ตอนที่130ดุด่าบีบบังคับ
1/
ตอนที่130ดุด่าบีบบังคับ
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่130ดุด่าบีบบังคับ
ตนที่130ดุด่าบีบบังคับ ช่วงเวลาตอนบ่ายบนท้องฟ้ามีแสงแดดอ่อนๆปรากฏขึ้นกองหิมะข้างนอกละลายเล็กน้อยแต่ว่าเมื่อมองไปข้างหน้ายังคงเป็นสีขาวสุดลูกหูลูกตา ตอนนั่งอยู่บนรถโล่หวินหลานก็สามารถจินตนาการถึได้ถึงวิวทิวทัศน์ของตำหนักตงหมิงสีขาวๆของชั้นน้ำแข็งคนโบราณสวมใส่รองเท้าเหล็กโน้มย่อตัวลงเต้นรำบินไปบินมาด้วยความเร็วอยุ่ข้างบนชุดเดรสสีแดงก็เปรียบเสมือนดอกเหมยสีแดงที่บานท่ามกลางหิมะ เพียงแต่ทันใดนั้นนางก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ตัวนางเล่นสกีไม่เป็น “ฉีหมิง”นางเอ่ยปากขึ้นทันใดโม่ฉีหมิงหันหน้าส่งเสียงอืมตอบรับดวงตาเรียวยาวที่จ้องมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ “ข้าเล่นสกีไม่เป็น” โม่ฉีหมิงตกอกตกใจกับท่าทางจริงจังของนางคิดว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่โตอันใดเกิดขึ้นกลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีความสลักสำคัญอันใด “ไม่ต้องห่วงค่อยๆเรียนรู้ไปทุกคนก็เรื่มจากการไม่รู้ทั้งนั้น”โม่ฉีหมิงส่งรอยยิ้มวางใจส่งให้เจ้า่นางรถม้าค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่ตำหนักตงหมิงที่นั้นเป็นลานใหญ่ๆเป็นจวนปกติธรรมดาองครักษ์ข้างนอกล้วนเป็นคนที่เวินอ๋องเลี้ยงดูทั้งสิ้นพวกเขาทำเป้นแค่ทำตามคำสั่ง “หมิงอ๋องพวกเวินอ๋องกำลังพักผ่อนอยู่ทางตำหนักทางทิศเหนือองครักษ์เอ่ยบอกทางด้วยความหวังดี โล่หวินหลานคิดว่าสถานที่แห่งนี้คล้ายกับสถานบันเทิงชั้นสูงในปัจจุบันนอกจากการแต่งกายและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันเล็กน้อยช่างให้ความรู้สึกเหมือนยุคปัจจุบันเสียจริง ทั้งสองเดินเหยียบย่ำกองหิมะมาถึงหน้าประตูตำหนักทางทิศเหนือมีสาวกำนัลช่วยพวกเขาผลักประตูใหญ่ที่ทำจากไม้จันทร์สีม่วงที่ถูกเจ้าะสลักเป็นรูปดอกไม้ออกเมื่อแหวกผ้าม่านที่ทั้งหนักและหนาออกลมร้อนจากเตาไฟข้างในก็ลอยปะทะใบหน้า เมื่อทั้งสองคนเดินข้างไปข้างในรัชทายาทที่สวมใส่ชุดขี่ม้าที่เปล่งแสงระยิบระยับเมื่อคนเห็นพวกเขาดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่าประกายแต่ก็สงบลงภายในเวลาอันรวดเร็ว นั่งอยู่ทางด้านซ้ายคือเวินอ๋องทางด้านขวามือของเขาคือเย่เซียวหลัวถัดมาคือเย่อวิ๋นกว่างส่วนตรงข้ามพวกเขาคือหลินอ๋องที่ไม่ได้พบหน้าค่าตาเป็นเวลานานกับองค์ชายองค์อื่นๆ ตั้งแต่พวกเขาเดินเข้ามาสายตาของรัชทายาทก็หยุดมองอยู่ที่โล่หวินหลานครั้งนี้เขามิได้ทำเกินว่าเหตุเวลาช่างเหมาะเจาะยิ่งนักจังหวะที่ก่อให้ผู้อื่นเกิดคนสงสัยก็หันศีรษะกลับไปเอ่ยว่า“น้องสี่วันนี้เจ้ามาสายทุกคนเสนอซิว่าควรจะลงโทษอย่างไร?