ตอนที่ 316 ตรวจสอบให้แน่ใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 316 ตรวจสอบให้แน่ใจ
ต๭นที่ 316 ตรวจสอบให้แน่ใจ บางครั้งคนที่รักนั้นก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า อยากจะเอาเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น แต่ว่าเรื่องแค่นี้กลับบังคับตัวเองให้ทำไม่ได้ ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่สนว่าครอบครัวจ้านจะดับสูญหรือไม่ ไม่สนกองทหารเจียงเป่ยอีกต่อไป แต่ว่าที่ผ่านมา.....พาโม่เสี่ยวเป่าไปด้วยเถอะ ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเขา ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคนตามลำพัง จ้านเนี่ยนเป่ยไม่ได้คิดแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาอยากจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ พาโม่เสี่ยวเป่าหนีไป แต่ว่าเขายังมีจิตใต้สำนึกในเหตุผลอยู่มาก บางทีอาจเป็นเพราะในใจของเขานั้นโม่เสี่ยวเป่าไม่ได้มีความสำคัญมากมายขนาดนั้น ทุกครั้งเวลาคิดได้แบบนี้ จ้านเนี่ยนเป่ยจะใช้หลักการและเหตุผลมาควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ได้ เขารออยู่หน้าประตูสักพัก จนแน่ใจว่าโม่เสี่ยวเป่าระบายความโกรธออกมาจนหมดและไม่ทำอะไรโง่ๆต่ออีก จ้านเนี่ยนเป่ยจึงหันหลังเดินจากไป เพิ่งจะเดินออกมาได้สักพัก โม่ข่ายก็โทรเข้ามา เขารับสายพลางได้ยินโม่ข่ายบอกว่า : “มาดื่มกันสักหน่อยไหมครับ” ได้ยินเสียงของโม่ข่าย จ้านเนี่ยนเป่ยจึงเงยหน้าขึ้น เห็นรถสะดุดตาคันนั้นของโม่ข่ายจอดอยู่ที่ข้างทาง จ้านเนี่ยนเป่ยก้าวอาดๆเข้าไปหา เข้าไปนั่งยังที่นั่งด้านหน้า พลางกล่าวว่า : “ผมจำได้ว่าปกติคุณไม่ดื่มเหล้าหนิ ทำไมวันนี้มาชวนผมดื่มได้ล่ะ? แถมยังเป็นตอนเย็นด้วย คุณไม่กลับบ้านไปหาลูกหาเมียล่ะ?” โม่ข่ายเคลื่อนรถออกไปพลางตอบว่า : “ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเลี้ยงเหล้าคุณลุงเลยสักครั้งน่ะครับ วันนี้ขอสักครั้งนะครับ” จ้านเนี่ยนเป่ยบอกว่า : “ได้เลย ถ้างั้นวันนี้พวกเราไม่เมาไม่กลับนะ” โม่ข่ายพยักหน้ารับไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาไม่ค่อยชอบไปคลับบาร์ ดังนั้นเขาจึงเลือกร้านที่ค่อนข้างเงียบสงบหน่อยซึ่งเป็นร้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้หาด สถานที่แบบนี้คนก็ไม่น้อยเท่าไหร่ แต่ว่าส่วนใหญ่มากันเป็นคู่ทั้งนั้น แต่ละคู่ก็คุยกันกระหนุงกระหนิง ไม่มีใครพูดคุยเสียงดังอะไร ผู้ชายที่ภายนอกดูดีสง่างาม มีพลังอำนาจทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ดึงดูดสายตาของคนรอบข้าง สายตาของพนักงานในร้านต่างจ้องมาที่เขาทั้งสองคน รวมถึงลูกค้าที่นั่งอยู่รอบๆด้วย จ้านเนี่ยนเป่ยยิ้มๆพลางกล่าวว่า : “ออกมากับท่านประธานโม่อย่างคุณนี่ รัศมีเจิดจ้ายิ่งนัก ออกมาข้างนอก เรทติ้งสูงไม่เบานะเนี่ยะ” โม่ข่ายไม่ได้ตอบอะไร ยังคงไว้ซึ่งท่าทางเย็นชาเกินจะเข้าใกล้อยู่แบบนั้น