ตอนที่ 230 สิ้นหวังอะไรอย่างนี้
1/
ตอนที่ 230 สิ้นหวังอะไรอย่างนี้
ยัยตัวดี เอาหัวใจมาชดใช้หนี้ฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 230 สิ้นหวังอะไรอย่างนี้
ตนที่ 230 สิ้นหวังอะไรอย่างนี้ สถานที่ที่โม่ข่ายนัดพบก็คือใต้อาคารสำนักงานของกู้เหยาในเวลา 10 โมงเช้า ดังนั้นกู้เหยาจึงไปที่สำนักงานก่อนเตรียมกล่าวทักทายหัวหน้า เพื่อที่จะขอตัวไปธุระอย่างเปิดเผย “คุณกู้คะ ดอกไม้ของคุณคะ” เพิ่งมาถึงที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าบริษัท พนักงานต้อนรับก็เรียกเธอเอาไว้ พลางชี้บอกว่ามีคนส่งกุหลาบสีแดงเพลิงช่อใหญ่มาให้เธอ 2 ช่อ เท่าที่กู้เหยาจำได้ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย เธอลังเลอยู่ไม่รู้ว่าจะรับดีหรือว่าไม่รับดี? คิดไปคิดมา กู้เหยารู้สึกว่าวิธีที่รักษาน้ำใจไว้ดีที่สุดก็คือรับเอาไว้ก่อน ให้รู้ก่อนว่าใครเป็นคนให้ จากนั้นค่อยหาทางคืนดอกไม้ไปให้ คิดได้เช่นนี้ กู้เหยายิ้มให้พนักงานต้อนรับด้วยความสุภาพ แล้วจึงหอบเอาช่อดอกไม้กลับเข้าสำนักงานไป เมื่อไปถึงสำนักงาน กู้เหยาหยิบการ์ดที่วางอยู่ในช่อดอกไม้นั้นออกมาดู เมื่อดูแล้วกู้เหยารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จากนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองจะอาเจียนออกมา นี่มันของบ้าบออะไรกันนี่ ข่ายข่าย? ใครน่ะ ข่ายข่าย? กู้เหยาคิดทบทวนดูดีๆแล้ว ในบรรดาคนที่เธอรู้จัก ชื่อที่มีอักษร “ข่าย”ตัวนี้อยู่ก็มีโม่ข่ายเพียงคนเดียว ไม่น่าจะใช้ตัวอักษร “ข่ายข่าย” สองตัวนี้เลย โม่ข่ายที่ดูแล้วสุขุมรอบคอบคนนั้นนะหรือที่เป็นคนส่งดอกไม้มา? ในสายตาของกู้เหยา โม่ข่ายเป็นผู้ชายที่หน้าตาสงบนิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ เวลาทำอะไรมักทำด้วยความตั้งใจและจริงจัง เวลาที่อยู่กับเขา ให้ความรู้สึกว่าปลอดภัยมาก เขาไม่น่าจะทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้หรอก กู้เหยาลองคิดดูดีๆแล้วท่าทางและน้ำเสียงการพูดจาของโม่ข่าย มันไม่น่าจะเป็นไปได้ เธอส่ายหน้าปฏิเสธ โม่ข่ายไม่น่าจะใช่คนที่อ่อนโยนแบบนี้ แต่ว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เมื่อก่อนเธอก็ไม่เคยคิดว่าโม่ข่ายจะโทรมาหาเธอกลางดึกแบบนั้น แต่เมื่อคืน โม่ข่ายก็โทรมาหาเธอไม่ใช่หรือ แถมยังบอกว่าอยากฟังเสียงของเธออีกด้วย เขากล้าพูดออกมาจนได้ ที่เขียนไว้ในการ์ดนั้น ก็คงจะเป็นเขานั่นแหละที่กล้าทำ เมื่อเหลือบมองไปที่การ์ดใบนั้นอีกครั้ง กู้เหยาอยากจะโทรไปหาโม่ข่าย แต่ไม่ได้จะบอกว่า เธอนั้นคิดเหมือนเขาหรอกแต่จะบอกเขาว่า เธอไม่อยากไปพบใครคนหนึ่งพร้อมกับเขาอีกแล้ว ตรู้ดตรู้ด........ ขณะที่กู้เหยากำลังคิดว่าจะโทรหาโม่ข่าย โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นก่อน พอดูเบอร์โทร กู้เหยาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นโม่ข่าย เธอถอนหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง รับสายขึ้นมา แล้วเอ่ยปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยว่า : “คุณโม่คะ ฉันว่าเราคงไม่มีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องพบหน้ากันอีก แล้วขอร้องว่าอย่าทำเรื่องไร้สาระแบบนี้อีกนะคะ” เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว โม่ข่ายโทรหากู้เหยา เธอยังบอกกับเขาอยู่เลยว่า จะรอเขามารับ แล้วทำไมผ่านไปแค่แป๊บเดียวเธอถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ล่ะ? โม่ข่ายขมวดคิ้วเล็กๆ กล่าวว่า : “กู้เหยา ผมถึงใต้ตึกของคุณแล้วครับ มีอะไรคุณลงมาหาผมก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่า” “คุณโม่คะ จะรักใครคุณก็ควรจะใช้หัวใจแสดงความรักไม่ดีกว่าหรือคะ อย่าทำอะไรน่าขายหน้าแบบนี้ มันจะทำให้คนอื่นรู้สึกขยะแขยงมากกว่านะคะ” พูดจบ กู้เหยาก็ตัดสายทิ้งทันที รู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก บางทีมันอาจจะไม่คู่ควรที่จะแทนที่ภรรยาของเขาละมั้ง ที่แท้เดิมทีก็รู้สึกว่าในโลกนี้ถ้ามีผู้ชายที่รักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างลึกซึ้งขนาดนั้นก็เป็นเรื่องที่สวยงามเรื่องหนึ่ง แต่ว่าเรื่องที่สวยงามนั้นในสายตาเธอแล้วกลับกลายเป็นแค่ฟองอากาศ ดังนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัด “ท่านประธานโม่ กรุณารอสักครู่นะคะ.....” ผ่านไปไม่นาน ข้างนอกสำนักงานก็มีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นมา เมื่อกู้เหยาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นโม่ข่ายที่สีหน้าขุ่นมัวเดินผ่านประตูเข้ามา เขายืนอยู่ที่ทางเข้าสำนักงานของเธอ สายตาแหลมคมทั้งคู่จ้องมองมาที่เธอ ราวกับมีสายใยบางๆเชื่อมโยงเอาไว้ เขาไม่อาจละสายตาจากเธอได้ จ้องมองเธออยู่สักพัก โม่ข่ายจึงก้าวเข้าไปหาเธอทันที ถึงแม้ทั้งตัวเขาราวกับถูกผีสิง แต่ว่าท่าทางการเดินยังคงสง่างาม รักษาความเย็นชาและภูมิฐานเอาไว้ได้อย่างดี “คุณโม่......” “ผมชื่อโม่ข่ายครับ!” เขาจับมือเธอไว้ข้างหนึ่ง ดึงเธอให้เดินออกไป โดยไม่เอ่ยถามอะไรทั้งนั้น วันนี้ไม่ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่ เขาก็ต้องพาเธอไปยังสถานที่นั้นให้ได้ ไปเจอคนคนนั้น ให้เธอได้รู้ว่าเขาอยากจะไล่ตามเธอเหลือเกิน โม่ข่ายคว้ามือของกู้เหยาไว้แน่น แต่ว่าควบคุมการออกแรงไว้ได้ดี ไม่ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ แม้ในขณะที่เดินก็ใส่ใจความเร็วของเธอไปด้วย “คุณโม่......” กู้เหยายังพูดไม่ทันจบ ก็รู้สึกเหมือนถูกสายตาแหลมคมของเขาจ้องมองมา เยือกเย็นจนถึงกระดูก เธอไม่เคยเห็นโม่ข่ายเป็นแบบนี้มาก่อน รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก ได้แต่เดินตามเขาไปแต่โดยดี กู้เหยาถูกโม่ข่ายจับใส่ลงไปยังที่นั่งด้านหน้า เขาปิดประตูลง แล้วเดินอ้อมหน้ารถไปนั่งฝั่งคนขับ หลังจากที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว โม่ข่ายไม่พูดไม่จา เคลื่อนรถออกไปทันที หลังจากที่รถวิ่งมาได้สักพัก กู้เหยาก็ค่อยๆเหลือบมองโม่ข่ายทีหนึ่ง เห็นสีหน้าของเขาไม่ค่อยดีเลย ราวกับว่าเก็บกดอะไรอยู่สักอย่าง กู้เหยาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรจริงๆ พอเห็นโม่ข่ายเป็นแบบนี้แล้ว ในใจรู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่มีเหตุผล “โม่ โม่ข่าย.....” ชื่อของเขา ออกมาจากปากของเธอเบาๆ ราวกับยาชั้นดี บรรเทาความรู้สึกไม่สบายใจในใจของโม่ข่าย เขาเอียงคอ พลางส่งยิ้มอันอบอุ่นใจให้เธอทีหนึ่ง : “กู้เหยา เดี๋ยวก็จะถึงแล้วครับ ขอโอกาสผมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น” กู้เหยาพยักหน้า : “คุณขับรถดีดีเถอะคะ ฉันมากับคุณแล้วนี่คะ” เวลาผ่านไปไม่นาน กู้เหยาก็รู้ว่าสุสานที่ดีที่สุดของเมืองเจียงเป่ย——คือสถานที่เป้าหมายในวันนี้ เธอเห็นป้ายหลุมศพอันหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าของป้ายนั้น——-กู้เหยา! ป้ายนั้นแตกต่างจากป้ายอื่นๆ ไม่มีภาพของผู้ตาย เพียงแค่สลักชื่อของคนที่จะถูกฝังที่นี่เอาไว้ กู้เหยานะกู้เหยา ชื่อแซ่เดียวกันกับเธอเป๊ะเลย ภรรยาของโม่ข่าย “สามปีก่อน ภรรยาของผมอุ้มท้องอยู่ที่บ้าน ยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนเศษถึงจะครบกำหนดคลอด ผมออกไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนที่ผมจะออกไป เธอส่งยิ้มให้ผมแล้วบอกว่าเธอจะรอผมอยู่ที่บ้าน แต่ว่าพอผมกลับมากลับเห็นเพียงเถ้ากระดูกของเธอ” “คนที่บ้านบอกผมว่า ภรรยาของผมประสบอุบัติเหตุในระหว่างทางที่จะไปเยี่ยมเพื่อนสนิทของเธอ ได้รับบาดเจ็บสาหัสอาจจะไม่รอดชีวิต ความหวังสุดท้ายของเธอก็คือช่วยชีวิตลูกของเราเอาไว้ให้ได้” โม่ข่ายเล่าเรื่องอย่างคล่องปาก ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรเขาเลย แต่ว่ากู้เหยากลับเข้าใจความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจที่มีอยู่ในใจของเขาอย่างชัดเจน ตอนที่ออกจากบ้าน คนรักยังส่งยิ้มให้พลางบอกว่าจะรอเขากลับมาบ้าน แต่พอเขากลับมาถึง คนที่รักนั้นกลับกลายเป็นเถ้ากระดูกกองหนึ่งซะนี่ ความรู้สึกในตอนนั้นคงจะสิ้นหวังไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 230 สิ้นหวังอะไรอย่างนี้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A