ตอนที่ 61 หึงไปทั่ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 61 หึงไปทั่ว
ต๭นที่ 61 หึงไปทั่ว “พี่มนต์ มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เรื่องราวมากมายก็เปลี่ยนไปเช่นกัน” จารวีพูดอย่างโศกเศร้า สีหน้าแววตาที่มีความผิดหวังของมนต์ตรีค่อยๆปรากฎเพิ่มมากขึ้น ใช่ สิบปีเป็นช่วงเวลาที่เนิ่นนาน กลัวว่าช่วงเวลานั้นจะกลายเป็นความว่างเปล่าไป เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ อาจจะมีคนอื่นที่... ผ่านไปนานมาก มนต์ตรีถึงถามอย่างเย็นชา “วี หรือว่าวี...มีแฟนแล้วน่ะ” นี่อาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่เธอใช้ปฏิเสธเข้าใกล้เขาได้ จารวีนิ่งไปสักพัก เป็นแฟนเหรอ น่าจะเป็นคู่อริ หรือไม่ก็ตามติดบังคับเหมือนเสี่ย เธอในตอนนี้ เหมือนกับว่าติดอยู่ในกระแสน้ำวนอย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางที่จะถอนตัวเองจากความชั่วร้ายได้อีกแล้ว เห็นจารวีที่พยักหน้าเหมือนเครื่องจักร สีหน้าของเขาก็เหี่ยวเฉาเหมือนดอกไม้ที่ไม่มีสี ผ่านไประยะเวลานาน มนต์ตรีก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนดั่งเคย แล้วก็เดินอ้อมไปตรงหน้าของจารวี “ไม่เป็นไรนะ วี เพียงแค่วีชอบ วีสามารถจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างของที่นี่ออกแบบมาเพื่อวีโดยเฉพาะเลย…” กลัวว่าจารวีจะปฏิเสธอีก มนต์ตรีพูดเสียงอ่อนลง แล้วเริ่มพูดต่อ “วี สิบปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็ยสิ่งเดียวที่พี่ทำเพื่อวี วีช่วยรับเอาไว้ได้มั้ย” จารวีส่ายหน้ารัวๆ “ขอโทษค่ะ พี่มนต์ วีคิดว่าวีต้องไปแล้ว” จารวีหันตัว หันเตรียมจะเดินลงไปข้างล่าง มนต์ตรียื่นมือออกไปดึงแขนของเธอ “วี วีโกรธเหรอ” เธอโกรธเหรอ เธอยังมีคุณสมบัติที่จะโกรธเขาเหรอ พี่มนต์ทำดีกับเธอซะขนาดนี้ เธอมีคุณสมบัติที่จะรับมันไว้เหรอ พินิจพิเคราะห์อยู่นาน จารวีจึงมองไปที่มนต์ตรี ยิ้มแล้วพูดว่า “วีได้ยินมาว่า มีคนต้องการจะปองร้ายโจมตีบริษัทน้องวีแห่งนี้ วีคิดว่าพี่มนต์มาดูแลบริหารเองดีกว่า วีกลัวว่าวีจะรับภาระไว้ไม่ไหว” ความจริงแล้ว ผู้หญิงที่เพิ่งออกจากรั้วมหาวิทยาลัยกลางคันอย่างเธอจะไปมีความสามารถดูแลบริหารจัดการอะไรได้ล่ะ พอมนต์ตรีได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ก็ได้ รอให้พี่จัดการเรื่องนี้เถอะ วีวางใจเถอะ เรื่องนี้ไม่สามารถมาโจมตีพี่ได้หรอก รอหลังจากให้เรื่องนี้ผ่านไป พี่จะโอนบริษัทให้วี เมื่อถึงเวลานั้นวีห้ามปฏิเสธพี่อีกล่ะ” จารวีแค่ยิ้ม ไม่ได้แสดงกริยาโต้ตอบอะไร บางทีเธอในเวลานั้น คงไม่ได้เป็นแบบตอนนี้ หลังจากที่ออกจากบริษัทแล้ว มนต์ตรีก็ยืนอยู่หน้าประตูรถ “วี พี่ไปส่งวีนะ!” “ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่คงไม่สะดวก…” ใช่ เธอมีแฟนแล้ว เขาควรจะรู้นานแล้ว โลกของเธอที่มีเขาปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง กลายเป็นความไม่สะดวกไปแล้ว