โม่ข่ายและจ้านเนี่ยนเป่ยเลือกที่นั่งริมกระจกในร้านชั้นสอง เห็นวิวคนเดินผ่านไปมาข้างนอกได้ และยังสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของ Happy Coastซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปด้วย ลมทะเลพัดมาเอื่อยๆ แสงไฟหลากหลายสีละลานตา วิวสวยๆอากาศดีๆแบบนี้ ถนนคนเดินริมทะเลเส้นนี้เป็นสถานที่ที่ดีเหมาะสำหรับคู่รักมากมายพากันมาเดินเล่น โม่ข่ายยังจำได้ถึงปีนั้น เป็นครั้งแรกที่พากู้เหยามาทานข้าวนอกบ้าน หลังจากทานเสร็จแล้ว เธอบอกว่าอยากจะมาเดินเล่นที่นี่ เขาจึงพาเธอมา วันนั้นเธอดื่มเหล้านิดหน่อย เมาเล็กน้อย ชวนเขาคุยหลายเรื่อง พลางชี้ไปที่อ่าวตรงนั้นพร้อมกับบอกว่าอยากสร้างสวนสนุกริมทะเลที่นั่น สวนสนุกริมทะเล โม่ข่ายฟังแล้วจดจำได้ฝังใจ หลังจากนั่งลงแล้ว จ้านเนี่ยนเป่ยก็สั่งเหล้า ในขณะที่โม่ข่ายกลับสั่งชา...... จ้านเนี่ยนเป่ยมองหน้าเขาทีหนึ่ง พูดอย่างไม่พอใจว่า : “ชวนผมมาดื่มเหล้า แต่คุณกลับดื่มชา คุณทำให้ผมลำบากใจหรือเปล่าเนี่ย?” “ก็ลูกเมียผมไม่ชอบกลิ่นเหล้านี่ครับ” ความจริงกู้เหยาไม่เคยพูดว่าไม่ชอบกลิ่นเหล้า โม่ข่ายยังจำได้ด้วยว่าเมื่อก่อนกู้เหยาดื่มเหล้าเก่งมาก เพียงแต่เขาไม่อยากมีกลิ่นเหล้าติดตัวกลับไปหาลูกเมีย “เมื่อก่อนผมนึกไม่ออกเลยว่าคนที่บ้างานอย่างคุณจะเห็นความสำคัญของลูกเมียขนาดนี้” ในความทรงจำที่มีอยู่ของจ้านเนี่ยนเป่ย โม่ข่ายเป็นคนที่ดำเนินชีวิตตามกฎระเบียบมาโดยตลอด เป็นผู้ชายที่มีพฤติกรรมเจ้าระเบียบคอยชี้นิ้วสั่งคนอื่นอย่างเดียว เขาเข้าใจมาตลอดว่า วันนั้นที่โม่ข่ายแต่งงานมีลูก ก็เพียงเพื่อหาคนช่วยสืบทอดตระกูลโม่เท่านั้น ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะให้ความสําคัญกับครอบครัวขนาดนี้ เขามองใคร ก็มีมักจะมองได้ถูกต้องแม่นยำเสมอ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองโมข่ายผิดไป การให้ความสำคัญกับครอบครัวของเขาทำให้จ้านเนี่ยนเป่ยต้องเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ “งานก็คืองาน ปกติทำงานก็ต้องขยันขันแข็ง ขวนขวายหาเงินมาเพื่อเลี้ยงพวกเขาให้ได้ตามความเหมาะสมที่สุด แต่ว่าเรื่องเป็นห่วงพวกเขาก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่เช่นนั้นถึงพวกเขาจะมีความเป็นอยู่ที่ดีทางกาย แต่พวกเขาก็จะไม่รู้สึกว่ามีความสุข” ตอนที่ยังไม่ได้แต่งงาน โม่ข่ายเคยคิดไว้ว่า ไม่แต่งก็ไม่เป็นไร หลังจากแต่งงานแล้วก็ต้องดูแลลูกและภรรยาอย่างดีแน่นอน คงเพราะเขามีอุดมคติแบบนี้มาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงรู้ตัวเมื่อสายถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อกู้เหยา เขาคิดมาตลอดว่าเขาทำดีกับเธอ ก็เพราะเธอเป็นภรรยาของเขา จ้านเนี่ยนเป่ย : “.......” ที่จริงเขาพอเข้าใจแนวคิดนี้ของโม่ข่าย ทำไมเขาไม่คิดที่จะแต่งงานกับโม่เสี่ยวเป่าคนนั้นบ้างนะ ดูแลเอาใจใส่เธอ ไม่ปล่อยให้เธอก่อเรื่องบ้าบอนอกบ้านอีก แต่ว่าเขาทำไม่ได้ และเขาก็ไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย....... เหล้าและกับแกล้มเสิร์ฟมาอย่างรวดเร็ว จ้านเนี่ยนเป่ยเป็นทหาร ปกติแล้วเขาไม่ต้องใช้แก้ว ยกเหล้าทั้งขวดขึ้นมาดื่มได้เลย โม่ข่ายกลับไม่แตะต้องชาตรงหน้าเลยสักนิด มองจ้านเนี่ยนเป่ยอย่างพินิจพิเคราะห์ จ้านเนี่ยนเป่ยดื่มไม่กี่อึกก็ดื่มหมดขวด วางขวดลง พลางกล่าวว่า : “โม่ชิ ถ้าจะให้ผมดื่มจนเมาแล้วรอฟังความในใจจากปากผม ไม่มีทางหรอกนะ” โม่ข่ายยิ้มน้อยๆ จ้านเนี่ยนเป่ยหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบกับแกล้ม กินไปพูดไปว่า : “เมื่อก่อนผมเคยบอกคุณแล้วนี่ว่า คุณก็มีคนที่อยากจะดูแล ส่วนผมก็มีคนที่ผมต้องดูแล พวกเราต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว” โม่ข่ายบอกว่า : “คุณลุงครับ ผมแค่ชวนคุณมาดื่มเหล้าแค่นั้นเอง อย่าคิดมากสิครับ” “แค่ชวนผมมาเลี้ยงเหล้าแค่นั้นเองเนี่ยนะ?” คนมีความสามารถอย่างโม่ข่ายเนี่ยนะจะมีเวลาว่างชวนเขาดื่มเหล้า ดังนั้นจ้านเนี่ยนเป่ยไม่เชื่อหรอกว่าเขาแค่มาเพื่อเลี้ยงเหล้าตัวเอง โม่ข่ายดื่มชาหมดแก้วในอึกเดียว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปากพลางกล่าวว่า : “ผมไม่ต้องบอกหรอก คุณลุงก็น่าจะทราบใช่ไหมครับว่านายแซ่เผยคนที่เป็นข่าวกับเสี่ยวเป่านั่น มันเป็นคนอย่างไร” “ใช่ ผมรู้แล้ว” ตั้งแต่แรกตอนที่นายแซ่เผยนั่นเล็งโม่เสี่ยวเป่า จ้านเนี่ยนเป่ยก็ให้คนไปสืบประวัติของนายแซ่โม่นั้นมาเรียบร้อย โม่ข่ายบอกว่า : “การปรากฏตัวของเขาช่วยให้ผมไขปริศนาที่ค้างคามานานได้แล้ว” ได้ยินที่โม่ข่ายพูด จ้านเนี่ยนเป่ยที่กำลังดื่มเหล้าอยู่ชะงักทันที : “คุณรู้แล้ว?” โม่ข่ายพยักหน้า : “ชื่อเดิมของนายแซ่เผยก็คือเผยลั่วหยวน เป็นคนประเทศA เคยหมั้นหมายกับลูกสาวของราชินีประเทศA แต่ว่าเมื่อ 20 ปีก่อน ราชินีของประเทศAจู่ๆก็หายสาบสูญไป หายลับไปโดยไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน” จ้านเนี่ยนเป่ย : “คุณคิดจะทำอย่างไร?” โม่ข่ายพูดต่อว่า : “เรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะง่ายดายขนาดนั้น บางทีความจริงที่ซ่อนอยู่อาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เราเห็นก็ได้นะครับ ผมอยากให้คุณร่วมมือกับผม ช่วยกันสืบหาความจริงในเรื่องนี้ออกมาให้แจ่มแจ้ง” จ้านเนี่ยนเป่ย : “ทำไมต้องมาหาผมด้วย? แค่ตัวคุณเอง ก็น่าจะมีความสามารถมากพอแล้วนะ” โม่ข่าย : “คุณลุงครับ คุณใช้เวลาหามาตั้งนาน ยังไม่เจอต้นตอของเรื่องเลย ลูกน้องที่ผมมีจะไปเทียบอะไรได้กับฝีมือลูกน้องผู้ชำนาญการของคุณได้ละครับ” จ้านเนี่ยนเป่ย : “พวกเราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดเลยนะ จะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอันขาด” โม่ข่ายยิ้มอย่างเย็นชาออกมาทันที : “พวกคุณก็รู้ดีนี่ว่ากระดาษห่อไฟไว้ไม่ได้หรอก แทนที่จะคุณหาทางปิดบังเรื่องนี้ไว้ให้เงียบที่สุด เราสู้ค้นหาความจริงให้กระจ่าง เพื่อหาคำอธิบายให้ทุกๆคนไม่ดีกว่าหรือครับ”
已经是最新一章了
加载中