ตอนที่40 อยากจะฆ่าเขา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่40 อยากจะฆ่าเขา
ต๭นที่40 อยากจะฆ่าเขา ทันใดนั้น จารวีรู้สึกว่าลำคอของเธอนั้นแห้งผาก เธอพยายามสูดหายใจให้เต็มที่และเมื่อปอดได้รับออกซิเจน สติอันเลือนลางของเธอก็เริ่มฟื้นกลับมา เธอพิงไปกับกำแพง สายตาพร่ามัวค่อยๆชัดเจนขึ้นทีละน้อย ยศพลยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ สีหน้าท่าทางของเขาเย็นเยือก ยุพินนอนอยู่บนพื้น พยาบาลสองคนกำลังนำเข็มฉีดยาออกมาจากคอของเธอ จารวีหันไปมองยศพลเพียงแวบเดียวก็รีบโน้มตัวลง ยื่นมือไปประคองยุพินให้ลุกขึ้นนั่ง “นี่พวกคุณฉีดยาอะไรให้เธอ” ยุพินผอมซูบจนเหลือแต่กระดูก จารวีแทบจะไม่รู้สึกถึงน้ำหนักตัวของเธอ เธอไม่ต้องใช้แรงมากมายก็ประคองเธอไปยังเตียงนอนได้ นางพยาบาลหันไปมองยศพลเพียงแวบเดียวแล้วจึงหันมายังจารวีพร้อมกับพูดว่า “ยาระงับประสาท” ยุพินล้มตัวลงบนเตียงนอนอีกครั้ง เธอปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลง ราวกับว่ากำลังเข้าสู่สภาวะของการหลับใหลที่คุ้นเคย ยศพลยกนาฬิกาข้อมือของตนขึ้นมาดูพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถึงเวลาแล้ว......” จารวีหยิบผ้าห่มมาห่มให้ยุพิน ก่อนจะเดินกลับออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก ภายในรถ จารวีนั่งเงียบไม่พูดจา ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ตกต่ำอย่างถึงขีดสุด ทำไมพี่ถึงกลายเป็นแบบนั้นกันนะ ก่อนหน้านี้ยังปกติดีอยู่แท้ๆ รถขับมาได้เพียงครึ่งทาง อยู่ๆก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ยศพลเอี้ยวตัวกลับมาพร้อมกับใช้สายตาอันดุดันจ้องมองมายังจารวี มือหนาเอื้อมมาจับที่ปลายคางของเธอให้หันหนาไปหาเขา “อยากจะด่าผมอยู่ล่ะสิ” จารวีช้อนสายตาอันเศร้าโศกขึ้น เธอส่งสายตาเย็นชาไปยังเขาเพียงแวบเดียวก็หลุบต่ำลงมาอีกครั้ง “ทำไมพี่กลายเป็นแบบนั้น” “เป็นแบบนั้นไม่ใช่ยิ่งดีหรือไง” ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่าพี่เธอจะพบความจริงเข้า ส่วนพี่เธอก็ไม่ต้องรู้สึกเป็นทุกข์อีกต่อไปไง” จริงๆการกระทำแบบนี้ของเขาก็เท่ากับอธิบายทุกอย่างแล้ว จารวีกระพริบตาไปมา น้ำตาของเธอไหลลงมาอย้างช้าๆ “คุณเป็นคนทำหรอ” ยศพลปล่อยมือจากคางของเธอแล้วหันกลับไปขับรถต่อ “คุณทำจริงๆสินะ” “ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ เธอจะเชื่อหรอ” ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาแกมประชด ยังไงซะในสายตาของจารวีเขาก็เป็นเพียงผู้ชายเลวระยำคนหนึ่ง เลวเพิ่มอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป จารวีจ้องมองเขายังเคียดแค้น “ฉันเกลียดคุณ ยศพล...” ความรู้สึกในใจของยศพลแปรเปลี่ยนเป็นความผิดหวัง เดิมทีเขาแค่อยากจะทำตามความต้องการของจารวี แต่คิดไม่ถึงเลยว่านอกว่าเธอจะไม่เข้าใจเขา