​ตอนที่145เธอเชื่อฉันไหม   1/    
已经是第一章了
​ตอนที่145เธอเชื่อฉันไหม
ตอนที่145เธอเชื่อฉันไหม จากเดิมที่ไม่พอใจเอกสารโดนแย่งไปแต่พอได้ยินคำที่เขาพูดแล้วความไม่พอใจก็หายไปหมด เห็นเขาน่ารักแบบนี้ก็ช่างมันเถอะ สองคนว่างไม่มีอะไรทำก็เลยไปกินจิ้มจุ่มเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเมืองJก่อนหน้านี้มีคนจองล่วงหน้าก็จองไม่ได้ วันนี้มาเธอถึงจะรู้ว่านัชชาก็เป็นสมาชิกของร้านนี้ สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่กินเผ็ดกินแต่แกงจืดๆ มีแต่นัชชาคนเดียวที่กินเผ็ดพอกินเสร็จปากของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำมันแล้ว หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเธอเอาน้ำอัดลมมาหนึ่งขวดดื่มไปด้วยพูดไปด้วย “ไม่กินแกงจิ้มจุ่มชีวิตไม่สมบูรณ์จริงๆ” ทั้งสองคนเดินมาถึงตรงหน้าพอดี พอได้ยินคำนี้เตชิตก็ดึงเธอมาอยู่ตรงหน้าก้มตัวลงนิดๆแล้วนัชชาอยู่ตรงกลางระหว่างรถยนต์กับเขา ตาที่ดำมืดมนแล้วมองไปทางแก้มของเธอที่แดงๆ แล้วยิ้มที่มุมปาก “ไม่สมบูรณ์?” พูดจบเขาก็ก้มหัวลงไปจูบบนปากที่แดงๆ แดงเพราะเผ็ดหรือโดนกัดก็ไม่รู้ เขาพุ่งเข้ามาทำให้นัชชาตกใจไปหมด หางตามองไปทางถนนที่มีคนเดินไปมาหัวใจเต้นแรงจนจะออกจากหน้าอก “อือๆๆๆ......” คำที่อยากจะพูดก็พูดไม่ออก เตชิตไม่ให้โอกาสเธอหายใจแย่งทุกอากาศในปากของเธอไปหมด แค่จูบเดียวทำให้เธอหายใจไม่ได้เลย ผู้ชายยื่นตรงมือไปจับที่คางของเธอมองไปทางปากที่แดงไปกว่าเดิมอย่างพอใจ “ตอนนี้ชีวิตของฉันสมบูรณ์แล้ว นัชชาอึ้งไปเลยสักแป๊บถึงจะเข้าใจความหมายของเขา หัวใจก็เต้นแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง “ขึ้นรถ”เตชิตยกมือไปเคาะที่หน้าผากของเธอเบาๆ พอนัชาได้สติกลับก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ รัดเข็มขัดเสร็จ เธอนึกเรื่องราวของเช้านี้ได้ก็เลยเล่าให้เขาฟังหมดๆ “อ๋อ นายได้ไปกดดันบริษัทบอยูจริงๆเหรอ” สายตาของผู้ชายมองทางหน้าของเธอ “เธออยากจะมาช่วยพูดให้เขา?” “ไม่ใช่!”นัชชากลัวเขาจะเข้าใจผิดก็เลยรีบแก้ตัว “ที่ตระกูลฤทธิเดชเป็นแบบนี้ฉันไม่รู้สึกสงสารเลย แต่ฉันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีกไม่อยากจะยุ่งเลยนิดเดียว นายเข้าใจไหม?” “ถ้าปล่อยไปแบบนี้มันง่ายเกินไปแล้ว” “ฉันรู้ว่านายอยากจะแก้แค้นแทนฉัน สำหรับฉันแล้วเรื่องพวกนี้ผ่านไปแล้ว จบตั้งแต่วันที่ศาลประกาศผลแล้ว ตอนนี้ฉันอยากจะอยู่กับนายดีๆไม่อยากจะยุ่งกับพวกเขาอีก”นัชชามองไปทางเขาอย่างจริงจัง “สำหรับฉันแล้วนายคือคนนั้นที่ฉันควรจะไปทุ่มเทด้วย” คำนี้ของเธอทำให้หัวใจที่วุ่นวายของเตชิตนิ่งสงบไป ทุกอย่างที่เขาทำเพราะนัชชาถ้านัชชาไม่ชอบเขาทำไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ตอนนี้ตระกูลฤทธิเดชใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้ว เตชิตไม่ได้ทำอะไรก็แค่ถ่วงเวลาไปงั้นๆ ถ้าพวกเขาอยากจะตั้งตัวใหม่ก็คงจะยาก ลังเลไปสักแป๊บ เตชิตยอมแล้ว “ได้ ฉันตกลงกับเธอ’ นัชชาโล่งอกไปแล้วยิ้มบานให้เขา “ขอบใจนายมากๆนะ” ในสายตาของเตชิตเต็มไปด้วยรอยยิ้มของนัชชา เขายกมือไปลูบที่หัวของเธอ “ยัยบ๊อง” แอร์ในรถเปิดแรงมาก กินอิ่มก็ชอบง่วงระหว่างทางที่กลับไปนัชชาก็หลับไปเลยอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นกระทันหัน ดังมาสักพักเห็นเขาไม่รับ นัชชาคิดว่าเขาไม่สะดวกรับก็เลยยื่นมืออยากจะไปเลื่อนกระจกรับแทนเขาแต่ไม่คิดว่ามือที่ยื่นไปก็โดนขวางไว้ทันที “ไม่ต้อง”เตชิตเห็นชื่อคนที่โทรมาคือทีนาร์ก็รีบเอาโทรศัพท์เก็บเข้าในกระเป๋าเสื้อชั้นใน เสียงไม่เหมือนกับปกติ นัชชาเห็นเขาทำพฤติกรรมต่างๆนี้อึ้งไปเลย ความง่วงของเธอหายไปครึ่งนึงแล้วกระพริบๆตางงนิดๆ เขา......