ตอนที่ 194 กลับไปที่จุดเริ่มต้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 194 กลับไปที่จุดเริ่มต้น
ต๭นที่ 194 กลับไปที่จุดเริ่มต้น Asteria จำได้ว่าเมื่อสามปีก่อนเธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองมิลาน เธอคุ้นเคยกับวิถีการใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อมของที่นี่ เธอชอบบรรยากาศของเมืองแฟชั่นที่นี่เป็นพิเศษ ในใจเธอลึกๆไม่อยากกลับประเทศ แต่พ่อเธอดีกับเธอมาก มีบุญคุณกับเธอมาก แม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่ยังสาว เพื่อเลี้ยงดูเธอ พ่อก็ไม่ได้แต่งงานใหม่ อาจพูดได้ว่าเขาชีวิตเขาทั้งชีวิตคิดแค่เรื่องเธอ เพื่อเลี้ยงดูเธอ พ่อเกือบทิ้งชีวิตของตัวเอง ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เธอ และยังให้พื้นที่และความเชื่อใจกับเธอมากพอ ทำให้เธอสามารถแสดงศักยภาพในพื้นที่ที่ตัวเองชอบได้—— ความมีพระคุณนี้ Asteria ไม่สามารถตอบแทนได้หมด ดังนั้นตอนนี้คุณพ่อก็อายุมากแล้ว อยากกลับไปบ้านเกิดตัวเอง เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนเขา โชคดีที่อาชีพการงานของเธอค่อนข้างจะมีอิสระ แค่มีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งให้เธอ ปากกาหนึ่งด้าม กระดาษวาดรูปหนึ่งแผ่น เธอก็สามารถทำงานตัวเองให้เสร็จไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาที่เครื่องบินลงจอดสนามบินภายในประเทศเมืองเจียงเป่ยคือบ่ายสองโมง พอลงจากเครื่องมากู้เจิ้งเต๋อก็มอง Asteria แล้วยิ้ม เอ่ยถามเสียงเบา “เหยาเหยา มีอะไรประทับใจกับเมืองนี้ไหมลูก?” “มีค่ะ” Asteria พยักหน้า “มีหรอ?” กู้เจิ้งเต๋อตกใจ Asteria ยิ้มกว้างอย่างน่ารัก “สนามบินทุกที่ที่หนูไปก็เป็นแบบนี้ มีคนเดินไปเดินมา นอกจากคนเยอะก็คือคืนเยอะ” กู้เจิ้งเต๋อได้ยินดังนั้น ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เขาลูบศีรษะกู้เหยา “เด็กคนนี่รู้จักแกล้งพ่อนะ” สำหรับเมืองอย่างเจียงเป่ยนี้ Asteria ไม่คุ้นเคยสักนิด ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆก็ล้วนแปลกตา ความแปลกตานี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจและหงุดหงิดเล็กน้อย ดังนั้นหลังจากตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่เสร็จ เธอก็บอกกู้เจิ้งเต๋อ แล้วสะพายกระเป๋าเป้ เตรียมออกไปเดินเลนหนึ่งวัน ให้คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมของคนที่นี่เสียหน่อย อิตาลีเป็นเมืองหนึ่งที่โรแมนติกมาก