ตอนที่ 332 เธอผู้สดใส   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 332 เธอผู้สดใส
ต๭นที่ 332 เธอผู้สดใส เมื่อทุกคนเข้าประจำที่นั่งของตัวเอง คนกล่าวนำการประชุมก็เอ่ยขึ้น “ตอนนี้เพราะLeoMoผู้นำของเซิ่งเทียนป่วยกระทันหันไม่สามารถดูแลเซิ่งเทียนได้ ผู้ถือหุ้นทุกท่านจึงได้มีการเปิดประชุมบอร์ดบริหารอย่างเร่งด่วน เพื่อเลือกหนึ่งคนที่คิดว่าเหมาะสมให้ทำหน้าดูแลเซิ่งเทียนชั่วคราว” คนกล่าวนำการประชุมเพิ่งกล่าวจบสมาชิกบอร์ดบริหารคนแรกก็รีบเอ่ยต่อ “ประธานโม่ป่วยแต่โชคดีที่ผู้เฒ่าโม่อยู่ที่เจียงเป่ย อย่างนั้นพวกเราก็เชิญผู้เฒ่าโม่ขึ้นมาเป็นประธานรักษาการแทนเถอะ” เมื่อมีคนเปิดนำแล้วต่อมาก็มีคนไม่น้อยที่เออออคล้อยตามไปด้วย ล้วนขอให้ผู้เฒ่าโม่ขึ้นตำแหน่งบริหารการทั้งหมด ผู้เฒ่าโม่โบกมือให้ทุกคนเงียบเสียงลง เขากระแอมคอให้โล่ง ใบหน้าแต้มรอยยิ้มใจดีแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนมากที่ให้เกียรติตาแก่อย่างผม ทั้งในยามที่เซิ่งเทียนประสบวิกฤตก็ยังอุตส่าห์ยอมให้ผมยื่นมือออกมาช่วยเหลือ” “ในวันนี้มู่จือเป็นหางเสือของเซิ่งเทียน หลังจากพวกเราผู้อาวุโสได้ส่งต่อเซิ่งเทียนให้เขาดูแล เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นเขาที่คอยตัดสินใจ กล่าวตามหลักแล้วผมที่เป็นผู้อาวุโสไม่ควรเข้าไปแทรกแซงด้วย แต่ทุกสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง คนที่ร่างกายแข็งแรงคนหนึ่งกลับมาล้มหมอนนอนเสื่อเสียแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีมีสัญญาณอะไรเลยแท้ๆ” “พวกเราต่างไม่เคยคิดถึงมาก่อนว่านี่เป็นฝีมือของใครบางคน แต่ผลตรวจที่หมอส่งกลับมากลับชวนให้ตกใจนัก ที่แท้ก็มีคนวางยาในน้ำและอาหารของเขา ด้วยยาชนิดนี้ก็มีฤทธิ์ออกผลช้า เมื่อเวลาวันเดือนค่อยๆผ่านไปกระทั่งปริมาณยาสะสมจนถึงจุดขีดสุด ตัวยาจึงค่อยออกฤทธิ์” กล่าวไปดวงตาของผู้เฒ่าโม่ก็มองมาที่กู้เหยา เจตนาบอกใบ้ว่าคนร้ายในความคิดของทุกคนก็คือเธอ “เมื่อก่อนนี้เขาไม่เป็นอะไร แต่ครึ่งปีมานี้อาหารของเขาต้องมีคนคิดตุกติกแน่ๆ วันนี้ผมยังหาหลักฐานไม่ได้ แต่รอจนผมหาหลักฐาน หาตัวฆาตกรก่อนเถอะ ผมจะต้องทวงความยุติธรรมกลับมาแทนเขาแน่ ” หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าโม่ก็แพ่งสายตาไปที่กู้เหยา ราวกับว่าเธอนั่นแหล่ะที่เป็นคนที่ลงมือวางยา ผู้เฒ่าโม่ยังต่อไปอีกว่า “ในเมื่อทุกคนหวังให้ผมเป็นผู้รักษาตำแหน่งบริหารเซิ่งเทียน อย่างนั้นผมก็ต้องขอยอมรับตำแหน่งอย่างสดุดีแล้ว...” “ทุกคนอยากให้คุณขึ้นดูแลเซิ่งเทียน ไม่ทราบว่าคุณถามฉันว่าเห็นด้วยหรือยังคะ?” ภายใต้สายตาแคลงใจของทุกคน กู้เหยาค่อยๆหยัดกายยืนขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่รู้เพราะโดนผู้เฒ่าโม่ชักนำหรืออย่างไร