ตอนที่57 อันตราย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่57 อันตราย
ต๭นที่57 อันตราย ผ่านไปนาน โล่หวินหลานรู้สึกเพียงแค่ริมฝีปากของตัวเองถูกจูบจนชาไปหมดแล้ว สองมือของเขาถึงได้ค่อยๆปล่อยลงจากใบหน้างาม เห็นโล่หวินหลานที่โดนเข้าจูบจนปากระบมไปหมด เข้ารู้สึกได้ใจ นัยน์ตานั้นมีความสดสให้เห็นอยู่เนืองๆ ใช้นิ้วค่อยๆเกลี่ยตรงริมฝีปากสีแดงสดของนาง ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยคำเตือน “จูบของเจ้าเป็นยาแก้ปวดที่ดีที่สุดของข้า” ได้ยินเขาประเมินจูบของนาง ไม่รู้ทำไม ในใจนาวรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา ความจริงมันเป็นเรื่องไม่ใหม่สำหรับนางเลย พระเอกในนิยายถึงจะพูดแบบนี้ แต่ทำไมนางฟังแล้วรู้สึก……ดีใจล่ะ? โล่หวินหงานเงยหน้าจ้องตาเขม็ง นัยน์ตามีแต่ความออดอ้อน โม่ฉีหมิงอยากให้นางจ้องเขาอย่างนี้นานหน่อย นางก้มหน้าเร็วมาก ตรวจดูแผลของเขาอย่างละเอียด “คราวหน้าเจ็บต้องรู้จักพูด ถ้าไม่รู้ว่าแผลเจ้าเป็นยังไง หากมีอาการอักเสบหรือแผงติดเชื้อขึ้นมา งานมันจะยากขึ้นนะ เข้าใจไหม?” โล่หวินนำยาออกมาเปลี่ยน ค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก ด้านในมีแผลที่ทำให้คนตกใจกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เห็นว่ามีการติดเชื้อ ช่วยเขาเปลี่ยนยาเสร็จ แล้วพันผ้าพันแผลใหม่ เขาหลับตาลงเอนลงบนเตียง นัยน์ตารู้น้ำตาเล็ดอยู่หน่อย โล่หวินหลานนวดกดเบาๆรอบๆ ทำแผลเสร็จ โล่หวินหลานเปลี่ยนสวิสโม่เข้ามา ทั้งสองสวมใส่เสื้อปลอดเชื้อ กำลังปรึกษากันเรื่องพอถ้าปลูกถ่ายเสร็จต้องทำยังไงต่อ ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์เมื่อวานเหมือนเดิม โล่หวินหลานไม่ค่อยได้สัมผัสการศัลยกรรมมากนัก แต่นางรู้ดีว่าแพทย์ศัลยกรรมก็ต้องร่วมมือกับแพทย์เฉพาะทางถึงจะทำให้การผ่าตัดสมบูรณ์ที่สุด เย่หวินนำหมาฝอซานที่ต้มเสร็จยกเข้ามาให้โม่ฉีหมิงดื่ม เห็นเขาค่อยๆหลับตาลง ถึงถอยออกไปอีกข้าง “สวินโม่ เจ้าช่วยข้าเหมือนเมื่อวานเลยนะ ข้าต้องการอะไรข้าจะพูด แล้วเจ้าก็หยิบให้ข้า ยังมีอีก ถ้าข้ามีเหงื่อเจ้าก็ต้องคอยซับให้ข้า อย่าให้เหงื่อหยดลงบนตัวของท่านอ๋อง” โล่หวินหลานค่อยๆเตรียมจัดอุปกรณ์ให้เข้าที่ พลางสั่งงานอย่างกระฉับกระเฉง “เข้าใจแล้ว พระราชา” สวินโม่พยักหน้า รีบลงมือผ่าตัดกับล่หวินหลานโดยด่วน แกะหน้ากากของมาฉีหมิงออกมาเสร็จ ใบหน้าของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้านาง ก่อนหน้านั้นได้ดูก็ทำให้นางหลงไหลไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้คนตกตะลึง พอมาเห็นอีกครั้ง เหมือนกับว่าเขาจะหล่อเหลาขึ้น โล่หวินหลานเม้มๆปาก หยิบถุงมือมาใส่ แล้วก็เริ่มลงมือผ่าตัด “เอามีดผ่าตัดฆ่าเชื้อ” โล่หวินหลานพูดอย่างใจเย็น นางพูดหนึ่งคำก็มักจะพูดฆ่าเชื้อต่อท้ายตลอด