บทที่23. คุณอดตายแน่ถ้าอยู่กับฉัน   1/    
已经是第一章了
บทที่23. คุณอดตายแน่ถ้าอยู่กับฉัน
หญิงสาวเดินตามกลิ่นของอาหารเช้าเข้ามาในครัว แล้วใบหน้าหวานก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นผู้ชายตัวโตมีผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ ลักษณ์ณาราเดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วทำจมูกฟุดฟิด “หอมจังค่ะ” “รอเดี๋ยวนะ” การ์เร็ตพูดก่อนจะหมุนตัวมาพร้อมกับจานอาหารที่จัดได้น่ามอง “แพนเค้ก เบคอน เห็ดทอดกับไข่ดาว และน้ำส้มสำหรับคุณผู้หญิงครับ” “ทำเองหรือคะ” ลักษณ์ณาราทำตาโต “แน่นอนทานมื้อเช้าแล้วเราจะไปหาคุณแม่ที่โรงพยาบาลกัน” “ฉันไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร” เธอพึมพำแล้วยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม “คุณอดตายแน่ถ้าอยู่กับฉัน” “มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล คุณไม่ทำ ผมก็ทำหรือไม่เราก็ให้แม่บ้านจัดอาหารไว้ให้ มันไม่ได้เป็นปัญหานี่” การ์เร็ตหัวเราะแล้วยีผมเธอเบาๆ “ยุคนี้แล้วมันไม่ใช่ว่าผู้หญิงมีหน้าที่ทำอาหารในครัว ผู้ชายทำงานนอกบ้านนี่ ผมว่าเราต่างช่วยเหลือกันและกันได้ ผมไม่ได้สนใจหรอกนะถ้าคุณจะทำอาหารไม่เป็นคุณก็มีอย่างอื่นทดแทนนี่ อย่างที่เห็นผมว่าคุณจัดการเก็บล้างทำความสะอาดครัวได้ยอดมาก ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบทำ ผมพูดถูกใช่ไหม?” “คงไม่ได้พูดเอาใจกันนะ” เธอยิ้มแล้วหยิบแพนเค้กขึ้นมากัดกิน แล้วเธอก็ทำตาโต “อร่อยจัง ไม่เหมือนที่เคยซื้อกินเลย” “สูตรพิเศษของผม” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ “อยู่กับผมซิ แล้วจะทำให้กินทุกวัน” ลักษณ์ณารากรอกตาไปมา “อย่าเอาขนมมาล่อ ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆนะ” “งั้นบอกใบ้ผมหน่อย ผู้หญิงอย่างคุณคงไม่สนใจเครื่องเพชรหรือเงินทอง ถ้าไม่เอาขนมมาล่อ ผมจะต้องทำยังไง” หญิงสาวก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้า ได้ยินแต่เสียงหัวเราะในลำคอของเขาและร่างสูงก็เลื่อนเก้าอี้นั่งกินมื้อเช้าข้างกัน เธอไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเขา เขาพูดว่า ‘ชอบเธอ’ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าฐานะตัวเองมันอยู่ตำแหน่งไหนในชีวิตของเขา เธอไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบแค่เพราะเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ เวลานี้เขาอาจเป็นการ์เร็ต แบล็ค ผู้ชายสวมเสื้อยืดกางเกงยีน ขี้เล่น หัวเราะและยิ้มอยู่เสมอ แต่เขาก็ต้องกลับไปเป็น การ์เร็ต แบล็ค CEO โรงแรมบลูไดมอนสวมสูทชุดเป็นหมื่นขับรถหรูนั่งเครื่องบินส่วนตัว “คุณโอเคมั้ย” การ์เร็ตถามเพราะเห็นหญิงสาวเงียบไป เธอเงยหน้าแล้วยิ้มให้ แต่มันก็เป็นรอยยิ้มแบบที่เขารู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งเคลือบแคลงอยู่ หลังมื้อเช้าผ่านไปด้วยดี การ์เร็ตก็พาลักษณ์ณารานั่งรถมาที่โรงพยาบาลไม่ไกลนัก เขาถามประชาสัมพันธ์แล้วเดินจูงมือหญิงสาวมาที่ห้องพักฟื้น เขาผลักบานประตูเข้าไปเป็นจังหวะที่โซเฟียกำลังให้นมลูกโดยมีโทนี่กับวิทอเรียยืนอยู่ใกล้ๆ “เฮ้...