ทั้งยังพูดกับเขาด้วยถ้อยคำแบบนั้นอีก เขาเหยียบเบรกหยุดรถอย่างกะทันแล้วยื่นมือไปคว้าข้อมือเล็กของเธอ “จารวี นี่เธอโง่หรือไงกัน เธอเป็นคนที่อยากตามมาเอง แล้วเธอยังมาจะโทษฉันเนี่ยนะ เธอนี่มันไร้สมองสิ้นดี” จารวีมองเขาอย่างกล้ำกลืน สภาพของเธอน่าเวทนายิ่งนัก “พี่สาวเธอยอมรับการเลิกลาและปล่อยวางไม่ได้ แล้วฉันจำเป็นต้องไปสู่ขอพี่เธอเพื่อธุระกิจหรือไงกัน” ยศพลโกรธจนตัวสั่น เขากำหมัดแน่นพร้อมต่อยไปยังหลังคารถอย่างแรง จารวีลอบมองเขาอย่างหวาดกลัว ทน ฉันต้องอดทนไว้ เธอทนมาได้ขนาดนี้แล้วนะจารวี ยศพลคุณมันเลว ถ้าเกิดวันไหนคุณติดหนี้ฉันบ้าง ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลย รถขับเคลื่อนไปยังอีกเขตตัวเมืองหนึ่งอย่างช้าๆ ปฏิกริยาของยศพลนั้นเยือกเย็น ส่วนจิตใจของจารวีตกต่ำอย่างถึงที่สุด ในใจของเธอนั้นยุ่งเหยิง ตั้งแต่ที่เขาข่มขืนเธอครานั้น ก็เท่ากับว่าเธอได้ก้าวขาเข้ามาในหลุมพลางที่มีเขาเป็นคนกำหนดทิศทางทีละน้อย ทุกวันนี้คนในครอบครัวของเธอ คนหนึ่งก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ทีไหน อีกคนก็เข้าไปอยู่ในสถานบำบัดผู้ป่วยทางจิต แต่เธอก็ไม่สามารถหนียศพลไปได้ ไม่เช่นนั้น... จารวียืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำอย่างเหม่อลอย เธอจ้องมองตัวเองในกระจก ลืมไปนานแล้วว่าการร้องไห้เป็นเช่นไร ความคิดที่อยากจะแก้แค้นมีมากมายจนแทบจะเอ่อล้นออกมา... “จารวี!” ยศพลเคาะประตูร้องเรียกเธออยู่ด้านนอก จารวียืนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง เธอควรจะต้องจัดการต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนี้ซะ “ปัง!!” ยศพลใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำให้เปิดออก เขามองเห็นจารวีถือแปรงสีฟันไว้ในมือพร้อมกับมองเขาอย่างตื่นตระหนก ดวงตาคู่นั้นของเธอทำให้เขารู้สึกแปลกใจ ยศพลย่นคิ้วอย่างนึกฉงน “จารวี นี่เธอแค่แปรงฟันต้องแปรงเป็นชั่วโมงขนาดนี้เลยหรอ” จารวีหยุดความคิดอันยุ่งเหยิงภายในหัวของเธอลง ฝืนยิ้มบางๆตอบกลับไป “ค่ะ อีกนิดก็เสร็จแล้ว” ยศพลไม่พบความผิดปกติใดๆ เขาจึงกลับออกไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ไม่รู้ทำไมพักหลังมานี้เขารู้สึกว่าจารวีทำตัวแปลกๆ แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าตรงไหนของเธอที่เปลี่ยนไป จารวีออกมาจากห้องน้ำหลังแปรงฟันเสร็จ เธอหันไปยิ้มให้ยศพล “คุณหิวหรือยังคะ ฉันจะไปห่อเกี๊ยวให้ทาน...” สีหน้าของยศพลดูผ่อนคลายมากขึ้น เขายื่นมือไปคว้าเอวจารวีอย่างถือวิสาสะ “วันนี้ฉันทำตามความต้องการของเธอแล้ว เธอก็ควรจะทำตัวให้มันดีๆหน่อย” “ฉันรู้หน่า” จารวีตอบพลางยิ้มบางๆที่มุมปาก “คุณชอบกินอะไรล่ะคะ” จารวีสวมชุดนอนลายดอกไม้ ผมยาวสลวยของเธอถูกปล่อยสยายประบ่า ดวงตาคู่สวยโค้งดั่งพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อ ความบริสุทธิ์สดใสของวัยสาวแรกแย้ม จุดประกายความปรารถนาของยศพลให้ตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาพร่ามัวไปชั่วขณะ ยศพลก้มลงจูบประทับไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของจารวี จารวีตอบรับรสจูบของเขาอย่างเก้ๆกังๆ ดูไม่ประสีประสาเลยแม้แต่น้อย ยศพลนึกลำพองอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าไอ้มนต์ตรียังไม่ได้ครอบครองร่างกายของจารวี และยังไม่เคยจูบเธอเลยด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นจารวีคงจะไม่มีทาทีที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ การประกบริมฝีปากของทั้งคู่ดำเนินไปชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าของจารวีขึ้นสีแดงระเรื่อ ยศพลช้อนตัวจารวีอุ้มขึ้นภายใต้วงแขนทั้งสองข้าง เขาพาเธอเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวแล้วดึงประตูตู้เสื้อผ้าให้เปิดออก ด้านในเต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากหลายชุดที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าเมื่อตอนกลางวัน มีชุดนางพยาบาลสีขาว ชุดทหารเรือสีน้ำเงิน ชุดกระต่ายน้อย ชุดเดรสผูกโบว์สีดำ ชุดสาวใช้ฯ เสื้อผ้ามากมายหลากหลายรูปแบบ ถูกวางเรียงรายบรรจุไว้ในตู้เสื้อผ้า จารวีอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าพวกนี้ค่อนข้างน้อยชิ้น บางตัวก็เปิดโล่งตรงนั้นโดยตรง เธอไม่มีทางสวมใส่ชุดที่น่าอายแบบนี้อย่างเด็ดขาด ดวงตาของยศพลสะท้อนประกายความปรารถนาอย่างแรงกล้า เขากดเสียงต่ำแหบพร่ากระซิบข้างหูจารวี “ไปสิ ไปใส่มาให้ฉันดู มันคงจะเซ็กซี่มากแน่ๆ” จารวีสายหัวไปมาอย่างลำบากใจ “มะ ไม่เอานะ ชุดพวกนี้มันน่าอายจะตาย” ยศพลยื่นมือไปปลดกระดุมชุดนอนของจารวี พลางเอื้อนเอ่ยอย่างมีเลศนัย “งั้นฉันจะเปลี่ยนให้เธอเอง...” “อ๊ะ มะ..ไม่ต้อง ฉันเลือกเอง” จารวีใช้มือเล็กทั้งสองข้างออกแรงผลักยศพลไปที่หน้าประตู จากนั้นก็ดึงประตูปิดอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มลงมือเลือกชุดที่จะใส่ แต่เสื้อผ้ามากมายขนาดนี้ ควรจะใส่ชุดไหนดีล่ะ! ตัวนี้ก็สั้นตัวโน้นก็สั้น บางตัวแทบจะปิดก้นไม่มิดเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะชุดเดรสผูกโบว์สีดำ ขืนใส่ก็คงจะเหมือนไม่ใส่อะไรเลยแหงๆ “เสร็จหรือยัง ฉันจะเข้าไปแล้วนะ” น้ำเสียงของยศพลที่หน้าประตูบ่งบอกว่าเขากำลังจะรอไม่ไหวแล้ว “เสร็จแล้วค่ะ ฉันกำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” จารวีเลือกชุดกระต่ายน้อยสีขาว แต่ทว่าก็ยังสั้นมากอยู่ดี คลุมข้างหน้ามิดแต่กลับคลุมข้างหลังไม่มิด เธอรีบหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำในตู้เสื้อผ้าของยศพลมาสวมทับอีกชั้นหนึ่ง อีกฟากของห้องนอน