ตอนที่ 39 กำหนดที่ตายให้เธอ
1/
ตอนที่ 39 กำหนดที่ตายให้เธอ
เล่ห์รักเมียตัวน้อย
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 39 กำหนดที่ตายให้เธอ
ตนที่ 39 กำหนดที่ตายให้เธอ ณ ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเอส ยศพลสวมเสื้อโค้ทยาวที่มีเย็บด้วยสีแดงและสีดำ ดูเซ็กซี่และลึกลับ พอเขาแต่งตัวแบบนี้แล้วก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่พูดไม่ได้เลยว่าหุ่นของเขาดีมาก น่าทึ่งมาก ดูยังไงก็ไม่แพ้นายแบบชายชาวต่างชาติอย่างแน่นอน เพียงผลักรถเข็นไปยังจุดหยุดนั้นทีจุดนี้ที ก็ดึงดูดความสนใจสายตาของผู้หญิงนับไม่ถ้วน ยศพลเดินซื้อของช้อปปิ้งอย่างเย็นชา สำหรับสายตาที่ดูเลื่อมใสเขาเหล่านั้นแล้วเขาค่อนข้างเย็นชา บางทีก็อาจจะเห็นจนชินไปแล้ว จารวีหมดคำจะพูด ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง สำนวนนี้สามารถมาใช้กับยศพลได้อย่างแท้จริง ยศพลเข็นรถเข็นแบบนี้ เดินเข้าไปในโซนขายของใช้ที่มีรสนิยมสูง เดินเลือกชุดชั้นในผู้หญิงแบบต่างๆอย่างเย็นชา จารวีหน้าแดงก่ำ เธอฉวยโอกาสในขณะที่ยศพลไม่ได้สนใจ ก้มตัวย่องไปที่ชั้นวางของอีกแถวหนึ่ง เพิ่งจะยืนได้ที่ ก็ได้ยินเสียงยศพลตะโกนเรียก “จารวี จารวี เธอไปไหนแล้วน่ะ…” พระเจ้าช่วย อีตานี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าคำว่า อัปยศ สะกดยังไงน่ะ สองสามนาทีผ่านไป จารวีคลุมหน้าด้วยผ้าขนหนูและเดินเลาะออกจากด้านหลังชั้นวาง ยศพลยื่นมือมาโยนผ้าขนหนูออกจากหน้าเธอ แล้วมองด้วยความพอใจที่ปกปิดไว้ไม่อยู่ “หลบอะไรอยู่ เธอคิดว่าตัวเองเป็นแบทแมนรึไง มาดูนี่ อันไหนดูดี…” เมื่อประโยคนั้นออกมา สายตารอบข้างก็จับจ้องมาอย่างตกตะลึง จารวีแทบจะหาที่ซุกหัวหลบจริงๆ หน้าแดงเหมือนคลุกเลือดไก่ “คนเยอะเยอะ อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย” จารวีเตือนด้วยเสียงเบา ยศพลยิ้ม รีบหยิบทุกแบบมาแล้วโยนไปในรถเข็น พูดเสียงเบาข้างๆหูจารวี “ก็ดีนะ กลับลองช้าๆล่ะ” โรคจิต ไอ้โรคจิต สายตาของยศพลยังคงกวาดไปทั่วชั้นวางสินค้า แล้วลูบคางตัวเอง “เอ หรือจะซื้อแส้หนัง เชือก เทียนไขและอื่นๆ....” “เหอะๆ ฉันไปซื้อถุงเท้าก่อนนะ นายก็อยู่ตรงนี้ เลือกไปก่อนละกัน..” จารวีหนีหายไปเหมือนหมอกควัน ที่แท้ก็ไม่ควรอยู่กับคนหน้าด้าน รู้สึกหน้าแตกจนหัวใจเต้นเร็วเป็นบ้า จารวีวิ่งหลบไปที่แผนกเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างหอบ ทันใดนั้น ก็มีร่างหนึ่งเดินผ่านหน้าเธอไป ชายชุดสูทสีเบจ ผมสั้นเรียบร้อย อารมณ์อ่อนโยนและละเอียดอ่อนคนนั้น นี่มัน นี่มันพี่มนต์ไม่ใช่เหรอ จารวีนิ่งไปชั่วขณะ เธอนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอกับพี่มนต์ที่นี่ เธอใจเต้นเร็วมาก และเตรียมตัวจะเดินเข้าไปหา ณ ตอนนั้น ก็มีเงาคนอีกคนปรากฎอยู่ด้านหลังของมนต์ตรี นั่นก็คือสุรีย์วัลย์ “มนต์ แก้วแบบนี้น่ารักมั้ย…” สุรีย์วัลย์เดินตามมนต์ตรี