คนที่นั่นชอบแบ่งปันเรื่องราวให้กัน ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน แต่คนในเมืองเจียงเป่ยให้ความรู้สึกรีบร้อน ตอนที่นั่งทานอาหารในร้านอาหาร คนส่วนมากก็จะรีบทาน ทานเสร็จก็รีบไปทำงาน นี่คือบทสรุปที่ Asteria ได้มาหลังจากเดินมากว่าครึ่งวัน แต่พื้นที่สีเขียวของเมืองเจียงเป่ยไม่เลวเลยทีเดียว เช่นตอนนี้เธออยู่ที่สวนหย่อมใกล้ชายฝั่ง ดอกไม้สดใสสวยงาม อากาศฤดูใบไม้ผลิ ในสวนหย่อมเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว มีคู่รักไม่น้อยที่กำลังจู๋จี๋กัน และมีพ่อแม่ไม่น้อยที่พาลูกๆมาเพลิดเพลินกับความอบอุ่นฤดูใบไม้ผลิ ตอนที่ Asteria กำลังก้าวเดินสำรวจเมืองนี้อย่างผ่อนคลาย จู่ๆก็มีคนดึงเธอไปเข้ามุม แรงไม่ได้มาก เพียงแค่เบาๆ เหมือนลูกแมวข่วน Asteria หยุดฝีเท้าลงอย่างช่วยไม่ได้ เธอหันศีรษะไปมอง เห็นเพียงสาวน้อยอายุประมาณสามขวบ สาวน้อยคนนี้สวยมาก ดวงตากลมโตเหมือนทำมาจากอำพัน สดใสเป็นประกาย เหมือนกับใส่ดวงดาวไว้ ระยิบระยับ แพรวพราวมาก โครงหน้างดงาม และทำผมหางม้าสองข้างน่ารักมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกหรือหน้าตาก็ล้วนทำให้คนชอบอย่างมาก Asteria มองสาวน้อย อดไม่ได้ที่จะอึ้งเล็กน้อย......ไม่รู้ว่าทำไม เธอคิดว่าเด็กคนนี้หน้าตาเหมือนตัวเองนิดหน่อย “พี่สาวคะ พี่ช่วยหนูด้วยไหม?” เห็นว่าพี่สาวคนสวยกำลังเหม่อ สาวน้อยน่ารักจึงดึงปลายเสื้อ Asteria อย่างช่วยไม่ได้ ยู่ปากแล้วพูดเบาๆ เธอน่ารักขนาดนี้ พี่สาวจะเมินหนูได้ยังไงกันล่ะ? หรือว่าคุณพ่อมัดหางม้าให้เธอไม่สวยหรอ? พอคิดแบบนี้ สาวน้อยก็พองแก้วอย่างอดไม่ได้ พลางช้อนสายตากลมโตอันสุกใสคู่นั้นมอง Asteria ทำหน้าราวกับว่าถ้าพี่ไม่สนใจหนูหนูจะร้องไห้ให้ดู Asteria ถูกสาวน้อยมองจนเป็นกังวล รีบสะบัดความคิดอื่นออกจากหัว ย่อตัวลงไปหาสาวน้อย อดยื่นมือไปบีบแก้มขาวเนียนของสาวน้อยไม่ได้ แล้วเอ่ยถามเสียงเบา “หนูน้อย เป็นอะไรคะ? อยากให้พี่สาวช่วยอะไรหรอ? พ่อแม่หนูล่ะคะ?” พูดจบ Asteria ก็มองไปรอบๆ เด็กเล็กขนาดนี้ ไม่มีผู้ใหญ่มาดูได้อย่างไรกัน ถ้าเจอคนไม่ดีอุ้มไปจะทำอย่างไร? “คุณพ่อทำงานค่ะ คุณแม่อยู่บนสวรรค์!” สาวน้อยพูดอย่างจริงจัง บนสวรรค์? Asteria อึ้งไป......