ในใจมีแต่ความจำใจที่ขมขื่นนองออกมาฉับพลัน มนต์ตรียิ้มอย่างอ่อนโยน เขาไม่ดื้อดึงอีกต่อไป “ก็ได้ งั้นพี่เรียกรถให้นะ” ในความทรงจำของจารวีนั้น พี่มนต์เป็นคนที่คอยเอาใจใส่อบอุ่นเสมอ เขาไม่มีทางจะทำเรื่องอะไรให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ “วี พี่หวังว่า…ถ้าวีมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ คนที่วีนึกถึงคนแรกคือพี่นะ” จารวียิ้มและพยักหน้า ในช่วงขณะที่รถแท้กซี่ขับออกไป จารวีหันตัวกลับไปมอง น้ำตาไหลรินอย่างไม่หยุด พี่มนต์ ฉันขอโทษนะ ผ่านไปนาน จารวีจึงหันกลับมา มองอย่างเงียบๆ ร่างของมนต์ตรีในชุดสีขาวเหมือนกับว่าเป็นป้ายข้างถนนที่ยืนนิ่งตลอดเวลา จารวีไม่ได้กลับไปที่ Versail Villa แต่กลับไปที่มหาวิทยาลัย เธอคำนวณเวลาไว้ดีแล้ว แต่กลับมาก็เย็นมากแล้ว ไม่เจออังคณา ช่างเถอะ ไม่ต้องรอหล่อนแล้ว จารวีเดินตรงไปยังหน้าประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัย มีรถยนต์สีแดงคันหนึ่งขับผ่านมา ร่างของยศพลก็ปรากฏขึ้นภายใต้สายตาที่ถูกจ้องมอง ร่างที่ดูคลุ้มคลั่งนั้นทำให้จารวีใจเคร่งครัดขึ้นมา ทำเรื่องที่น่าละอายใจมา ในใจก็ยิ่งรู้สึกทรมานใจ “จารวี เธอหายไปไหนมาน่ะ ผมรอเธอที่นี่มาชั่วโมงนึงแล้ว….” หนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงก่อนเธอยังอยู่ข้างกายมนต์ตรี เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่า ยศพลจะมารับเธอถึงหน้ามหาวิทยาลัย แบบนี้มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายมาก มองยศพลที่ดุร้าย จารวีหันซ้ายทีขวาที โชคดีที่เวลานั้นเป็นเวลาเข้าเรียน แม้ว่าจะมีนักเรียนเดินผ่านไปมา แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก เธอรีบขึ้นรถเองอย่างรวดเร็ว “รีบออกจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยคุยกันอีกที…” พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่หวังผลประโยชน์ของจารวี ยศพลที่หัวร้อนก็เริ่มผ่อนคลายไปนิดหน่อย จากนั้นก็หักพวงมาลัยขับออกไปจากมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว “เอ่อ ฉันกินข้าวกับอังคณาและเพื่อนที่มหาลัยแล้ว ก็ต้องมีพิธีบอกลากันหน่อยปะละ” อยู่ดีๆจารวีก็นึกถึงตัวเอง พออยู่กับยศพลนานเข้า แม้แต่การโกหกก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา น่ากลัวจริงๆ แบบนี้แปลว่าตกต่ำลงรึเปล่านะ บนใบหน้าของยศพลไร้ความรู้สึก ทันใดนั้นก็ยิ้มุมปากขึ้นมา แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “คงไม่ได้ไปบอกลาเพื่อนชายมาใช่มั้ย” “เปล่า ไม่เลย…”จารวีตอบอย่างระมัดระวัง “ยศพล อยู่ดีๆนายก็พูดถึงฉันแบบนี้ นายคิดว่าฉันจะเจ้าชู้เหมือนนายรึไง ทั้งดาวรุ่ง มีนา แล้วก็ยังมีใครต่อใครที่มัลดีฟส์อีก…” อยู่ดีๆยศพลก็หยุดรถ ใช้ทั้งสองมือจับคางของเธอไว้ แล้วมองที่เธอด้วยสายตาดั่งปีศาจร้าย “จารวี เธออย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บจะได้มั้ย