ตอนที่117เผชิญกับศัตรู   1/    
已经是第一章了
ตอนที่117เผชิญกับศัตรู
ต๭นที่117เผชิญกับศัตรู โล่หวินหลานเดาได้ไม่ผิดคนที่อยู่หลังนางก็คือหลี่ซันสายตาของเขาปริมองนางอยู่เหมือนจะดูนางออกให้ได้มานางต้องการทำอะไรนางปริตามองเขากลับเหมือนกำลังแข่งกันจ้องตากันอยู่ “องค์ชายเชียวเจ้ามาทำอะไรที่นี่?รีบเอาหยกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”ใต้เท้าซิวเร่งเขาอีกครั้ง โล่หวินหลานกวาดสายตาไปทางอื่นและยิ้มอย่างเสียงต่ำ“ใต้เท้าซิวท่านเร่งรีบอะไร?ข้ากับใต้เท้าหลี่พึ่งเจอหน้ายังไม่ทันได้คุยกันสักคำยังไงท่านก็ต้องให้ข้าคุยกันก่อนไหม?” หลี่ซันยังคงมองนางด้วยสีหน้าเดิมภายนอกเหมือนจะดูนิ่งในลึกๆนั้นกำลังโกรธอย่างพายุสี่ทิศเขาพูดออกมาสักที“ข้าได้ข่าวว่าเจ้ามีหยกซงไป๋หนานจิ่นเป็นคู่พอดีข้าก็อยากได้เหมือนกันเจ้าเอาหยกที่อยู่ในมือเจ้าให้ข้าข้าจะมอบตำแหน่งให้เจ้า” พูดไปพูดมาก็เพราะหยกซงไป๋หนานจิ่นอีกอันหยกอันนี้ก็เป็นแค่สิ่งของที่ดึงดูดพวกเขาแค่อยากสร้างเรื่องหลอกหลี่ซันกล่องในมือของโล่หวินหลานมีแค่ของปลอมตั้งแต่แรกนางก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาหยกให้ทั้งสองอยู่แล้ว โล่หวินหลานดูสภาพอากาศบนฟ้าและถอนหายใจหนักๆไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขาและพูดเองคนเดียว“ฟ้าก็มืดขนาดนี้แล้วแล้วให้ข้ามาที่แบบนี้ขนาดตั้งโต๊ะเชิญชวนดื่มเหล้ายังไม่มีข้าไม่แน่ใจว่าพวกท่านเป็นใต้เท้าซิวและใต้เท้าหลี่ตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่” ฟังจากเสียงถอนหายใจแบบเรื่อยเปื่อยของนางมีผลกระทบต่อใต้เท้าตัวจริงทั้งสองจริงๆเหมือนเป็นการโจมตีพวกเขาแบบเปิดเผยสีหน้าของใต้เท้าซิวเริ่มแดงโล่หวินหลานกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก แต่สำหรับหลี่ซันสีหน้าของเขายังตงเหมือนเดิม“องค์ชายเชียวเห็นว่าพวกข้าเป็นตัวปลอมก็สุดแล้วแต่จะคิดถ้าการเจรจาครั้งนี้ไม่สำเร็วก็ปล่อยมันไปภายใต้ขุนพลต้วนยังต้องการขุนนางอีกมากมายและคงต้องมอบให้สำหรับผู้ที่ต้องการจริงๆใต้เท้าซิวพวกข้าไปกันเถอะ” หลี่ซันเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมจนไร้คำบรรยายจริงๆรู้ว่าโล่หวินหลานไม่ถอยกลางทางแน่นอนแล้วทำเป็นชวนใต้เท้าซิวออกจากที่นั้นนางคงไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆไปง่ายๆหรอก