ตอน 26 บ่าวที่ช่วยอุ่นเตียง
1/
ตอน 26 บ่าวที่ช่วยอุ่นเตียง
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอน 26 บ่าวที่ช่วยอุ่นเตียง
ตน 26 บ่าวที่ช่วยอุ่นเตียง “ไม่พอใจรึ”โม่จื่อฟงนั่งพิงหมอนนุ่มๆ ด้านหน้ามีหม้อน้ำชาที่เพิ่งชงใหม่และขนมที่ดูน่ากินอย่างมาก เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย“เจ้าเหมือนลูกไก่ในกำมือข้า เจ้าไม่พอใจ ก็ทนเอา” พอโม่จื่อฟงพูดจบก็นอนพิงลงอย่างเกียจคร้าน จากนั้นก็หลับตาลงคล้ายกับไม่อยากมองหลินซีนเยียน ทนเอา? ทนกับน้องสาวเจ้าสิ! หลินซีนเยียนรู้สึกคันปากอยากจะด่ากลับ แต่ทำได้เพียงจ้องมองชายที่กำเริบเสิบสานคนนี้อยู่ตรงหน้า แต่นางรู้ว่าต้องมีสักวันที่นางจะได้ลืมตาอ้าปากกับเขาสักที เมื่อเช้าหลินซีนเยียนไม่ได้กินข้าว ตอนนี้จึงรู้สึกหิวอย่างมาก นางอยากจะหยิบขนมที่อยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมากิน พอหยิบมากินขึ้น เมื่อเห็นโม่จื่อฟงไม่ได้มีท่าทีตอบโต้อะไร นางจึงหยิบขึ้นมากินอย่างวางใจ แม้ว่าหลินซีนเยียนจะอยู่กับเขาไม่นาน แต่ก็พอจะรู้นิสัยของเขา เมื่อเขาไม่ได้ตอบโต้อะไรก็แสดงว่าเขาได้อนุญาต ชายที่ทะนงตัวเช่นนี้ หลินซีนเยียนเพิ่งเคยจะเห็นเป็นครั้งแรก นางกินไป 2 ชิ้น จากนั้นก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากในเสื้อแล้วห่อใส่ขนมหลายชิ้นอย่างระมัดระวัง เลิกผ้าม่านในรถม้าขึ้น แล้วกวักมือเรียกให้จินมู่เข้ามาหา “อี้เซิง กินนี่เร็ว”หลินซีนเยียนนำใส่ผ้าเช็ดหน้าที่ห่อขนม จินมู่ยื่นมือออกไปหยิบ แล้วส่งให้เด็กที่อยู่ตรงหน้า หลินอี้เซิงรับขนมมาอย่างกระดากอาย แต่ยังไม่ได้กินทันที กลับมองไปในรถ แม้เขาไม่ได้พูดอะไร แต่หลินซีนเยียนก็พอดูออกว่าเขาเป็นห่วงนาง “ข้าไม่เป็นไร วางใจเถิด ท่านอ๋องเป็นคนดี”หลินซีนเยียนยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ จากนั้นก็ปิดผ้าม่านในรถม้าลง “เปิ่นหวางเป็นคนดี?”โม่จื่อฟงลืมตาขึ้นมาทันที มองหลินซีนเยียนอย่างรู้สึกสนใจ หลินซีนเยียนกรอกตาบน แล้วเดินมานั่งตรงมุมในรถม้า“ข้าเพียงแค่ปลอบใจเด็ก ท่านอย่าคิดเป็นจริง” “อ้อ?”โม่จื่อฟงไม่ได้พูดอะไร สายตามองไปยังบริเวรคอเสื้อขาวๆ ของนาง ราวกับอยากจะเห็นอะไรในบริเวรนั้น หลินซีนเยียนเห็นสายตาของเขาก็กัดฟันอย่างโกรธเคือง รีบเอามือปิดเสื้ออย่างมิดชิด แต่กลับบ่นอย่างไม่แสดงอารมณ์ “ผู้ชาย ที่แท้เป็นสัตว์ที่ใช้ส่วนล่างคิด คิดแต่จะทำอะไรต่ำๆ ” “เจ้าเพิ่งบอกว่าเปิ่นหวางเป็นคนดีไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่า เจ้าพึงพอใจเปิ่นหวางมานานแล้ว”โม่จื่อฟงเอ่ยคำพูดออกไปอย่างเนิบช้าแล้วก็หลับตาลง “เหลวไหล!”