ตอนที่ 94 ร้องไห้อีกก็จูบอีก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 94 ร้องไห้อีกก็จูบอีก
ตอนที่ 94 ร้องไห้อีกก็จูบอีก นัชชาได้กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นฮอร์โมนเป็นกลิ่นต้นสนที่เงียบสงบเฉพาะตัว ที่ทำให้สบายใจ แม้แต่ความหนาวเย็นของร่างกายก็คลายลงไปบ้าง นัชชาอยากจะผลักเขาออกไป บางทีก็อยากจะถามตรงๆไปเลยว่าทำไมเพิ่งมาตอนนี้ ทำไมไม่ยอมติดต่อเขา ทำไมหายไป แต่พอเจอกับผู้ชายคนนี้ คำพูดสักคำก็ไม่มีที่ท่าจะออกมาเลย ได้แต่ร้องไห้อย่างบ้าระห่ำในอ้อมอกเขา ขนาดความกดดันต่างๆที่อยู่ในใจเธอหลายวันที่ผ่านมาในที่สุดก็หาทางออกจนเจอ มันรีบพรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตา ที่หน้าอกเสื้อเชิ้ตของเตชิตใกล้จะเปียกไปหมด น้ำอุ่นๆซึมไหลลงโดนผิวของเขา ซึมเข้าไปถึงใต้จิตใจเขา มันทำให้ทุกอณูในหัวใจของเขาถูกเผาไหม้ นัชชาร้องแล้วร้องอยู่นานมาก นานจนดวงตารู้สึกเจ็บนิดๆอารมณ์ถึงได้สงบลงหน่อย มือทั้งสองข้างแตะที่หน้าอกของเขาอย่างเบาๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมกับมองใบหน้าที่คุ้นเคย “ทำไมคุณจึงรีบกลับมา?” เจชิตไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร สายตาของเขามองไปที่บรรยากาศรอบๆ หัวคิ้วขมวดหน่อยๆพร้อมกับบีบแขนเล็กๆที่เย็นเฉียบ และสรุปคำพูดสั้นๆออกมาได้ว่า “ขึ้นรถ แล้วค่อยคุยกัน” นัชชาลังเลใจ เขาพูดมาหนึ่งประโยคที่ไม่ได้อธิบายอะไรเลยก็แค่อยากให้เธอออกไป แต่...ที่นี่ก็ไม่เหมาะที่จะพูดจริงๆ นัชชาถูกเขาพามาขึ้นรถ นั่งข้างๆคนขับ สายตาของเธอมองด้านข้างของผู้ชายที่ดูน่าเกรงขามโดยไม่รู้ตัว เธอไม่ได้พูดอะไร แต่หัวใจที่มันกระโดดโลดเต้นก็ทำให้เธอทรมานจะแย่อยู่แล้ว มือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนขาเริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ สายตาของเธอก็ทอดยาวไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ที่จริงแล้วไม่ได้มีสิ่งใดเข้าไปอยู่ในสายตาเธอเลย เธอกำลังรอการอธิบายและคำถามจากเขา เตชิตไม่ได้รีบขับรถ เขาเอาบุหรี่หนึ่งซองออกมาจากแผงหน้าปัดรถยนต์ หยิบออกมาหนึ่งมวน ค่อยๆจุด แต่ทว่าขนาดสูบบุหรี่ยังมีเสน่ห์ เขารู้ว่ามันไม่ดีกับเธอเลยเปิดกระจกทั้งสองข้าง เพื่อไล่ให้กลิ่นบุหรี่หายไป หลังจากเงียบไปนาน เขายอมเอ่ยปากพูด เสียงนุ่มกระวานของเขาก็ดังขึ้นมา “คาดเข็มคัดด้วย” นัชชาเลิกตาโตใส่เขาโดยไม่มีการขยับตัวใดๆ รู้สึกถึงสายตาที่แหลมคมของเขาที่มองมา มันทำให้รู้สึกกดดันจนทำให้เธอนั่งตัวแข็ง บรรยากาศในรถรู้สึกตึงเครียดในทันที ความรู้สึกที่ตัวเองผิดเริ่มปะทุกลับมาคิดอีกครั้ง ลำคอเริ่มกลับมามีอาการเปรี้ยวไปทั่ว เธอหลับตาลง มือขวาเริ่มขยับแล้วก็เปิดประตูรถด้านข้างออก เขาที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่หันข้างอยู่ รีบหันกลับมาหาเธอพร้อมทั้งทับลงมาพร้อมกับที่มือเธอกำลังถึงประตูรถพอดี