ตอนที่ 33 ข้อความเหมือนคมมีด

ตอนที่ 33 ข้อความเหมือนคมมีด มีคนที่ชอบใช้โอกาสนี้ ถ่ายรูปเรื่องราวของเมื่อวานหลังจากนั้นก็เอาไปกระจายข่าวว่าจรีภรณ์ใจร้ายทำร้ายขอทาน ในกระทู้นั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจรีภรณ์ทำไปไม่มีศีลธรรม ใช้อำนาจกับคน ไปจนถึงว่าจรีภรณ์ทำร้ายคนจรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เพียงแค่ขอน้ำกินแก้วเดียวก็ถูกทำร้าย ถูกทุบตีไม่ต่างอะไรกับหมูกับหมา พอกระทู้ถูกปล่อยออกมา ความคิดเห็นก็มีคำด่าท่ออยู่อย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้นพนามีความสุขอย่างมาก ชญาภาก็อุ้มคอมแล้วยิ้ม ในใจก็คิดว่ายังไงครั้งนี้จรีภรณ์ต้องดับแน่ๆ แม่ของเธอนั้นเก่งจริงๆ นาทีนี้จรีภรณ์ไม่รู้ตัว ไม่รู้เรื่องราวว่าเป็นมาอย่างไรด้วยซ้ำจนเขากลายเป็นคนโหดเหี้ยมไปโดยปริยาย หลังจากที่ขนุตต์รู้ก็หาคนไปกำจัดพาดหัวข่าวแบบนี้ทิ้งแล้วก็เข้าไปฟ้องร้องสื่อเหล่านั้น ผลกระทบของเรื่องนี้นับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแต่ให้ลบโพสต์แต่ให้ควบคุมอีกด้วย เรื่องนี้เหมือนมีใครบางคนกำลังจัดการอยู่เบื้องหลัง ชนุตต์กก็สั่งให้เมษาแจ้งตำรวจเลยทันทีเพื่อจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลับๆ เทพวีทำงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ เธอก็ยื่นเรื่องเข้าที่สูงเลยทันที บอกว่าให้ติดตามและรายงานเรื่องนี้และให้ความยุติธรรมแก่จรีภรณ์ด้วย ในที่สุดหลังจากความพยายามของทุกคน เหตุการณ์นี้ก็สิ้นสุดลงอย่างกระทันหัน จนถึงวันที่สามก็ไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับจรีภรณ์อีก ทำให้นพนาและชญาภารู้สึกโกรธมาก “มันเป็นคนเลวแล้วยังถูกช่วยเหลืออีก เป็นแบบนี้แล้วทำไมกลับเป็นแบบนี้” นพนาโกรธมากจนขว้างโทรศัพท์ทิ้ง “แม่ งั้นเราทำไงต่อดี ทำมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้แล้ว ข่าวสักนิดก็ไม่มีเลย ” ชญาภานั่งดูข่าวธรรมดาไม่มีข่าวไหนพูดถึงข่าวของจรีภรณ์เลย “ฉันจะรู้ได้ไง ว่าต้องทำยังไง ให้ฉันคิดแป๊บนึง” นพนารู็สึกปวดหัวขึ้นมา “แม่ หนูมีวีธี” ตาของชญาภามองนพนาอย่างประหลาดใจและดีใจ “วิธีไหน” “พวกเราก็ไปซื้อพวกความคิดเห็นออนไลน์ในอินเตอร์เน็ตสิ ให้จู่โจมมัน ถ้าเป็นแบบนี้นะ ก็จะทำให้ชื่อเสียงของมันเน่าเหม็น และมันก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ” “ดีเลย ลูกสาวแม่ฉลาดจริงๆ รีบไปจัดการเถอะ ไม่มีเงินแต่มีแม่ ” นพนารู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที บอกว่าจะทำก็ทำ หลังจากได้เงินสนับสนุนนจากแม่มาแล้ว ชญาภาก็เอาไปใช้จ่ายเพื่อหากลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตให้ปั่นความคิดเห็นมาโจมตีชญาภา ในข่าวว่ากันว่าเธอเคยเป็นลูกคนที่สามของคนอื่น หลังจากจากที่ผ่านการปีนป่ายขึ้นไปบนเตียงของผู้ชายคนนั้น กลับคิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้จนทำให้กำเนิดลูกไม่ได้ ต่อมาก็ได้ทำการเล่นชู้ ไปหลอกผู้ชายคนนั้นเรื่องสินสมรส จนไปถึงเอารูปภาพไปแพร่กระจาย