แสงไฟสลัวภายในห้องเป็นสีส้มจางๆ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ของยศพลทอดกายอยู่บนโซฟา พลางจ้องมองไปยังจารวีที่กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัวอย่างนึกสนุก เสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่และหลวมโคร่งตัวนั้นขับให้ผิวขาวและขาอันเรียวยาวของเธอเด่นชัดขึ้นมา ท่อนล่างที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ของเธอชวนให้คนมองคิดเตลิดไปไกล ยศพลเงยหน้าขึ้น สายตาแห่งความปรารถนาของเขาส่องประกายลึกซึ้ง “ถอดเสื้อเชิ้ตนั่นออกซะ” จารวีหน้าแดงไปจนถึงลำคอระหง มือเรียวเล็กค่อยๆยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เธอยังจะอายอะไรอีก ทั้งตัวของเธอมีส่วนไหนที่ฉันยังไม่เห็นหรือไง” เชอะ! ไอ้บ้านี่ คิดว่าคนอื่นเขาหน้าด้านหน้าทนเหมือนตัวเองหรือไง! เอาวะ ตายเป็นตายแหละคราวนี้ จารวีรวบรวมความกล้าปลดเสื้อเชิ้ตบนร่างบางออก ชุดกระต่ายน้อยสีขาวแสนบริสุทธิ์รับกับหน้าอกอวบอัดของจารวีได้อย่างพอเหมาะ กางเกงตัวน้อยห่อหุ้มสะโพกของเธอได้พอดิบพอดี ด้านหลังของชุดมีหางกลมเล็กสีขาวสะดุดตา บนศีรษะของเธอยังประดับไปด้วยที่คาดผมหูกระต่ายแสนน่ารัก ผิวที่ขาวราวหิมะของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ ไม่รู้เป็นเพราะความกระดากอายหรือถูกไฟในห้องส่องกระทบกันแน่ ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารักน่าหลงใหลจนแทบบ้า ยศพลสูดลมหายใจเข้าหนักๆอย่างยากที่จะระงับอารมณ์ เขาค่อยๆกดจารวีชิดไปกับกำแพง เขาโอบกอดเธอแน่น ดุนดันร่างกายกำยำแนบชิดไปกับชุดกระต่ายตัวน้อย จูบประสานริมฝีปากที่อวบอิ่มราวกับกลีบซากุระ พลางบดเบียดพวงลิ้นที่เร่าร้อนชอนไชไปในริมฝีปากของเธอ “อ่ะ อ๊า อื้ออ...” จารวีคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของเขาจะบ้าคลั่งได้ถึงเพียงนี้ กามอารมณ์อันเร่าร้อนของยศพลถูกปลุกปั่นได้อย่างง่ายดาย เธอยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ร่างเล็กของเธอทั้งร่างก็ถูกเขาดันให้ลอยจากพื้น ยศพลโอบอุ้มร่างเล็กให้คร่อมอยู่บนตักแกร่งของเขา ส่งผลให้ตอนนี้จารวีเหมือนกำลังขี่ม้าอยู่ไม่มีผิด สองมือหนากอบกุมสะโพกของจารวีไว้แน่น เพื่อให้หน้าอกอวบอัดของเธอเข้าใกล้กับใบหน้าของเขามากที่สุด ยัยเด็กไร้เดียงสานี่ทำไมหวานจัง ทุกส่วนบนร่างกายของจารวีเต็มไปด้วยรสชาติอันหอมหวามอย่างน่าอัศจรรย์ ยามได้สูดดมกลิ่นกายหอมสดชื่นของสาววัยแรกแย้มทำให้ยศพลสูญเสียการควบคุม เมื่อไฟราคะอันเร่าร้อนจบลง ห้องทั้งห้องที่มืดสลัวเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความสุขสมที่เพิ่งผ่านพ้นไป เศษเล็กเศษน้อยของเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาด หล่นเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นห้อง... จารวีอ่อนเพลียไปทั้งร่าง แม้เธอจะนอนพักไปแล้วหนึ่งชั่วโมงก็ไม่ทำให้มีเรี่ยวแรงขึ้นมา