หลังมือของเธออยู่ในอุ้งมือที่หยาบกระด้าง นัชชานองพยายามจ้องหน้าเขา ความห่างของทั้งสองคนใกล้นิดเดียว ลมหายใจก็หายใจรดกัน มองไปที่หน้าตาบนหน้าของเขา ริมฝีปากขยับเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นมือใหญ่ของผู้ชายกำข้อมือแน่น มองมาที่เธอแล้วเปิดปากจูบเธอ สมองของนัชชาเริ่มหยุดการทำงาน ลำตัวหลบถอยหลัง ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าการเคลื่อนไหวยิ่งเร็วขึ้น มืออีกข้างก็โอบที่รอบเอวของเธอ มีเพียงแค่เสื้อหนาวเท่านั้นที่กั้นระหว่างเธอกับเขา ความรักมีปัญหา แต่ร่างกายกลับคุ้นเคยกับสัมผัสของเขา เขาจูบได้ดูดดื่มและดุดัน เสียงลิ้นที่พันกันจนได้ยินเสียงถึงในหู นัชชาอยากจะปฏิเสธ แต่มือทั้งสองข้างกลับไม่ฟัง แถมยังเอาไปวางที่หน้าแผงอกของเขาแล้วดึงเสื้อของเขาอีกด้วย โพรงจมูกก็เป็นกลิ่นของเขาทั้งหมด กลีบริมฝีปากร้อนไหม้ร่างกายของเธอเริ่มสั่นๆเบา ร่างกายกับหัวใจที่หดหู่มันทำให้เธอทรมานจนที่หางตาของเธอเริ่มมีน้ำตาซึม มือของผู้ชายที่กำลังลูบเอวของเธอก็หยุดลงในไม่ช้า แล้วก็รีบปล่อยเธอ ในขณะที่ตัวเขาเองก็หายใจไม่ทัน พร้อมกับหน้าผากก็โน้มลงมาที่เธอ “เจอผมแล้วอยากจะวิ่งหนีหรอ?” ใจของนัชชาหนึ่งดวงกำลังอดทนความเศร้าใจพร้อมกับมองสายตาเขาแล้วตอบกลับแบบแข็งๆไปว่า “เอาจริงๆ คุณมาหาฉันทำไม?” เธอไม่อยากกลับไปกับเขาทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรที่ชัดเจนเลย หัวใจของคนเราถ้ามีเสี้ยนตำมันก็ยากที่เอาออกได้ เตชิตรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนแรกคิดว่ากลับไปแล้วค่อยอธิบายให้เธอฟัง แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะดื้อขนาดนี้ ไม้แข็งไม่ได้ ก็ต้องทำให้ใจอ่อน “ทำไมผมต้องมาคุณหรอ” น้ำเสียงของเขาถามกลับแบบเสียงเข้ม เอาฝ่ามือขนาดใหญ่จับที่ใบหน้าของเธอ เพื่อให้เธอดูถึงความตั้งใจและความแน่วแน่ในครั้งนี้ “เพราะว่าก่อนมานี่รู้ข่าวคราวในประเทศ เพราะว่าลงเครื่องแล้วติดต่อเธอไม่ได้เลย เพราะว่าหลังจากกลับไปบ้าน ไม่เจอแม้กระทั่งเงาของคุณหลังจากนั้นพบแต่สร้อยข้อเท้าที่เย็นเจี๊ยบ” นัชชาต้องใช้พลังเป็นอย่างมากในการบังคับริมฝีปากของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดเสียงแปลกๆออกมา ทันใดนั้นเอง ก็ถูกเขาเหนี่ยวเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมอกแล้ว อุ้งมือของเขารับน้ำหนักหัวของเธอที่อยู่ในตำแหน่งแผงหน้าอก “เพราะว่าผมเป็นห่วงคุณ คิดถึงคุณ เพราะว่าผมอยากกอดคุณเหมือนตอนนี้” นัชชาฟังเขาพูดแต่ละคำแต่ละประโยค ใจก็เต้นโครมครามขึ้นมา ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใขของเขาที่มันเต้นซ้ำๆกันข้างๆหู เขาทั้งเก่งและมีพลัง มักจะทำให้เธอตกใจทุกอย่าง “ทำไมคุณไม่รับโทรศัพท์ ทำไมหายตัวไป” เตชิตคิดถึงตอนที่เกิดเรื่องที่อเมริกา คิ้วขมวดขึ้น คิดแล้วคิดอีกก็คิดว่าจะไม่บอกเรื่องจริงให้เธอรู้ “ประชุมลับสุดยอด ทุกคนไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้ มันเกี่ยวกับความลับบริษัท” ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง ในใจมันมีอะไรทิ่มตำอยู่ก็มลายหายไปแล้ว เธอไม่มีความกล้าจริงๆ แรกๆก็สัญญาว่าจะไม่สนใจเขา เขาแค่พูดมาไม่กี่ประโยค เธอจะยอมใจอ่อนให้อภัยเขาแล้ว ด้านความรัก เธออ่อนต่อโลกแบบนี้เสมอ แค่ฝ่ายตรงข้ามให้คำตอบกับเธอนิดหนึ่ง เธอก็สามารถยกโลกของเธอทั้งใบให้เขาไปกอดไว้ได้ น้ำตาที่หางตาเริ่มรวมตัวกันไหลลงจากหน้ารูปไข่ ไหลลงไปข้างกรามที่คอเสื้อ เธอร้องไห้อย่างซาบซึ้ง และชัดเจนขนาดนั้น ทำให้ใจของเตชิตที่เห็นก็ใจสลาย ไม่เห็นก็ใจสลาย เขาใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาเธอ เขาพูดว่า “ถ้ารู้ว่าในประเทศเกิดเรื่องขึ้น ผมก็ไม่ทิ้งตุณไว้คนเดียวแน่ๆ เป็นผมเองที่ทำให้คุณต้องมารับทุกอย่างคนเดียว” นี่เขาขอโทษแล้วใช่ไหม นัชชาร้องไห้จนตาแดง เสียงสั่นจนไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้ พูดขาดตอนว่า “ “ต่อ ต่อจากนี้อย่าทำให้ อย่าทำให้ฉันหาคุณไม่เจออีกนะ ได้ไหมคะ” เธอกลัวจริงๆ กลัวว่านี่มันเป็นภาพลวงตาในจินตนาการของเธอทั้งหมด กลัวว่ามันจะเหมือนกลับความรักคราวก่อนที่ทุ่มเททุกอย่างสุดท้ายแล้วกลับมาอยู่ ณ ที่เดิม เตชิตได้อธิบายให้เธอฟังจนหมด ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอกกลับไม่ค่อยมีความสุข และร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก เครียดเลย ฟังเสียงเธอแล้วเขาทั้งกระวนกระวายใจทั้งปวดใจ “ทำไมยังร้องไห้อยู่อีก” “ไม่ได้ร้อง” นัชชาหลอกตัวเอง พลางเอามือเช็ดน้ำตาที่หน้าตัวเอง “มันไม่ฟัง มันไหลเอง” “ถ้าร้องออกมาอีกผมจะจูบคุณ” นัชชาหน้าแดงห้ามละสายตาที่จะไม่มองเขา สองมือเล็กๆจับแก้มตัวเองกลัวว่าเดี๋ยวเขาจะจูบอีก ไม่ใช่ว่าไม่อยากใกล้ชิดกับเขา แต่มันไม่เหมาะกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลายถลำไปมากกว่านี้ ตอนนี้ยังอยู่ในรถนะ.. ห่างกันไปหลายวัน มีความปรารถนาด้วยกันทั้งคู่ แค่มองตาก็สามารถจุดอารมณ์ให้ปะทุได้ตลอด เตชิตรีบจุดบุหรี่อีกมวน รีบถามกลับว่า“ทำไมถึงบอกว่าเกือบจะไม่ได้เจอผมแล้ว” นัชชาถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาถาม พยายามคิดอยู่หลายวินาทีจึงหาเสียงตัวเองเจอ และไม่คิดว่าเขาจะยังจำคำพูดที่พูดในโทรศัพท์ได้อีก ในสมองของเธอคิดถึงหน้าของชนุดม เธอพยายามหลบตาปิดบังความลนลาน”ไม่มีนะ ฉันก็แค่ตั้งใจพูด อะไรให้หนักๆเข้าไว้ แค่อยากให้คุณเสียใจบ้าง...” เหตุผลนี้ใช่ว่าเชื่อถือไม่ได้ เตชิตไม่ได้ถามต่อเพราะเขาไม่สามารถคิดได้ถึงเรื่องประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาบิดกุญแจที่คอนโซล แล้วหันไปบอกนัชชา “ไปนั่งเบาะหลัง” เขาไม่รอนัชชาปฏิเสธ เขาลงจากรถ คนขับรถที่อยู่ข้างนอกรีบเข้ามานั่งแทนที่คนขับ นัชชาหันกลับไปมองเบาะหลังที่กว้างขวาง เธอหน้าแดงแปร๊ด เธอรู้ความหมายของเขาได้แต่กัดปากแล้วเขาไปนั่งเบาะหลัง
已经是最新一章了
加载中