พอเห็นเงาของทั้งสองคนกำลังหันหลังสองมือของโล่หวินหลานจับขอบกล่องไม้ไว้แน่นๆกล่องไม้ที่แกะสลักด้วยขอบทองนางกำแน่นด้วยทิ้งรอยตรงฝ่ามือไว้แบบไม่รู้ตัว ถ้าให้พวกเขาเดินต่อไปการแสดงครั้งนี้คงจะกลายเป็นเรื่องจริงโล่หวินหลานเปล่งเสียงออกมาอย่างเข้มงวด“รอสักครู่ใต้เท้าหลี่ถ้าข้าเอาของล้ำค้าชิ้นนี้ให้ท่านท่านต้องให้เสนอข้าต่อหน้าขุนพลต้วน” ฝีเท้าของทั้งสองหยุดไปใต้เท้าซิวรีบหันกลับมานัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยกล่องไม้นั้นและเต็มไปด้วยความอยากได้และพยักหน้าแบบไม่หยุด“ถ้าเจ้าเอามันให้ข้าข้าจะพาเจ้าไปเข้าพบขุนพลต้วนแน่นอน” สายตาที่ดูกังวลของโล่หวินหลานกลับมาเป็นสายตาที่ปกติแล้วจับกล่องไว้อย่างแน่นๆนี่เป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยนางได้ทั้งสองพานางไปในป่าแห่งหนึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรเช่นกันและไม่รู้ว่าพวกเขาจะรีบออกจากนั้นเพราะเหตุผลใด “งั้นดีใต้เท้าซิวท่านเดินมาเอากับข้า”โล่หวินหลานโบกมือเหมือนนางพูดขึ้นแบบไม่ใส่ใจ “ดีดี”ใต้เท้าซิวไม่ได้คิดอะไรแล้วจะเดินไปทางโล่หวินหลานแต่ตอนนี้เขากำลังขยับตัวเองเดินไปหานางทันใดนั้นก็มีมือใหญ่ๆมากดไหล่ของเขาไว้ไหล่ของใต้เท้าซิวเกร็งเบาๆและตื่นตระหนกขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมากลับสบตากับสายตาที่ดูฉลาดหลักแหลมและดูดุร้ายทันใดนั้นเขาไม่ได้ตกใจอะไรเลยแต่กลับเดินถอยหลังกลับไป สีหน้าของหลี่ซันดูไม่ปกติและพูดขึ้นอย่างเสียงแข็ง“องค์ชายซิวให้ท่านส่งให้พวกข้าดีกว่า·” เขาฉลาดเหมือนสุนัขจิ้งจอกจริงๆพูดๆไปแล้วก็คือไม่เชื่อใจนางโล่หวินหลานหายใจเข้าลึกๆเงยหน้าขึ้นมองแสงจันทร์ที่มืดมัวบนท้องฟ้าและขยับขาของตนเบาๆนางกวาดสายตามองรอบๆโดยเร็วและค่อยๆเดินไปหาหลี่ซัน เย่หวินที่อยู่ด้านหลังก็เดินตามนางไปหาหลี่ซันอย่างระมัดระวังนางสัมผัสได้ว่าเสียงฝีเท้ารอบๆยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้พวกเขาเสียงแห่งความวุ่นวายกำลังรบกวนอารมณ์ของพวกเขาไม่หยุดไม่หย่อนสุนัขจิ้งจอกแก่สองตัวนี้ต้องส่งคนมาล้อมรอบที่นี่อย่างแน่ๆแค่พวกเขาได้ของเมื่อไหร่ก็ต้องส่งคนฆ่าพวกนางอย่างแน่นอน ตายอยู่กลางป่าอย่างนี้ไม่รอสิบวันหรือครึ่งเดือนคงไม่มีใครสังเกตเห็นถึงศพหรอกรอถึงเวลานั้นพวกเขาคงไปอยู่อีกโลกหนึ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้จะเข้าใกล้หลี่ซันโล่หวินหลานหยุดฝีเท้าของตนลง