บทที่11. ไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีรสนิยมเช่นนี้   1/    
已经是第一章了
บทที่11. ไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีรสนิยมเช่นนี้
ราเฟย์ปรายตามองข้อมือของคานันขณะที่กำลังรินน้ำชาใส่ถ้วยกาแฟให้เขา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ยังอิดโรยขององครักษ์หนุ่ม “ไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีรสนิยมเช่นนี้” “เอ๋? อ้อ!” คานันหัวเราะเขินๆ ออกมาเมื่อดูข้อมือขวาของตนมีสร้อยข้อมือทำจากลูกปัดไม้หลากสี “กระหม่อมลืมถอดออกพระเจ้าข้า” “คงเป็นคนสำคัญให้มา” ราเฟย์เดาไปเรื่อยอย่างแปลกใจ คานันทำงานกับเขามาหลายสิบปี ทั้งตามไปเรียนที่โรงเรียนประจำที่อังกฤษ ไม่ใช่แค่หน้าที่การงานเท่านั้นแต่ยังเป็นเหมือนเพื่อนสนิทเขาด้วย แต่กระนั้น เขาเองก็ไม่เคยเห็นคานันมีท่าทีพิเศษกับหญิงใดสักคน “มิได้...เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อยจากคุณอารยาพระเจ้าข้า” เคล้ง! พลันถ้วยกาแฟลงตุบลงพื้น คานันสะดุ้งโหยง รีบก้มเก็บถ้วยกาแฟ โชคดีที่หล่นบนพื้นพรมจึงไม่แตก หรืออาจจะเป็นเรื่องแย่เพราะเป็นพื้นพรมจึงดูดซับน้ำชาจนเป็นคราบสีน้ำตาล “เมื่อวานเราให้เจ้าดูแลจัสมินกับอารยาใช่มั๊ย” “พระเจ้าข้า...เอ่อ...พอพระองค์เสด็จกลับ องค์หญิงจัสมินกับคุณอารยาก็เสด็จไปเที่ยวที่ถนนนีล ซื้อข้าวของจนกระหม่อมกับกีวอนหิ้วกันพะรุงพะรังเลยพระเจ้าข้า” ราเฟย์ขมวดคิ้วอย่างฉงน ถนนนีลเป็นแหล่งขายสินค้าพื้นเมืองส่วนใหญ่มีแต่นักท่องเที่ยวแบบแบกเป้ไปเที่ยวแถวนั้น เมื่อวานเขาพาอารยาไปถนนเส้นการค้าที่รุ่งเรืองที่สุด คิดว่าเจ้าหล่อนคงทนต่อประกายเพชรวูบวาบไม่ไหว ต้องเสียงอ่อนเสียวหวานให้เขาซื้อเพชรนิลจินดาหรือเสื้อผ้าหรูหรา แต่กลับตรงข้ามหญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เขา ยิ่งตอนที่เขาเดินออกมาก่อนเห็นประกายหล่อนมีความสุขอีกต่างหาก! “ซื้ออะไรกันบ้างล่ะ” เขาอดถามอย่างแปลกใจไม่ได้ “องค์หญิงจัสมินกับคุณอารยามีรสนิยมคล้ายกันมาก ทั้งคู่ซื้อผ้าทอมือของพื้นเมือง ย่ามปักลายด้วยมือ รองเท้าหนังแกะจากชายชราคนหนึ่ง แล้วก็มีพวกสร้อยคอสร้อยข้อมือทำจากลูกปัดไม้ อ้อ! คุณอารยาซื้อหนังสือกับผักผลไม้อีกถุงใหญ่ แล้วองค์หญิงจัสมินก็...” “พอๆ ซื้ออะไรกันของพื้นๆ แบบนั้นหนะ” เขาสับสนกับหญิงสาวเอเชียคนนั้นจริงๆ วันนั้นเขาห่วงคุยกับเสด็จอาเลยไม่ได้อยู่จับผิดอารยา เธอกำลังทำอะไรกันแน่ หรือต้องการตีสนิทกับจัสมินหลอกใช้ความใจดีของน้องสาวผู้อ่อนโลกของเขา ไม่มีทางหรอกที่ผู้หญิงคนนั้นจะชอบของพื้นๆ อย่างนั้นได้ มันต้องเป็นแผนการอะไรสักอย่างแน่ แต่ชายหนุ่มพอนึกถึงใบหน้าหวานสวย ก็อดคิดถึงรสจูบปนคาวเลือดของเธอไม่ได้! “เราจะไปหาเสด็จพ่อ เจ้าไม่ต้องตามไปหรอก” ร่างสูงสง่าลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้มเหี้ยมบนมุมปากจนคนสนิทยังรู้สึกผวากับรอยยิ้มนั้น ไม่หรอก สงครามระหว่างเขากับเธอมันเพิ่งเริ่มต่างหาก “บ้านเมืองของพระองค์อุดมสมบูรณ์มากเพคะ ข้าวของเครื่องใช้ก็ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแสดงให้เห็นว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่ยาวนานเพคะ” น้ำเสียงหวานใสชวนคุยขณะที่ลงมือรักษากษัตริย์ฮัสซันเช่นทุกวันตามตารางการรักษาที่วางไว้อย่างดีเสียงพระสรวลดังขึ้นผู้คนรอบข้างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งแต่พระองค์ทรงพระประชวรเสียงหัวเราะก็หายไป มีแต่ความเงียบขรึมปกคลุมราวกับเมฆดำที่คลุมห่มท้องฟ้า แต่เมื่อมีพยาบาลสาวที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ของฝาก’ ที่ส่งตรงมาจากเมืองไทยของท่านคาร์ดัล กษัตริย์ฮัสซันก็ทรงเปลี่ยนไปมากและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่พระอาการที่ดีขึ้นก็มีบางกลุ่มคนที่ไม่ยินดีด้วย! “ถ้าเราแข็งแรงคงต้องไปเที่ยวแน่ๆ” “อีกไม่นานฝ่าบาทจะแข็งแรงดังเดิมเพคะ สัปดาห์หน้าเราจะเริ่มฝึกเดินกันนะเพคะ” อารยารายงานด้วยน้ำเสียงสดใส หญิงสาวยิ้มบางๆ แม้จะเป็นถึงกษัตริย์แต่ในความเป็นจริงก็ทรงเปลี่ยวเหงา อาจเป็นเพราะฐานะของพระองค์ที่ทำให้ใครก็ต่างไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่ค่อยมีใครกล้าชวนคุย อาจจะมีแค่คนเข้ามาถวายรายงานบ้านเมืองเรื่องต่างๆ แต่พระองค์ก็เป็นแค่ชายชราอายุหกสิบแปดที่หวังจะให้ลูกหลานมาห้อมล้อมเอาอกเอาใจ การที่สุขภาพจิตดีก็ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ความร่าเริงเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เธอใช้กับคนไข้หลายรายแล้วและใช้ได้ผลเสมอ “ไว้เจ้าไปสอนคนครัวทำน้ำขิงให้เราอีกนะ ที่เจ้าทำมาให้เราอร่อยมากดื่มแล้วรู้สึกสบายตัว” “เพคะ” อารยายิ้มกว้างดีใจที่ความรู้เรื่องพืชสมุนไพรของตนได้นำมาใช้ประโยชน์ “ถ้ามีเวลาหม่อมฉันจะศึกษาพืชสมุนไพรของบาฮาเนียนะเพคะ” “ข้าอนุญาต...วันนี้เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ” “ขอบพระทัยเพคะ” อารยาย่อตัวก่อนเดินออกมาเธอเริ่มปรับตัวกับกาทำงานในวังได้แล้ว โชคดีที่กษัตริย์ฮัสซันอนุญาตให้เธอนุ่งกางเกงขณะถวายการรักษาได้ แต่เธอก็เห็นว่ามันไม่สุภาพนัก จึงได้นำเสื้อผ้าชุดพยาบาลสีขาวมาเปลี่ยนด้วย อารยายิ้มทักพยาบาลและนางกำนัลคนอื่น แม้ว่าบางคนจะมองเธอด้วยสายตาดูถูกดูแคลน แต่บางคนก็มีน้ำใจไมตรีมอบให้ในรอยยิ้มที่ยิ้มตอบ หญิงสาวเข้าใจสัจธรรมเรื่องนี้ดี ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านเมืองใด สังคมไหนก็เป็นเช่นนี้ แต่เธอก็ยังโชคดีที่มีองค์หญิงจัสมินที่เป็นเพื่อนที่แสนน่ารักทำให้เธอไม่เหงา เมื่อเช้าเธอตื่นแต่เช้าตรู่ทำน้ำขิงมาถวายที่เหลือแบ่งปันคนอื่น วันนี้เธอเลยได้รอยยิ้มเป็นการตอบแทน หญิงสาวเดินเลี่ยงไปอีกห้องหนึ่งที่ไม่มีผู้คนเข้ามา เธอคิดในใจว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊ปเดียวคงไม่เป็นไร จึงจัดการเปลือยกายและสวมชุดพยาบาล โดยไม่รู้ว่ามีดวงตาสีฟ้าเข้มที่จ้องมองเรือนร่างขาวผ่องร่างสูงถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นไหล่เปลือยขาวนวลละเอียดที่กำลังสวมเสื้อผ้าอย่างรีบเร่งแต่ในสายตาของเขากลับเชื่องช้าเหมือนเชื้อเชิญ “ว้าย!” อารายแทบจะกรีดร้องออกมา เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว มือเรียวรวบอกเสื้อเพื่อปิดเนินเนื้อให้มิด ดวงตาสีฟ้าเข้มเป็นประกายวาว หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติทันทีที่เมื่อร่างใหญ่สืบเท้าเข้ามาใกล้ โดยไม่รู้ว่าหลังได้ชิดผนังห้องแล้ว สายตาของเขากักขังเธอไว้ทำให้หญิงสาวไม่สามารถหลุดพ้นไปจากเขาได้ “ท่าน...ท่านราเฟย์ ทำไมเข้ามาห้องนี้ได้” น้ำเสียงหวานสั่นสะท้านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เราควรเป็นคนถามเจ้ามากกว่า!” เขายืนมือไปคร่อมร่างบอบบางนั่นไว้ แขนใหญ่กลายเป็นกรงขังทันที! “นี่มันห้องเสพสำราญของเสด็จพ่อ นอกจากนางสนมในฮาเร็มไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้” ใช่! เสด็จพ่อสร้างห้องนี้เชื่อมกับห้องบรรทม เพื่อเสพสำราญกับนางสนม! “นางสนม...ฮาเร็ม...” อารยาพึมพำไม่กล้าสบตากับดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องมองเขม็ง เธอก้มหน้างุดมือเรียวกลัดกระดุมอย่างผิดๆถูกๆ “หม่อมฉันไม่ทราบ หม่อมฉันแค่มาเปลี่ยนเสื้อผ้า” ‘ต้องรีบออกไปจากที่นี่’ สมองเธอสั่งการได้แค่นั้น “อย่ามาทำใสซื่อไร้เดียง!” ร่างใหญ่แนบชิดอีกฝ่ายจนเขารู้สึกได้ถึงเนื้อกายอ่อนนุ่มของหญิงสาว “ใช้วิธีนี้ใช้มั๊ยที่หลอกล่อใครต่อใครให้มาติดกับ แต่อย่างคิดว่าเราจะ...” ราเฟย์ก้มมองริมฝีปากดุจกลีบกุหลาบที่เคยลิ้มรส ดั่งต้องมนต์ เมื่อเขาจรดริมฝีปากของตนกับอีกฝ่ายอย่างล้ำลึกและเร้าร้อน แต่ไร้ความอ่อนโยนใดๆ ในการจุมพิตนี้ อารยาเบิกตากว้างมือเรียวทุบอกเขาเป็นพัลวัน แต่เขากลับใช้ลิ้นนวดเฟ้นริมฝีปากเธออย่างหยาบคาบ ประกายตาในดวงตาสีฟ้าเข้มจัดจนเหมือนประกาศชัยชนะ แขนสองข้างกอดรัดร่างบางจนแทบจะทำให้กระดูกกับเนื้อของเธอผสานเข้าหากัน น้ำใสๆ เอ่อคลอขึ้นทันทีที่ดวงตาสีนิล แต่มันทำให้เขาหยุดการกระทำของตนและปล่อยร่างบางให้ร่วงลงไปนั่งกับพื้นราวกับใบไม้ที่ร่วงลงดิน “เราไม่มีวันหลงเล่ห์กลของเจ้าเป็นอันขาด!” เขาสะบัดหางเสียงก่อนก้าวจากไปโดยไม่สนใจว่าร่างบางจะนั่งสั่นสะท้านอยู่พื้นห้อง