หลินซีนเยียนตอบกลับมาทันที ราวกับนางถูกคนหน้าไม่อายพูดจาแทะโลมใส่ ในรถม้าเงียบลง ได้ยินเพียงเสียงล้อหมุนของรถม้า รถม้าโคลงเคลงไปมาต่างจากรถยนต์ในยุคปัจจุบันอย่างมาก ความเร็วก็ช้ากว่า ความสบายก็ไม่กล้าเอ่ยชม ขบวนรถม้าออกเดินไปสักพัก ก็มีคนส่งหนังสือราชการให้กับโม่จื่อฟงดูในรถม้า หลินซีนเยียนรู้ว่าคนอย่างโม่จื่อฟงมีงานที่ต้องสะสางมากมาย การทำงานในรถม้าถือว่าเป็นเรื่องปกติ เขาคงไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเวลาไปกับการเดินทางที่มากกว่าครึ่งเดือนเป็นอย่างแน่ เพียงทำให้หลินซีนเยียนคาดไม่ถึงว่า ตอนแรกนางคิดว่านั่นคือหนังสือราชการทั่วไป แต่พอมองเห็นภาพวาดบนหนังสืออย่างไม่ได้ตั้งใจ ตาก็เปล่งเป็นประกายทันที นั่นมัน ไม่ใช่หนังสือราชการทั่วไป แต่เป็นภาพวาดการประดิษฐ์อาวุธ! เป็นครั้งแรกที่หลินซีนเยียนเห็นวงเทียนจีนั้นแล้ว ทักษะด้านการประดิษฐ์อาวุธในยุคสมัยนี้ได้ดึงดูนาง อาวุธทางการทหารของยุคสมัยนี้ ไม่มีเครื่องบินหรือปืนใหญ่ ไม่มีดินปืนที่มีพลังพอจะสังหารคนได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ แต่พวกเขาก็สามารถทำสิ่งของที่ประณีตงดงามออกมาได้ ทำให้คนต้องนับถือในสติปัญญาของมนุษยชาติอย่างแท้จริง นางมองไปรอบๆ และขยับเข้าไปใกล้โม่จื่อฟง เมื่อนางขยับตัว สายตาของโม่จื่อฟงก็มองไปที่นางทันที“ทำไม?สนใจสิ่งนี้หรือ?” หลินซีนเยียนสะดุ้งตัว ความรู้สึกของโม่จื่อฟงเฉียบแหลม นางจึงรีบส่ายหน้าทันที“ข้าเป็นผู้หญิงที่ประตูใหญ่ออกไม่ได้ ประตูเล็กก็ก้าวออกไม่ได้ จะไปสนใจภาพเขียนยันต์พวกนี้ไปเพื่ออะไร แต่เห็นท่านนั่งพิงหมอนนุ่มๆ ก็เลยอยากจะพิงบ้าง” ประตูใหญ่ออกไม่ได้ ประตูเล็กก็ก้าวออกไม่ได้ หมายถึง อยู่แต่ในบ้าน ไม่สามารถก้าวข้ามประตูออกไปไหนเลย โม่จื่อฟงจ้องหน้าของเธอ ราวกับอยากรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงชี้ไปตรงขาของตนเอง “ในเมื่ออยากมานั่ง ก็ควรทำในเรื่องที่สาวใช้ควรทำให้ดี” หลินซีนเยียนแสยะยิ้มที่มุมปาก“ข้าเป็นสาวใช้ของเจ้าตั้งแต่เมื่อไร ?”ถึงจะพูดไปเช่นนั้น แต่นางก็เริ่มนวดขาให้เขาอย่างว่าง่ายเป็นครั้งแรก “เมื่อวาน เปิ่นหวางได้ช่วยเด็กคนนั้นให้เจ้า เจ้าก็เป็นคนของเปิ่นหวางแล้ว ใช้ร่างกายของเจ้า เป็นหญิงอุ่นเตียงให้เปิ่นหวางกำลังดีเลย”ตอนที่โม่จื่อฟงพูดด็หยิบภาพวาดขึ้นมาดู “หญิง... หญิงอุ่นเตียง?”