ตอนที่ 35 ดาราดังนามว่า เจนนี่

ตอนที่ 35 ดาราดังนามว่า เจนนี่ ตอนที่โทรศัพท์สายนี้เข้า เขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลย ชนุตต์ตกใจมากจนเกือบขว้างโทรศัพท์ทิ้ง แต่จรีภรณ์ยืนพูดอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีท่าทีอะไร ทำให้ชนุตต์มองอย่างอึดอัดใจและก็วางโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ที่โกรธ “ฉันอยากดื่มกาแฟ” ชนุตต์ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงอยากยืดเส้นยืดสาย กระตุ้นประสาท จรีภรณ์ก็รีบวางเอกสารลงแล้วยื่นกาแฟให้ชนุตต์ พอกาแฟวางที่โต๊ะ ชนุตต์ก็ดื่มทันทีแล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “ใครให้คุณใส่น้ำตาล คุณอยากให้ฉันเป็นเบาหวานตายหรอ ฉันจะกินชา” จรีภรณ์ไม่ได้พูดอะไรและวิ่งไปชงชามาหนึ่งถ้วย ชนุตต์มองหน้าจรีภรณ์ ยังไม่ทันจะได้ดื่มชาก็พูดว่า “ตอนนี้ฉันอยากกินกาแฟล่ะ คุณช่วยไปชงกาแฟมาให้ฉันกินหน่อย” จรีภรณ์มองชนุตต์และไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับอดทนไปชงกาแฟนมาให้เขา แต่ครั้งนี้ไม่ใส่น้ำตาล ชนุตต์มองจรีภรณ์แบบหลบตา ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่เขาทำท่าทีนิ่งเฉย ไม่ได้ตอบสนอง จะรู้สึกอึดอัดใจขนาดนี้ “วันนี้ตอนเย็นฉันจะไปรับคนที่สนามบิน เธอไปกับฉัน” ชนุตต์พูดขึ้นมาทันที เขาแกล้งทำเป็นหยิบเอกสารขึ้นมาดูแล้วนั่งไขว้ห้างไม่ได้สนใจอะไร แต่สายตาของเขาก็เหลือมองจรีภรณ์อยู่เรื่อยๆและเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอก็ไม่มีท่าทีจะหึงหวงอะไรเลยสักนิด จรีภรณ์สังเกตว่าเอกสารในมือของเขาหล่นลงและอยากจะบอกเขา ในตอนนี้เอง เมษาก็เดินเข้ามาพอดี และเห็นว่าเอกสารในมือของชนุตต์เขาจึงบอกชนุตต์ทันที ชนุตต์หันกลับไปมองเอกสารในมือ พร้อมกับรู้สึกเก้อเขินและพูดด้วยความโกรธที่เสียหน้าว่า “ตัวฉัน ฉันทำแล้วมองทำไม ฉันตั้งใจทำ เธอจะมายุ่งทำไม” “ค่ะค่ะค่ะ” เมษารีบขอโทษ แต่ชนุตต์กลับไม่ปล่อยเมษาไป กลับด่าเมษาว่าเป็นพวกไม่มีสมอง ด่าแบบเสียๆหายๆ เมษาปาดเหงื่อที่ออกบนหน้าผากและสายตาก็เหลือบไปมองจรีภรณ์และพบว่าจรีภรณ์เองก็มองเธออยู่เหมือนกัน เขาสังเกตเห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี ก็เลยหาข้ออ้างออกมาทันที มองดูชนุตต์เดินออกไปเร็วกว่ากระต่ายพร้อมกับอาการปากกระตุกและหันกลับมามองจรีภรณ์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเขาก็พูดด้วยความโมโหว่า “ที่ฉันพูดทเธอไม่ได้ยินหรือ” “ค่ะ งั้นฉันขอไปจองโรงแรมให้คุณเจนนี่ก่อนนะคะ แล้วก็จะจองร้านอาหารให้” จรีภรณ์ตอบอย่างนุ่มนวล ชนุตต์เห็นว่าจรีภรณ์ทำท่าทีทำการทำงาน ก็รู้สึกโมโห เขาจ้องไปที่จรีภรณ์อยู่พักหนึ่ง ความเดือดดาลที่อยู่ในตาไม่ต้องพูดก็เห๋นได้ชัด และเขาก็พูดออกมาว่า “ตอนนี้เธอทนได้ นับวันยิ่งเก่งขึ้นนะ” “ขอบคุณที่ชมค่ะ นั้นทั้งหมดเป็นเพราะมีคนสอนที่ดีอย่างท่านไงคะ” จรีภรณ์ตอบกลับตามมารยาท “ดี ดี ดี” ชนุตต์ฟังสิ่งที่จรีภรณ์พูดออกมา และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธและก็ได้แต่พูดคำว่าดีคำนั้น ต่อมาเขาก็หาเหตุผลร้อยแปดพันเก้าอันสวยหรูมาดูด่าว่าจรีภรณ์ จรีภรณ์ก็ไม่ได้สวนกลับแต่อย่างใด ได้แต่ยืนฟังอยู่เฉยๆตรง นั้น ชนุตต์ด่าจนเหนื่อยแล้วก็หยิบชาขึ้นมาดื่ม แล้วก็ด่าอีกว่า “ใครอยากจะกินชาที่เธอชง ฉันอยากกินน้ำเปล่า เธอมันโง่” “ใช่ค่ะ” จรีภรณ์รีบหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันที ตลอดวันทั้งวัน ชนุตต์ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร ไม่ว่าจรีภรณ์จะอยู่ตรงไหนก็ผิดไปหมด จรีภรณ์เองก็ถูกกลั่นแกล้งไปมาจนเหลือทนและก็เหนื่อยจนทนไม่ไหว บรรยากาศรอบๆของบริษัทก็แปลกๆไป แม้กระทั่งเมษาเองก็ได้แต่ยืนอยู่ที่มุมห้องและเอาใจช่วยจรีภรณ์ พอถึงตอนเย็น ชนุตต์ก็พาไปจรีภรณ์ไปรับคนที่สนามบิน เจนนี่ เดินออกมาจากทางVIPพร้อมกับผู้ช่วยและการ์ด “ที่รักค่ะ คิดถึงฉันไหม” เจนนี่เดินตรงมาที่ชนุตต์และอดไม่ได้ที่จะวิ่งเข้ามากอด “คิดสิ ผมคิดถึงคุณมากเลย ” ชนุตต์ตอบด้วยความยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ในขณะที่กอดสายตาก็ไม่ลืมที่จะมองไปที่จรีภรณ์ แต่จรีภรณ์กลับทำเพียงแค่ช่วยยกกระเป๋าเดินทาง แม้แต่จะมองก็ไม่มอง ชนุตต์จึงรู้สึกอึดอัดใจ จรีภรณ์ขับรถอยู่ด้านหน้า ชนุตต์กับเจนนี่นั่งจู๋จี๋กันอยู่ด้านหลัง เจนนี่อดไม่ได้ที่จะเอามือมาเกี่ยวที่คอของชนุตต์ ตอนที่ปาก แดงของเธออยู่บนปากของชนุตต์ เขาก็หลบออกอย่างชำนาญ ในขณะเดียวกันก็มองที่จรีภรณ์ แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร เขาจึง คิดว่าเธอไม่น่าจะเห็น แต่อย่างไรก็ตาม จรีภรณ์เป็นคนขับรถเธอสามารถมองเห็นได้ทุกด้านอยู่แล้ว กระจกหลังสามารถมองเห็นการกระทำของพวก เขาได้อย่างชัดเจน แต่เธอก็ทำเป็นไม่เห็นและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดน้ำเน่าเหล่านั้น หลังจากที่ถึงโรงแรม จรีภรณ์ก็รีบลงจากรถแล้วเปิดประตูให้กับเจนนี่ เจนนี่ยิ้มให้แล้วเดินออกมาพร้อมกับควงแขนของชนุตต์ ปกติ จรีภรณ์มองเห็นท่าทีการเอาใจของชนุตต์แล้วรู้สึกจะคลื่นไส้ แต่เจนนี่กลับชอบ เธอเป็นที่รักของในวงการแฟชั่นด้วยชื่อที่ทันสมัยของเธอ แต่เธอมองสูงกว่านั้น เธอคิดมาตลอดว่าเธอต้องการแต่งงานเป็นสะใภ้กับเศรษฐี และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็เล็งเป้าหมายไปที่ชนุตต์ และชนุตต์ก็เริ่มสังเกตท่าทีของเธอ ชนุตต์คนนี้เดิมทีเป็นคนที่ฟุ่มเฟือยมาก สำหรับผู้หญิงที่สวยเดิมทีก็ไม่สามารถต้านได้ ดังนั้นเพื่อที่จะจับเจนนี่เขาจึงไปเหมาเกาะเพื่อทำการเดทกับเธอและใช้เวลารวมกันที่เกาะแห่งนั้นเป็นสัปดาห์ ต้องบอกว่าชนุตต์คนนี้มีนิสัยชอบเปย์ผู้หญิง อาจพูดได้ว่าหลังจากวันนั้นชนุตต์ก็ตามใจ ทำตามที่เจนนี่ขอทุกอย่างและมักจะ ทำเซอร์ไพรส์เธออยู่บ่อยครั้ง สิ่งนี้ทำให้เจนนี่เองก็รู้สึกภูมิใจ เธอทั้งเพลิดเพลินไปกับชีวิตหรูหราที่ชนุตต์มอบให้เธอ ทั้ง ประหลาดใจกับความมั่งคั่งของเขา เธอมีความคิดที่อยากจะผูกเขาไว้ตลอดไปและต้องการมอบความรักให้เขา ดังนั้นเธอจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ชนุตต์พอใจ แต่พูดแล้วก็แปลก ชนุตต์คนนี้เป็นคนที่ฟุ่มเฟือยมาก ความกระตือรือร้นในการปฏิบัติต่อผู้หญิงทุกคนก็เป็นสัปดาห์ ปกติเขาจะไม่สนใจมัน แต่เจนนี่เป็นข้อยกเว้นจริงๆ พวกเขาอยู่ด้วยกันมาสามเดือนแล้ว