ทันที่ที่ความคิดเห็นกลับมาตอ่หน้าสาธารณชน การโจมตีชญาภาก็เริ่มขึ้น จนทำให้มีคนอยากจะเปิดโปงจรีภรณ์ สิ่งนี้ทำให้นพนากับลูกสาวของเธอตกใจเป็นอย่างมาก เพราะสถานภาพของจรีภรณ์ไม่สามารถเปิดเผยได้ ถ้ามีคนมาหาสถานะของเธอก่อนหน้า ก็จะรู้ว่าเธอเคยเป็นภรรยาของจิรภาสมาก่อนและมันต้องถูกเปิดเผยแน่ๆ ถ้ามีคนจะมาเปิดเผยเรื่องการหย่าร้างของจรีภรณ์และจิรภาสก็จะได้รู้เลยว่าเป็นเพราะชญาภาเป็นคนปีนป่ายขึ้นมาบนเตียงของจิรภาส นั้นไม่ใช่เรื่องตลกเลย และยิ่งเรื่องที่เธอเป็นลูกเมียน้อยก็จะทำให้คนรู้ไปทั่ว และจะพบว่าเธอถูกตรีภพนอกใจ นี่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อบุคคลที่อยู่ ในตำแหน่งสูง หากบุคคลดังกล่าวตรวจสอบขึ้นมา ก็จะทำให้อาชีพทางการเมืองของตรีภพสิ้นสุดลงทันที ถึงตอนนั้นชีวิตที่ดีของสองแม่ลูกก็คงพลิกกลับแน่ๆ และแผนการณ์ที่คิดมาทุกอย่างก็จะหายไป ถ้านวิยารู้เรื่องราวเหล่านี้ เรื่องที่ชญาภากับจิรภาสก็ต้องพังแน่ๆ ด้วยอำนาจของคุณนายคนนั้นจะสนใจชญาภาได้อย่างไร พอคิดถึงตรงนี้ สองแม่ลูกก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที ตลอดวันก็กินข้าวไม่ลง ทุกๆวันได้แต่อกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าที่จะใช้วิธีนั้น นการจู่โจมจรีภรณ์ แต่เรื่องนี้แยกออกจากการควบคุมของเธอโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากแล้วจะหยุด แต่เรื่องนี้กำลังจะแดงขึ้น อย่างแรกเลยคือชนุตต์ เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนทำให้จรีภรณ์ถึงจุดๆนี้ ข้อวิจารณ์ของมวลชนเหล่านี้ในโซเชียลอาจจะเป็นความ เกรงกลัวของคนหนึ่งและคนๆนั้นเป็นผู้หญิง เทพวีก็ได้ช่วยจรีภรณ์เรื่องที่ถูกกล่าวหาในโลกโซเชียลด้วย พอดีกับตอนนั้นชนุตต์ก็โทรมาหาเธอถามว่าช่วงนี้มีใครมาทำอะไร ไหม สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นไปได้ไหมที่อดีตสามีเธอจะทำ หรือจะถามเธอว่าใครคืออดีตสามีของเธอ เทพวีส่ายหัว อดีตสามีของจรีภรณ์คือใคร เธอก็พูดไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจิรภาสไม่ได้เป็นคนทำแน่นอนและก็ไม่น่าใช่นวิยาด้วย งั้นก็คงมีแค่หนึ่งเดียวที่ทำได้ก็คือลูกของคุณนายที่สาม พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็โกรธมากที่ชญาภาเป็นคนบอกข้อกล่าวหาทั้งหมดถึงจรีภรณ์ ชนุตต์คิดว่าจริงๆแล้วจรีภรณ์ไม่น่าจะถูกใครแกล้งทำเรื่องเช่นนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่จรีภรณ์ได้รับต่างก็ถูกพูดถึงไปในทางที่ไม่ดี กล่าวว่าเธอถูกพ่อแม่ลูกชั่วร้ายฆ่าสามีของเธอ ในขณะที่น้องสาวก็ถูกสามีนอกใจและยังบังคับให้เธอออกจากบ้านด้วย หลังจากนั้นก็หาเหล่าบริษัทโลกออนไลน์ให้เขาลบทิ้งโพสต์ทิ้ง บริษัทโลกออนไลน์ใหญ่ถูกชนุตต์บังคับโดยอำนาจเบ็ดเสร็จ ซึ่งบริษัททั้งหมดต่างไม่กล้าที่จะต่อต้าน หลังจากที่โพสต์ค่อยๆถูกลบออกไป เหล่าบริษัทต่างๆก็ออกมาแถลงการณ์ขอโทษจรีภรณ์ ทันทีที่มีการรายงานข่าว ฝูงชนต่างให้ความสนใจ รูปแบบต่างๆเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ชาวเน็ตออกมาแสดงความขอโทษต่อสิ่งที่เคยทำต่อจรีภรณ์ ในขณะเดียวกันก็มีเสียงประณามถึงชายเลวและแม่สามีที่ชั่วร้ายรวมไปถึงลูกเมียน้อยที่ไร้ยางอายพวกนั้นด้วย ในระยะเวลาต่อมา เสียงกระหึ่มบนอินเทอร์เน็ตใหญ่กว่าการละหมาดของซูโม ก็ทำให้นพนากับชญาภาก็เริ่มรู้สึกกังวลไปสักพักหนึ่ง ทั้งสองคนอยู่ที่บ้านไม่ได้กินอะไรเลย แม้กระทั่งโทรทัศน์ก็ไม่ได้ดู เมื่อพวกเธอคิดถึงสิ่งที่ชาวเน็ตพูด พวกเธอจะรู้สึกกลัวและอยู่ไม่เป็นสุข เห็นได้ชัดว่าสามคนนี้ทำความผิดทางศีลธรรม แต่ตอนนี้ทำไมมีเพียงสองแม่ลูกต้องมารับความผิดนั้น พอคิดถึงจุดนี้ เธอจึงโทรหานวิยา ตอนนั้นนวิยาเองก็เพิ่งทราบข่าวคราว ตอนนี้ได้ยินมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องเลวร้ายเหล่านี้คือจรีภรณ์ ทันใดนั้นเองเธอก็โกรธขึ้นมาทันที เธอเองก็เพิ่งได้ยินมาจากลูกชายของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองจะถูกจรีภรณ์หลอกอยู่ โดยเฉพาะคำด่าเหล่านั้น หลังจากนั้นเธอก้โทรหาจิรภาสทันที “แกดูข่าวสิ ตอนนี้คนมาด่าพวกเราว่าเป็นคนคนแบบนั้นไปแล้ว ฉันเคยบอกแกแล้วก็หน้านี้ ว่าจรีภรณ์คนนี้พอมองก็รู้ว่าเป็นคนที่ชอบสร้างความวุ่นวาย ตอนนี้เป็นไงล่ะ ฉันโดนคนด่าไปทั่วแล้ว” ตอนนี้จิรภาสไปทำงานต่างจังหวัด สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองซู เขาไม่รู้อะไรเลย เขาเพิ่งได้ยินจากแม่ของเขาและเขาก็รีบเปิดคอมอ่านข่าวทันที ตอนที่เขาเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง เขาก็รู้สึกโกรธครอบครัวของจรีภรณ์ขึ้นมาทันที ตอนนั้นเองจรีภรณ์กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน เพราะกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต ชนุตต์จึงให้เธอลางานไปก่อนสักระยะหนึ่ง เพราะกลัวว่าอารมณ์และจิตใจของเธอจะย่ำแย่และก็จะโทรหาเทพวีเพื่อที่จะได้รู้ว่าเทพวีอยู่จรีภรณ์ วันนี้เป็นวันที่เทพวีพาจรีภรณ์มาเดินเที่ยวเล่น มีร้านอาหารเปิดใหม่ก็เลยพาลากจรีภรณ์ไปกิน ตอนที่เธอลงจากรถและกำลังเตรียมตัวขึ้นตึก ก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดด้านหน้าเธอทันทีหลังจากนั้นก็มีคนลงมาจากรถและลากเธอขึ้นรถไปทันที จรีภรณ์ตกใจกลัวมาก เธอคิดในใจว่าจะตะโกนเรียกให้คนมาช่วยแต่ก็ถูกคนนั้นปิดปากเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนเย็นทำให้ไม่เห็นหน้าคนๆนั้น แต่จรีภรณ์ก็จำได้ เพราะกลิ่นน้ำหอมโคโลญที่อยู่บนตัวนั้น เธอรู้ว่านี่คือใคร หลังจากนั้นเธอก็พูดออกมาด้วยความโกรธ “จิรภาส คุณปล่อยฉันนะ” “จรีภรณ์ ความสามารถของเธอมันเยอะมากสินะ ผมล่ะดูแคลนคุณจริงๆ” จิรภาสมองจ้องจรีภรณ์ “ฉันทำอะไร เย็นขนาดนี้คุณไม่กลับบ้านไปนอนล่ะ มาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้กับฉันทำไม ” “ผมบ้าตรงไหน” จริภาสมองยิ้มอย่างเยือกเย็น “เรื่องที่อยู่บนโซเชียลตอนนี้เป็นคุณใช่ไหมที่ทำมัน” จรีภรณ์รู้อยู่แล้วว่าจิรภาสพูดถึงเรื่องอะไร เรื่องนี้พอมันเกิดขึ้น คนอื่นก็จะมาหาเรื่องเธอก่อน เขาไม่ได้เป็นคนทำเรื่องแย่ๆแบบนี้ แต่ทำไมจะต้องมารับอารมณ์แย่ๆพวกนี้ด้วย