แต่ทว่าร่างกายของเธอนั้นกลับสะอาดหมดจด ทั้งยังสวมชุดนอนเป็นที่เรียบร้อย เป็นไปได้ว่ายศพลคงจะอาบน้ำให้เธอ ผู้ชายที่สมควรจะตายๆไปซะแบบเขาคนนี้มีร่างกายอึดทนจนน่าประหลาด ตั้งแต่สองทุ่มจนถึงเที่ยงคืน เขาก็ยังไม่แม้แต่จะหยุดพัก มีครั้งหนึ่งที่จารวีสลบไป เธอสดุ้งตื่นมาตอนที่ยังสลึมสลือ ก็ยังเห็นเขากำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอ ถึงยศพลจะเคยพูดว่าผู้หญิงที่เป็นของเล่นของเขาแต่ละคน เขาเล่นไม่ถึงหนึ่งเดือนก็เบื่อ แต่วิธีการเล่นแบบนี้ จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ทนได้กัน จารวีครุ่นคิด พลันสายตาก็สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติ น่าแปลกจริงๆทำไมยศพลถึงนอนนิ่งไม่ขยับแบบนั้นล่ะ ยามราตรีอันเงียบสงบ มีเสียงของนาฬิกาบอกเวลาที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ ยศพลได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อย ทันใดนั้นจารวีก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว นั่นก็คือ... ฆ่าเขาซะ ใช่แล้ว ถ้าฆ่าเขาก็จะได้แก้แค้นให้พี่ด้วย พลันสายตาของจารวีก็เหลือบไปเห็นมีดปอกผลไม้เล็กๆหนึ่งด้ามวางอยู่บนโต๊ะ เธอค่อยๆเดินไปหยิบมีดขึ้นมาอย่างเงียบเชียบที่สุด ความคมของใบมีดในยามราตรีส่องกระทบกับแสงไฟที่เย็นเยือก มือน้อยๆของเธอสั่นเทา จริงๆแล้วเธอเป็นคนขี้ขลาดมาก กลัวเลือดตั้งแต่เด็ก อย่าพูดถึงเรื่องฆ่าคนเลยแม้แต่ฆ่ามดตัวเดียวเธอยังไม่กล้า แต่ทว่า ความเกลียดชังในใจของเธอสะสมเรื่อยๆจนหนาทึบ หัวใจดวงน้อยๆของเธอสั่นเทา จารวียังตัดสินใจไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากละทิ้งโอกาสนี้ไป เธอยืนนิ่งอยู่แบบนั้นจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ทันใดนั้นเสียงของยศพลก็ดังเรียกสติของเธอกลับมา “นี่เธอหยิบมีดมาทำอะไร” จารวีตกใจจนแทบสิ้นสติ หัวใจของเธอเต้นระส่ำ เมื่อหันหลังกลับไปก็พบยศพลที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ด้านหลังของเธอตั้งแต่เมื่อใด แววตาของเธอบ่งบอกถึงความงงงวย นี่เขาตื่นมาตั้งแต่ตอนไหนกัน ยศพลยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ “อยากจะฆ่าฉันล่ะสิ” จารวีได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอไม่มีทางต่อกรกับเขาได้ แม้แต่ตอนที่เขากำลังหลับ เธอยังทำอะไรเขาไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่เขามีสติแบบนี้... “เอ่อ ปะ เปล่า ฉันก็แค่.. ฉันก็แค่อยากทานแอปเปิ้ลน่ะ” จารวีรีบร้อนยื่นมือไปหยิบแอปเปิ้ลในจานมาหนึ่งลูก ยศพลคลายมือหนาที่กุมข้อมือเล็กออกอย่างเคลือบแคลงใจ จารวีเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง เธอหยิบแอปเปิ้ลมาเพื่อจะปอกเปลือกออก ด้วยความลนลานทำให้มีดหั่นไปโดนนิ้วมือตนเอง
已经是最新一章了
加载中