ตอนที่ 27 ใครที่อยากทำร้ายฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 27 ใครที่อยากทำร้ายฉัน
ตอนที่ 27 ใครที่อยากทำร้ายฉัน จรีภรณ์จ้องมองเขาอย่าอึดอัด เดิมทีอยากจะลุกขึ้นมาใส้เสื้อผ้าแต่ว่าเห็นเสื้อผ้าของตัวเองถูกฉีกขาดแล้วแบบนั้นจึงได้แต่ละอายและเอาผ้าห่มคลุมหัว จิรภาสเห็นจรีภรณ์แบบนั้นรู้สึกตลกจึงถามเหน็บแนมขึ้น “ทั่วทั้งร่างกายของคุณผมก็เคยสัมผัสและก็เคยจูบแล้ว อยู่ต่อหน้าผมจะใส่เสื้อหรือไม่ใส่มันต่างกันตรงไหน?” จรีภรณ์หน้าแดง “ขี้โกง” เห็นจรีภรณ์ตอนนี้เป็นแบบนี้จิรภาสก็ระงับความอยากที่จะกดเธอลงใต้ร่างกายอีกครั้ง และหันกลับมาถือเสื้อผ้าจากข้างนอกเข้ามา หลังจากที่บอกขอบคุณแล้วจรีภรณ์พอเงยหัวขึ้นก็พบว่าจิรภาสยังยืนอยู่ที่นั่น เธอโกรธนิดหน่อยแล้วให้จิรภาสออกไป แต่ว่าระดับความหน้าด้านของจิรภาสนั้นอยู่เหนือจินตนาการ จนกระทั่งสุดท้ายจรีภรณ์โกรธจริง ๆ จิรภาสถึงหน้าหงอยออกไป หลังจากที่จิรภาสออกไป จรีภรณ์ก็รีบใส่เสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลา ปวดหัวมาก และคอก็แห้ง เธอไม่อยากจะคิดถ้าหากเมื่อคืนวานไม่มีจิรภาสล่ะก็ เธออาจจะตายแล้วก็ได้ ถ้าหากเธอตายแล้วจะทำยังไง จิรภาสที่รออยู่ข้างนอกนานแล้วไม่เห็นจรีภรณ์ออกมาสักที กำลังจะเคาะประตู จรีภรณ์ก็เดินออกมา “ผมซื้อข้าวต้มมาสองชุด คุณก็มากินด้วยกันสิ!” จิรภาสมองจรีภรณ์อย่างอบอุ่น “ขอบคุณ คุณกินเองเถอะ ฉันยังไม่หิว จรีภรณ์ตอบอย่างเย็นชา” จิรภาสจ้องมองจรีภรณ์ด้วยสีหน้าที่น่าเบื่อ สักพักก็หันกลับมา ในใจก็โกรธขึ้นมาทันที เมื่อกี้ยังนอนจู๋จี๋กันอยู่เลยตอนนี้กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้หญิงคนนี้เห็นตัวเองเป็นอะไร? แต่ว่ายังระงับความโกรธแล้วถามว่า “กินเสร็จแล้วค่อยไปเถอะ ผมจะไปส่งคุณเอง!” “ไม่ต้อง ตอนนี้ฉันก็จะไปแล้ว” พูดเสร็จก็ฝืนร่างกายที่ไม่สบายเดินออกไปทางประตู หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวจู่ๆก็คิดอะไรขึ้นได้และหันกลับมามองจิรภาส “เสื้อผ้าฉันจะคืนให้คุณ!” เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของจรีภรณ์แล้วจิรภาสก็รู้สึกว่าปอดของตัวเองแทบจะระเบิด “เคยใส่แล้วก็ทิ้ง หรือว่าผมยังจะต้องการเหรอ?” ประโยคนี้ของเขาทำให้จรีภรณ์รู้สึกแย่ เมื่อมาถึงจุดนี้เธอไม่อยากไปคิดเล็กคิดน้อยอะไร เพียงแค่อยากไปให้พ้นจากที่นี่เร็วๆ เรื่องเมื่อคืนวานทำให้เธอไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ เธอเดินโซซัดโซเซไปถึงหน้าลิฟต์ เดิมทีอยากกดลิฟต์ แต่ว่าต่อหน้าดูเหมือนว่าจะมีปุ่มอยู่หลายปุ่ม หัวของเธอวิงเวียนเดิมทีก็ยืนไม่ค่อยตรง แม้แต่เดินก็จะไม่ไหว แต่ในใจเธอมีแค่ศรัทธาเดียว นั่นก็คือจะต้องจะต้องไป จะมาหมดสติอยู่ที่นี่ไม่ได้ แต่ว่าหัวก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ เธอแม้แต่มองข้างหน้ายังไม่รู้ว่าคืออะไร เธอพยายามที่จะพิงผนัง แต่ว่าร่างกายกลับค่อยๆเลื่อนลงไปอย่างช้า ๆ จิรภาสยืนอยู่ในห้องรับแขกเขาเพิ่งจะเห็นสายตาที่ดื้อรั้นเหมือนกับตอนแรกที่เธอจากไป เขาเสียใจและนินทาขึ้นหนึ่งประโยค สามปีก่อนเขาปล่อยให้เธอจากไปผลลัพธ์คือหลายปีมานี้ไม่มี ข่าวคราวของเธอเลย เขาทรมานหามาแล้วตั้งสามปี