เสียงฝีเท้าที่อยู่รอบๆก็ได้หยุดลงด้วยรอบๆมีเพียงเสียงลมที่คอยพัดพาต้นไม้ดอกหญ้ารู้สึกว่าช่างเงียบเหงาและว่างเปล่า โล่หวินหลานค่อยๆยื่นของกล่องนั้นไปตอนที่กล่องกำลังจะตกอยู่ในมือของหลี่ซันจู่ๆก็มีคนพุ่งออกมาจากพุ่มไม้และมุ่งหน้ามายังเขาและเข้ามากระซิบข้างหูอะไรข้างหูของเขาจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก หลี่ซันฟังจบแล้วหันหลังเดินจากไปใต้เท้าซิวมองเงาของเขาอย่างรู้สึกแปลกใจเรียกเขาไปประมาณสองรอบแต่ไม่มีเสียงตอบกลับเขาก็รีบเดินตามไป “เกิดอะไรขึ้น?”เย่หวินถามขึ้นอย่างแปลกใจ โล่หวินหลานส่ายหัว“ตามไปดูๆ” ทั้งสองเดินตามหลังของหลี่ซันไปไม่รู้ว่าชายผู้นั้นบอกอะไรกับเขาจึงทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปขนาดนี้ขนาดหยกนั้นเขาก็ไม่เอาแล้วเดินจากไปมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน พวกเขาเดินในจังหวะที่เร็วขึ้นเงาคนที่มืดมัวเดินผ่านพุ่มไม้แสงจันทร์ที่สอดส่องร่างของพวกเขาเบาๆทำให้เห็นได้ว่าพวกเขามากันอย่างน้อย20-30คน ตอนนี้ประตูเข้าเมืองได้ปิดลงถ้าจะออกไปก็ออกไม่ได้อยู่ดีนอกจากมีคำบัญชาการจากผู้ใหญ่แต่ถ้าพูดถึงฐานะและตำแหน่งของหลี่ซันทำไมถึงเข้าไปไม่ได้แค่พวกเขาไม่ได้อยากจะเข้าเมืองแต่กลับออกทางฝั่งตรงข้ามของประตู ดูจากท่าทางแล้วพวกเขาไม่รู้ว่าพวกนางก็ตามไปด้วยโล่หวินหลานยังคงเดินตามไปเย่หวินจับแขนนางไว้และกล่าวเตือน“พระชายาเจ้าค่ะถ้าตามต่อไปต้องอันตรายอย่างแน่นอนพวกเราไปรวมตัวกับท่านอ๋องก่อนเถอะเจ้าค่ะ” โล่หวินหลานกลับสะบัดมือของเย่หวินทิ้งสีหน้าของนางหนักแน่นมาก“พวกข้าต้องทำสัญลักษณ์ไว้ฉีหมิงจะหาพวกข้าเจอถ้าพวกข้าไม่เดินตามต่อไปถือว่ายอมแพ้กลางทางเลย” ท่าทางของนางไม่ยอมอย่างแน่นอนเย่หวินรู้อยู่แก่ใจว่าต้องเป็นแบบนี้ได้แต่ทำตามที่นางสั่งและเดินหน้าต่อไปรถม้าของคนที่เดินอยู่ข้างหน้าไปเร็วมากทั้งสองเดินด้วยความเร็วที่เร็วขึ้นแล้วเดินพวกเขาจนทันทะลุผ่านต้นไม้ดอกไม้ที่มืดมัวอีกไม่นานก็ถึงจุดมุ่งหมายที่พวกเขาจะไปถึง ที่แท้ที่นี่เป็นวัดร้างนี่เองคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดนัดพบของพวกเขาที่ๆคอยส่งของกลางและตกลงแผนทุจริตด้วยกัน