คงจะไม่ให้พวกเราเสียเวลาผ่านไปเฉยๆนะ?” คำพูดนี้ของเขาพูดได้ดีในภายตาคนนอกคงจะคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันแต่น่าเสียดายโล่หวินหลานมองดูโดยรอบในใจขององค์ชายเหล่านี้เกรงว่าจะมีแต่บัลลังก์มังกร โม่ฉีหมิงจับมือโล่หวินหลานไม่ปล่อยเมื่อฟังที่รัชทายาทพูดเขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองกลับเอ่ยยิ้มๆว่า”เป็นข้าที่สายพี่น้องทุกคนคิดจะลงโทษยังไงก็ได้ทั้งนั้นวันนี้พวกเราออกมาเที่ยวเล่นกันมิต้องคำนึงถึงฐานะใดๆทั้งนั้น” รอยยิ้มของเขามองดูแล้วมีประกายความชั่วร้ายเวินอ๋องมองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่คลาดสายตาใบหน้างดงามของเขาดูดีจนแสบตาสายตาก้มมองไปที่โล่หวินหลานที่อยู่ข้างกายเขาหรือว่าเป็นเพราะใบหน้านี้ที่ทำให้นางชื่นชอบโม่ฉีหมิง? “เป็นเช่นนั้นทุกคนทำตัวตามสบายทำตัวตามปกติ!”รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ โม่ฉีหมิงพนักหน้าใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์พาโล่หวินหลานนั่งลงบนที่นั่งทางด้านขวาเขาไม่ถือสาที่จะเทน้ำให้โล่หวินหลานการกระทำที่สนิทสนมนี้ตกอยู่ในสายตาของทุกคนช่างเป็นภาพที่บาดตาเสียจริง โดยเฉพาะเวินอ๋องสายตาคู่นั้นของเขาหยุดอยู่ที่โล่หวินหลานไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะละสายตาออกมาได้เย่เซียวหลัวมองสายตาของเวินอ๋องด้วยความโมโหในใจเหมือนถูกอัดแน่นด้วยก้อนหินไม่ง่ายเลยที่เทียบเชิญของเวินอ๋องจะถูกส่งมาที่จวนต้องยอกว่าตามติดรัชทายาทมาเย่กั๋วกงถึงให้นางออกมาอีกทั้งยังแถมเย่อวิ๋นกว่างมาเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัว นางออกมาเพื่อที่จะมาพบหน้าเวินอ๋องแต่เขาละ?กลับจ้องมองไปที่หญิงอื่นตลอดเวลา! “มองอะไรนักหนา?พบเห็นโล่หวินหลานตาก็หมุนไม่ไหวเช่นนั้นหรือ?ไม่ว่าจะมองยังไงนางก็เป็นพระราชาของหมิงอ๋องไม่สามารถแต่งงานกับท่านได้”เย่เซียวหลัวแอบยื่นมือไปหยิกแผ่นหลังของเวินอ๋องด้วยความโมโหเวินอ๋องรู้สึกเจ็บปวดในที่สุดสายตาก็ไม่ได้หยุดมองอยู่ที่โล่หวินหลานแล้วหัวคิ้วขมวดมุ่นมองเย่เซียวหลัวด้วยความรังเกียจเอ่ยน้ำเสียงต่ำตำหนิด้วยความโกรธ”เจ้าทำอะไร?” เย่เซียวหลัวที่กำลังที่จะระเบิดอารมณ์แต่ว่าได้ยินเสียงหลินหวางที่ลอยมาจากด้านโน้นซะก่อน“พี่สี่เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเดี๋ยวซักครู่ท่านโชว์การแสดงที่ลานสกีให้พวกเราดูก็พอแล้วตอนเด็กในพวกเราทั้งหมดไม้สกีของท่านนั้นดีที่สุด!”เขาเลิกคิ้วได้รูปขึ้นส่งสายตายั่วยุมองไปที่โม่ฉีหมิงใบหน้าปรากฎนิสัยลำพองใจแบบเด็กๆ ใครๆก็ทราบว่าเอ็นข้อเท้าของโม่ฉีหมิงนั้นถูกคนตัดขาดตั้งแต่เด็กสิบกว่าปีหลังจากนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นมาวันนี้จะให้โม่ฉีหมิงเล่นสกีจะเป็นไปได้อย่างไร?ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มองไปที่พวกเขาสองคนเหมือนกับกำลังนั่งชมละครก็ไม่ปราณมีบางคนคิดที่จะให้กำลังใจแต่ก็ไม่กล้าแต่รัชทายาทนั้นไม่คิดช่วยอีกทั้งยังทำเหมือนมาดูเรื่องรื่นเริง ใบหน้าของโม่หมิงนั้นเย็นชาจนไม่มีความรุ้สึก“เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วน้องเจ็ดช่วงจำได้แม่นยำนักจำได้ว่าตอนเด็กฝีมือของน้องเจ็ดก็ไม่เป็นสองรองใคร”เพียงชั่วครู่โม่ฉีหมิงก็เตะลูกบอลหนังเข้าใส่หลินหวางชั่วขณะนั้นหลินหวางโกรธเดือดดาลแต่กลับไม่แสดงสีหน้าใดๆให้ทุกคนเห็นชั่วเวลาที่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีเมื่อเย่เซียวหลัวมองไปรอบๆสายตาก็แสงประกายเฉียบแหลมสายตานั้นหมุนวนอยู่รอบๆตัวโล่หวินหลาน “หลินหวางในเมื่อหมิงอ๋องไม่สามารถแสดงได้มิสู้ให้หมิงอ๋องเฟยแสดงแทนเล่าเพคะวิชาแพทย์ของหมิงอ๋องเฟยนั้นดียิ่งข้าเชื่อว่าฝีมือการสกีก็คงจะดียิ่งกว่า”เย่เซียวหลัวเลิกคิ้วเชิดหน้ามองไปที่โล่หวินหลานด้วนความหยิ่งยดส คนที่มีสติปัญญาล้วนมองออกช่วงขณะนั้นที่เกิดเหตุเหมือนมีเสียงหินไฟดังขึ้นไม่หยุดเกี่ยวกับการเล่นสกีนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องสนุกเรื่องหนึ่ง การยั่วยุของเย่เซียวหลัวในสายตาของโล่หวินหลานก้เปรียบเสมือนเรื่องสนุกเรื่องหนึ่งนางโยกเจ้า้วนมร้อนที่อยู่ในมือไปมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนเอ่ยยิ้มๆว่า“ขอบคุณความน่าเชื่อถือมี่คุณหนูสามมอบให้แต่ข้สคงจะทำให้เจ้าผิดหวังซะแล้วละวันนี้ข้าม่เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขาทั้งหลายเท่านั้นดูจากสถานการณืตอนนี้ข้ายังไม่สามารถจะแสดงให้พวกท่านดูได้” ประโยคนี้คือสิ่งที่เย่เซียวหลัวต้องการนางต้องการก็คือสิ่งๆนี้ขอเพียงแค่ดล่หวินหลานเล่นไม่เป้นไม่เพียงสามารถหัวเราะเยาะนางยังสามารถทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจได้อีกด้วยเย่เซียวหลัวเม้มปากหัวเราะอารมณ์บนใบหน้าประกาศให้ผู้คนรับรู้กันทั่ว“หมิงอ๋องเฟยการเล่นสกีกับการเรียนวิชาแพทย์นั้นมิเหมือนกันสิ่งนี้นั้นต้องดูที่พรสวรรค์และสติปัญญาตัวข้าไม่ถือสาเดี๋ยวข้าจะสอนท่านเอง”เย่เซียวหลัวพูดพร้อมยืนตัวยืนขึ้นใช้สายตาที่เหนือว่ามองไปที่โล่หวินหลาน ท่าทางหยิ่งยโสของนางในสายตาของโล่หวินหลานเป็นแค่เพียงที่เชิดหน้าแอ่นหน้าอกไม่ว่าจะบินอย่างไรก็ไม่สามารถบินออกจากกรงบินไปได้โล่หวินหลานเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา“ดีจริงข้านั้นจะรอคอยดูพรสวรรค์และสติปัญญาของคุณหนูสามส่วนเรื่องของข้านั้นท่านไม่ต้องเป็นกังวลดูแลจัวเองให้ดีก่อนเถอะ” เตาไฟในห้องนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังแต่คำพูดที่ออกมาจากปากของโล่หวินหลานนั้นช่างเย็นเหยียบเหมือนน้ำแข็งสายตาเย็นชาคู่นั้นเหมือนกับโม่ฉีหมิงมิผิดไม่จำเป็นที่จะต้องเลียนแบบก็ดูออกว่าสองคนนี้นั้นมีส่วนที่คล้ายคลึงกันเย่เซียวหลัวคิดที่จะพูดต่อแต่เย่อวิ๋นกว่างกลับกระแอมขึ้นมา“น้องสามพวกเราออกไปเล่นสกีกันก่อนเถอะ!” เท่าที่สายตาของเขามองเห็นจากไกลๆสีหน้าของคนอื่นเริ่มปรากฏร่องรอยไม่พอใจโดยเฉพาะของรัชทายาทและหมิงอ๋องเดิมทีผู้มีสีหน้าอ่อนโยนอย่างรัชทายาทไม่รู้ว่าทำไมสีหน้าถึงได้มืดครึ้มยังมีหมิงอ๋องที่สายตาที่มองมาเหมือนกับจะฆ่าคนอย่างนั้น“พี่รองข้ากำลังพูดอยู่!ท่านลากข้าออกมาทำไม?”