หลินซีนเยียนคิดไม่ถึงว่า โม่จื่อฟงได้คิดตำแหน่งให้กับนางแล้ว แต่ตำแหน่งนี้...ทำให้คนแทบจะบ้าคลั่งได้! โม่จื่อฟงไม่สนใจท่าทางกระตุกกระตักของนาง แต่มองไปที่ภาพวาดแล้วเอ่ย“ภาพวาดนี้แน่ใจว่าขโมยมาจากคนผู้นั้น?” หลินซีนเยียนสงสัยว่า ในรถม้า มีเพียงแค่นางกับโม่จื่อฟง แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ถามนาง แล้วถามใคร? จากนั้นก็มีเสียงพูดดังมาจากนอกรถม้า คำพูดนั้นเป็นเสียงของชายหนุ่มที่อายุไม่มาก “กราบทูลท่านอ๋อง ได้มาจากคนผู้นั้นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่ภาพวาดได้ขาดไป 28 ส่วน พวกเราได้มาเพียง 15 ส่วน ข้าน้อยได้ตรวจสอบมานานแล้ว แต่ก็ไม่สามารถประกอบเข้ากันได้ ” โม่จื่อฟงได้ฟังก็ขมวดคิ้วเข้ามาหากัน อารมณ์ของเขาได้ทำให้บรรยากาศในรถม้าหยุดชะงัก ผ่านไปสักพัก เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่มองภาพวาดนั้น หลินซีนเยียนนวดขาให้เขาไป มองภาพในมือของเขาไป อาจจะเป็นเพราะว่ายุคสมัยนี้ ผู้หญิงคงไม่เคยเห็นภาพวาดอาวุธมาก่อน โม่จื่อฟงเลยไม่ได้ห้ามนาง แต่พอเขาพลิกดูภาพวาดทุกแผ่นแล้ว ตาของหลินซีนเยียนก็เปล่งประกายทันที ภาพวาดนี้ได้ออกแบบอาวุธหน้าไม้ชนิดหนึ่ง แม้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ในกลไกที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้กลับทำให้หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม นางยิ่งดูยิ่งคันไม้คันมือ ราวกับถูกโรคบ้างานครอบงำ ขยับไปขยับมา อยากจะลองประกอบเข้ากันจนตัวนั่งไม่ติดพื้น “ท่านอ๋อง ท่านกำลังเล่นประกอบภาพอยู่หรือ? ให้ข้าเล่นด้วยได้หรือไม่?”หลินซีนเยียนนวดขาให้เขา และแสดงท่าทางอย่างไร้เดียงสา โม่จื่อฟงมองด้วยสายตาเคร่งขรึม นิ่งเงียบไปสักพัก“เจ้าอยากเล่น?ดูรู้เรื่องด้วยหรือ?” หลินซีนเยียนยิ้ม“ท่านอ๋อง ไม่ใช่เป็นแค่ลายปักหรือ? แม้จะไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร แต่มันก็แค่ประกอบเข้ากัน ข้าไม่รู้ว่าภาพนั้นวาดคืออะไร แต่ตอนที่ข้าอยู่ในเรือน ชำนาญเรื่องภาพลายปัก แล้วภาพลายปักพวกนี้ก็ดูคล้ายกันอย่างมาก ให้ข้าลองประกอบให้ดีหรือไม่?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอน 26 บ่าวที่ช่วยอุ่นเตียง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A