การ์เร็ต” โซเฟียทักด้วยน้ำเสียงดีใจ “มาดูหลานของเธอซิ เธอต้องเป็นพ่อทูนหัวให้ลูกชายฉันนะ” การ์เร็ตเดินเข้าไปใกล้แล้วก็ยิ้มกว้าง “เจ้าหนูนี่ท่าทางหล่อเหลาเอาการอยู่นะเนี้ย นายเยี่ยมมากเลยโทนี่” โทนี่ได้แต่ยิ้มเขิน วิทอเรียเห็นลักษณ์ณารายืนมองอยู่ห่างๆ ก็เดินไปจูงมือมาใกล้ๆ ให้เห็นเด็กน้อยตัวอ้วนกลมที่กำลังดูดนมจากอกแม่ หญิงสาวมองแล้วเผลอยิ้มออกมา เด็กน้อยตัวเล็กนิดเดียวแต่แสนจะน่ารัก ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาเต็มตื้นในอกจนเธอต้องยกมือทาบอกไว้ โซเฟียเห็นแล้วก็เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน ความเป็นแม่ที่ซุกซ่อนอยู่ในความเป็นผู้หญิง “น่ารักเหมือนเทวดาเลย” ลักษณ์ณาราพึมพำแล้วหันมาทางการ์เร็ตซึ่งจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว แววตาเป็นประกายของเขาทำให้ใบหน้าหวานแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “เดี๋ยวก็ถึงทีของเธอสองคนแล้ว รีบๆ มีลูกซะจะได้เป็นเพื่อนลูกชายฉัน” โซเฟียหยอกล้อแต่ยิ่งทำให้ลักษณ์ณาราหน้าแดงมากขึ้นไปอีก “เอาไว้คราวหน้าจะมาเยี่ยมใหม่แล้วกัน” การ์เร็ตพูดกับโซเฟียแล้วหันไปทางวิทอเรีย “ผมหลบงานมาเที่ยว อยู่นานด้วยไม่ได้ ไว้คราวหน้าจะมาใหม่นะครับแม่” “ไม่เป็นไรหรอก” วิทอเรียแตะไหล่การ์เร็ต “ให้เวลากับตัวเองบ้าง ทำเผื่อตัวเองบ้าง และอย่าลืมดูแลคนข้างๆให้ดีด้วยล่ะ” “หนูลานะคะ มีโอกาสจะแวะมาเยี่ยมอีก” ถึงจะมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยมากแต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนของวิทอเรีย หญิงชราวัยเก้าสิบสวมกอดแล้วกระซิบที่ข้างหู “เขาเป็นเด็กเอาแต่ใจและโหยหาความรัก ให้โอกาสเขาหน่อยนะ” “ค่ะ” ลักษณ์ณาราได้แต่รับคำเบาๆ แล้วเมื่อวิทอเรียผละออก เธอก็ยกมือไหว้ลาทุกคน โทนี่กับโซเฟียโบกมือลา การ์เร็ตโอบไหล่ลักษณ์ณาราแล้วพาเดินออกมาอย่างเงียบๆ หญิงสาวมองเด็กเล็กๆที่วิ่งไปมา เธออาจจะเคยช่วยคุณป้ารดารับมือกับเด็กที่มาเรียนที่บ้าน แต่เป็นครั้งแรกที่เธอมองพวกเขาด้วยความรู้สึกและสายตาของคนเป็นแม่ เช้านี้หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอนั่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ว่าจะต้องซื้อยาคุมแบบฉุกเฉิน เธอไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเอาเรื่องแบบนี้มาเรียกร้องเหนี่ยวรั้งเขาไว้ แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว เธอตัดสินใจ หากจะมีเจ้าตัวเล็กๆในท้องเธอละก็...