ตอนนี้ทำไมเขายังจะต้องทำเรื่องที่ผิดพลาดเหมือนเดิม จิรภาสหันกลับแล้ววิ่งไปข้างนอก แต่พอเปิดประตูก็เจอจรีภรณ์นอนอยู่บนพื้น ในใจตะโกนบอกว่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปอุ้มจรีภรณ์แล้วรีบไปโรงพยาบาล ระหว่างทางเขาโทษตัวเองอยู่ในหัว รู้ทั้งรู้ว่าเธอผ่านเรื่องเมื่อคืนมาอารมณ์ไม่ดี ตัวเองกลับไปโกรธเธอ อีกทั้งเธอยังเปียกฝนอีก เขาต้องการเธอหนึ่งคืนอย่างควบคุมไม่ได้ เขาคิดตลอดว่าที่ทั่วทั้งร่างกายของเธอร้อนเป็นเพราะกินยานั่นเข้าไป คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะมีไข้ ถ้าหากเมื่อคืนวานพาไปส่งที่โรงพยาบาลเลย ตอนนี้เธอคงจะไม่เป็นลมหมดสติ จิรภาสมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่แดงก่ำของจรีภรณ์ โอบกอดเธอด้วยความปวดใจ ในสายตาที่โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของตัวเอง หลังจากที่ถึงโรงพยาบาล จิรภาสอยู่ข้างกายจรีภรณ์ตลอดไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว กลัวว่าความไม่ระวังจะทำให้อาการป่วยแย่ลง จนกระทั่งตอนเช้าของวันที่สองจรีภรณ์ถึงค่อยๆลืมตาขึ้น หลังจากที่จิรภาสเห็นเธอตื่นขึ้นมาจึงถามทันทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง?หิวหรือเปล่า?อยากดื่มน้ำไหม? ยังมีตรงไหนที่ไม่สบายอีกหรือเปล่า หลังจากที่พูดเสร็จก็รีบไปบอกหมดทันที ท้ายที่สุดจรีภรณ์ก็ขวางเขาเอาไว้ แล้วพูดว่า “ฉันใช้โทรศัพท์ของคุณได้ไหม?” จิรภาสเอาโทรศัพท์ยื่นให้จรีภรณ์ จรีภรณ์โทรหาเทพวีใช้เสียงที่แหบๆบอกว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล อีกสายหนึ่งเทพวีพูดอย่างกังวลและไม่นานก็วางสาย จิรภาสหน้าเคร่งเครียดมองจรีภรณ์ค่อยๆเทน้ำให้เธอ หลังจากที่ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเทพวีก็รีบร้อนมาโรงพยาบาล แต่ว่าพอเห็นจิรภาสก็ถามขึ้นทันที “จิรภาส คุณทำอะไรกับจรีภรณ์?” “คุณเสียงเบาๆหน่อย นี่โรงพยาบาลนะ!” จิรภาสพูดเสียงเบาๆ “โรงพยาบาลแล้วทำไม คุณบอกฉันมาว่าคุณทำอะไรกับจรีภรณ์?” เทพวีมองเขาและกัดฟันอย่างเกลียดชัง “เมื่อวานเธอเกิดเรื่อง” “เธอเกิดเรื่องอะไร จิรภาสฉันจะบอกคุณไว้ ถ้าหากคุณกล้าทำร้ายจรีภรณ์ฉันรับรองว่าไม่ปล่อยคุณไว้แน่ คุณและเมียน้อยอย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข หลังจากนี้ขอให้คุณอยู่ห่างจากจรีภรณ์” เทพวีพูดอย่างไม่ไว้หน้าเลย เดิมทีก็ไม่สนความรู้สึกของเขาอยู่แล้ว โดยเฉพาะคิดถึงจิรภาสเพราะเรื่องเมียน้อยคนนั้นถึงได้ทิ้งจรีภรณ์ก็เลยอดไม่ได้ที่สาปแช่งเป็นการใหญ่ จิรภาสไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เขาขี้เกียจเถียงกับเทพวี เขาเพียงหวังว่าจรีภรณ์จะลุกขึ้นมาเร็วๆ สำหรับเรื่องนั้นเขายังไม่อยากให้คนอื่นรู้ ท้ายที่สุดนี่จะกระทบต่อชื่อเสียงของจรีภรณ์ เขาอยากให้ความจริงถูกเปิดเผย เห็นจิรภาสถึงกับไม่โต้ตอบ เทพวีคิดโดยสัญชาตญาณว่าที่จรีภรณ์เป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะเขาเท่านั้น ทันใดนั้นหัวใจก็เอือมระอา “งั้นตอนนี้คุณก็ไม่ได้แล้ว จรีภรณ์ที่นี่ฉันดูแลเอง” แต่ว่าจิรภาสกลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย จ้องจรีภรณ์อย่างไม่วางตา “เป็นอย่างไรบ้าง? คุณยังรู้สึกไม่สบายที่ไหนอีกไหม?” “จิรภาส