ในมือกำลังถือแก้วลายการ์ตูนอยู่ ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่หอมหวานและมีความสุขมาก จารวีเศร้าโศกอย่างหาใครเทียมไม่ได้ มันควรจะเป็นเธอ ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งนั้น แต่ทำไมโชคชะตากรรมถึงเล่นตลก เอาความสุขทั้งหมดของเธอไปในชั่วข้ามคืน แม้แต่คนที่ตัวเองชอบ ก็ยังไม่มีโอกาสไปแย่งชิง พวกเขาทั้งสองจับมือกัน เลือกของใช้ในชีวิตประจำวันด้วยกันอย่างใกล้ชิด จารวีหันกลับไปอย่างทรมาน แล้วเข็นรถเข็นผ่านไปในเส้นทางอื่นช้า ๆ ในมุมที่ไม่มีคน เธอยืนพิงกับชั้นวางสินค้า แล้วเอามือกุมหน้าร้องไห้ออกมาเบาๆ ทรมานจัง “จารวี…” มือของยศพลยื่นมาสัมผัสหน้าผากของจารวี จารวีตกใจมาก รีบเอามือออก เห็นสายตาของยศพลที่แอบมองเธออยู่ “จารวี เธอร้องเหรอ? แค่ซื้อถุงเท้าก็ร้องไห้ได้เหรอ?” จารวีรีบเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือของเธอ "ไม่เลย ฉันแค่ไม่สบายใจน่ะ ... " เมื่อเห็นดวงตาที่เปล่งประกายของจารวียศพลก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาในทันใด เขายื่นมือไปจับคางของเธอ สายตายของเขาดูอบอุ่นขึ้นมา “เลิกร้องได้แล้ว ฉันพาไปหาพี่เธอดีมั้ย” “จริงเหรอ?”จารวียิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อกี้จากที่เธอยังร้องน้ำตาอาบแก้ม ก็ยิ้มอย่างร่าเริงขึ้นมาทันที ยศพลหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้กับจารวี แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เช็ดจมูกเร็วเข้า พอร้องไห้แล้วน่าเกลียดขึ้นมาเลยจริง ๆ” พอช้อปปิ้งเสร็จ จารวีก็เดินอยู่ข้างกายยศพล ออกมาข้างนอก เธอหันไปมองมนตรี พี่มนต์ ขอให้พี่ีมีความสุขนะ รักคนคนหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นว่าต้องได้มา เพียงแค่เห็นเขาอยู่อย่างมีความสุขก็พอแล้ว จารวีปลอบใจตัวเองอยู่ในใจ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็เจอเขาแล้ว สามารถรู้ข่าวสารความเป็นอยู่ของเขาได้แล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ยศพลโทรหานิรันให้นำรถมาขนของกลับไป แล้วเขาก็ขับรถพาจารวีไปเจอกับยุพิน ที่จริงแล้ว ยศพลไม่คิดว่าจะพาจารวีไปเจอยุพินอีก เพียงแค่ตอนที่เห็นว่าเธอเพิ่งจะร้องไห้ ใจของเขาก็ละลาย นุ่มนวลลง ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ... สองชั่วโมงต่อมา รถก็แล่นออกจากเมืองเอส ทิวทัศน์ริมถนนเป็นเนินเขาสูงและป่าสีเขียวเข้มตัดผ่าน จารวีรู้สึกไม่สงบ ในที่ที่ห่างไกลแบบนี้ พี่ของเธอแท้จริงแล้วใช้ชีวิตอยู่ยังไงกันนะ รถโรลส์รอยสีดำจอดอยู่ด้านหน้าของประตูเหล็ก จารวีแหงนหน้าไปมองป้ายที่ประตู บนป้ายนั้นเขียนเอาไว้ว่าศูนย์รักษาสุขภาพจิต ศูนย์รักษาสุขภาพจิต?พี่มีปัญหาสุขภาพจิตเหรอ?จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ พอคิดถึงตรงนี้ จารวีก็ใจเต้นเร็วขึ้น ในสมองกำลังขาดออกซิเจนชั่วคราว เธอเงยหน้ามองยศพล ใบหน้าของเขานี่ช่างเยือกเย็นซะเหลือเกิน ยศพลหยุดรถ แต่ไม่ลงจากรถ เขาหันมามองจารวีด้วยสายตาที่เย็นชา “ฉันให้เวลาเธอชั่วโมงนึง….” “พี่ฉันอยู่ไหน?” จารวีไม่อยากจะเชื่อ ก่อนเธอจากมา พี่ก็ยังปกติดีอยู่เลย ยศพลมองนาฬิกาข้อมืออย่างเบื่อหน่าย “เหลืออีก 59 นาที…” “เออ ก็ได้ ฉันไปล่ะ…” จารวีเปิดประตูรถ แล้วเดินลงจากรถไป เธอกวนโมโหเขาไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็กวนโมโหไม่ได้ จารวีวิ่งไปที่ป้อมยาม “ไม่ทราบว่าที่นี่มีคนไข้ชื่อว่ายุพินมั้ยคะ?” พอคนในห้องยามเห็นเธอก็พูดกับเธอว่า “คุณเป็นอะไรกับหล่อน?” คำตอบแบบนี้ ก็ยิ่งชัดเจนว่ายุพินอยู่ที่นี่ เธอผิดหวังและเป็นกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของพี่ รู้สึกมาโดยตลอดว่าการที่ได้รู้ข่าวคราวของพี่คงจะดีกว่านี้ นึกไม่ถึงเลยว่า ข่าวคราวนี้กลับทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดทรมานใจ “เป็นน้องสาว…”จารวีพยายามที่จะเก็บอาการเอาไว้ สิบนาทีต่อมี จารวีก็ถูกพาเข้าไปในห้องผู้ป่วย ก่อนที่จะเข้าไปในห้องนั้น จารวีก็ต้องปลดล็อกประตูเหล็กที่ล็อกไว้ถึงห้าชั้น หมอเปิดล็อกประตูพลางย้ำเธอซ้ำอีกรอบ “คนไข้มีอารมณ์ก้าวร้าว คุณต้องระวังหน่อยนะ ถ้าพบว่ามีอะไรไม่ปกติให้รีบออกมาทันทีเลยนะ” เป็นไปไม่ได้หรอก ตั้งแต่เล็กจนโต เธอรู้นิสัยของพี่เธอดี อ่อนโยนประดุจน้ำ จะมีอาการก้าวร้าวรุนแรงได้ยังไง “ค่ะ!” จารวีสูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วเรียบเรียงความสับสนภายในใจ จากนั้นก็ยื่นมือไปเปิดประตูห้อง เธอมองเห็นแผ่นหลังคนไข้ใส่ชุดลายทาง แผ่นหลังนั้น จารวีเห็นมาหลายสิบปี เธอรู้ว่านั่นคือพี่สาวของเธอ ผมของยุพินถูกตัดให้สั้นลงจนกลายเป็นผมที่สั้นมาก เธอยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างที่เสริมด้วยเหล็กกล้า ไม่มีการเคลื่อนไหวเหมือนกับรูปปั้น “พี่…”จารวีเจ็บปวดจนร้องออกมาเบาๆ ยุพินไร้การตอบสนองใดๆ จารวีค่อยๆ ขยับเข้าไปหาทีละนิดอย่างไม่ค่อยสบายใจ นอกจากในใจจะมีความเศร้า แต่ก็ยังมีความทุกข์ใจมากกว่า “พี่…” จารวีตะโกนออกไปสองสามที แต่ยุพินก็ไม่ขยับ ราวกับว่าเธอไม่ได้ยิน จารวีอ้อมไปที่ข้างๆของยุพิน มองเห็นหน้าของยุพิน ร่างกายที่ซูบผอม ทั้งร่างดูเหมือนมีแต่ความว่างเปล่า สายตามองไปข้างนอก เหม่อมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ จารวีกอดยุพินอย่างฉับพลัน “พี่ ฉันคือจารวี ฉันคือจารวีไง…” จารวีเขย่าตัวของยุพิน ยุพินค่อยๆหันหน้ามาอย่างช้าๆ เธอจ้องมองไปที่จารวีเป็นระยะเวลานาน ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ “พี่ยศ พี่ยอมมาหาพินแล้วเหรอ?” จารวีนิ่งไปชั่วขณะ ความรู้สึกที่เจ็บปวดนั้นค่อยๆเอ่อล้นหัวใจของเธออย่างช้าๆ ความสิ้นหวังก็เกิดขึ้นราวกับกระแสน้ำ เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความจริง จารวีกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้แล้วพูดว่า "พี่ ฉันไม่ใช่พี่ยศ นี่วีไง วีเป็นน้องสาวของพี่ จารวีไง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพี่น่ะ" ดวงตาของยุพินยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังมีร่องรอยของความอัปยศ“ พี่ยศ พี่สัญญาว่าจะแต่งงานกับพิน พี่เคยพูดไว้นี่ พี่จะทำตามสัญญาใช่ไหม? จารวีนิ่งไปอีกครั้ง “พี่ยศ พี่ว่าวันที่พวกเราหมั้นกัน พี่คิดว่า ชุดที่พินใส่สวยมั้ย พินเลือกตั้งนานแหน่ะ” ในสายตายุพินเต็มไปด้วยความคาดหวังที่หอมหวาน หมุนตัวไปหน้าอยู่ตรงหน้าของจารวี ยุพินมองราวกับว่าเสื้อที่สวมอยู่นั่นไม่ใช่เสื้อคนไข้ หากแต่เธอคิดว่าเป็นชุดราตรี จารวีพยักหน้าอย่างอ่อนโยน “สะ...สวยค่ะ” รอยยิ้มจากมุมปากของจารวีนั้นช่างเป็นรอยยิ้มที่แสนจะขมขื่น พี่รักยศพลมากขนาดไหนน่ะ เธอจมอยู่ในโลกของเธออย่างสมบูรณ์และไม่สามารถออกมาได้ “พี่ยศ พี่จะมารับพินกลับบ้านใช่มั้ย บ้านใหม่เตรียมเสร็จแล้วใช่มั้ย?” เมื่อมองยุพินพูดอย่างกับอยู่ในภาวะสมองเสื่อม จารวีก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก “พี่ คือว่า วีขอโทษนะ วีไม่ควรที่จะ…” ถ้าพี่รู้ว่าเธออยู่กับยศพล เธอจะต้องตายอย่างทรมานแน่เลย จารวีนิ่งเงียบ ไม่พูดต่อให้จบ สายตาของยุพินค่อยๆเลือนราง แล้วกลับไปสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง “แกไม่ใช่พี่ยศ พี่ยศต้องจูบฉันสิ แกไม่ใช่พี่ยศ พี่ยศต้องกอดฉัน แกไม่ใช่พี่ยศ แกเป็นใคร?” “พี่ ฉันไม่ใช่พี่ยศ ฉันคือจารวี!” เหมือนกับว่าอยู่ดีๆยุพินก็เป็นบ้า ยื่นมือไปบีบคอจารวีไว้แน่น พูดด้วยความตื่นเต้นตกใจกลัว “พูดมา แกเป็นใคร แกคือนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นใช่มั้ย แกอยากจะแย่งพี่ยศไปจากฉันใช่มั้ย?” จารวีเดินถอยหลังไปอย่างสุดกำลัง แต่ว่าแรงที่บีบของยุพินมีมากซะจนดันเธอไปติดกับกำแพง ยุพินใช้แรงบีบคอของเธอไว้แน่น “นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ฉันจะบีบคอแกให้ตาย ฉันจะดูว่าแกจะกล้าแย่งพี่ยศไปจากฉันอีกมั้ย….” ใบหน้าของยุพินบิดเบี้ยว สีหน้าของเธอดูประหม่า ม่านตาของเธอดูบ้าและน่ากลัว สองมือของจารวีพยายามดึงมือของยุพินออกอย่างสุดชีวิต น่าเสียดายที่แรงของยุพินมีมากกว่า ถึงจะใช้กำลังทั้งหมดของเธอ แต่ก็ดึงมือของยุพินออกมาไม่ได้ อากาศในปอดเริ่มลดน้อยลง ใบหน้าของจารวีกลายเป็นสีแดงก่ำ ดวงตาทั้งสองแทบจะระเบิด เธอกระซิบเบาๆออกมาด้วยความเจ็บปวด “พี่ ฉันคือวี…อึก” ตอนนั้น ยุพินที่เสียสติไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็นึกดูไม่ออกว่าคนตรงหน้าคือจารวี เธอเป็นแค่คนบ้าที่กำลังบีบคอของจารวี ต้องการจะบีบคอให้เธอตายไปซะ จารวีไม่มีหนทางจะหายใจ สติของเธอค่อยๆเลือนลางไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 39 กำหนดที่ตายให้เธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A