บทที่ 1 เรือใบไม้ (1)   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 เรือใบไม้ (1)
จางลี่มองสตรีตรงหน้าที่สวมใส่อาภรณ์สีเหลืองตัดกับสีเขียวสดใส ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมจนหน้าทึบแทบไม่เห็นใบหน้าจริง นางหัวเราะอย่างมีจริตทว่าแววตากลับเยาะเย้ยส่งมาทางนางอย่างท้าทาย จางลี่เดินไปนั่งตรงตำแหน่งประธานตามที่ฮุ่ยหลานประคองมานั่ง พยายามไม่สนใจคนสติไม่เต็มอย่างนาง “คิก คิก จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร อนุเจินตอนนี้นายท่านเสด็จอยู่หอเซียงดาวนั่นหมายความว่าพระชายาคงมิอาจเติมเติมความปรารถนานายท่านได้ คิกๆ” จางลี่จับมือตัวเองแน่นพยายามอดทนอดกลั้นต่อเสียงนกเสียงกาข้างหน้า คนที่เอ่ยกระซิกหยอกเย้ากลับมานั้นสวมใส่อาภรณ์สีแดงสด หน้าอกใหญ่โตดันเนื้อผ้าออกมาจนทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉา ทว่าสำหรับจางลี่แล้วกลับรู้สึกว่านางอกโตแต่ไร้สมองอย่างสิ้นเชิง “อนุฉินท่านไม่ควรกล่าวเช่นนั้น อย่างไรพระชายาก็ยังไม่เป็นงานจะเติมเต็มความปรารถนาของนายท่านได้ดีอย่างอนุฉินได้อย่างไรเจ้าคะ” เสียงอ่อนหวานถ่อมตนดังขึ้นราวกับจะหมดแรง ใบหน้านางงดงามสวมใส่อาภรณ์สีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอม หากคนไร้ความคิดคงคิดว่านางกำลังช่วยจางลี่และเอ่ยชมอนุฉิน ทว่าหากคนเปิดตามีสติดูจะรู้ว่ากำลังยั่วยุนางอยู่เช่นกัน จากนั้นสตรีในห้องต่างก็พากันพูดจากดข่มนางกันอย่างออกรส จางลี่พยายามกลั้นหาวจนน้ำตาคลอเบ้ามองเหล่าอนุอย่างเฉยชา ทว่าใบหน้าจิ้มลิ้มบวกกับแววตาคลอไปด้วยน้ำตากลับทำให้นางดูน่าสงสารราวกับโดนรังแก ทว่าเหล่าอนุกลับยิ้มยินดีเมื่อคิดว่าพวกตนเอาชนะพระชายาได้ จากนั้นพวกนางก็จากไปด้วยรอยยิ้มสะใจ เช้าวันนี้คงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับนาง นางรู้สึกเหมือนกำลังดูเหล่านักแสดงที่พยายามโอ้อวดตนเองเพื่อให้ผู้อื่นอิจฉา ในที่สุดนางก็อดกลั้นหาวออกมาไม่ได้แม้จะยกชายเสื้อปิดปากตามมารยาท ทว่าดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยน้ำตา “พระชายากลับไปพักผ่อนเถอะเพคะ” ฮุ่ยหลานเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ดวงตาฉายแววเห็นใจก่อนจะช่วยประคองพระชายากลับห้องบรรทมเพื่อพักผ่อน จางลี่มองสาวใช้ตรงหน้าตาปริบๆ นางแค่มานั่งฟังเหล่านักแสดงกับอดกลั่นหาวเมื่ออยากนอน เหตุใดสาวใช้ถึงดูจะอ่อนโยนกับนางขึ้นทว่านางกลับไม่รู้เลยว่าเรื่องวันนี้ของนางก็ไปถึงหูองค์ชายเช่นกัน... ตั้งแต่คืนเข้าหอผ่านมาสามวัน จางลี่ได้นั่งเรือใบไม้ล่องแม่น้ำที่เชี่ยวกรากทุกคืน บางครั้งแม่น้ำสายนี้ก็อ่อนโยนจนนางหลอมละลายเรือใบไม้ใบน้อยแทบปลิดปลิวไปกับสายลม บางวันเรือใบไม้ที่นางนั่งก็หมุนแคว้งจนเรือแทบคว้ำ นางถูกเคี่ยวกรำจนแทบทนไม่ไหว ไหนพรุ่งนี้เช้าต้องกลับบ้านเดิมไปคารวะบิดากับฮูหยินเอกคนปัจจุบัน “ได้โปรด พรุ่งนี้ข้าต้องเดินทางกลับบ้านเดิม” จางลี่อ้อนวอนเสียงกระเซ้าขณะที่เรือใบไม้ถูกโยกไปมาตามกระแสน้ำ ทว่าคนที่โบกพัดเรือใบไม้นางกลับรู้สึกตื่นเต้น ฮึกเหิมจนนางแทบขาดใจ ไหนมีอนุเป็นสิบเหตุใดต้องมาพายเรือใบไม้ที่แสนบอบบางอย่างนางด้วย ทว่าแม้จะบ่นภายในใจนางกลับถูกความหวานละมุนของสายลมเกื้อกล่อมลอยไปตามกระแสธาราอยู่ดี จางลี่รู้สึกตัวอีกครั้งก็นั่งอยู่ในรถม้าแล้ว ทว่าที่น่าประหลาดใจคือสวามีของนางที่เวลากลางวันไม่เคยเห็นหน้า เวลานี้กลับนั่งอยู่ข้างกายอีกทั้งยังเป็นเบาะรองนั่งให้นางอย่างใจดี จางลี่รีบลุกออกจากเรือนร่างสูงอย่างระวังความโปรดปรานนี้นางมิอาจรับไว้ได้จริงๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มขมวดคิ้วมุ่นพร้อมขบริมฝีปากแน่น เมื่ออาการเจ็บระบมจากการถูกเคี่ยวกรำยังส่งผลอยู่ “อยู่นิ่งๆ” “ท่านพี่ ตัวน้องหนัก” จางลี่บอกอย่างเกรงใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือหนาประคองร่างนางเอาไว้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังช่วยบีบนวดร่างกายนางเพื่อให้ผ่อนคลายจนนางเผลอเคลิ้มตาม ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักในวัยสิบหกหนาวหลับตาพริ้มอย่างเปี่ยมสุขจนกระทั่งเผลอครางออกมาอย่างแผ่วเบา “อ๊า...” “อย่ายั่วพี่”
已经是最新一章了
加载中