ตอนที่128อย่าร้องไห้ฉันไม่ดีเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่128อย่าร้องไห้ฉันไม่ดีเอง
ตอนที่128อย่าร้องไห้ฉันไม่ดีเอง จินต์ถูกเขาจับไว้อย่างกะทันหันตกใจจนนิ่งไปสักพักแต่ไม่นานนักความโกรธก็ลุกเป็นไฟอีกครั้งคนที่ทำผิดคือเขาไม่ใช่นัชชาแต่ทำไมเขากลับทำตัวโอหังหยิ่งยโสขนาดนี้นะ?! “มันเกิดอะไรขึ้นตัวนายเองไม่รู้สำนึกบ้างหรือไง?นายไปทำงานที่เมืองQทำอะไรไว้บ้างล่ะคิดว่านัชชาไม่รู้อะไรเลยงั้นหรอ!” “ฉันทำอะไร?” “นาย!”จินต์เห็นว่าขนาดนี้แล้วเขายังมีหน้ามาถามอีกโกรธจนพูดไม่ออกสายตาจ้องเขม็งไปที่เขา“เรื่องที่นายไปมั่วสุมมีสัมพันธ์กับปณิตานายลืมแล้วหรือไง?ต้องให้คนอื่นมาเตือนอีกหรอ!” มั่วสุมกับปณิตา? เขาไปอยู่กับเธอเมื่อไหร่ตัวเขาเองยังจำไม่ได้ เตชิตปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดคิดไปคิดมาในที่สุดเขาก็หาต้นสายปลายเหตุเจอ“เธอบอกว่านัชชาเข้าใจผิดว่าฉันกับปณิตามีสัมพันธ์บางอย่างกันใช่ไหม?” “ไม่ใช่เข้าใจผิดรูปเปลือยนั่นถูกส่งมาจากมือถือนายเข้ามือถือนัชชานายคิดว่าเข้าใจผิดงั้นหรอ?”จินต์พูดพรวดพราดใส่เขาในสายตาของเธอตอนนี้เตชิตเป็นแค่ผู้ชายชั่วๆ“เมื่อครู่นายยังขืนใจเธอให้ทำเรื่องแบบนั้นนายมันเลวทรามต่ำช้า…..เห้ยนายจะไปไหนฉันยังพูดไม่จบเลย!” เตชิตเหวี่ยงเธอลงรีบเดินตรงออกไปที่ประตูเปิดประตูออกทางเดินอันว่างเปล่าไม่มีใครเลยสักคนรวมไปถึงนัชชา จินต์เดินตามออกมาสีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลย“นัชชาล่ะ?เมื่อครู่ยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย…..” พริบตาเดียวหายไปซะแล้วหรอ? เธอร้อนใจแต่เตชิตยิ่งกระวนกระวายใจคิดถึงสิ่งที่เขาทำไปอย่างไม่แยกแยะถูกผิดจิตใจที่โกรธจนลุกเป็นฟืนไฟกลับสงบลงขึ้นมาทันทีสิ่งที่เขาได้กลับมาคือความเยือกเย็นที่รายล้อมตัวเขา เขานึกถึงตอนบังเอิญไปเจอปณิตาที่งานเลี้ยงในเมืองHถ้ามันเป็นฝีมือของเธอจริงๆงั้นครั้งนั้นที่เจอเธอในงานก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันถูกวางแผนไว้ก่อนหน้าแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องที่นัชชาหายไปโดยไม่บอกเขาเจอเขาแล้วความคิดดูเปลี่ยนไปอย่างเด็ดขาดตอนนี้เขาเข้าใจหมดแล้ว สมควรตายจริงๆเขาไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก! เตชิตเจ็บใจทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเองไปสองครั้งเดินออกไปข้างนอกพลางโทรศัพท์หาตรัณพลาง“ส่งคนไปหาที่อยู่ของปณิตาหาเจอแล้วรีบนำตัวเธอมาทันทีไม่ว่าจะทำด้วยวิธีไหนก็ตามฉันมีเรื่องต้องถามเขาด้วยตัวฉันเอง” ในสายโทรศัพท์ตรัณรีบรับคำสั่งโดยพลัน“ครับคุณเตชิต” “ตอนนี้รีบให้พวกตำรวจขึ้นมานัชชาหนีไปแล้วไม่รู้ไปไหนพวกนายเฝ้าประตูไว้ให้ดี” จินต์นึกขึ้นได้ว่าไม่กี่นาทีที่แล้วผู้จัดการโรงแรมได้กำชับบางอย่างไว้“ท่านครับเมื่อครู่พนักงานโรงแรมบอกว่ายังมีประตูหลังอีกสองแห่งหนึ่งในนั้นคือประตูทางทิศตะวันตกซึ่งไม่มีคนของพวกเราท่านเห็นว่าควรส่งคนไปหรือไม่ครับ?” ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเตชิตดูแย่ลงกว่าเดิมออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ควรรีบให้คนไปเฝ้าเดี๋ยวนี้!” “ครับ!” หลังจากตัดสายเตชิตไม่หยุดอยู่นิ่งรีบเดินตรงไปที่ห้องควบคุมวงจรปิดโรงแรมไม่เหมือนสถานที่อื่นทั้งคนเยอะทั้งวุ่นวายมากไปกว่านั้นที่นี่ยังเป็นที่พักแบบกึ่งโฮมสเตย์ด้วยจะหาคนสักคนยิ่งยากเข้าไปใหญ่แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาหวังคือนัชชาคงไม่หนีออกไปทางประตูหลังเธอยังคงอยู่ในโรงแรมนี้ จินต์เดินตามเขาเข้าไปดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงหน้าสายตาเหลือบไปมองเตชิตแวบหนึ่งหยิบมือถือขึ้นมาเดินไปที่มุมห้องต่อสายหาใครบางคนแต่ทว่าสายนั้นกลับไม่มีใครกดรับจินต์นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ออกมาจากเมืองJนัชชาไม่ได้พกมือถือออกมาด้วย ตอนนี้ทำไงดีล่ะจะไปหาเธอจากที่ไหน….. เมืองHซึ่งต่างกับเมืองJถ้านัชชาเจตนาไม่อยากให้พวกเขาหาเจอก็เสมือนกับว่ากำลังงมเข็มในมหาสมุทรได้แต่ภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย ปรับดูวิดีโอวงจรปิดบริเวณทางออกของโรงแรมแต่กลับไม่มีแม้แต่เงาของนัชชา จากนั้นเริ่มตรวจหาทีละชั้นยามผู้รักษาความปลอดภัยตรวจสอบดูวงจรปิดทีละห้องหลังจากนั้น20นาทีในที่สุดบนหน้าจอวงจรปิดเธอปรากฏอยู่ในลิฟต์ตัวหนึ่ง เขาตรวจสอบดูเพื่อความแน่ชัดตลอดทางท้ายสุดเงาของนัชชาหายไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรม เธอออกมาจากลิฟต์จากโถงทางเดินเธอวิ่งไปที่ทางเลี้ยวขึ้นบันไดบริเวณนี้คือทางเชื่อมไปยังดาดฟ้าโรงแรม หัวใจของเตชิตราวกับถูกค้อนทุบตอกเข้าไปข้างในก้าวเท้าออกมาอย่างฉับไวเข้าไปในลิฟต์ตรงเข้าไปกดปุ่มชั้นสูงสุดของโรงแรมในเวลาคับขันแบบนี้กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอจริงๆ ถ้านัชชาเป็นอะไรขึ้นมาเขาคือคนต้นเหตุที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เตชิตไม่เคยตึงเครียดขนาดนี้มาก่อนมือของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นๆเริ่มหายใจไม่สะดวกความดันโลหิตพุ่งปรี้ดหัวของเขามึนงงไปหมด ภายในเวลาไม่ถึง10วินาทีตัวเขาเหมือนถูกงมขึ้นมาจากในน้ำเย็น ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกอีกครั้งภายนอกประตูคือโถงทางเดินอันเงียบสงัดแต่เตชิตกับรู้สึกเหมือนมีเสียงคำรามของพายุหิมะขนาดมหึมา เขาเดินออกไปตามทางที่นัชชาเดินในกล้องวงจรปิดไม่ลังเลที่จะเปิดประตูออกตรงไปยังดาดฟ้า“แกร๊ก”ระเบียงปูนสีเทาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคอมเพรสเซอร์แอร์เส้นเหล็กต่างๆแต่สิ่งเดียวที่ไม่มีคือเงาอันอ่อนโยน เตชิตราวกับถูกตอกติดไว้ตรงนั้นสองมือกำแน่นข้างลำตัวแต่กลับไม่มีแรงแทบจะทรุดล้มลงไป เสื้อสูทที่เป็นระเบียบกับกางเกงสแล็คถูกลมพัดลอยขึ้นมาเล็กน้อยผมที่ปกปิดตรงหน้าผากค่อยๆยุ่งเหยิงเขาดึงสติกลับมาก้าวเดินไปที่ราวกั้นบนดาดฟ้ามองลงไปจากระดับความสูงตรงนี้กลุ่มคนจำนวนมากเสมือนมดตัวเล็กตัวน้อยแต่กลับดีที่เขาไม่เจอใบหน้าของคนที่เขายากจะยอมรับในสิ่งที่กระทำไปปรากฏขึ้น “ฮือๆๆๆ……” ด้านหลังเขาจู่ๆก็มีเสียงสะอึกสะอื้นของผู้หญิงดังขึ้นมา เตชิตหยุดชะงักหันไปตามเสียงนั้นมุมหลังเครื่องระบายอากาศขนาดใหญ่เขารีบเดินไปดูเห็นผู้หญิงที่นั่งขดตัวอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นสองมือกอดเข่าไว้ใบหน้าของเธอก้มลงซุกอยู่ระหว่างขา ตัวของเธอสั่นไปหมดและยิ่งสั่นขึ้นไปหลังจากที่เขาเดินเข้าไป ในใจของเขาชาไปหมดนึกถึงสิ่งที่เขากระทำกับเธอไปเมื่อครู่ยิ่งรู้สึกผิดจนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เขามองดูเธออยู่นานขาเรียวเล็กร่างที่นั่งคุดคู้อยู่ยกมือคลำที่คิ้วตอนแรกอยากจะเข้าไปปลอบเธอแต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเกรี้ยวดกราดขึ้นมา“อย่ามาแตะต้องฉัน!” ตาเธอแดงก่ำจมูกก็แดงเช่นกันแต่ถึงยังไงทั้งหมดนี้ก็ไม่เห็นชัดเท่ารอยบนคอของเธอ สิ่งที่เขาทิ้งร่องรอยไว้ มือของเตชิตค้างอยู่ในอากาศไม่กี่วินาทีต่อมาเขาวางมือลงตาหยุดชะงักคอแห้งเล็กน้อย“โอเคผมไม่แตะตัวคุณ” นัชชาก้มหน้าลงน้ำตาไหลลงทีละหยดเขาไม่มองหน้าเธออีกราวกับว่าถ้าขืนมองเธออีกก็เหมือนยิ่งทรมานตัวเอง เตชิตไม่พูดอะไรมองดูเธอร้องไห้ฟูมฟายเสียใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้น้ำตาทุกหยอดของเธอเหมือนไหลลงไปในหัวใจของเขา“อย่าร้องไห้นะฉันผิดเอง” นัชชาเม้มปากร้องไห้หนักกว่าเดิม “ผมไม่รู้ว่าปณิตาทำเรื่องแบบนี้กับคุณเข้าใจผิดคิดว่าคุณจะทิ้งผมไปผมก็เลยโมโหมากสี่วันสามคืนที่ผ่านมาผมตามหาคุณไม่หยุดไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับคุณเลยผมผิดหวังสิ้นหวังไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณจะหนีผมไปกะทันหันแบบนี้ผมก็เลยกลัวโกรธอยากฟังคำอธิบายจากคุณถ้าผมรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ผมจะไม่ทำแบบนี้กับคุณเลย”
已经是最新一章了
加载中