ตอนที่ 104 เธอที่แข็งแรง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 104 เธอที่แข็งแรง
ต๭นที่ 104 เธอที่แข็งแรง เมื่อเหชียวหนานจิ่งถามจบ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนอย่างน้อย 1 คนเอ่ยตอบเขาออกมาว่า.....ไม่ใช่! แต่ว่าเขาไม่รอให้ใครคนนั้นเอ่ยขึ้น เซวจื้อเซียวที่รออยู่เอ่ยขึ้นมาว่า “คุณชายเหชียวครับ นี่คือท่านประธานโม่ของพวกเราเองครับ คุณมีปัญหาอะไรอีกไหมครับ?” “เขา เขาคือ LeoMo จริงๆหรือ? LeoMo คนที่บริหารเซิ่งเทียนคนนั้นน่ะหรือ?” เหชียวหนานจิ่งส่ายหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเซวจื้อเซียวจะปฏิเสธเขา ผู้ชายที่ชื่อโม่ข่ายคนนี้ บังเอิญแซ่โม่เหมือนกัน บังเอิญทำงานที่เซิ่งเทียนอีก แต่ว่าไม่น่าใช่ LeoMo คนคนนั้นของเซิ่งเทียน “ใช่” เซวจื้อเซียวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้! ทำไมเขากลายเป็น LeoMo ของเซิ่งเทียนไปได้” เหชียวหนานจิ่งมองที่โม่ข่ายอีกครั้ง โม่ข่ายก็คือโม่ข่าย เป็นเพียงประธานเล็กๆของบริษัทนวัตกรรม ไม่ได้มีอำนาจใหญ่โตอะไรอยู่เบื้องหลัง ทำไมเพียงแค่กระพริบตาเขาก็กลายเป็น LeoMo ไปได้ล่ะ? ถ้าโม่ข่ายเป็น LeoMo จริงๆ ถ้าอย่างนั้นจุดประสงค์ที่ตัวเองต้องการร่วมมือกับเซิ่งเทียนก็เป็นอันคว้าน้ำเหลวสิ คิดถึงตัวเองที่ไม่เพียงไม่มีปัญญาร่วมมือกับเซิ่งเทียนได้ แถมยังโกรธที่เซิ่งเทียนประกาศตัดความสัมพันธ์กับเหชียวหนานจิ่งอีก เหชียวหนานจิ่งเหงื่อแตกไปทั่วทั้งตัว ตำแหน่งของเขาในฉียวซื่อปกติก็ไม่ได้มั่นคงอยู่แล้ว อาจจะถูกคนอื่นแย่งชิงไปได้ทุกเมื่อ การได้รับความร่วมมือจากเซิ่งเทียนเป็นเพียงความหวังเดียวของเขา วันนี้ถ้าหากข่าวเรื่องที่เซิ่งเทียนระงับความสัมพันธ์กับเหชียวซื่อแพร่กระจายออกไป ถ้าอย่างนั้นเขาจะมีหน้าที่ไหนกลับไปหาพ่อของเขาอีกได้ แถมยังไม่มีทางกลับเข้าไปยังหน่วยงานหลักของเหชียวซื่อได้อีก ความจริง เขาน่าจะรู้ตั้งนานแล้วว่า LeoMo เป็นชื่อภาษาอังกฤษของเซิ่งเทียนคนนั้น หลายปีมานี้ทุกคนต่างเรียกเขาแบบนี้ กลับลืมไปว่าเขาก็มีชื่อภาษาจีนอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นทีท่าของโม่ข่าย ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ทำอะไรสักอย่าง กลับทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกอึดอัด อารมณ์เช่นนี้ต้องไม่ใช่ประธานของบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยีเล็กๆคนหนึ่งที่มีได้แน่ เบื้องหลังของเขาน่าจะมีสถานะอื่นๆด้วย แต่ว่าเขาคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปกคือ หรือว่าเขาไว้ใจหลี่กังหน้าโง่นั้นมากเกินไป ไม่เคยคิดเชื่อมโยงว่าโม่ข่ายจะกลายมาเป็น LeoMo ของเซิ่งเทียนได้ “ไม่ นั่นคือ ท่านประธานโม่......” เหชียวหนานจิ่งในตอนนี้แม้กินน้ำผึ้งก็ยังว่าขมเลย ขมเสียจนแม้แต่ประโยคเดียวก็พูดอะไรไม่ออก โม่ข่ายกวาดสายตาอันเยือกเย็นมองไปที่เหชียวหนานจิ่ง หันหลังเตรียมเดินจากไป เหชียวหนานจิ่งอยากจะไล่ตาม