เขาจากไปก่อนจะได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของเธอ อารยากลั้นสะอื้นไม่ยอมให้น้ำตาไหลแต่เธอก็ฝืนมันไม่ได้ปล่อยให้น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม ‘เข้มแข็งไว้’ หญิงสาวพยาบอกตัวเอง สองแขนที่แทบไร้เรียวแรงยกขึ้นกอดตัวเองไม่ให้สั่นสะท้านมากไปกว่านี้ เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาจงเกลียดจงชังเธอขนาดนี้! “เกลียด...เกลียดที่สุด ฉันกลียนคุณราเฟย์!” ราเฟย์เปลี่ยนใจไม่เข้าเฝ้ากษัตริย์ฮัสซัน เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงรู้สึกเดือดดาลที่รู้ว่าเธออยู่ในห้องนั้นของเสด็จพ่อ! เสด็จพ่อของเขาเลื่องชื่อด้านความเจ้าชู้ พอๆ กับการปกครองประเทศแบบเด็ดขาด! แต่ถึงอย่างนั้นพระองค์ก็มีหญิงในดวงใจเพียงหนึ่งเดียวคือเสด็จแม่ที่จากไปนานหลายปีของเขา ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น! ราเฟย์ปิดประตูห้องของตนเองดังโครมไม่สนใจสายตางุนงงขององครักษ์หนุ่มแปลกใจที่เจ้านายกลับมาเร็ว ร่างสูงใหญ่ถอดเสื้อคลุมตัวยาวออกขว้างลงพื้น เขาทิ้งตัวนอนบนเตียงนอนหนานุ่มพลางปิดเปลือกตา แต่เรื่องราวในอดีตที่อยากฝังไว้ในมุมมืดของความฝันกลับผุดขึ้นแจ่มชัดราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน “แอนเดรีย” ราเฟย์เรียกเหมือนละเมอเมื่อเห็นร่างเปลือยของคนรักนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่ใช่เตียงของเขา ไม่ใช่ห้องของเขา ที่ปวดใจจนเหมือนหัวใจถูกบีบคีมเหล็ก เพราะที่เขาเห็นคือเตียงนอนในห้องเสพสำราญของเสด็จพ่อ! “นี่เหรอผู้หญิงที่เจ้าจะแต่งงาน เฮอะ!” สุรเสียงของกษัตริย์ฮัสซันทำให้ราเฟย์หันขวับ “เจ้าโกรธพ่อไม่ได้หรอกนะ พ่อแค่เสนอให้นางเป็นพระชายาของพ่อ นางก็ยอมเอง” “เสด็จพ่อ!” หัวใจเขาแหลกสลาย เขาคบแอนเดรียตั้งแต่เรียนอยู่ที่อังกฤษ วาดฝันไว้ให้เธอเป็นภรรยาเคียงข้างเขา เขาเชื่อมั่นในรอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้ว่าจะยอมเคียงข้างเขาไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข เมื่อกลับมาบาฮาเนียเขาจึงพาเธอกลับมาด้วย ตั้งใจจะรอเวลาที่เหมาะสมแล้วจัดงานอภิเษกแบบเรียบง่าย ทว่าเพียงเดือนเศษที่พาแอนเดรียเข้าวังกลับกลายเป็นเช่นนี้! “ท่านพ่อใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดไปหลอกคนรักของลูก!” “เล่ห์เหลี่ยม! พ่อจะใช้เล่ห์เหลี่ยมใด ในเมื่อแค่พ่อบอกว่าเจ้าเป็นแค่องค์รัชทายาทที่พ่อจะปลดเมื่อใดก็ได้” กษัตริย์ฮัสซันใช้สายตาของพ่อมองลูกชายที่รักที่สุด “ถ้านางรักเจ้าจริงไม่ใช่แค่ตำแหน่งพระชายา นางจะยอมนอนกับพ่อรึ! เจ้ากลับไปถามตัวเองดูก่อนเถิด!” ขาทั้งสองแทบหมดแรงทรงตัว