เรื่องพวกนี้มันนานมากแล้วเธอยังจำได้อีกรึไง” ผู้หญิงที่รนหาที่คนนี้ ทำไมถึงไม่จำเรื่องดีๆที่เขาเคยทำ แต่กลับจำแต่เรื่องที่ไม่ดีที่เขาทำได้ และยังขุดมาหยิบมาพูดอย่างละเอียดชัดเจน ยังไงเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงพวกนั้นมากนานมากแล้ว ไม่สิ ยศพลยิ้มแสยะที่มุมปากอย่างดุร้าย ยื่นแขนไปพิงกับเบาะรถฝั่งจารวี “จารวี ยังบอกว่าไม่รักผมอีก ทั้งที่หึงผมซะขนาดนี้น่ะ…” เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องที่ยศพลยกขึ้นมา จารวีก็ทำเสียงกระแอมออกมาสองทีเพื่อแสดงความไม่พอใจ "มานี่ จูบผม…."ยศพลออกคำสั่งอย่างเผด็จการ จารวีสูดลมหายใจเข้าไป แล้วยื่นหน้าไปใกล้ยศพลอย่างลวกๆ ยศพลจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ยังไง เขาใช้มือจับหน้าเธอ จูบอย่างดูดดื่ม แล้วปล่อยลมหายใจร้อนแรงของเขาออกมา จูบที่เร่าร้อนของเขาเหมือนว่าจะดูดเอาความหอมหวานในปากของเธอไปหมด จารวีขัดขืนแล้ว แต่ยศพลก็ใช้แขนเกี่ยวกันทันทีแล้วกดกับที่นั่ง เขาได้ลิ้มรสกลิ่นหอมระหว่างริมฝีปากและฟันของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก ลิ้นที่ร้อนแรงทำให้ที่ลับของเธออ่อนนุ่มไปทั่วทุกบริเวณ "มะ...ไม่ได้นะ….ตรงนี้คนเยอะ…" แม้ว่ากระจกรถจะปิด แต่ที่นี่คือกลางถนน จารวีไม่หน้าหนาพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ เธอหายใจและกระซิบด้วยใบหน้าที่แดง ยศพลพ่นลงที่ร้อนแรงไปที่ติ่งหูของเธอ "ที่รัก เธอจะยั่วยวนมากเกินไปแล้ว มาลองทำกันบนรถก็ไม่เลวนะ…” จารวีละอายใจจนอยากจะมุดไปหลบที่ไหนสักแห่ง ยกแขนมาต่อยตีอกที่แข็งแกร่งของยศพล มือใหญ่ของยศพลเอื้อมไปดึงซิปที่ด้านหลังของกระโปรงของเธอ จูบของเขาก่อนหน้านี้ทำให้จารวีอ่อนปวกเปียก จนต้องพิงไหล่แขนของเขา แล้วพูดออกมาเบาๆ “พวกเรากลับไป….” ดูเหมือนว่ายศพลกำลังยุ่งอยู่ซิปด้านหลังของเธออยู่ จารวีก้มตัวเพื่อจะขัดขืน ทันใดนั้นก็เย็นหลังวูบวาบเพราะซิปของเธอถูกยศพลรูดลงมาอย่างรุนแรง อีตาบ้านี่ ยศพลพ่นลมหายใจที่ร้อนแรงไปที่แผ่นหลังของเธอ พ่นยาวตลอดไปจนถึงหัวไหล่ แล้วหยุดลงที่ไหปลาร้าของเธอ มือใหญ่ค่อยๆดึงกระโปรงออกจากแขนที่บอบบางของเธอ ร่างกายเย็นวูบ กระโปรงถูกดึงไปกองอยู่ที่พื้น จารวีเอามือปิดหน้าอย่างอับอาย... “ฟินมั้ย” ยศพลกดเธอบนที่นั่งแล้วถามอย่างร้อนแรง จารวีละเอียดเป็นผุยผงไปนานแล้ว ทั้งร่างอ่อนระทวย เปล่งเสียงเล็กแหลมออกมาจากริมฝีปากแดงสีกุหลาบขอความเห็นใจจากยศพล พอเสร็จภารกิจ จารวีก็ผล็อยหลับไปด้วยความสับสนและเหนื่อยล้า ตอนลงจากรถ เธอรู้สึกได้ว่ามีแขนที่แข็งแรงของยศพลอุ้มเธอลงมาจากรถ แล้วตรงไปที่คฤหาสน์ เสื้อสูทตัวนอกของเขาคลุมอยู่บนร่างของเธอ กลิ่นที่แตะปลายจมูกเธอมีแต่กลิ่นกายของเขา "คุณชาย!" ระหว่างทางคนใช้ก็งอตัวและโค้งคำนับด้วยความเคารพ ยศพลถอนหายใจอย่างแผ่วเบาแล้วอุ้มจารวีเข้าไปห้องนอนใหญ่ เขาอุ้มเธอตรงไปที่ห้องอาบน้ำ น้ำอุ่นค่อยๆ ท่วมตัวของจารวี ความรู้สึกสบายแผ่จากรูขุมขนและยังแพร่กระจายไปทั่วแขนขา