แต่ว่าเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำไปทั้งหมด จะมีหน้าอะไรไปไล่ตามเขาได้ ถ้าเกิดตามไปแล้วจะยังไงต่อล่ะ? “คุณชายเหชียว.....” “ออกไปให้พ้น ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง กูเลี้ยงพวกมึงมาอย่างดีให้กินให้ดื่ม พวกมึงดูสิว่าวันนี้พวกมึงทำอะไรให้กูได้บ้างห๊ะ?” เหชียวหนานจิ่งยกขาเตะคนที่อยู่ข้างๆ เตะลงไปหลายครั้ง เพื่อระบายความหงุดหงิดโม่ข่ายที่มีในใจลงกับลูกน้องใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง คงจะหงุดหงิดมากเกินไป เวลาผ่านไปสักพัก เหชียวหนานจิ่งก็ยังคงระบายไม่หยุด ขาทั้งสองข้างเริ่มอ่อนล้า เดินออกไปยังไม่ทันถึงประตูใหญ่ดี ก็ล้มฟุบลงไปกับพื้น ลูกน้องของเขารีบวิ่งเข้ามาประคอง ก็โดนเตะซ้ำที่ขาอีก 2 ข้าง พลางด่าว่า “ออกไปให้พ้น ออกไปไกลๆกู ใครกล้าเข้ามาอีกละก็กูจะฆ่ามันให้หมดทั้งบ้าน” เซวจื้อเซียวเห็นเหชียวหนานจิ่งทั้งตะโกนและด่าแบบนั้น เขาส่ายหน้าแบบไม่มีเหตุผล เหชียวซื่อถ้าเกิดมอบให้เหชียวหนานจิ่งคนนี้รับผิดชอบ สงสัยคงต้องหมดอนาคตเป็นแน่ คนวัยหนุ่มที่อายุ 28 ปีเท่ากัน เกิดจากครอบครัวที่มีฐานะเหมือนกัน คนหนึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สอง คอยสร้างปัญหาได้ทุกที่ ทำแต่เรื่องไม่ดี ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้ถือหางเสือของเซิ่งเทียนทั้งสงบเสงี่ยมเจียมตัว อ่อนน้อมถ่อมตน ทำงานอย่างมีหลักการ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ประธานโม่ของพวกเขายอดเยี่ยมกว่าเหชียวหนานจิ่งหลายล้านเท่าเลยทีเดียว ...... กู้เหยายืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างของห้อง ในมือยังถือแหวนวงนั้นที่เก็บมาได้ไว้ เธอยินตัวตรง สายตามองออกไปยังทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะด้านนอก ราวกับว่าแม่ยืนอยู่ที่ข้างนอกหน้าต่างนั้น ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนและเมตตา “เหยาเหยาของบ้านเราดีที่สุดเลย แม่รักเหยาเหยาที่สุด.......” “แม่คะ......” กู้เหยารีบโผเข้าไปอยากจะกอดแม่เอาไว้ แต่ว่ากลับชนเข้ากับกระจก ความเจ็บปวดทำให้เธอตื่นจากภวังค์ทันที ทำให้เธอได้รู้ว่าที่แท้ภาพเมื่อสักครู่นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอจินตนาการขึ้นมาเอง “กู้เหยา!” โม่ข่ายเปิดประตูเข้ามาเห็นฉากนี้เข้าพอดี เห็นเธอชนเข้ากับกระจกหน้าต่างอย่างจัง น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำลงมาก กู้เหยาเงยหน้าขึ้นมาพลางยิ้มให้เขา “คุณกลับมาแล้วหรือคะ” โม่ข่ายมองเธอ ขมวดคิ้วแน่น สักครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยขึ้นว่า: “กู้เหยา คุณยังมีผมอยู่นะครับ” “ฉันรู้แล้วคะ” กู้เหยากะพริบตาให้เขา เขากำลังยิ้มอยู่อย่างชัดเจน แต่ว่าโม่ข่ายกลับรู้สึกว่าเธอเสียใจยิ่งกว่าการ้องไห้เสียอีก เขาเอาเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น ถูกโม่ข่ายกอดไว้แน่น อุณหภูมิในตัวเขาค่อยๆส่งผ่านมายังตัวเธอ ทำให้ร่างกายของเธอไม่หนาวอีกแล้ว รวมถึงในหัวใจด้วย แรงของเขาช่างมากมายมหาศาล ราวกับว่าจะเอาเธอม้วนเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างนั้น เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ว่าเธอรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของเขา เธอผลักเขาออกเบาๆ “โม่ข่ายคะ คุณกอดฉันแน่นจนหายใจไม่ออกแล้วคะ” โม่ข่ายไม่ได้สนใจ ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยขึ้นว่า “ผมไปที่เก็บศพเป็นเพื่อนคุณนะครับ” “อย่าเลยคะ” กู้เหยาปฏิเสธออกไปทันควันโดยไม่ทันได้คิด โม่ข่ายปล่อยเธอลง เปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าเธอไว้ “กู้เหยา เรื่องบางเรื่องเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว คุณไม่ควรทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” กู้เหยายอมรับว่าเธอกำลังรู้สึกกลัว เธอกลัวว่าภาพลวงตานั้นในที่สุดจะหายลับไป เธอกลัวว่าจะเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น แต่ว่าโม่ข่ายก็พูดถูก เรื่องบางเรื่องเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เธอไม่ควรแกล้งทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องใช้ความกล้าหาญเผชิญหน้ากับมัน ตอนเด็กๆ แม่มักจะลูบหัวเธอไปพลางพูดว่า “เหยาเหยาของแม่กล้าหาญที่สุด แข็งแกร่งที่สุด ต่อไปเมื่อโตแล้วไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะรู้ไหม” ตอนนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอสามารถดูแลตัวเองให้ดีได้ เพียงแต่เธออยากจะดูแลแม่ให้ดีมากยิ่งขึ้น วันนั้นพวกเขาพูดกันเสียดิบดีว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว แม่จะกลับบ้านไปพร้อมเธอ แม่รับปากเธอเสียดิบดี แต่ว่าทำไมแม่ถึงไม่ยอมรอเธออีกสักหน่อย รอให้เธอกลับมาที่บ้านกู้ เธอก็จะรับแม่ไปอยู่ด้วยแล้ว “กู้เหยา......” “ไปกันเถอะ” กู้เหยาสูดหายใจเข้าลึก เงยหน้าขึ้นมองโม่ข่ายแล้วยิ้มให้ โม่ข่ายไม่เคยรู้สึกรำคาญรอยยิ้มของกู้เหยาเท่านี้มาก่อน รอยยิ้มที่เธอเสแสร้งทำเป็นเข้มแข็งสามารถยิ้มไปพร้อมกับคนอื่นได้ แต่ว่าสำหรับเขาตรงนี้ เขาเพียงแค่หวังว่าเธอจะจริงใจกับตัวเอง แต่ว่า เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับเธอดี เธอไม่อยากให้เขารับรู้ ความจริงแล้วเขามองออกที่เธอแสร้งทำเป็นยิ้ม ...... สำหรับคนอย่างกู้เหยา กู้เจิ้งเต๋อรู้ดีว่าเธอเป็นคนอย่างไร เขารู้อยู่แล้วว่ากู้เหยาจะต้องมาที่นี่ ดังนั้นจึงให้คนมาดักรออยู่ที่ทางเข้า เขามองกู้เหยาแล้วมองอีก แล้วมองโม่ข่ายที่อยู่ข้างๆเธอ โม่ข่ายก็มองที่กู้เจิ้งเต๋อเช่นเดียวกันด้วยสายตาที่เป็นมิตร แต่กลับทำให้กู้เจิ้งเต๋อรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที กู้เจิ้งเต๋อหลบสายตาของโม่ข่าย แล้วมองกู้เหยาอีกครั้ง พลางกล่าวว่า “เหยาเหยา เรื่องที่ลูกทำไว้เมื่อสามปีก่อนนั้นน่ะ แม่ของลูกให้อภัยลูกนานแล้วล่ะ วันนี้เขาไปสบายแล้ว ลูกก็อย่ามารบกวนเธออีกเลยนะ” 
已经是最新一章了
加载中