่อน “บ้า!” หล่อนแว้ดใส่ทันที “ฉันล้อเล่น” ภาคินรีบบอกเพราะไม่อยากขี้หูร่วงต้องนั่งฟังหล่อนบ่นว่ายืดยาว เนื่องจากคบหากันเป็นเพื่อนมานาน ทำให้เขารู้ว่าวิลาสินีมีความสามารถในการ ‘พูดจนลิงหลับได้’ ทว่าคำพูดต่อไปของหล่อนมันทำให้เขาต้องชะงัก “แต่ก็น่าสนดีนะ งานนางบำเรอเนี่ย” “น้ำฟ้า…” ชายหนุ่มลากเสียงยาวเป็นการเตือน เพราะรู้ดีว่าความคิดเพี้ยนๆ ของผู้หญิงคนนี้สามารถกลายเป็นความจริงได้ทุกเมื่อ แถมเจ้าหล่อนยังเป็นพวกชอบทำเรื่องไม่คาดฝันให้เกิดขึ้นได้เสียด้วย ตามอุปนิสัยที่เขาเคยลงความเห็นว่าหล่อนเป็น ‘นางฟ้าจำแลง’ “หยุดเลยภาคิน พอเลย ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไร จะเทศน์อะไรฉัน” “ฉันจะไม่เทศน์ ถ้าเธอช่วยหยุดความคิดเพี้ยนๆ ของตัวเองไว้ได้” วิลาสินีพยักหน้าเสมือนว่าเข้าใจ แต่กลับส่งยิ้มหวานชวนขนหัวลุกมาแทน มันเป็นรอยยิ้มที่บอกชัดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงคนนี้ “น้ำฟ้า เฮ้อ...ถึงฉันห้าม เธอก็หาเรื่องใส่ตัวได้อยู่ดี”
已经是最新一章了
加载中