ตอนที่66 ไม่รับน้ำใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่66 ไม่รับน้ำใจ
ต๭นที่66 ไม่รับน้ำใจ ครั้งแรกในชีวิต ที่นีรชาเหมือนขโมยที่น่าอับอาย แอบติดตามอยู่ข้างหลังของคนอื่น ธวัลกอดอกเดินไปข้างหน้า นีรชาแกล้งทำเป็นเดินเล่นสบายๆ ติดตามอย่างหลบๆด้านหลังเธอประมาณสามสิบเมตร อยากรู้ว่าธวิลจะเข้าห้องผู้ป่วยไหน เธอไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เธอแค่อยากจะเห็นพี่สมภพสักครั้งก็พอใจแล้ว เธออยากรู้ว่าเขาสบายดีไหม ป่วยหนักหรือเปล่า เธอไม่ได้จะมายุ่งวุ่นวายในชีวิตของเขาเลย แค่แอบดูก็สบายใจแล้ว เธอรอจนกว่าธวิลจะเดินเข้าไปหน้าตึกเล็กๆสีเหลืองที่แสนเงียบสงบและสวยงาม นีรชาถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วพี่สมภพพักรักษาตัวอาคารเดียวกันกับเธอ อยู่ใกล้กันมาก แต่เหมือนไกลสุดขอบฟ้า “คุณอาศัยอยู่ต้นแม่น้ำแยงซีเกียง ฉันอาศัยอยู่ปลายสุดแม่น้ำ คิดถึงคุณในทุกวันแต่กลับไม่เห็น ทั้งที่ดื่มน้ำสายเดียวกัน” จู่ๆนีรชาก็นึกถึงสมัยที่เธอรำการแสดงศิลปะที่โรงเรียน ดนตรีที่คลอไปกับการแสดงก็คือเพลงนี้ ตอนนั้นเธอยังเป็นสาวน้อยอายุ16ที่กำลังเบ่งบาน พี่สมภพก็เป็นหนุ่มสะโอดสะองสง่างามวัย18 เธอรำอยู่บนเวที ส่วนเขามองดูเธออยู่ข้างล่างเวทีที่เต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียดไปมา แววตาที่แสดงออกมาถูกกั้นเสียงคนกับเพลง มองตรงเข้าไปในใจของเธอ ภายใต้การแต่งหน้าอย่างหนาขึ้นเวที หน้าของเธอเหมือนถูกแผดเผาจนเป็นสีแดงสดงดงาม รองพื้นก็ไม่สามารถกลบมันอยู่ได้ หนุ่มน้อยเทพบุตรวัย18 ดวงดาของเขานั้นเต็มไปด้วยความตะลึงและชื่นชม ทำให้งานสังสรรค์ในครั้งนั้นยิ่งใหญ่มาก และกลายเป็นของขวัญที่มอบให้กับเขาคนเดียว ของขวัญลับ เพราะว่าการเก็บซ่อนปกปิดจะทำให้คนมีความสุขมากเป็นพิเศษ ธวิลเดินเข้าไประเบียงที่อยู่ท้ายสุดของห้องผู้ป่วย ห้องผู้ป่วยนั้นมีลักษณะเหมือนกับห้องที่นีรชาพักอยู่เลย ด้านข้างมีระเบียงขนาดใหญ่ ด้านบนมีกระถางต้นไม้สีเขียวแขวนอยู่ นีรชาเดินไปที่ระเบียง ทำให้ต้นไม้ที่เจริญงอกงามปิดบังตัวของเธอ มองเข้าไปในห้องผู้ป่วย สมภพที่ใบหน้าซีดเซียว เดิมทีหน้าก็ขาวผ่องอยู่แล้ว ตอนนี้ขาวจนโปร่งใส เขานั่งอยู่ที่โต๊ะ ดูเหมือนว่าเขากำลังจะอ่านอะไรสักอย่างจากแล็ปท็อปของเขา ธวิลก็โอบกอดเขาจากด้านหลัง จุ๊บบนหน้าของเขาอย่างคลอเคลีย จู่ๆใจของเธอก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที แม้จะทราบดีว่าพี่สมภพเขามีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว แม้จะรู้ดีว่าสำหรับตัวเองไม่มีทางเป็นไปได้ แต่พอได้มาเห็นกับตาว่าเขาจูบอยู่กับผู้หญิงคนอื่น น้ำก็ยังรู้สึกว่ารับไม่ไหว ดูเหมือนเขาจะสบายดีมาก ป่วยก็คงไม่เป็นอะไรมาก ตราบใดที่เขายังไม่เป็นอะไร รีบออกไปจากนี่เถอะ นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่ ออกไปจากที่นี่!