แต่ว่าพวกเขาเดินมาที่นี่อย่างเร่งรีบเพราะมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? โล่หวินหลานกับเย่หวินหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่พวกนางยังไม่ทันได้เห็นอะไรอย่างชัดเจนก็มีเสียยงน่ากลัวตะโกนดังขึ้น“ทั้งสองท่านออกมาเถอะรอมาตั้งนานขนาดนี้ก็ลำบากน่าดู” เสียงนี้เป็นเสียงของหลี่ซันดูๆแล้วเหมือนเขาจะรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกนางกำลังสะกดรอยตามพวกเขา พวกเขามากันเยอะถ้าพวกนางจะฝืนต่อสู้กับพวกเขาคงสู้ไม่ไหวอย่างแน่นอนตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือสร้างความน่าเชื่อถือให้กับพวกเขาเพื่อถ่วงเวลาไว้สักพักดูว่าโม่ฉีหมิงจะสามารถมาที่นี่ได้หรือไม่ โล่หวินหลานขยับร่างตนเองเบาๆกำลังจะเดินออกไปเย่หวินที่อยู่ข้างๆรั้งนางไว้“พระชายาเจ้าค่ะกระหม่อมจะไปเอง”พูดจบตัวของนางเองก็พุ่งออกไปเลยผ่านไปแค่สักพักนางก็อยู่ต่อหน้าหลี่ซันแล้ว “องค์ชายเชียวออกมา” หลี่ซันเอ่ยปากเรื่องชื่อเขารู้ตั้งนานแล้วว่าตลอดทางโล่หวินหลานสะกดรอยตามมาด้วย สายตาที่ดูโหดเหี้ยมกวาดไปยังทิศทางที่โล่หวินหลานซ่อนตัวอยู่มือของนางค่อยๆยกขึ้นเหมือนลมที่อยู่รอบๆถูกเขารวบรวมไว้เหมือนจะมีมือที่มองไม่เห็นคอยพลักโล่หวินหลานอยู่ด้านหลังจนนางแทบยืนไม่ไหว โล่หวินหลานใช้สองมือของตัวเองบังตาของนางไว้ไม่ให้ทรายพัดเข้าตาตัวเองแต่ว่าตัวของนางถูกลมพัดไปพัดมาลมพัดแรงๆพัดผ่านไปจนต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้านางหัก จู่ๆเสียงลมพัดก็หยุดไป แต่ทรายที่อยู่หน้านางที่กำลังถูกพัดขึ้นยังไม่หยุดลงเหมือนเป็นลมมรสุมพัดเป็นรูปวงกลมทำให้ทรายและฝุ่นพัดขึ้นกลางอากาศนางก็ค่อยๆเดินไปปรากฏท่ามกลางพวกเขานางพยายามสงบสติอารมณ์ของตนและทำใจดีๆ หลี่ซันทำเสียงดุขึ้นและพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่โมโห“องค์ชายเชียวหยกซงไป๋หนานจิ่นของท่านเป็นของปลอมใช่หรือไม่” โล่หวินหลานรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดเขาก็ยื่นมือมาจับคอของเย่หวินไว้และลากตัวนางไปอยู่ต่อหน้าเขาเย่หวินไม่ทันได้ป้องกันตัวเองกลับโดนเขาจับคอไว้แน่นๆเหมือนลำคอของนางกำลังถูกไฟเผา นางเห็นเย่หวินถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาถึงแม้โล่หวินหลานจะรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเย่หวินเยี่ยงไร “ใต้เท้าหลี่ท่านต้องการอะไรฆ่าจะให้เจ้าหมดปล่อยนางไป”โล่หวินหลานตะโกนขึ้นเสียงดังก็คงต้องใช้กลยุทธ์ของทหารที่ทำการต่อรอง