เสียงต่อต้านด้วยความไม่พอใจของเย่เซียวหลัวดังขึ้นในห้องผ้าม่านที่ถูกเปิดขึ้นและปิดลงเงาของทั้งสองคนก็จากไปเรียบร้อยแล้ว รัชทายาทประเมินโล่หวินหลานด้วยความแปลกใจคิดไม่ถึงว่านางจะเล่นสกีไม่เป็นนี่เป็นเรื่องที่ใครใครในโม่เย่ก็สามารถทำได้แต่นางกลับทำไม่ได้! เวินหวางทำแสดงท่าทางว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเองเอนตัวพิงไปที่เก้าอี้มองท่าทีข่มขู่บีบบังคับคนของเย่เซียวหลัวด้วยความสนุกสนานหลังจากรอให้นางออกไปสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่รัชทายาท “รัชทายาทพรุ่งนี้คุณหนูสามตระกูลเย่ก็จะสมรสกับท่านแล้วดูแล้วภายภาคหน้าคงจะมีสีสันน่าดู”เวินอ๋องกล่าวยิ้มๆ ตาทั้งสองข้างของรัชทายาทที่นั่งอยู่บนที่นั่งได้หรี่เล็กลงสายตาอบอุ่นมองไปทางเวินอ๋องเอ่ยอย่างเย็นชาว่า“ทุกคนอย่านั่งอยู่ตรงนี้เลยไปเล่นสกีกันเถอะ!วันนี้พวกเราพี่น้องมาสนุกสนานครื้นเครงกันเถอะ”รอให้ทุกคนเดินออกไปหมดแล้วโม่ฉีหมิงก็ลุกขึ้นยืนและกุมมือโล่หวินหลานเอ่ยดอย่างว่านอนสอนง่าย“พวกเราก็ไปเถอะข้าจาอนเจ้าเล่นสกีเอง” เมื่อถูกมือใหญ่ที่อบอุ่นจับกุมไว้แนบแน่นคล้ายกับว่าสงครามไร้เสียงที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ได้มลายหายไปแล้วในช่วงนาทีนี้โล่หวินหลานค่อยๆยืนตัวตรงในใจอุทานด้วยความเสียดายตัวนางชาติก่อนนั้นได้ไปช่วยทางช้างเผือกมาเหรอชาตินี้นางถึงได้มาพบกับเขาที่ช่างแสนดี หิมะข้างนอกได้หยุดตกแล้วโม่ฉีหมิงพานางเดินผ่านทางเดินด้านลานทางทิศเหนือราวจับสีน้ำตาลข้างนอกถูกหิมะทับถมจนเป็นสีขาวสะอาดตาเมื่อเดินผ่านทางเดินเก้าขดปลายทางคือประตูโค้งเดินมาถึงจุดนี้ก็สามารถมองเห็นแผ่นหลังอันเลือนรางของพวกเขาที่อยู่ข้างหน้าทะเลสาบในจวนถูกอากาศที่หนาวเหน็บแช่แข็งเป็นสระน้ำแข็งซะแล้วส่วนต้นหลิวที่แห้งเหี่ยวด้านข้างได้โน้มตัวลงสู่บนลานน้ำแข็ง ทั้งสองคนเดินบนหิมะจนมีเสียง“จิ๊ดจิ๊ด”ซึ่งเดินไม่เร็วมากนักเมื่อเดินผ่านประตูโค้งก็สามารถมองเห็นลานน้ำแข็งที่ด้านนอกปลูกต้นเหมยแดงเอาไว้ “คิดไม่ถึงว่าสวนหย่อมนี้จะถูกซ่อนไว้ในสถานที่อย่างนี้ฝีมือช่างประณีตยิ่งนัก!”โล่หวินหลานเอ่ยชื่นชมและออกแรงดึงมือของโม่ฉีหมิงก้าวเท้าออกเดินไปยังลานน้ำแข็งข้างนอกด้วยความเร็ว โม่ฉีหมิงออกเดินตามแรงดึงมองท่าที่ดีอกดีใจของนางอดที่จะเอ่ยถามมิได้ว่า“เจ้าชอบหรือ?”โล่หวินหลานพยักหน้า”ชอบ!” พื้นที่ประมาณหนึ่งพันกว่าตารางเกาะตัวเป็นน้ำแข็งรอบลานน้ำแข็งได้ปลูกต้นเหมยแดงไว้ตลอดแนวข้างหน้าสุดคือที่นั่งเมื่อรัชทายาทได้ประทับลงบนเก้าอี้และพวกเขานั่งลงเรียบร้อยแล้วในสนามก็มีนางกำนัลหนึ่งแถวที่สวมใส่รองเท้าเหล็กเริ่มเต้นบนลานน้ำแข็ง ในมือของพวกนางกำกิ่งดอกเหมยไว้ในมือคนละหนึ่งกำบนตัวสวมใส่ชุดเดรสสีแดงคล้ายกับว่าดอกเหมยที่กำลังเคลื่อนไหวและค่อยค่อยแย้มบานทีละดอกการเต้นรำนี้ทำให้โล่หวินหวางมองดูด้วยความลุ่มหลง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่130ดุด่าบีบบังคับ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A