ออกไป! นีรชาพยายามพูดโน้มน้าวตัวเองให้ขยับขาทั้งสองออกไปจากที่นี่ แต่ขาทั้งสองข้างดูเหมือนว่าจะมีจิตใจที่แน่วแน่ของตัวเอง พวกมันยังคงไม่ไปไหน และก็ไม่ขยับเลย น้ำตาซึมที่ดวงตาทั้งสองข้าง ที่เห็นธวิลเอี่ยวตัวเข้าไปในอ้อมอกของสมภพ แขนของเธอโอบกอดแน่นที่คอของเขา พูดจาอ่อนหวานอ่อนโยน เห็นสมภพยิ้มอย่างอบอุ่น ยื่นมือออกมาตบเบาๆที่หลังของธวิล หัวใจเหมือนถูกใบมีดที่คมกรีด มันเจ็บปวดมากจนเธอไม่รู้จะใช้อะไรมาปะรักษาได้ ในที่สุดนีรชาตาก็ไหลออกมา ไหลลงบนแก้มที่ซีดขาวนั้น หยดหล่นลงไปที่มือของเธอที่กำลังกำอย่างแน่น เล็บฝังลึกเข้าไปที่ฝ่ามือหัวใจ ความรู้สึกแสบร้อนยังสู้ไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดของหัวใจนี้ นีรชาอยากจะเช็ดน้ำตา แต่กลับพบว่าไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะน้ำตาไหลรินไม่หยุดราวกับเชือกไข่มุก แขนขาวนวลของเธอจึงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา พยายามที่จะกลั้นเสียงสะอื้นในลำคอของตัวเอง นีรชาหันตัวค่อยๆเดินออกจากตรงนั้นไป ชั่วพริบตาเดียว เธอก็ดูเหมือนแก่ขึ้นไปแล้วสิบปี ท่าทางการเคลื่อนไหวกลายเป็นเชื่องชาและเทอะทะ นีรชา เธอร้องไห้ทำไม เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร! พยาบาลท่านหนึ่งเดินยกถามที่เต็มไปด้วยยาเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย มองนีรชาด้วยสายตาแปลกๆ ผู้หญิงคนนี้มาเยี่ยมท่านสมภพเหรอ ทำไมถึงไปอยู่ที่ระเบียง นีรชาก็ยังไม่สบายใจ ชี้ไปที่ห้องคุณสมภพ และถามคุณพยาบาลว่า “ผู้ผ่วยที่ห้อง201ที่ชื่อคุณสมภพ เขาป่วยเป็นอะไรเหรอ” พยาบาลงงงวยนิดหน่อย แต่ก็ยังตอบความจริงๆ “อ๋อ เป็นโรคเลือดออกที่กระเพาะอาหาร พักรักษาตัวที่นี่ได้สักพักแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาล” พยาบาลพูดจบก็เดินเข้าห้องผู้ป่วย พร้อมถอนหายใจ “คนแก่สมัยนี้ ไม่ค่อยจะรักตัวเองเอาสะเลย คบค้าสมาคมกันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดื่มเหล้า แต่ก็จะกินให้พอประมาณ” จู่ๆนีรชาก็รู้สึกเป็นห่วงทันที เธอคิดว่าเขาจะป่วยเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเลือดออกในกระเพาะอาหาร มิน่าล่ะ หน้าของเขาช่างซีดเซียว นีรชากำลังใจลอย โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็ดังขึ้น ภัสกรณ์นั่นเอง “อยู่ไหน!” เสียงของภัสกรณ์ใช้อำนาจบาตรใหญ่เหมือนเคย วันนี้เขาตั้งใจขับรถไปซื้อซุปไก่ร้านดังให้เธอ ระหว่างทางรถติดไป40นาทีกว่า ยังดีที่กลับมาได้ไว เพราะกลัวว่ามันจะเย็นเขาจึงซุกมันไว้ที่หน้าอกเสื้อผ้าห่อๆไว้ กลับมาถึงกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของหญิงสาว น้าแขบอกว่าเธอออกไปข้างนอกนานแล้ว ไม่รู้ไปหลงที่ไหนรึเปล่า ลืมไปรึเปล่าว่าตัวเองกำลังท้องอยู่แท้ๆ “……” น้ำขมวดคิ้ว โทรมาน้ำเสียงก็ต้องดุด้วยเหรอ “พูดมา!” เสียงของภัสกรณ์แข็งขึ้น เขาเกลียดที่สุดที่น้ำไม่เหลี่ยวแลเขา “พูดอะไรละ! ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะที่ไปไหนก็ต้องรายงานคุณ” นีรชาเริ่มไม่สบอารมณ์ “นี่เธอ!” ภัสกรณ์โกรธเธอจนพูดออกมาไม่ได้ ทิ้งโทรศัพท์เสียงดังเปรี้ยะ น้าแขตกใจสะดุง นีรชาเดินอย่างช้าๆไปขึ้นลิฟต์ เดินกลับไปที่ห้องตัวเอง โรคกระเพาะมันจะดีกว่าถ้ากินอะไรที่เละๆ เช่นอะไรที่เป็นพวกโจ๊ก และดูท่าทางของธวิลแล้วไม่น่าทำอาหารได้ นีรชาตัดสินใจ อีกพักจะแอบไปต้มโจ๊กถั่วแดง และหาใครสักคนเอาไปให้สมภพ ตอนที่นีรชากลับที่ห้องผู้ป่วย ภัสกรณ์นั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง น้าแขก็ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความน่ากลัว มองดูนีรชาที่กลับมา ถอนหายใจโล่งอกทันที แล้วก็รีบไปต้อนรับ “คุณน้ำ คุณไปไหนมา นายน้อยรอคุณนานแล้วนะคะ” น้าแขมองภัสกรณ์ เลียเข่งเลียขารีบเอาซุปไก่มา “ดูสิ นายน้อยซื้อซุปไก่มาให้คุณด้วย นี่น่าจะเป็นซุปไก่จากร้านรวงทองเลยนะคะ สูตรลับที่สืบทอดกันมายาวนาน เป็นยาบำรุงพิเศษเลยนะคะ ฉันเตรียมให้คุณไว้แล้วหนึ่งชาม” “ฉันไม่อยากทาน เธอให้เขาดื่มเองเถอะ” นีรชามีแต่ใจอยากจะไปต้มโจ๊กถั่วแดง จึงไม่มีกะจิตกะใจจะดื่มอะไรทั้งนั้น พูดอีกก็อาจจะเป็นเพราะว่ากำลังท้องอยู่ เธอดมซุปไก่แล้วมีความรู้สึกขยะแขยง น้าแขที่เพิ่งจะยกซุปไก่อยู่ในมือ ฟังที่นีรชาพูด ก็มองคุณแทนอย่างกระอักกระอ่วน ภัสกรณ์สีหน้าบึ้งตึง ดวงตาที่มืดดำคู่นั้นจ้องที่นีรชา “ดื่ม!” คนท้องดื่มซุปไก่มันดีต่อร่างกาย นีรชาค่อนข้างผอมไปแล้ว ควรจะบำรุงมากๆ คิ้วที่ละเอียดของนีรชาเริ่มติดกันแน่น มีการบังคับคนอื่นแบบนี้ด้วยเหรอ กลิ่นของซุปไก่ เธอได้กลิ่นแล้วจะอ้วก ทำไมต้องบังคับให้เธอดื่ม “ถ้าอยากดื่มก็ดื่มเอง ฉันไม่ดื่ม!” บรรยากาศในห้องอึมคึม น้าแขรีบเอาถ้วยซุปไว้ในมือของนีรชา “คุณน้ำ คุณรีบดื่มเถอะ นายน้อยเขาตั้งใจซื้อให้คุณนะคะ” พูดจบ เท้าของเขาเหมือนทาด้วยน้ำมัน และหนีออกไปแล้ว เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น สายตามองอย่างหาเรื่อง นายน้อยอารมณ์ก็กลับมาร้ายอีก เธอก็ไม่ได้หลบหลีกหนีไปไหน บางทีก็เหมือนต้องการที่จะทะเลาะกับนีรชา นีรชาผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรร้ายดี นายน้อยที่เอาเธอติดตามมาด้วย สิบกว่าปีมานี้ เขาไม่เคยตกหลุมรักใครเลย ซื้อซุปไก่จากที่ไกลๆกลับมาให้ หลังมือก็ถูกซุปไก่ลวกจนมือแดงก่ำ เธอก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำ บอกว่าไม่ดื่มก็คือไม่ดื่ม! คนที่อยู่ในท้องนั้นน่ะ ก็ยังไม่รู้ว่าใคร! น้าแขแบะปากพูดเงียบๆ มันไม่คุ้มสำหรับคุณชายเลย อารมณ์ของผู้หญิงท้องมันมักจะผันผวนง่ายไม่แน่นอน เพิ่งจะเห็นสมภพและธวิลพอดรักกัน ตานี้ก็ยังมาทะเลาะกับภัสกรณ์อีก อารมณ์พูดจาโผงผางก็ขึ้นมาทันที เอาชามที่หนักๆวางไว้บนโต๊ะ ไม่สนใจภัสกรณ์ หันหลังกลับไปต้มโจ๊กถั่วต่อ ภัสกรณ์ที่นั่งอยู่ที่โซฟา สีหน้าของเขาเศร้าจนสามารถบิดน้ำออกมาได้ ลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเท้า ดึงนีรชาไว้ มือคว้าที่ขากรรไกรของเธออย่าแน่น “ดื่มซุปเถอะ!” นีรชาดื้นรน พยายามที่จะสะบัดให้หลุด “ปล่อย ! คุณมันชอบใช้กำลัง! ” ดวงตาที่สดใสของเธอเริ่มเย็นชา ใบหน้าขาวนวลกลับโกรธจนกลายเป็นสีแดง แทนจ้องมองผู้หญิงตัวเล็กๆที่ดื้อรั้นหัวแข็งเหมือนตัวเม่นไม่มีผิด แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่มือกลับไร้เรี่ยวแรง นีรชายังไม่อยากพูดอะไรอีก เธอยังไม่ทันจะพูด มือของภัสกรณ์ก็หามขากรรไกรล่างของเธอขึ้น จูบที่ปากของเธอทันที นีรชาใช้พละกำลังที่มีทั้งหมด ยกมือขวาขึ้น ตบที่ใบหน้าของภัสกรณ์อย่างรุนแรง
已经是最新一章了
加载中