ตอนที่ 29 ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 29 ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ
ตอนที่ 29 ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ นพนาเห็นเขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้ จึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “งั้นเธออาการหนักหรือเปล่า? ถ้าอย่างนั้นหนูให้น้าธยาน์ไปเคี่ยวซุปให้พ่อนำไปด้วยไหม?” “ไม่ต้องหรอก” “ทำไมไม่ต้องล่ะ? เป็นเพราะว่าเธอไม่อยากเจอคุณหรือเปล่า?” นพนาถามอย่างห่วงใย “ไม่ใช่” ตรีภพมองนพนา ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี ตอนที่เขาไปโรงพยาบาลเมื่อกี้ก็เห็นจิรภาสอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าหันหลังกลับไปอีก เห็นตรีภพมีปัญหาในใจมากมายขนาดนี้ นพนาและชญาภามองตากันแล้วถามว่า “ถ้างั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น?คุณทะเลาะกับเธอเหรอ?” “ไม่ใช่!” ตรีภพพูดง่ายและชัดเจน นี่ทำให้นพนาสองแม่ลูกแทบจะบ้า ที่จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เธอก็ไม่กล้าที่จะถามมากอีก แต่ว่าก็ไม่ดีที่จะดึงดันซักถามต่อไปอีก ตรีภพมองภรรยาอย่างอ่อนโยนและมองลูกสาวอย่างเอ็นดู และพูดว่า “ชญาภา ถ้าอย่างนั้นเรื่องแต่งงานของลูกกับจิรภาสก็ล้มเลิกเถอะ” “อะไรนะ? คุณตรีภพ นี่คุณเป็นอะไรไป เมื่อกี้ฉันเพียงแค่เข้าใจผิดไป ถ้าผิดก็เป็นฉันเองที่ผิด แต่คุณอย่าเอาความโกรธไปลงกับชญาภานะ!” นพนาถูกคำพูดของตรีภพทำให้ตกใจ “พ่อ นี่พ่อหมายความว่ายังไง?” ชญาภาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ผมรู้ มันไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องเมื่อกี้” ตรีภพคิดอยู่สักพักจึงพูดต่อ “ตอนที่ผมไปเมื่อกี้ผมเห็นจิรภาสก็อยู่ด้วย!” “เขาเห็นคุณแล้วเหรอ?” นพนาถามอย่างกังวล ฐานะของจรีภรณ์เป็นความลับมาโดยตลอด ถ้าหากจิรภาสรู้เข้าล่ะก็ ชญาภากับเขาก็จะสิ้นสุด! “ไม่ใช่ เขายังไม่รู้ ผมเพียงคิดว่าผ่านมาตั้งหลายปีเขายังไม่แต่งงานกับชญาภาสักทีจะต้องเป็นเพราะว่าในใจเขายังมีจรีภรณ์อยู่แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นล่ะนั้น ก็คงไม่ลากยาวมาจนถึงตอนนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่สู้พวกเราช่วยให้พวกเขาสมหวังจะดีกว่า” ตรีภพมองชญาภาด้วยน้ำใสใจจริง ตอนแรกหลังจากที่จิรภาสและจรีภรณ์หย่ากัน ก็มีสัมพันธ์กับชญาภาอย่างรวดเร็ว