วางสายไป? สถานการณ์ในรถเปลี่ยนไปทันที สภาพรอบข้างของทั้งสองคนเปลี่ยนไปเพราะโทรศัพท์สายนี้ มือของนัชชาที่วางอยู่ข้างเบาะเริ่มกำแน่นแล้วถามอย่างไม่แน่ใจ “ทำไมไม่รับ?” “เรื่องไม่สำคัญไม่ต้องสนใจ”เตชิตไม่หันมองเขาหน้าก็เห็นได้ชัดเจนว่าหน้าของเขาเริ่มแข็งทื่อ นัชชาก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแล้วคิ้วก็เริ่มขมวด “นายยังไม่รับแล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าบริษัทมีเรื่องด่วนจะทำยังไง?” “ไม่เป็นไร” พอเขาพูดคำนี้เสร็จเหมือนทำให้อุณหภูมิรอบข้างเย็นลงไปทันทีห้องที่เมื่อกี้รู้สึกว่าอบอุ่นแต่ตอนนี้กลับเย็นขนาดนี้ คำว่าไม่เป็นไรของเขาเหมือนกำลังบอกว่าไม่อยากจะคุยต่อ...... โยงไปถึงเรื่องของช่วงเวลานี้ผิดปกติจริงๆ นัชชามีอะไรอยากจะถามเขามากมายแต่ก็ไม่ได้ถามจนกระทั่งเขาเอารถไปจอดที่โรงจอดรถแล้วดับรถ ไฟบนหัวก็สว่างขึ้นอัตโนมัติส่องจากบนไปยังหน้าของทั้งสอง ไฟสีส้มที่อบอุ่นก็ไม่สามารถลดความเย็นชาบนใบหน้าได้ นัชชาแกะเข็มขัดแต่ไม่ได้ลงจากรถแล้วมองไปทางหน้าข้างของเขาสูดหายใจเข้าลึกๆเหมือนตัดสินใจอะไรสักอย่างนึงถึงจะเอ่ยปากถาม “เตชิค ช่วงนี้นายมีเรื่องปกปิดฉันใช่ไหม?” เขารู้ถ้านัชชาถามแบบนี้ก็แสดงว่าเธอสังเกตเห็นอะไรแล้ว เขารู้ว่าถ้าปกปิดนัชชาต่อนัชชาจะรู้อะไรแน่ๆแต่เขาคิดไม่ออกว่าจะพูดยังไง พูดไปก่อนเหรอ? เธอคงไม่เชื่อแน่นอน พูดคำโกหกหาข้อผิดสังเกตได้ง่ายมากโดยเฉพาะต่อคนที่เรารัก เขาไม่ได้พูดอะไรยื่นมือไปกดที่กล่องลับในรถในนั้นมีกล่องบุหรี่วางอยู่ นัชชาใช้หางตามองเห็นก็ยกมือไปกดที่มือของเขา “ทำไมไม่พูด” การกระทำน้อยๆของเธอทำให้รู้เลยว่าวันนี้เธอต้องถามจนได้คำตอบเพราะเขาผิดปกติมากเกินไปแล้ว เตชิตขมวดคิ้วมองไปทางมือของทั้งสองที่ทับกัน ปากขยับเล็กน้อยทำให้รู้ว่าในใจของเขาก็กำลังขัดแย้งกันอยู่ “นัชชาฉันไม่ อยากจะหลอกเธอ” พอได้ยินแบบนี้มือของนัชชาที่ทับบนมือของเขาอยู่เริ่มหดตัวแล้วออกจากมือของเขาทันที คำนี้ของเขาเริ่มทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ สุดท้ายเตชิตก็จุดบุหรี่แท่งนั้น ในตอนที่มีอารมณ์แย่มากๆมีแต่บุหรี่เท่านั้นที่ทำให้เขาสงบได้ เกิดมา32ปีไม่เคยลังเลมากขนาดนี้มาก่อนในสมองเต็มไปด้วยคำโถกเถียง บอกเธอหรือไม่บอกเธอ? เทียบกันแล้วก็ไม่กล้าเสี่ยง ผลที่บอกเขาไปไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับได้ ในตอนที่เขาเงียบหัวใจของนัชชาเหมือนเริ่มหดตัวหายใจลำบาก “ตกลง......เป็นเรื่องอะไร?” “เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเธอ”ควันบุหรี่ลอยออกจากปากเขา “เป็นแค่เรื่องธรรมดาต้องใช้เวลามาย่อยสลาย พูดความจริงฉันรู้ว่าฉัน ไม่มีทางปกปิดได้แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะสารภาพ” มือของผู้ชายที่คีบบุหรี่อยู่สั่นเบาๆ ถ้าไม่สังเกตดีๆคงมองไม่เห็น “นัชชา เธอยอมเชื่อใจฉันไหม”
已经是最新一章了
加载中