จารวีลืมตาที่มองสลัวขึ้นมา ภาพของยศพลก็สะท้อนอยู่ในสายตาของเธอ ถ้าคนคนนี้ คือพี่มนต์ของเธอ คงจะดีกว่านี้ เสียงมือถือดังขึ้น ยศพลเห็นว่าจารวีลืมตาแล้ว เขาก็ยืนขึ้น “แช่น้ำตีฟองไปสักพักนะ…” จารวีพยักหน้าแล้ว ยศพลถือมือถือเดินออกไป "ท่านประธานยศพล เกิดเรื่องไม่ค่อยดีค่ะ…”เสียงของทัศนีย์ดังลอดออกมา "อะไรนะ" “เอ่อ ดิฉันส่งคนเข้าไปทำงานที่บริษัทสีสันจารวี แต่นึกไม่ถึงว่าพอเข้าไปบริษัทยังไม่ข้ามวัน ก็ถูกเด้งไปที่อื่นอย่างไม่รู้สาเหตุค่ะ” “เธอจะบอกว่าพวกมันสงสัยอยู่เหรอ” “ใช่ค่ะ ดิฉันสงสัยว่ามีใครบางคนเปิดเผยความลับของพวกเราค่ะ…” “จะเป็นไปได้ยังไง เรื่องนี้มีแค่ผมกับเธอที่รู้นะ ไปสืบมาเดี๋ยวนี้” ยศพลตะวาดอย่างโมโห มนต์ตรีคนนั้นดูท่าจะจัดการได้ยาก ไม่นึกว่าจะรู้แผนของเขาได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ “อ้อ บางทีพวกมัอาจนจะระแวงและไหวตัวทันมากกว่านี้! ฉันได้ยินมาว่าประธานบริษัทจะคัดเลือกพนักงานของบริษัทน้องวีด้วยตนเอง ผู้ออกแบบทั้งหมดก็ถูกประธานบริษัทเอาออกเองค่ะ...” แววตาของยศพลมีประกายออกมาอย่างเยือกเย็น เขา ยศพลคนนี้เป็นผู้กำหนดกฎของเกมในตลาดมาโดยตลอด นักลงทุนรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาลุงทุนในตลาดในประเทศน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จะสามารถก้าวกระโดดได้สองสามวันได้ยังไง? “ไปตรวจสอบเรื่องนี้มาให้แน่ชัด แล้วก็ ไม่ต้องส่งคนไปแล้ว เราจะซื้อบริษัทนี้” “ท่านประธานคะ ราคาหุ้นของพวกเขาสูงมากเลยนะคะ” “คิดวิธีสิ ใช้สมองซะสิ พรุ่งนี้ก่อนเริ่มงาน ผมต้องเห็นแผนการที่สมบูรณ์แบบสามแผนการขึ้นไป” “ค่ะ รับทราบค่ะ ฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้ค่ะ” ทัศนีย์ตัดสายโทรศัพท์ไป บริษัทของเขาเป็นบริษัทอินเตอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่รวมนักออกแบบชั้นยอดของโลกเอาไว้และมีผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุด เธอจะโจมตีบริษัทนี้ได้ยังไงล่ะ ใช่แล้ว นักออกแบบ ทัศนีย์ตาเป็นประกาย ในขณะนี้มีเพียงทางนี้เท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้ ยศพลวางหู แล้วเดินก้าวเท้ายาวไปที่ห้องอาบน้ำ นึกไม่ถึงว่าจารวีจะนอนพิงขอบอ่างน้ำ ใบหน้าเล็ก ๆ ยังเต็มไปด้วยร่องรอยหลังการร่วมรัก คอก็เต็มไปด้วยรอยดูด น่าสะดุดตาเป็นอย่างมาก ยศพลยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย ยัยผู้หญิงคนนี้ง่วงมากขนาดนั้นเลยรึไงนะ “เจ็บเท้า…” ท่ามกลางการหลับฝัน ปากของจารวีพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างสูงของยศพลนั่งยองลงอย่างช้า ๆ มือขนาดใหญ่จับเท้าขาวนวลเล็ก ๆ ของเธอ บีบนวดไปมาช้าๆด้วยแรงที่พอเหมาะกำลังดีและเต็มไปด้วยความรัก จารวี เธอนี่โง่มากจริงๆ แม้แต่ตัวเองก็ยังดูแลไม่ได้ แค่ออกไปบอกลาเพื่อนร่วมชั้น ก็ไม่นึกว่าเท้าจะบาดเจ็บได้ ดูแล้วคงปล่อยเธอให้ไปไหนอย่างง่ายดายไม่ได้แล้ว 
已经是最新一章了
加载中