จิตสำนึกของเขาก็คิดว่าเขาเห็นแก่ฐานะบุตรีของนายกเทศมนตรี จะว่าไปแล้ว ตอนแรกชญาภาจู่ๆก็อยู่ด้วยกันกับจิรภาส ทำไมเขาล้วนแต่คิดว่าชญาภาเข้าไปแทรกแซงงานแต่งของพวกเขา เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขามองจิรภาสคนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร อีกทั้งเมื่อเขารู้ว่าพวกเขาหย่ากันแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยไม่อยากที่จะไปพูดอะไร เพียงแต่ให้ชญาภาอยู่ห่างๆเขาไว้ แต่ว่าชญาภากลับขอร้องเขาอย่างสุดหัวใจไม่ให้แยกพวกเขาจากกัน ตรีภพถึงจำใจพยักหน้าตกลง “พ่อ หนูไม่มีเขาไม่ได้!” ชญาภามองตรีภพทั้งน้ำตา ดูน่าสงสารแบบนั้น “พ่อรู้ว่าลูกชอบเขา แต่ว่าใจของเขาไม่ได้อยู่กับลูก พวกลูกอยู่ด้วยกันก็ไม่มีความสุข ลูกลืมเขาซะเถอะ พ่อรับรอง หลังจากนี้จะหาที่ดีกว่านี้ให้ลูกแน่นอน!” ตรีภพมองชญาภาอย่างปวดใจ คนนั้นก็ลูกคนนี้ก็ลูกจะตัดเนื้อก้อนไหนออกไป มันก็เจ็บปวดหัวใจด้วยกันทั้งนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือก “คุณตรีภพ หรือว่าคุณลืมแล้วว่าตอนแรกนวิยาทำกับจรีภรณ์อย่างไร? เธอจะให้จรีภรณ์เข้าไปอีกครั้งได้อย่างไร” นพนาพูดแทงใจดำ ตอนแรกเพื่อที่จะให้นวิยาเกลียดจรีภรณ์ เธอก็ไปยุยงให้พวกเขาเกลียดชังกันจะว่ามาแล้วจรีภรณ์อยู่บ้านจิรภาสก็ได้รับความขมขื่นทรมานมาแล้วไม่น้อย พอที่จะพูดได้ว่านพนานั้นก็มีส่วนร่วม “ผมรู้ ดังนั้น ผมจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับจรีภรณ์ ผมเป็นหนี้เธอมากมาย ผมจะไม่ทำให้เธอต้องกล้ำกลืนกับความเจ็บปวดอีกแล้ว” ตรีภพลังเลซ้ำแล้วซ้ำอีก ในที่สุดก็พูดความคิดในใจออกมา เพียงแค่เปิดปากพูดออกมา ก็ทำให้นพนาสองแม่ลูกตกใจจนนั่งไม่ติดพื้นกันเลยทีเดียว และพูดแนะนำขึ้นว่า “คุณตรีภพ ความสุขของชญาภาไม่ต้องให้ความสำคัญก็ได้ แต่ว่าคุณก็คิดดูเอาเองนะ ผ่านมาแล้วตั้งหลายปีแล้ว คุณอย่าทำเรื่องที่เลอะเทอะแบบนี้เพราะความรู้สึกผิดชั่วคราวเลยน่ะ จะว่าไปแล้วถึงเวลาแม้แต่ฐานะนายกเทศมนตรีก็รักษาไว้ไม่ได้ นวิยาก็ไม่แน่ว่าจะให้จรีภรณ์เข้าไปนะ!” ความจริงแล้วในใจของเธอก็อยู่ไม่เป็นสุขมาตั้งนานแล้ว เพียงแค่ไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ของเขา กับจรีภรณ์ อย่างไรก็ตามนวิยาก็ไม่มีทางยอมรับจรีภรณ์ จิรภาสก็อาจจะอยู่ด้วยกันกับเธอ “พ่อ พ่อยังไงๆก็จะเปิดเผยเหรอ เรื่องนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของพ่อนะ!” ชญาภาพูดอย่างกังวล ตรีภพเงียบไม่พูดอะไร นพนาพูดไม่ผิด ถ้าหากเรื่องนี้ประกาศต่อสาธารณชนล่ะก็ ฐานะนายกเทศมนตรีของเขาก็รักษาไว้ไม่ได้ ที่นวิยาเต็มใจให้ชญาภาแต่งเข้าบ้านเหตุผลส่วนใหญ่ก็เพราะเขา แม้ว่าสุดท้ายเขาจะได้รับการยอมรับจากจรีภรณ์ แต่ว่ายศนายกเทศมนตรีก็จะไม่มีอีกแล้ว ถึงเวลานวิยาก็ยังจะไม่ให้จรีภรณ์เข้าบ้านอีก นพนาเห็นว่าตรีภพไม่พูดอะไร จึงเหลือบมองไปที่ชญาภา ชญาภารับรู้แก่นสารได้ทันที จึงลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น “พ่อ ได้โปรดให้หนูได้อยู่ด้วยกันกับจิรภาสเถอะ หนูรอเขามาแล้วตั้งสามปี หนูชอบเขาจริงๆ” ตรีภพเห็นลูกสาวน่าสงสารแบบนี้ก็รีบดึงชญาภาลุกขึ้นทันที “พ่อเพียงแค่พูดไปแบบนั้นเอง พ่อรู้ดี” นพนาเห็นตรีภพพูดผ่อนคลายลง สีหน้าดีใจ เข้าไปจับมือชญาภา “พ่อของลูกเพียงแค่ปวดใจกับเรื่องพี่สาวของลูก พวกเราเป็นหนี้เธอจริง ๆ แต่ว่าลูกก็เป็นลูกสาวของพ่อ พ่อจะไม่สนใจลูกได้อย่างไร” ตรีภพนั่งอยู่บนโซฟาตาก็จ้องมองถ้วยชา ทั้งสองล้วนแต่เป็นลูกสาวเขาก็ลำบากใจ หลังจากที่ถอนหายใจอย่างหนักก็ขึ้นไปชั้นบนคนเดียว “แม่ แม่ดูพ่อเดิมทีก็ไม่สนใจหนูอยู่แล้ว” หลังจากที่ชญาภาเห็นตรีภพไปแล้วก็มองไปที่นพนาอย่างอารมณ์เสีย “เฮ้ออ ตาแก่นี่ ถ้าหากไม่เห็นว่าเขายังมีประโยชน์นะฉันฉีกหน้าเขาไปนานแล้ว” นพนาจ้องมองห้องหนังสือของตรีภพอย่างเกลียดชัง เพียงแค่คิดถึงว่านางแพศยาจริภรณ์คนนี้ยังไม่ตาย และยังอยู่ในโรงพยาบาลกินดีอยู่ดี เธอก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก แล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาตรัย ผลปรากฏว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นปิดเครื่อง นี่ทำให้เธอสับสนขึ้นทันที ไม่เพียงแต่เธอที่สับสน ชญาภาเองก็สับสนเหมือนกัน ก่อนอื่น เธอควรจะได้อะไรก่อนแล้วค่อยให้เงินกับเขา สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ มีแต่เสียกับเสีย นพนายังไม่รู้ความลับของชญาภา บ่ายวันนั้น เธอก็ขับรถไปถึงที่ตรอกด้านหลัง สถานที่นี้เธอไม่ได้มานานมากแล้ว ยังไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ห้องทรงกระบอกที่ผุพัง หน้าประตูห้องที่เป็นคราบจ้ำๆจุดๆ นพนาปิดจมูกเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง หลังจากตั้งแต่ที่เธอเป็นคุณหญิงของนายกเทศมนตรีก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย ที่นี่มีความลับที่ไม่สามารถทนและย้อนกลับมาได้ เธอไม่อยากพูดถึงจุดด่ายพร้อยนั่นอีก