เธอก็พร้อมและยินดีที่จะเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ แม้ว่าอาจจะต้องเลี้ยงดูตามลำพังก็ตาม “โซเฟียก็เหมือนผม แต่เธอมาอยู่หลังจากผมออกไปใช้ชีวิตข้างนอกแล้ว โซเฟียทำงานในซุปเปอร์มาเก็ต แล้วก็เจอกับโทนี่ถึงได้ย้ายจากบ้านวิทอเรียไปอยู่ด้วยกัน โซเฟียเหมือนคนในครอบครัว ผมเคยชวนให้มาทำงานที่โรงแรมแต่เธอปฏิเสธ บอกว่าอยากอยู่ใกล้วิทอเรีย” อาการนิ่งเงียบของเธอทำให้เขาประหลาดใจ ปกติเธอมักมีเรื่องมาชวนคุยอยู่เสมอ หรือเพราะเขาที่ปลุกเร้าเธอแทบทั้งคืน แค่คิดถึงร่างกายที่บิดเร้าใต้ร่างแกร่งของเขา การ์เร็ตก็อยากขับรถกลับโรงแรมให้เร็วที่สุด อยากชิมความหอมหวานรัญจวนใจอีกครั้ง มือใหญ่ปล่อยจากเกียร์แล้วจับมือเธอเคล้นคลึงให้เธอผ่อนคลาย เขาไม่อยากปล่อยมือเธอเลย แค่เผลอคิดเรื่องเธอกับรุ่นพี่ที่มีข่าวว่าลักษณ์ณาราคบหากับผู้ชายที่มีเมียแล้ว เขายิ่งหงุดหงิดรำคาญใจ ข่าวที่เขาให้พศินสืบมานั้น ตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่เป็นเรื่องจริง หากเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น เขาคงไม่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ เขาคลึงนิ้วของเธอไปที่ละนิ้วแล้วก็นึกได้ว่านิ้วซ้ายของเธอมันว่างเปล่า เขาเคยซื้อแหวนให้ผู้หญิงนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยเลยที่จะซื้อแหวนเพื่อ...แต่งงาน.. เดี๋ยวก่อน! อะไรนะ! แต่งงาน! สมองเขาโดนอะไรเขาไปทำไมถึงคิดเรื่องนี้ได้ ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลย แน่นอนว่าเขาคิดอยากมีครอบครัวแต่ก็นั้นแหละ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่เขารู้สึกอยากแต่งงานหรือใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกัน ยิ่งตอนที่เห็นเธออยู่กับลูกของโซเฟีย เธอยิ่งเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกและเป็นคนที่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกัน “การ์เร็ต!” เสียงหวีดร้องของลักษณ์ณาราทำให้การ์เร็ตสะดุ้ง แล้วก็แตะเบรกได้ทันในจังหวะที่จักรยานส่งเอกสารคันนั้นปาดหน้า คนปั่นจักรยานผงกศีรษะให้เล็กน้อยแล้วปั่นต่อไป การ์เร็ตถอนหายใจเฮือกใหญ่ เลื่อนรถไปจอดริมถนนแล้วฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ ลักษณ์ณาราตกใจ เธอเอื้อมมือมาแตะไหล่เขาด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มเอียงหน้าหันมามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอมีอะไรให้เขาหลงใหลได้นะ แววตาเป็นประกายที่ชอบมองเขาอย่างท้าทายนะรึ ปากนิดจมูกหน่อย ผมสั้นประบ่า นิสัยก็แสนดื้อรันเอาแต่ใจ ปากร้ายก็เท่านั้น “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามด้วยความกังวล “ไม่รู้ซิ” เขาเสียงอ่อนจนลักษณ์ณารายื่นมือไปแตะหน้าผากเขา หวังจะวัดอุณหภูมิในร่างกายเพราะห่วงว่าเขาจะไม่สบาย