เหมือนกลัวสวินโม่จะลืม สวินโม่รีบหยิบมีดผ่าตัด วางไว้ในแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเสร็จก็ยื่นให้โล่หวินหลานทันที นางรับมีดผ่าตัดมาถือไว้ เริ่มย้อนความทรงจำที่เรียนอยู่ในห้องศัลยกรรม ใช้ความชำนาญในการผ่าตัดค่อยๆกดมีดกรีดหนัง มือของนางสั่นเทาเล็กน้อย นางสูดหายใจเข้าลึกๆ ฝืนหยุดการสั่นของมือไว้ ให้มือที่ผ่าตัดตัวเองมีความแม่นยำ “พระราชา……” สวินโม่ยื่นเข็มให้นางแล้วเขาก็เห็นหน้าที่โดนไฟไหม้ของโม่ฉีหมิงไม่เห็นแล้ว เห็นเพียงแค่ชิ้นเนื้อและหลอดเลือดที่โผล่ออกมาให้เห็น เขามีความลนลานแล้วพูด “พระราชา เลือดออกแล้ว” โล่หวินรู้สึกตกใจ เลือดออกต้องทำยังไง? นางรีบนึกถึงตอนที่อาจารย์สอนว่าเลือดออกต้องทำยังไง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก มีเหงื่อร้อนๆผุดออกมาตามหน้าผากของนาง สวินโม่ที่อยู่ข้างๆคอยใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นาง ขมวดคิ้วอย่างกังวล นางจับมีดผ่าตัดในมือแน่น เห็นใบหน้าของโม่ฉีหมิงมีเลือดไหลออกไม่หยุด ทำให้ตัวเองใจเย็นลงให้ได้มากที่สุด “สวินโม่ ในการผ่าตัดเลือดออกอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ ตอนนี้เจ้าไปต้มยาที่ระงับการไหลของเลือดมา เร็วๆ” สวินโม่รับคำสั่งแล้วรีบวิ่งออกไปทันที เย่หวินกับฉินหยิ่นนั่งอยู่ข้างนอกของห้องลับ เห็นเขาที่รีบวิ่งออกมา มีความสงสัย ยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็ไปไวจนไร้เงาแล้ว ตั้งแต่เลือกยาจนถึงต้มยาสวินโม่ลงมือทำเองหมดทึกขั้นตอน ไม่ให้ใครหน้าไหนแตะ เขาไม่รู้ว่าการผ่าตัดครั้งนี้อันตรายถึงขั้นไหน แต่ดูจากสีหน้าของโล่หวินหลานเมื่อครู่ การผ่าตัดต้องมีความอันตรายแน่ๆ ใจร้อนดังไฟเผาไหม้รอจนต้มยาห้ามเลือดเสร็จ รีบยกยาเข้าไปในห้องลับชามใหญ่ โล่หวินหลานเห็นเขายกชามยาห้ามเลือดเข้ามา ก็รีบรับมาไว้ในมือ กลัวว่าเขาจะสำลักออกมาโดนแผลที่พึ่งผ่าตัดเสร็จ ฉะนั้นจึงใช้กรวยเฉพาะ ค่อยๆป้อนยาห้ามเลือดให้เขากิน ป้อนยาห้ามเลือดเสร็จ โล่หวินหลานก็สังเกตดูการไหลของเลือด เห็นเลือดหนุดไหลแล้ว ถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “การไหลของเลือดแบบนีเห็นได้น้อย เริ่มการผ่าตัดอีกครั้งได้ สวินโม่ เอาผัวหนังมาให้ข้า” โล่หวินหลานพูด ตอนนี้จะเริ่มขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแล้ว ทั้งสองคนเข้าไปในห้วงของอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องเต็มไปหมด โล่หวินหลานค่อยนำชิ้นผิวหนังปลูกถ่ายลงที่หน้าเขาที่ละเล็กทีละน้อย เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนผ่านไปนับปี พอการผ่าตัดเสร็จ ก็เริ่มค่ำแล้ว พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงจากพระอาทิตย์ค่อยๆดับลงหลับใหลอยู่หลังเขา เหลือไว้เพียงแค่แสงสีส้มที่แสดงว่าเข้าสู่กลางคืนแล้ว “พวกเจ้าทำเร็วๆเข้า ยาพวกนี้ต้มให้เสร็จก่อนธูปดับ”เย่หวินเฝ้าอยู่ในห้องครัวดูคนรับใช้ต้มยา “ค่ะ/ขอรับ แม่นางเย่หวิน” คนรับใช้รับคำสั่ง รีบเริ่มต้มยากันอย่างขะมักเขม้นพัดจนไฟที่ติดถ่านร้อนแดงฉ่า ทำตามคำสั่งโล่หวินหลาน นางไปห้องยาหยิบยาพวกนี้เข้ามา รีบแบ่งหน้าที่ให้พวกเขาแต่ละคน ตั้งแต่โล่หวินหลานเข้าการผ่าตัด เดินออกมาจากห้องอย่างเหนื่อยล้า พินั่งลงไปที่เก้าอี้ด้านนอก ยังไม่ทันได้ดื่มน้ำ เสียงแหบพร่าก็รีบสั่งให้นางไปหยิบยาแล้ว นางก็ไม่กล้าถามเยอะ รีบออกจากจวนไปหายาทันที แล้วก็อยู่แต่ในห้องครัวเฝ้าพวกเขาต้มยา “แม่นางเย่หวิน ยาต้มเสร็จแล้วค่ะ” คนรับใช้คนหนึ่งลุกขึ้นแล้วเดินมาห้เขาที่ประตูด้านนอก พลางรีบทำความเคารพ ข้างในยาช่างหอมตลบอบอวลนัก สียาดำๆข้างบนมีผ้าขาววางอยู่ วางไว้กับตะแกรงไฟ ไฟข้างล่างปะทุขึ้นจากถ่าน ยังมีกลิ่นควันลอยอยู่ เย่หวินเปิดผ้าออกดู น้ำเสียงเรียบเฉย “ได้” ยกยา เข้าไปในห้องลับ ข้างในปัดกวาดเช็ดถูเรียบร้อย ใบหน้าของโม่ฉีหมิงมีผ้าพันแผลพันอยู่ มีแค่ตากับปากที่โผล่ออกมาให้เห็น ไม่รู้ว่าพอเปิดผ้าออกมา หน้าตาจะเปลี่ยนไปอย่างไร “พระราชา ได้ยาแล้ว” เย่หวินนำยาวางไว้ข้างๆโต๊ะ โล่หวินหลานพยักหน้า นำกรวยที่ใช้เฉพาะออกมาจากกล่อง ยังจะใช้วิธีนี้ป้อนยาให้โม่ฉีหมิงดื่ม “พระราชา ท่านอ๋องเมื่อไหร่จะฟื้น?” เย่หวินรับถ้วยยาเปล่า นางรู้ว่าไม่ควรถามให้มากความ แต่ว่านางเป็นห่วงโม่ฉีหมิง หลังจากผ่าตัดปลูกถ่ายยังจะต้องตรวจเช็กอีกหลายวัน หากไม่มีการติดเชื้อ ไม่มีอาการเลือดออก ก็จะหายขึ้น แต่การแพทย์ยุคโบราณนี้ล้าหลังมาก สภาพแวดล้อมก็ไม่ได้สะอาดมากเท่าที่ควร โม่ฉีหมิงก็ยังไม่ฟื้น “ยังจะตรวจดูอาการอีกหลายวัน ร่างกายของท่านอ๋องตอนนี้ยังถือว่าน่าเป็นห่วง เย่หวิน เจ้าไปบอกให้ทุกคนในจวนต้องมีคนตื่นสลับเวรเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ข้าต้องการอะไรต้องหาให้ได้ทันที” โล่หวินหลานสั่งอย่างเสียงเรียบ “ได้ค่ะ” เย่หวินตอบรับ รีบออกจากห้องลับไป ตกดึกมายังถือว่าเงียบสงบดี ข้างนอกดาวบนท้องฟ้าส่องประกายระยิยระยับ ส่องเข้ามาในห้องไม่ใหญ่ โล่หวินหลานขยับเก้าอี้มาใกล้โม่ฉีหมิง แล้วก็หยิบผ้าห่มบางๆมา นั่งอยู่บนเห้าอี้เฝ้ามองดูเขาทั้งคืน กลางดึก นางลุกขึ้นมาตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของโม่ฉีหมิง หน้าผาก ตัวร้อนดังไฟเผา นางปิดตาแน่น สุดท้าย เรื่องที่นางกลัวก็เกิดขึ้นจนได้ ผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายผิวหนังสิ่งที่กลัวที่สุดคืออาการไข้ขึ้น หากเป็นอย่างนี้จะทำอาการหนักขึ้นไปอีก อีกทั้งยังต้องส่งเข้าห้องฉุกเฉิน เพราะไม่รู้ว่าร่างกายของโม่ฉีหมิงฟื้นฟูเป็นอย่างไรบ้างแล้ว โล่หวินให้คนเก็บกวาดเก็บห้องให้สวินโม่พัก ให้คนไปตามเบ้าเวลาไม่นาน เขาก็มาถึงห้องลับแล้ว “พระราชา ท่านอ๋องไข้ขึ้นหรือ?” สวินโม่ถามมาแต่ไกล เห็นโม่ฉีหมิงยังไม่รู้สึกตัว จึงรีบถาม โล่หวินหลานบิดผ้าขนหนูเช็ดตัวเขาอยู่ เก็บผ้าขนหนูพูด “สวินโม่เจ้าไปต้มยาลดไข้มาให้ข้าหน่อย เจ้ารู้เข้าใจร่างกายของท่านอ๋องมากที่สุด รีบไป” อีกทางดูโม่ฉีหมิง อีกทางนึกถึงว่าต้องทำอย่างไรเมื่อคนไข้มีอาการไข้ขึ้น นางหยิบเพนนิซิลลินออกจากกล่อง ใช้เข็มฉีดยาดูขึ่นมาแล้วฉีดเข้าตรงกล้ามเนื้อของโม่ฉีหมิง ลองฉีดไปหนึ่งเข็มเพื่อยับยั้งการแกเสบ โม่ฉีหมิงตัวร้อนมาก นางจับมือของเขาเหมือนจะได้รับถ่ายทอดความร้อนมาจากตัวเขาทีละเล็กทีละน้อย เพราะถูกผ้าพันแผลไว้เพราะฉะนั้นจะมองไม่เห็นหน้าของเขาได้ชัด เห็นตาสองตาปิดแน่น ด้านบนเป็นคิ้วที่ขมวดแน่น ผ่านไปไม่นานสวินโม่ก็ต้มยาลดไข้เสร็จใช้กรวยป้อนยาโม่ฉีหมิงลงไป “สวินโม่ เจ้าไปพักเถอะ ข้าดูแลตรงนี้เอง” โล่หวินหลานน้ำเสียงมีความเหนื่อยล้าเต็มทน นางยื่นมือไปอังหน้าผากเขาเบาๆ ไม่ร้อนเหมือนเมื่อกี้แล้ว ใบหน้าของนางมีความซีดเซียวใต้ตาดำอย่างเห็นได้ชัด หลายวันมานี้เพราะต้องรักษาอาการของโม่ฉีหมิงจึงทำให้นอนพักผ่อนไม่พอ “พระราชา สีหน้าท่านไม่ค่อยดีเลย ท่านไปนอนพักก่อนเถอะ ที่นี่มีข้าดูแลก็เพียงพอแล้ว เดี๋ยวมีอะไรข้าจะไปเรียกท่าน” สวินโม่เดินเข้าไปหนึ่งก้าวพลางพูดขึ้น “ไม่ต้องก็ได้ สวินโม่เจ้าไปพักเถอะ ข้าไม่เป็นไร”โล่หวินหลายหันหน้าไปฝืนยิ้ม หันหลังกลับไปนั่งเก้าอี้เหมือนเดิม สวินโม่ตะลึงไปนิดหน่อย เขารู้ถึงเขาจะโลหวินหลานไปพักผ่อน นางก็คงนอนไม่หลับ อีกอย่างนางจะเฝ้าอยู่ตรงนี้ โม่ฉีหมิงปลอดภัยกว่าใครแน่นอน กลางคืนผ่านไปเร็วมาก ข้างในห้องมีเพียงตะเกียงสองอันที่ส่องแสงไฟสะลัวๆ ผ่านไปไม่นาน ก็ถึงเช้าของอีกวัน โล่หวินหลานฟื้นขึ้นมาเรื่องแรกที่ทำคือเอามืออังหน้าผากโม่ฉีหมิง อุณหภูมิของวันนี้ลดลงกว่าเมื่อวานนิดหน่อย แต่ก็พลาดไม่ได้ “พระราชา ท่านไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วก็ทานอาหารเช้าหน่อย” เย่หวินยกกะละมังน้ำอุ่นเข้ามาวางไว้บนชั้นวาง ปรนนิบัติของที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายเสร็จและยังมีแปรงสีฟันยาสีฟันที่โล่หวินหลานคิดค้นขึ้น โล่หวินหลานขยับตัวนิดหน่อย หัวหนุนบนแขนทั้งคืนทำให้รู้ชาไปหมด ขาทั้งสองข้างก็รู้มื่อยไปด้วย เดินยังเซตอนนี้ พรุ่งนี้ต้องห้ามนอนอย่างนี้อีก ช่างไม่สบายตัว เดินไปถึงอ่างล้างหน้า แปรงฟันล้างหน้าพร้อมกัน เย่หวินยื่นกะติกน้ำปากกว้างให้นางบ้วนปากไม่รู้สิ่งที่นางบ้วนทิ้งออกมาเป็นฟองคืออะไร กินโจ๊กเปล่ากับอาหารนิดหน่อย ชูช้อนขึ้นแต่ก็กินอะไรไม่ลงแล้ว จึงให้นางเก็บสำรับไปเก็บ หันกลับไปตรวจดูอุณหภูมิร่างกายของโมฉีหมิง ไข้ยังไม่ลด แต่ก็ไม่ได้ขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โล่หวินกลานจับเขาเบาๆ ทำให้นางร้อนดังโดนไฟเผา 
已经是最新一章了
加载中