แต่ว่าตอนนี้เธอจำเป็นต้องมาที่นี่อีกครั้ง พอไปถึงหน้าห้องอาบอบนวดเล็กๆที่หนึ่ง เธอผลักประตูเบาๆ ข้างในมีผู้หญิงนั่งแต่ตัวสวยหยาดเยิ้ม อยู่หลายคน หลังจากที่เห็นเธอเข้ามาทุกคนล้วนเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างตกตะลึง หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงที่แต่งตัวสวยหยาดเยิ้มมองเธออย่างตกใจ หลังจากนั้นก็หัวเราะเยอะเย้ยแล้วพูดว่า “เฮ้ย นี่ไม่ใช่คุณหญิงของนายกเทศมนตรีหรอกเหรอ? ทำไมมาสถานที่แบบนี้ของพวกเราล่ะ!” นพนาเบื่อหน่ายไม่ได้สนใจเธอและเดินตรงไปที่ลานด้านใน เห็นผู้ชายอ้วนๆคนหนึ่งนอนดื่มชาอยู่ที่นั่น “ตรัยอยู่ไหน? นพนาเดินเข้าไปถาม” พอผู้ชายคนนั้นได้ยินเสียงก็หันกลับมามองเธออย่างตะลึง “เฮ้ย นี่ไม่ใช่คุณหญิงของนายกเทศมนตรีหรอกเหรอ?” “ฉันถามคุณว่าตรัยอยู่ไหน?” นพนาถามอีกรอบ “ไปแล้ว” ผู้ชายคนนั้นเยาะเย้ย จากนั้นก็พูดอีกว่า “ผมว่านะนพนา ตอนนี้คุณปีกกล้าขาแข็งแล้ว เมื่อก่อนผมจำได้ว่าคุณยังเรียกผมว่าพี่ไก่อยู่เลย ทำไม? ตอนนี้เป็นคุณหญิงของนายกเทศมนตรีก็ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาแล้วเหรอ?” “ไปไหนแล้ว?” นพนาไม่ใส่ใจเขาอย่างเห็นได้ชัด และก็ไม่พูดไร้สาระมาก “ได้ยินว่าออกจากประเทศไปแล้ว ก่อนไปก็ขายห้องนี้ให้กับผม!” พี่ไก่จับบุหรี่ขึ้นมาสูบ แล้วก็ดึงออกมายื่นให้นพนาอีกหนึ่งมวน “คุณมาหาเขามีธุระอะไร?” นพนาไม่ได้ตอบคำถามของพี่ไก่ การซื้อขายระหว่างเธอกับตรัยปกติจะไม่ให้คนอื่นรู้ เธอพอจะรู้ว่าตัวเองถูกคนหักหลังแล้ว ในใจก็เจ็บแค้น แล้วหันหลังเดินจากไป เดิมทีก็ไม่ได้ใส่ใจที่พี่ไก่ให้บุหรี่อยู่แล้ว เห็นนพนาไม่ยอมตอบคำถามของตัวเองเลย พี่ไก่จึงมองเธออย่างเหน็บแนม “เฮ้อ ไก่ป่าก็คือไก่ป่า คิดจริงๆว่าตัวเองบินไปเกาะกิ่งไม้แล้วก็จะเปลี่ยนเป็นหงส์ ไม่มองว่าตัวเองเป็นตัวอะไร” เมื่อก่อนตอนที่นพนาทำงานอยู่ที่นี่ พี่ไก่ก็ยกยอปอปั้นเธอ ตอนนั้นนพนาเห็นพี่ไก่อยู่ที่นี่ก็เข้ากันได้ดี ก็อยากสานสัมพันธ์กับเขา แต่ตอนนี้ก็เป็นคุณหญิงของนายกเทศมนตรี เรื่องอื้อฉาวเมื่อก่อนปกติก็ไม่อยากที่จะพูดขึ้นมาอีก แล้วจึงพูดขู่ขึ้นว่า “พี่ไก่ เราต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมายุ่งกัน ฉันแนะนำว่าให้คุณปล่อยวางเถอะ” “โอ้ ตอนนี้มาแนะนำให้ผมปล่อยวาง เมื่อก่อนแม่เขามาเกลี้ยกล่อมผมทำไมคุณไม่ปล่อยวาง?” “พี่ไก่ ฉันเบื่อคำพูดของคุณแล้ว กล้าพูดกับฉันแบบนี้” นพนาโกรธแล้วด่าออกมา
已经是最新一章了
加载中