แต่เขากลับจับมือเธอไว้และจูบฝ่ามือของเธอเบาๆ “คุณเป็นอะไรไป อย่าทำให้ฉันตกใจซิ” “คุณต่างหากที่ต้องบอกผม คุณทำมาทำอะไรให้ผมรู้สึกว่าขาดคุณไม่ได้ ให้ตายซิ! ผมอยู่คนเดียวมาตั้งสามสิบหกปีเชียวนะ แล้วจู่ๆ วันหนึ่งผมก็รู้สึกได้ว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้อีกแล้ว” “คุณพูดอะไรฉันงงไปหมดแล้วนะ” “ลักษณ์ณารา...” เขาเรียกชื่อเธอเหมือนคนละเมอ “บอกผมหน่อยว่าคุณก็รู้สึกเหมือนผม” “ฉัน...” ลักษณ์ณาราอึกอักพูดอะไรไม่ออก ได้แต่หน้าแดงแล้วแสร้งมองไปด้านนอกรถ การ์เร็ตปลดสายคาดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขาเดินเร็วๆ มาเปิดประตูฝั่งลักษณ์ณาราแล้วชะโงกข้ามตัวเธอมาปลดสายคาดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อนจะดึงให้เธอลงมาจากรถพร้อมกัน เขาจับข้อมือเรียวเล็กนั้นไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะหลุดลอยไป สีหน้าตื่นตระหนกของเธอทำให้เขาหัวเราะ กี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยหัวเราะหรือเล่นสนุกเป็นเด็กแบบนี้ เขาพาเธอเดินฝ่าผู้คนมาหยุดที่หน้าร้านจิวเวลรี่ หญิงสาวหอบหายใจแรงเพราะเขาพาวิ่งออกมาโดยไม่บอกกล่าวและไม่ได้ตั้งตัว “มาเถอะ” เขาพยักหน้าแล้วโอบไหล่เธอพาเดินเข้าไปด้านใน “มาทำอะไร” เธอเริ่มหงุดหงิดเพราะความเอาแต่ใจของเขา “มากินขนมมั้ง” การ์เร็ตแหงนหน้าหัวเราะ เขาสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนดูไม่เหมาะกับร้านหรูหราแบบนี้ ทว่าพนักงานก็ยังเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “แหวนครับ ผมต้องการแหวน อ้อ! แหวนคู่ด้วยนะ” การ์เร็ตพูดอย่างพอใจ “ทองคำขาว” ครู่ต่อมาพนักงานยกถาดใส่แหวนมาให้คนทั้งสองเลือก ลักษณ์ณาราอดไม่ได้ที่จะหันมามองทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอยืนกอดอกหันไปทางอื่น แล้วเธอก็เผลอชี้ไปที่แหวนวงหนึ่ง “วงนี้สวย” ลักษณ์ณาราเผลอชี้ไปที่แหวนคู่รูปสัญลักษณ์อินฟินิตี้ (Infinity) “ดูเป็นรูปหัวใจก็ได้นะ” “ผมก็ชอบวงนี้” เขายิ้ม “ซื้อให้ใคร” เธอถามเขาเสียงขุ่นๆ ไม่รู้หงุดหงิดเพราะเขาลากเธอเข้ามาหรือเพราะเขาซื้อแหวนให้ใครก็ไม่รู้ “แมว” “แมวที่ไหน” หญิงสาวถลึงตาใส่ แต่เขาใช้นิ้วใหญ่จิ้มหน้าผากของเธอ “ก็คุณไง แมวดื้อ แมวซน แมวเอาแต่ใจ” เขาแหงนหน้าหัวเราะไม่สนใจสายตาใครต่อใครที่หันมามองทางคนทั้งสอง “ขอมือหน่อย เอามือหน้านะ” ลักษณ์ณารายกมือกำหมัดทำท่าจะชกเขา แต่ชายหนุ่มยกมือห้ามไว้ก่อนแล้วคว้ามือซ้ายของเธอมาแล้วหยิบแหวนมาใส่นิ้วนางของเธอ อารมณ์หงุดหงิดเมื่อครู่จางหาย แหวนวงสวยสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย เธอมองหน้าเขาแล้วพูดไม่ออก เขาเข้าใจความหมายหรือเปล่า เล่นแบบนี้...ไม่ได้นะ... “การ์เร็ต...