ทำไมคุณหน้าด้านขนาดนี้ ถ้าหากคุณยังไม่ยอมไปฉันจะโทรตามเมียน้อยให้มาลากคอคุณกลับ!” เทพวีเห็นเขาไม่เห็นตัวเองอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ไม่นานความโกรธก็ระเบิดออกมา และเริ่มคุกคามทันที จรีภรณ์เห็นเทพวีเดือดดานแบบนี้ รู้นิสัยของเธอเป็นอย่างดี จิรภาสยังไงๆก็ไม่ไป ด้วยความโกรธของเธอ เธอต้องโทรหาชญาภาแน่นอน เธอไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนั้น เพียงแค่คิดถึงในหัวใจของจรีภรณ์ก็กระอักกระอ่วม แล้วจึงพูดออกมาว่า “คุณไปเถอะ ที่นี่ฉันไม่ต้องการความดูแลของท่านประธานใหญ่จิรภาสหรอก!” จิรภาสเห็นจรีภรณ์หัวแข็งแบบนี้จึงเงียบและไม่นานก็หันหลังจากไป ก่อนไปเขาพูดกับจรีภรณ์อย่างอบอุ่นว่า “งั้นผมอยู่ด้านนอก คุณมีอะไรเรียกผมได้ตลอดนะ!” เทพวีด่ามาหนึ่งประโยคว่าหน้าด้าน และรีบถามจรีภรณ์ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? จรีภรณ์ก็ไม่ปิดบัง บอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานให้เทพวีฟัง เทพวีหลังจากที่ฟังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทนไม่ไหวระเบิดคำหยาบคายออกมาไม่รู้กี่คำต่อกี่คำ “แม่งเอ้ย ใครที่ทำแบบนี้กันแน่ ถ้าหากให้ฉันรู้ล่ะก็ เจอฉันฆ่าแน่” แต่ว่าเพิ่งพูดได้ไม่กี่ประโยคเธอก็หยุดทันที และถามอย่างสงสัยว่า “จิรภาสรู้ได้อย่างไรว่าคุณอยู่นั่น เขาจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า” “ฉันก็ไม่รู้ ฉันยังไม่ทันถาม” จรีภรณ์คิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานได้โดยสัญชาตญาณ จู่ๆก็ก้มหัวลงอย่างใจที่ห่อเหี่ยว ตำหนิตัวเองที่ไม่สำรวมถึงกับทำขายหน้าต่อหน้าจิรภาส “คุณว่า เรื่องนี้จิรภาสเป็นคนทำหรือเปล่า?” เทพวีเอามือค้ำคาง ไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลของจรีภรณ์เลยแม้แต่น้อย “ไม่สิ เขาลงทุนทำถึงขนาดนี้จะมีจุดประสงค์อะไร?” จะว่าไปแล้วฉันคิดว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น จรีภรณ์มีท่าทีสั่นหัว เธออยู่กับจิรภาสมาตั้งหลายปี ถามตัวเองเธอยังเข้าใจเขาอยู่หรือเปล่า แม้สุดท้ายจะเกิดเรื่องตลกแบบนั้นขึ้น แต่ว่านี่ไม่ใช่สไตล์ของเขา เขายังไม่ได้เลวขนาดนั้น “เอาเถอะ ผู้ชายที่สามารถนอนบนเตียงกับเมียน้อยต่อหน้าคุณยังจะเป็นคนแบบไหนได้อีก?” เทพวีพูดเหน็บแนม “แต่ว่าเทพวี ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลย ฉันมักจะคิดว่าครั้งนี้มีคนอยากทำร้ายฉัน!” “แม้ว่าจะไม่เกี่ยว คุณก็ต้องอยู่ห่างๆเขาไว้นะ คุณลืมว่าเขาทำร้ายคุณยังไงแล้วเหรอ?” เทพวีเตือนอย่างห่วงใย “อึม ฉันรู้!” จรีภรณ์พยักหน้า ขณะที่จิรภาสนั่งอยู่บนม้านั่งด้านนอกอารมณ์ก็ไม่ดี เมื่อวานเขาก็บอกให้ปณัยไปตรวจสอบเรื่องนี้ ว่าแท้จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลธนะปรีดากุลหรือเปล่า แต่ว่ารอแล้วหนึ่งวันก็ไม่เห็นโทรมา นี่แสดงให้เห็นว่าปณัยอะไรก็หาไม่เจอสักอย่าง ทำให้จิรภาสร้อนรนไม่น้อย เพียงแค่คิดถึงว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับจรีภรณ์ได้ตลอดเวลา ในใจของเขาก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ที่ยังรอข่าวนี้เหมือนกันก็ยังมีนพนาสองแม่ลูก
已经是最新一章了
加载中