เขามองร่างอวบอิ่มทุกสัดส่วนที่เคยคลอเคลียด้วยหัวใจที่ปวดร้าว มันคือเรื่องจริงและเป็นความจริงที่เขาต้องรับรู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถโกรธเกลียดผู้เป็นพ่อได้แม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่ท่านพ่อทำไปแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แท้จริงของผู้หญิงที่เขารัก และบัดนี้เธอกลายเป็นแค่ ‘คนเคยรัก’ สำหรับเขา แอนเดรียไม่ได้ขึ้นเป็นพระชายาอย่างที่ต้องการ หญิงสาวที่เคยอ่อนหวานน่ารักในอ้อมกอดเขา กลายเป็นหญิงเกรียวกราดเจ้าอารมณ์ ถลุงเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้าและเพชรพลอยนานา รวมถึงสูญเงินในบ่อนคาสิโนอย่างที่เขาไม่เคยคาดคิด การที่แอนเดรียใช้เงินมากมายฟุมเฟือยนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาปวดใจ แต่การที่เห็นนิสัยคนเคยรักเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงคือสิ่งที่เขาเจ็บปวด หากคืนนั้น... แอนเดรียกลับมาเป็นแอนเดรียคนเดิมที่อ่อนโยนและแสนดีกับเขา บางทีเขาอาจไม่สนใจว่าเธอเธอเคยนอนอยู่บนเตียงนั้น ทว่าเธอกลักลายเป็นแอนเดรียที่เขาไม่รู้จักเธอกลับยั่วยวนเขา พยายามเชื้อไฟแต่สิ่งที่เธอทำไปยิ่งทำให้ถ่านในใจดับมอดไม่เหลือซากเถ้าธุลีใดๆ หลังจากนั้นเพียงปีเศษหลังจากถูกกษัตริย์ฮัสซันเมินเชยและเขาเองก็ไม่ใส่ใจกับเธอ แอนเดรียกลับไปอยู่อังกฤษโดยไม่มีใครทัดทานแต่ยังได้รับเงินก้อนโตทุกเดือนโอนเข้าบัญชีของเธอ วันเวลาของแอนเดรีย กลับหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะขับรถไปเที่ยวทะเลแห่งหนึ่ง ข่าวที่ถูกปิดเงียบคือในรถสปอร์ตหรูหราสีแดงเพลิงคันนั้น มีชู้รักอายุอ่อนกว่าเธอเกือบสิบปีนั่งอยู่เคียงข้าง ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที! แม้ว่าเขาจะแทบไม่เหลือความรักให้เธอ แต่ไม่ก็ปรารถนาจะเห็นความตายของแอนเดรียในสภาพนั้น “แอนเดรีย!” ราเฟย์สะดุ้งตื่น เขายกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้า นานแล้วที่เขาไม่ได้ฝันเห็นใบหน้าของแอนเดรียอย่างนี้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างมึนงง ผู้หญิงใจร้ายแสร้งทำเป็นอ่อนโยนไร้เดียงสา ทว่ากลับซ่อนพิษร้ายไว้ข้างใน เขาไม่มีวันหลงเชื่อกับอุบายตื้นๆ อย่างนี้อีกแล้ว ใบหน้าหวานซึ้งลอยเข้ามาในสมองพร้อมกับรสชาติจูบปนเลือดที่ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาอย่างนั้น! ราเฟย์อดคิดถึงจูบประทับใจที่ทำให้เขาระลึกของหญิงสาวชาวไทยคนนั้น รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏที่ใบหน้าคมเข้ม เมื่อนึกถึงท่าทางหวาดกลัวจนทรุดไปนั่งกับพื้นของอารยา “เจ้าจะต้องรับผิดชอบที่ทำให้ข้าฝันร้ายอย่างนี้ อารยา!”.
已经是最新一章了
加载中