แต่มันยังเหนียวแน่นมาก หลังจากนั้น เจนนี่ไม่ว่างในการถ่ายทำ ไม่มีเวลาที่จะได้กลับมาเมืองซู แต่ในระยะเวลานั้นเขาก็ได้โทรหาชนุตต์ ตอนแรกๆเขาก็ยังกระตือรือร้นที่จะบินไปหาเธอ แต่พอเรื่อยๆ เธอก็รู้สึกว่าชนุตต์เริ่มมีม่ามีที่เย็นชา บางครั้งก็ไม่โทรมาหรือไม่ก็ปิดเครื่อง สิ่งนี้ทำให้เจนนี่รู้สึกไม่ดี แต่ว่าการเดินสายงานก็เต็มไปหมด ทำให้ไม่สามารถไปไหนได้เลย เมื่อวานซืน เธอได้รับการถ่ายงานโฆษณาที่เมืองซู ดังนั้นเธอจึงรอไม่ไหวจนกระทั่งเห็นว่าชนุตต์ยังคงมีใจให้เหมือนเดิม ใจของเธอก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่ถึงห้อง ชนุตต์ก็ลากเก้าอี้เพื่อให้เจนนี่นั่ง พอเจนนี่วางกระเป๋าทั้งสองใบไว้บนชั้นเสร็จแล้วก็เตรียมตัวที่จะออกไป แต่ชนุตต์กลับหันมามองแล้วพูดว่า : “ใครให้คุณไป กลับมานั่ง” สิ่งนี้ทำให้เจนนี่งงว่าหมายความว่าอะไร ถ้าจะกินข่าวจะต้องมีคนช่วยด้วยหรอ เธอก็รู้สึกแย่ทันที แม้ว่าจะไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่คิดว่าผู้ช่วยคนนี้ไม่รู้จักกาละเทศะเอาซะเลย ทำเหมือนไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้จู๋จี๋กันแบบนี้มานานแค่ไหน ทำไมยังมาเป็นก้างขวางคออยู่ตรงนี้ แต่สายตาที่ข่มขู่ของชนุตต์ทำให้จรีภรณ์ไม่กล้าท่จะบุ่มบ่าม ได้แต่เพียงเดินมานั่งลงตรงข้างๆ ชนุตต์ดูเหมือนจะตั้งใจทำให้เกิดขึ้นและเขาก็ได้ลากจรีภรณ์ให้มานั่งลงตรงข้างๆเขา พอเจนนี่เห็นสถานการณ์แบบนี้ เธอก็รู้สึกใจร้อนขึ้นมาและหันไปมองจรีภรณ์ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร สายตาที่บ่งบอกถึงการเตือนจรีภรณ์นั้นเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องพูด จรีภรณ์มีความทสามารถพอที่จะรัรู้ว่าเจนนี่ตั้งใจทำ แต่เธอก็น้ำท่วมปากไม่พูดอะไร ได้แต่แอบบ่นชนุตต์อยู่เงียบๆ เขาเป็นคนนิสัยแย่มากที่ทำแบบนี้ เขาเองก็รู้ว่าเธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆแน่ เขาจึงทำการกดเธอแบบนี้ ชนุตต์มองทุกอย่างแต่ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจก็คิด นี่คือจุดจบของเธอนางมาร้าย ที่ทำให้ทายาทผู้นี้โกรธ บรรยากาศแปลกๆเหล่านี้เป็นไปจนกระทั่งพนักงานเข้ามา เจนนี่ก็ยิ้มออกมา และค่อยๆยกแก้วเหล้าดื่มพร้อมกับชนุตต์ มันอาจจะเป็นแอลกอฮอล์ที่ทำให้บรรยากาศค่อยๆเปลี่ยนไปเหมือนตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก ทั้งสองทั้งกินไปด้วยและจู๋จี๋กัรนไปด้วย ทำเหมือนจรีภรณ์เป็นอากาศ ไม่มีตัวตน จนเมื่ออาหารครบแล้ว ชนุตต์กฌหันกลับมาค่อยๆพูดกับจรีภรณ์ว่า : คุณจรีภรณ์ อาหารที่ฉันสั่งวันนี้มีแต่อาหารที่คุณชอบ พอเขาพูดออกมา จรีภรณ์ก็รู้สึกเย็นชา ไม่คิดว่าดาราคนนี้จะอิจฉา ดังนั้นเธอจึงตอบกลับไปทันทีด้วยไหวพริบบ้าง : “ท่านชนุตต์ดูเหมือนจะจำผิดแล้วมั้งคะ นี่น่าจะเป็นอาหารที่คุณผู้หญิงซูซีชอบทานนะคะ” หลังจากที่พูดจบเธอก็ทำเป็นปิดปากเพื่อปกปิดสิ่งที่พูดออกมา เขาเห็นการตอกกลับของจรีภรณ์ ชนุตตก็ขมวดคิ้วพร้อมกับยิ้มเจื่อนพร้อมกับมองจรีภรณ์ จรีภรร์มองหน้าของเจนนี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธและก็พูดอ้างว่าขอตัวออกไปห้องน้ำทันที