นอกจากนี้ สิ่งที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตมันคือเรื่องจริงก็จริงอยู่ แต่เธอไม่ได้เป็นคนทำและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกันใดๆ เรื่องเหล่านี้ตอนแรกเป็นเรื่องที่จิรภาสต้องมาขอโทษเธอ เธอไม่รู้เลยว่าทำไมเขายังกล้าที่จะมาตั้งคำถาม ไม่ใช่นกกระจอกเทศที่จะเอาหัวมุดลงดิน จิรภาสเห็นว่าจรีภรณ์ไม่พูดอะไรเลยก็คิดว่าเธอยอมรับและเขาก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะมาก็ได้สืบดูเรื่องราวบนโลกโซเชียลพวกนี้แล้ว โดยเฉพาะตอนที่เห็นถ้อยคำรุนแรงที่จู่โจมตัวเขาและแม่ของเขา เขาก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แม่เป็นคนเข้มแข็ง ในบางครั้งถึงแม้ว่าทัศนคติท่าทางเธอจะดูรุนแรงไปหน่อย แต่จิใจของเธอก็ดี แม้ว่าเธอไม่เคยจะขอโทษจรีภรณ์เลยสักนิด แต่ตอนนี้ทำไมถึงเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าแม่ หลังจากที่พูดถึงแม่ก็ยังพูดถึงตัวเองผู้ที่เป็นคนคนเลว จริภาสเขาได้เคยที่ทำอะไรให้เธอต้อง เสียใจ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือตอนที่แม่จัดการให้ แต่เขาก็ยังดีสำหรับเธอในตอนนั้น ตั้งแรกจนถึงตอนนี้จิตใจของเขาอยู่กับเธอตลอด ไม่เคยไปไหน “จรีภรณ์ ถ้าเธอไม่พอใจอะไรคุณก็ลงที่ผม แต่ขออย่าไปลงที่แม่หรือชญาภา” จิรภาสมองจรีภรณ์อย่างมุ่งมั่นและเด็ดขาด สิ่งที่พูดออกมา ทำให้จรีภรณ์รู้สึกโกรธมาก ที่เขามาดึกขนาดนี้ก็เพียงแค่จะมาหาความยุติธรรมให้กับชญาภางั้นหรอ เหอๆ ดูถูกกันเสียจริง ตอนนั้นใครกันที่มาทำลายงานแต่ง ใครกันที่พาเด็กนั้นขึ้นเตียง เธอและแม่ของเธอก็เลวพอๆกัน ตอนนี้จิรภาสก็ยังมาช่วยเธอพูด แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตอนนี้มาถึงจุดที่ช่วยเหลือเกื้อกูลอะไรกันขนาดนี้ มาถึงตรงนี้จรีภรณ์ก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที “คุณภาส ถ้าวันนี้คุณเพื่อที่จะมาเพื่อระบายความโกรธให้กับพวกเขา คุณก็ควรจะเลิกยุ่งกับฉันตลอดไป มิฉะนั้นตครอบครัวของคุณจะเข้าใจว่าฉันมีใจให้กับคุณ ” จรีภรณ์เปิดประตูรถและเตรียมที่จะลงจากลง แต่กลับถูกจิรภาสดึงกลับมา “ทำไมคุณไร้เหตุผลอะไรแบบนี้ ตอนนี้ทำไมคุณเปลี่ยนไปร้ายได้ขนาดนี้” จิรภาสมองจรีภรณ์อย่างผิดหวังและใช้มือทั้งสองข้างจับที่ไหล่ของเธอ “ฉันร้าย ฉันเลวแล้วยังไงกัน แต่ฉันก็ไม่เลวเท่าคุณหรอก ตอนที่คุณเอานางนั่นมาที่บ้านแล้วฉันเห็นอยู่ตรงนั้น จิตใจฉันย่ำแย่แค่ไหน คุณรู้บ้างไหม คุณมันคือชายเลว ก็เหมาะแล้วแหละที่ต้องคู่กับหญิงร้ายๆแบบนั้น ” จรีภรณ์มองจิรภาสอย่างไร้การควบคุมด้วยสายตาที่สามารถจะฆ่าเขาได้ เป็นเวลาหลายปีที่จิรภาสได้ยินจรีภรณ์พูดเรื่องการนอกใจเป็นครั้งแรก แต่เขาคิดว่าเธอไม่ได้สนใจอะไร เขามองจรีภรณ์ด้วย สายตาอันเกลียดชังและโกรธออกมาแบบไม่สามารถอธิบายได้ “ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ชญาภาก็ไม่ใช่ เรื่องราวไม่ได้เแป็นอย่างที่ คุณเห็น ตั้งแตกแรกจนถึงตอนนี้เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ เธอเป็นแค่ผู้บริสุทธิ์”