อย่าล้อเล่นนะ” “ผมจริงจัง” เขายิ้ม แววตาที่เคยหม่นเศร้าจางไปเมื่อมองผู้หญิงตรงหน้า “มันเป็นวิธีเดียวที่ผมนึกได้” “วิธีอะไรคะ” เธอแทบกลั้นหายใจรอฟังทุกถ้อยคำของเขา “วิธีที่จะทำให้คุณอยู่กับผมไปทั้งชีวิต” เขายกมือข้างที่สวมแหวนของเธอขึ้นแตะริมฝีปาก “ลักษณ์ณารา แต่งงานกับผมนะ” หญิงสาวอ้าปากค้าง ดวงตาสีเขียวเป็นประกายสะกดใจจ้องมองอย่างรอคำตอบ เธอพยักหน้าซ้ำๆ เพราะพูดอะไรไม่ออก แต่เธอก็ได้ยินเสียงปรบมือของคนในร้านจิวเวลรี่ที่รอลุ้นทั้งคู่อยู่ การ์เร็ตรั้งเธอมากอดแนบแน่น “ขอบคุณที่รัก...ผมรักคุณเหลือเกิน” ลักษณ์ณาราพูดอะไรไม่ออกได้แต่ซบหน้ากับแผงอกกว้าง ได้ยินเขาพูดคุยกับพนักงานแล้วหยิบบัตรเคดิตออกมาจัดการชำระเงิน “ผมรู้ว่าผู้หญิงให้ความสำคัญกับเรื่องแต่งงานมากๆ แต่ถ้าคุณจะกรุณา ผมไม่ค่อยถนัดอะไรที่มันพิธีรีตองนัก” เขายิ้มเขินราวกับเด็กหนุ่ม นั้นมันก็มากพอที่จะทำให้ลักษณ์ณาราหลงรักเขามากขึ้นไปอีก “ฉันก็เหมือนกันค่ะ เราจัดเล็กๆก็ได้แต่มันจะเหมาะสมกับฐานะของคุณหรือเปล่าล่ะ” เธอย่นจมูกแต่เขากลับหัวเราะ “ตอนนี้ผมอยากกลับห้องของเราให้เร็วที่สุดแล้วซิ” เขายิ้มกรุ้มกริ่มเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปาก เขาทำแค่นั้นเธอก็หน้าแดงซ่านคิดถึงฉากรักร้อนแรงที่เขาปรนเปรอให้ เขาเอียงหน้ามากระซิบ “ตอนนี้ผมคิดถึงเตียงใหญ่ๆ ของเราที่สุด” ลักษณ์ณาราทุบแผงอกเขาแก้เขิน แต่ชายหนุ่มแหงนหน้าหัวเราะ เขาจัดการเซ็นชื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเดินจูงมือว่าที่เจ้าสาวออกมาพร้อมหันไปยิ้มให้กับทุกคนที่ปรบมือลุ้นการขอแต่งงานของเขา คิดเร็ว ทำเร็ว นี่แหละการ์เร็ต แบล็ค CEO เจ้าเสน่ห์ของลักษณ์ณารา ประตูร้านปิดลงแล้ว ความวุ่นวายเมื่อครู่จางหายเหมือนควันที่เบาบางไป เหลือเพียงหญิงสาวในชุดเดรสลายเสือดาวที่แอบมองหนุ่มสาวทั้งสองตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน มือเรียวกำแน่นด้วยความโกรธ มันสั่นจนเธอแทบข่มอารมณ์ไม่ได้ เจ้าของเรือนผมสีทองหยิกสวยหยิบสมาร์ทโฟนออกมาต่อสายถึงคนสนิท “งานที่เคยคุยกันไว้ เริ่มได้เลยนะ ” “ได้ ตอนนี้เลยก็ยังไหว” “งานถนัดของพวกแกถ้าทำสำเร็จนอกจากจะะยกหนี้ให้ทั้งหมดแล้วจะแถมอีกอีกห้าพันปอนด์” “แบบนี้ค่อยมีกำลังใจหน่อย เอริก้า” “ฉันจะส่งรูปให้แล้วรีบจัดการล่ะ มันจะอยู่ลอนดอนไม่นานต้องรีบลงมือ” “ไม่มีปัญหา” เอริก้าเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าของตัวเอง เธออกมาหาซื้อเครื่องเพชรแก้เบื่อแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอการ์เร็ตและลักษณ์ณาราที่นี่ ซ้ำยังขอแต่งงานกันในร้านอีกต่างหาก เธอโกรธจนแทบอยากกระโจนเข้าไปฉีกอกยัยผู้หญิงเอเชียคนนั้น มันมีดีตรงไหน ทำไมการ์เร็ตถึงได้หลงใหลมันขนาดนั้น หญิงสาวได้แต่เม้มปากแน่นข่มความริษยาแล้วก็แสยะยิ้มออกมา “ถ้าฉันไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน ลักษณ์ณารา”.
已经是最新一章了
加载中