คืออีกความหมายของนั่งเครื่องบินหรือเปล่านะ? “งั้นหนูอยู่ที่นี่คนเดียวหรอคะ?” Asteria ถามอีก “เปล่าค่ะ” สาวน้อยส่ายศีรษะ แล้วยิ้มอย่างบริสุทธิ์ “พี่สาวอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเหยาเหยาไม่ใช่หรอคะ!” “……” สาวน้อยยิ้มบริสุทธิ์ไม่เหมาะกับโลกใบนี้ แต่ Asteria กลับรู้สึกปวดศีรษะนิดหน่อย ดูเหมือนเด็กคนนี้จะงงกับสถานการณ์ คนที่ดูแลเธอก็วิ่งไปไหนแล้วไม่รู้ ละสายตาจากเด็กน่ารักแบบนี้ได้อย่างไรกัน? กำลังคิดอยู่ สาวน้อยคนนั้นจู่ๆก็ดึงมือ Asteria มา มือเธอเล็กมาก จูงได้เพียงนิ้วเดียวของพี่สาว เธอขยับไปมาราวกับจะดึงดูดความสนใจจากพี่สาวคนสวย Asteria อดยิ้มกับเธอไม่ได้ มองใบหน้าน่ารักของเธอ ก็อดหยิกแก้มไม่ได้ กำลังอยากถามข้อมูลอื่นกับเธอ ก็ได้ยินเธอพูดด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ “หยิกหนึ่งทีคิดหนึ่งร้อยหยวน!” Asteria อึ้งไปเลย “คุณพ่อบอกว่า หยิกหนึ่งที คิดหนึ่งร้อยหยวน!” สาวน้อยอธิบายอย่างอดทน เห็นท่าทางเธอจริงจัง Asteria ก็มีปฏิกิริยาโต้กลับในที่สุด สาวน้อยกำลังบอกว่า......หยิบแก้มหนึ่งที หนึ่งร้อยหยวน พ่อของเด็กคนนี้ ขาดเงินหรือไงกันนะ ถึงได้สอนลูกแบบนี้ “แต่พี่สาวไม่มีเงินนี่หน่า!” Asteria หยอกเย้า “งั้นพี่สาวช่วยหนูหน่อย” “ได้สิ อยากให้พี่ช่วยอะไร?” ดูเหมือนจะนึกถึงเรื่องหลักได้ในที่สุด ใบหน้าของสาวน้อยที่ยิ้มสดใสมาตลอดจู่ๆก็หมองลง แล้วพูดอย่างเสียใจ “น้องสาวของเหยาเหยาเลือดออก กำลังจะตายแล้วค่ะ” Asteria เห็นท่าทางเคร่งเครียดของสาวน้อยแบบนี้ ก็ตกใจ รีบพูด “อยู่ไหนคะ พาพี่สาวไปดูหน่อย” สาวน้อยยกมือขึ้นมาชี้ไปที่ไกลๆ เห็นเพียงสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนสีขาวตัวหนึ่งนอนอยู่ใต้ต้นไม้ “น้องสาวของหนูคือเธอหรอ?” สาวน้อยพยักหน้า จู่ๆดวงตาสุกใสก็เต็มไปด้วยน้ำตา “ใช่ค่ะๆ น้องสาวเจ็บปวด เธออยากขึ้นสวรรค์เหมือนกันหรอคะ” Asteria ไม่รู้ทำไมหัวใจก็ดิ่งลงไป......ที่แท้ สวรรค์ก็คือ ความตาย “ไม่หรอก” Asteria รีบปลอบเธอ “มานี่มา พี่สาวจะไปช่วยเธอ” พูดจบ เธอก็จูงสาวน้อยเดินไปที่สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวนั้น ลูกสุนัขรู้สึกมีคนใกล้เข้ามา มันดมกลิ่นเธอ แล้วส่ายหางอย่างตื่นเต้น และเห่าใส่เจ้าของตัวน้อย ไม่รู้ว่าอยากจะแสดงออกว่าอะไร สาวน้อยพูด “เหมียนเหมียน เป็นเด็กดีสิ พี่สาวจะรักษาแผลให้เธอ” “บ๊อกๆๆ——” Asteria เช็คดูลูกสุนัขเล็กน้อย เห็นเพียงบาดแผลประมาณสามเซนติเมตรบนขาของลูกสุนัข เห็นได้ชัดว่าโดนลวดอะไรสักอย่างข่วนเข้า เธอคิดสักพัก แล้วหยิบปลาสเตอร์แปะแผลที่เธอเตรียมไว้ในกระเป๋าตลอด แล้วแปะให้ลูกสุนัขอย่างระมัดระวัง “หนูน้อย เมื่อกี้หนูบอกว่าหนูชื่อเหยาเหยาหรอคะ?” “ใชค่ะ เพราะใช่ไหมคะ!” “เพราะมาก......พี่จะแอบบอกหนู พี่สาวก็ชื่อเหยาเหยาเหมือนกันนะ” 
已经是最新一章了
加载中