ตอนที่ 111 ค่อยๆ เดินออกมาจากเงามืด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 111 ค่อยๆ เดินออกมาจากเงามืด
ต๭นที่ 111 ค่อยๆ เดินออกมาจากเงามืด “อย่าคิดซับซ้อนมาก มันคือความหมายตามตัวอักษร ถอนออก กำจัด ทำลาย ตามที่ชอบ” เซียวหนิงอี้ยิ้มอย่างใจเย็น กู้เหยาไม่เข้าใจคำชี้แนะของเซียวหนิงอี้ เงยหน้ามองเขาอย่างเงียบๆ ได้ยินเขาพูดอีก “อย่าเคร่งเครียดขนาดนี้สิ เดี๋ยวจะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง เมื่อก่อนฉันจะคนคนหนึ่ง เขาเรียกตัวเองว่าเป็นลูกนอกสมรสตระกูลเหชียว เขาโวยวายมาตลอดว่าอยากกำจัดบริษัทเหชียวซื่อ ฉันสงสัยว่าเขามีภาวะจิตบกพร่อง” กู้เหยาคาดการณ์ได้ จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย มองเซียวหนิงอี้อย่างระแวดระวัง “คุณเป็นใครกันแน่? ทำไมอยากช่วยฉัน?” เซียวหนิงอี้ยิ้ม เผยฟันขาวเรียงสวย “เป็นจิตแพทย์ของเธอไง คุณหมอรักษา ช่วยแบ่งเบาความกังวลของเธอ มีอะไรไม่ถูกต้องไหม?” กู้เหยามองเขาอย่างงุนงง แล้วได้ยินเขาพูดอย่างสบายๆ “ถ้าการรักษานี้เป็นที่พอใจ อย่าลืมให้มู่จือจ่ายค่าการให้คำปรึกษาทางจิตเยอะๆหน่อย” เซียวหนิงอี้ยังพูดอะไรอีกนิดหน่อย กู้เหยาไม่ได้ตั้งใจฟัง ในหัวเธอคิดแต่เรื่องลูกนอกสมรสตระกูลเหชียวอยู่ตลอด เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินชื่อนี้รางๆ แต่ไม่เคยสนใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ บนโลกใบนี้ มีคนอยากล้มอำนาจตระกูลเหชียวมากกว่าเธออีก ตราบใดที่ตระกูลเหชียวล้มอำนาจ ผู้สนับสนุนของกู้เจิ้งเต๋อก็ล้มด้วย ต้องทำให้เขาชื่อเสียงป่นปี้ จะทำได้ง่ายขึ้น และการจัดการเรื่องพวกนี้ สามารถให้คนคนนั้นช่วยเธอกำจัดบริษัทเหชียวซื่อได้พอดี สำหรับโม่ข่าย เขามีงานของเขา มีครอบครัวของเขา เธอไม่อยากดึงเขาเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างเรื่องของตระกูลเหชียวและตระกูลกู้ ถ้ามีวันหนึ่งตัวเธอเองเปลี่ยนไป เธอก็หวังว่าโม่ข่ายยังเป็นโมม่ข่ายที่อบอุ่น ยืนภายใต้แสงสว่างสวยงาม มองดูวิวทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด อยู่ด้วยกันกับคนที่ดีที่สุด พูดคุยกับเซียวหนิงอี้เกือบหนึ่งชั่วโมง ภายในใจกู้เหยาก็ผ่อนคลายลงมาก ในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจได้แล้ว แม้ว่าภายในร่างเธอจะมีสายเลือดของกู้เจิ้งเต๋อไหลเวียนอยู่ แต่เธอไม่ให้เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการทำสิ่งชั่วร้ายอีกต่อไป เขาควรจะได้รับโทษ หลังจากออกมาจากห้องทำงาน สิ่งแรกที่กู้เหยาเห็นคือสายตากังวลของโม่ข่าย เธอเลิกคิ้วยิ้มให้เขา “คุณหมอเซียวคิดค่ารักษาแพงมาก คุณช่วยออกเงินให้ฉันได้ไหม?” กู้เหยาชอบพูดแบบนี้ พิสูจน์ว่าความคับแค้นในใจเธอได้ถูกเปิดออกแล้ว โม่ข่ายลูบศีรษะเธอ แล้วมองไปที่เซียวหนิงอี้ “ค่ารักษาเท่าไหร่ก็เสนอมาได้เลยครับ” เซียวหนิงอี้พิงบนประตู แล้วยิ้มอย่างสบายๆ “ผมชอบคุณนายโม่มาก วันนี้ผมเลยรักษาฟรีครับ” ได้ยินเซียวหนิงอี้พูดว่าชอบกู้เหยา โม่ข่ายก็ดึงตัวกู้เหยาเข้ามาในอ้อมอก ราวกับกำลังประกาศว่าเป็นของของตัวเอง เซียวหนิงอี้ยิ้มแล้วพูด “ผมว่านะคุณชายโม่ คุณนายโม่ของคุณไม่มีใครแย่งไปหรอกครับ ถ้าจะไปโชว์ความรักกันก็กลับบ้านไปโชว์ ผมแค่ต้อนรับคนไข้ที่นี่” “เข้าใจก็ดีแล้ว” โม่ข่ายยิ้มเล็กน้อยให้กับเซียวหนิงอี้ เห็นยิ้มเล็กน้อย แต่กลับแฝงไปด้วยความหมายเตือน ภรรยาของเขา ไม่ให้คนอื่นมาสนใจ แม้ว่าจะแค่คิดก็ตาม “โม่ข่าย เราไปกันเถอะ” กู้เหยาดึงเขา “ฉันหิวมาก คุณให้ป้าเฉินเตรียมอาหารหน่อยได้ไหม?” เซียวหนิงอี้คนนี้เป็นคนที่ลึกลับจนคาดเดาไม่ถูกเกินไป ตอนนี้กู้เหยาไม่รู้ว่าเขาเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร เธอไม่อยากให้โม่ข่ายเกี่ยวข้องกับเขามาก สำหรับเธอ โม่ข่ายยืนอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ เธอไม่ยอมให้สิ่งสกปรกใดๆมาทำให้เขาแปดเปื้อนเด็ดขาด โม่ข่ายและกู้เหยาเพิ่งออกมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากห้องทำงานอีกห้อง ใบหน้าคล้ายคลึงกับเซียวหนิงอี้นิดหน่อย มองเห็นแผ่นหลังของกู้เหยา เธอก็ส่งเสียงถอนหายใจยาวเหยียด “พี่ นั่นมันลูกสาวคนที่สองของตระกูลกู้ใช่ไหม?” เซียวหนิงอี้พยักหน้า และส่งเสียงถอนหายใจยาวเหยียดออกมาเช่นกัน “ใช่ เธอคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลกู้ ไม่คิดเลยว่าจะเจอเธอด้วยวิธีนี้” …… หลังจากกลับมาจากเซียวหนิงอี้ที่นั่น อาการของกู้เหยาก็ดีขึ้นมา ทานข้าวได้แล้ว และยอมคุยกับโม่ข่ายแล้ว เห็นเธอค่อยๆดีขึ้นจากอาการเศร้าที่คุณแม่เสียไป โม่ข่ายก็ดีใจมาก เขาลูบศีรษะเธอแล้วพูด “วันนี้ผมต้องเข้าบริษัทไปทำธุระนิดหน่อย คุณอยู่บ้านพักผ่อนให้ดี ตอนเย็นเราไปทานข้าวด้วยกัน” “อืม” กู้เหยาพยักหน้า เผยรอยยิ้มสดใสให้เขา พอโม่ข่ายเดินออกไป กู้เหยาก็หาเบอร์โทรศัพท์ หลังจากคิดใคร่ครวญอย่าน เธอก็กดโทรออกไป เบอร์นี้โทรออกไปได้ และไม่มีทางหันกลับ จนกระทั่งบริษัทเหชียวซื่อและกู้เจิ้งเต๋อจะชื่อเสียงป่นปี้ไปด้วยกัน …… สำนักงานใหญ่บริษัทเซิ่งเทียนในประเทศอยู่ปักกิ่ง ตึกใหญ่ของเซิ่งเทียนสูงตั้งตระหง่าน ครั้งหนึ่งเคยเป็นความฝันของใครหลายๆคน กู้ซินแบกความหวังอันยิ่งใหญ่ของคุณพ่อและตระกูลเหชียวไว้ รออยู่ห้องโถงในตึกใหญ่ชั้นหนึ่งอยู่นานมาก รอจนตาจะแห้งอยู่แล้ว ถึงได้เห็นโม่ข่ายที่มาพร้อมกลุ่มคนคุ้มกันอยู่ เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปข้างหน้า “มู่จือ รอสักครู่” โม่ข่ายหยุดฝีเท้า มองไปที่กู้ซินด้วยสายตาเย็นชา “คุณผู้หญิงกู้มาหาผมมีเรื่องอะไรหรอครับ?” “ขอเวลาให้ฉันสักสองสามนาทีได้ไหมคะ ไม่กี่นาทีก็พอแล้ว ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ” กู้ซินพูดอย่างระมัดระวัง มือสองข้างจับที่ปลายเสื้อ บ่งบอกถึงความวิตกกังวลของเธอ สายตาโม่ข่ายมองที่เธอ แล้วพูดอย่างมีมารยาทที่ไม่สนิทสนม “คุณผู้หญิงกู้มีอะไรก็พูดมาตรงๆได้เลยครับ” “ขอเวลาฉันห้านาที แค่ห้านาทีก็ได้ค่ะ” กู้ซินมองเขา ในแววตามีประกายน้ำตา โม่ข่ายมองเหลียงฮุ่ยอี๋หนึ่งที เหลีงฮุ่ยอี๋ก็รีบสั่งให้คนอื่นออกไปก่อน ทำให้สถานที่ว่าง “คุณพูดมาสิ” โม่ข่ายยืนหลังตรง เห็นสายตาหดหู่ของกู้ซิน น้ำตาเธอไม่ได้ทำให้เขาสงสารแม้แต่น้อย กู้ซินกัดริมฝีปาก น้ำตาไหลลงมาแล้วพูด “มู่จือ ปีนั้นที่ฉันหนีคุณไป เพราะฉันคิดว่าคุณจำฉันไม่ได้ จนกระทั่งฉันเห็นคุณแต่งงานกับกู้เหยา ฉันถึงได้รู้ว่าที่แท้ในใจคุณไม่ใช่ว่าไม่มีฉัน ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ คุณคงไม่แต่งงานกับกู้เหยาที่หน้าตาคล้ายฉันหรอก” “นี่คุณผู้หญิงกู้ คิดมากไปแล้วนะ ที่ผมรับปากจะคุยกับคุณที่นี่ แค่อยากจะบอกคุณว่า ภรรยาของผมคือกู้เหยา” ทิ้งคำพูดไว้ โม่ข่ายก็หันหลังเดินไปเลย ที่เขาพูดกับกู้ซินเยอะขนาดนี้ เพราะเขาไม่อยากให้กู้ซินนึกว่าเขาคิดอะไรกับเธอ เขาแต่งงานกับกู้เหยาแล้ว นั่นเป็นเรื่องตลอดชีวิต กู้ซินเห็นแผ่นหลังเย็นชาทะนงตัวของโม่ข่าย มองเขาเดินไปอย่างไม่สนใจใยดี ในใจเธอก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรมากมาย เพราะก่อนเธอมาที่นีน่ ก็รู้ผลลัพธ์นี้อยู่แล้ว ถ้าโม่มู่จือมีความรู้สึกกับเธอสักนิดเดียว ตอนนั้นก็คงไม่เลิกเป็นแฟนกับเธอ และมาเจอกับเธอแค่สองครั้งเท่านั้น บางที เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไร หน้าตาเธอเป็นอย่างไร รู้ดีอยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังมาหาเขา นั่นเพราะเธอต้องมา เธอไม่สามารถไม่เชื่อฟังคุณพ่อกับเหชียวหนานจิ่งได้ 
已经是最新一章了
加载中