สีหน้าของหลี่ซันยิ่งอยู่ยิ่งทำน่ากลัวขึ้นมายิ่งทำให้คนมองยิ่งกลัวขึ้นไปกันใหญ่ “ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า” พอพูดจบทหารที่อยู่ข้างๆล้อมรอบโล่หวินหลานไว้นางเข้าใจสักทีว่าทำไมโม่ฉีหมิงถึงเป็นห่วงนางคนพวกนี้รู้ตั้งนานแล้วว่านางอยากปลอมตัวเข้ามา พื้นดินมืดมัวมากแสงเทียนได้ดับลงลำธารที่มืดมัวระเหยกลิ่นของน้ำออกมาฝีเท้าของบูทสั้นเหยียบน้ำจนเกิดเสียง ขาอันเรียวยาวเหยียบลงตรงใบหน้าของคนที่กำลังโดนมัดไว้ยิ่งเหยียบยิ่งรุนแรงคนที่ถูกกระทำกรีดร้องอยู่ในลำคอสุดท้ายทนไม่ไหวจนต้องกัดฟันกรีดร้องออกมาอย่างทรมาน “บอกมาเล่มบันทึกการคลังอยู่ไหน?”น้ำเสียงที่เฉยชาดุร้ายของโม่ฉีหมิงส่งเข้าไปในหูของเขาเหมือนเสียงที่ดังมาจากนรก “ไม่รู้ถึงรู้ข้าก็ไม่บอกเจ้าหรอก”ชายผู้นั้นเหมือนจะไม่กลัวโม่ฉีหมิงนอกจากคำนี้แล้วเขาก็ไม่พูดคำอื่นอีกเลย นัยน์ตาของโม่ฉีหมิงเหมือนมีดที่แหลมคมกรีดลงบนใบหน้าของเขาน้ำหนักเท้าของเขาก็อยู่ยิ่งหนักเขาขย้ำปลายเท้าแรงๆแสดงถึงความไม่พอใจของเขาและเหยียบลงบนใบหน้าของค์ชายผู้นั้น ทันใดนั้นเสียงแห่งความทรมานกระทบกับพื้นเสียงนั้นดังขึ้นแค่ครั้งเดียวก็ไม่ดังขึ้นอีกต่อไป “ท่านอ๋อง…..”สวินโม่เรียกขึ้นทำให้คนๆนี้ตายไปพวกเขาจะตรวจสอบการเงินของพวกเขาได้เยี่บงไรคนๆนี้เป็นคนส่งข่าวระหว่างหลี่ซันและใต้เท้าซิวนอกจากคนๆนี้แล้วไม่มีใครรู้อีกว่าเขาทั้งสองจะทำอะไรกันอีก “ไปหาอีกรอบมือของหลี่ซันจับสมุดนั้นไว้ที่นี่เป็นที่ของเขาต้องหาของกลางนั้นเจอแน่นอน”เสียงของโม่ฉีหมิงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและได้ยกเท้าของตัวเองขึ้นแล้วเดินไปยังห้องข้างๆ สวินโม่มองคนข้างๆที่ถูกมัดไว้เป็นพวกที่เข้ามาขอยศหมดถือว่าพวกเขาโชคร้ายที่มาที่นี่วันนี้ เขายกตะเกียงเดินเข้าไปในห้อนั้นเดินไปถึงจุดที่มืดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยเข้ามาในจมูกของเขานึกไม่ถึงเลยว่าที่แบบนี้หลี่ซันจะทนอยู่ได้ ในห้องดูเก่าและธรรมดามากแต่ว่าดูจากการจัดวางของต้องเป็นห้องของหลี่ซันอย่างแน่นอนเพราะว่าบนโต๊ะหินกลมวางแจกันโบราณไว้นอกจากเขาที่สามารถวางของแบบนี้ได้ไม่มีใครสามารถทำได้อีก โม่ฉีหมิงมองออกไปข้างนอกไม่ได้หาสมุดนั้นเจอในห้องนี้สวินโม่เดินเข้าหาเขาและส่ายหัวให้เขาของที่สำคัญขนาดนี้คงไม่ไว้ในที่แบบนี้หรอกหรือว่าพวกเขาหาผิดที่?
已经是最新一章了
加载中