คนส่วนมากถึงมองข้ามกู้เหยาที่นั่งประจำตำแหน่งของโม่ข่ายไปโดยปริยาย กระทั่งผู้เฒ่าโม่ชี้เป็นนัยว่าเธอคือฆาตกรทุกคนถึงเพิ่งระลึกถึงการมีตัวตนของเธอขึ้นมาได้ ทว่าเธอไม่อาจเพราะถูกคนอื่นละเลยจนต้องยอมปล่อยให้ถูกลิดรอนเสียงไปได้ ไม่อาจเพราะผู้เฒ่าโม่ได้ซื้อตัวคนส่วนมากจนตัวเองไม่กล้าที่จะยืนขึ้นมาเพื่อกล่าวถ้อยคำ โม่ข่ายไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้ เธอมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยฐานะภรรยาของเขา ดังนั้นอำนาจใดก็ตามที่โม่ข่ายมี เธอก็มีครบไม่ขาดตกด้วยเหมือนกัน “คุณ?” ครั้งนี้คนที่พูดไม่ใช่ผู้เฒ่าโม่ แต่เป็นผู้ช่วยเหอที่คอยติดตามข้างกายของเขามาตลอด “ที่นี่เป็นการประชุมของบอร์ดผู้บริหาร ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ถึงเวลาให้คนนอกอย่างคุณสอดปากขึ้นมาได้?” “คุณก็รู้เหมือนนี่คะ ว่าที่นี่เป็นห้องประชุมบอร์ดบริหาร” กู้เหยายกยิ้มเย็น กวาดสายตากระจ่างใสไปที่กรรมการระดับสูงที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ “กรรมการบอร์ดระดับสูงยังไม่พูดอะไร แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรือคะ? ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครมาจากไหน? ทำตำแหน่งอะไรในเซิ่งเทียน? คุณมีสิทธิ์มายืนอยู่ในห้องนี้ด้วยอย่างนั้นหรือคะ?” คำถามของกู้เหยาออกมาติดต่อกันไม่เว้นจังหวะ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ช่วยเหอสามารถสอดคำพูดขึ้นมาได้จนเขาต้องอดกลั้นเอาไว้เสียจนใบหน้าขึ้นสีแดง เวลาผ่านไปเนิ่นนานถึงได้พูดออกมาหนึ่งประโยค “ผมเป็นผู้ช่วยของผู้เฒ่าโม่” “ผู้เฒ่าโม่ไม่ได้ดูแลเซิ่งเทียนมาตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในเซิ่งเทียน ถ้าไม่ใช่เพราะมีกรรมการบอร์ดขอร้องให้เขามาด้วยตัวเอง เขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคุณ” น้ำเสียงของกู้เหยาแฝงความบังคับ แต่ก็ไม่ได้ไร้เหตุผล ด้วยเหตุนี้คนที่นั่งอยู่จึงไม่มีใครคัดค้าน ทุกคนเบิกตากว้าง มองดูสาวน้อยตรงหน้าที่ดูเหมือนอ่อนแอแต่กลับโดนแรงระเบิดฉับพลันของเธอทำให้ตื่นตะลึงไป ผ่านไปเนิ่นนาน ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือ ทุกคนหันสายตาไปมอง เป็นผู้เฒ่าโม่กำลังปรมมืออยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาแฝงความเมตตาอ่อนโยนอย่าที่เคยทว่ากลับไม่อาจซ่อนความเย็นชาที่อยู่ในแววตาได้ เขากล่าวว่า “เป็นฉากที่ชวนให้รู้สึกอดทนข่มกลั้นจริงๆ ฉันยังไม่ทันได้ถามหาความรับผิดชอบจากการที่เธอวางยามู่จือ ตอนนี้เธอยังกล้าวิ่งมาโวยวายสร้างเรื่องที่นี่เสียนี่” “เป็นใครที่วางยาเขา รอจนเขาฟื้นทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง” ก็แค่ขโมยร้องจับโจร พวกเขาช่วยเล่นลูกไม้อื่นได้หรือเปล่านะ เธอเอียนจะแย่อยู่แล้ว ผู้เฒ่าโม่เอ่ยขึ้นต่อว่า “ขอแค่เขายังอยู่ในมือของเธอ เธอยังจะยอมปล่อยให้ฟื้นขึ้นมาอีกงั้นเหรอ?” กู้เหยาเอ่ยว่า “วันนี้ฉันมาในฐานะตัวแทนของโม่ข่ายก็เพื่อที่จะประกาศให้ทุกคนทราบว่า โม่ข่ายเพียงแค่สลบไปเท่านั้นและอีกไม่นานเขาก็จะฟื้น ไม่ได้ยืนอยู่บนประตูความตายเหมือนอย่างที่โลกข้างนอกพูดกันแน่นอน ดังนั้นฉันจึงอยากขอให้พวกคุณช่วยขบคิดอย่างจริงจังว่าควรหรือไม่ที่จะรอให้เขากลับมาดูแลสถานการณ์โดยรวมของเรา ส่วนเรื่องที่ผู้เฒ่าโม่พูดว่ามีคนวางยาเขา แท้จริงเป็นใครกันที่ลงมือ ขอเพียงโม่ข่ายฟื้นขึ้นมาแล้วยังมีอะไรไม่ชัดเจนอีกงั้นเหรอคะ?” “เธอเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรถึงยืนอยู่ที่นี่พูดแทนเขา?” ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้รับมือยากว่าครั้งสุดท้ายที่เขาเจออยู่มาก “ฉันเป็นแม่ของลูกเขา เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิ์พวกนี้เพียงพอรึยังคะ?” “น่าขำจริงๆ ภรรยาของเขาตายไปตั้งแต่สามปีแล้ว เขานั่นแหล่ะที่เป็นคนฝังศพเธอเองกับมือ มาวันนี้เธอจะบอกว่าตัวเองเป็นภรรยาของเขา นี่เธอคิดว่าพวกเราโง่นักหรือไง?” “แน่นอนว่าคุณไม่ได้โง่ค่ะ คุณใช้คนตระกูลโม่รุ่นหนึ่งให้เป็นคนในปกครองของคุณ ตอนนี้ยังคิดจะใช้รุ่นที่สองทำแบบนั้นอีกหรือคะ?” “เธอ...” ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกระทั่งผู้เฒ่าโม่ที่เคยผ่านสรมรภูมิรบมากว่าร้อยสนามก็ยังไม่อาจรักษาความเยือเย็นไว้ได้อีกต่อไป “เธอบอกว่าตัวเองเป็นภรรยาของมู่จือ? มีใครเป็นพยานได้บ้างล่ะ ” “ผมเอง!” เสียงทุ้มต่ำดังมาจากประตูห้องประชุม ทุกคนในที่นั้นพร้อมใจหันหน้าไปมองก็เห็นโม่ข่ายในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับสูทสีดำ ร่างสูงหยัดตรง ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น ด้านหลังโม่ข่ายยังมีคนอยู่อีกหนึ่ง ผู้จัดการแผนกวิศวกรรมสำนักงานใหญ่ของเซิ่งเทียนเฉิงซวี่หยาง “ประธานโม่....” หลายคนอุทานอย่างตะลึง ทุกคนผลุดลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ดวงตาจ้องไปที่ร่างของโม่ข่าย หลายคนไม่อยากเชื่อ ทั้งไม่ยอมเชื่อว่าโม่ข่ายที่กล่าวกันขาเหยียบไปที่ประตูยมโลกแล้วจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ เห็นเพียงเขาที่หน้าตาสดใสมีชีวิตชีวิตชีวา มองไม่ออกสักนิดว่ามีอาการป่วยขั้นรุนแรง จากนั้นสายตาของโม่ข่ายก็จดจ่ออยู่ที่ร่างของกู้เหยา ความจริงเขาอยู่ที่หน้าประตูนี้ตั้งนานแล้ว เขาเห็นกู้เหยากำลังคุมเชิงกับผู้เฒ่าโม่โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนสี เธอไม่ตื่นตระหนก คำพูดที่ออกมาทุกประโยคไม่สามารถหาพิรุธในนั้นได้เลย เขาไม่รู้มาก่อนว่ากู้เหยาของเขาที่แท้สดใสเปล่งประกายถึงขนาดนี้ เธอมีแสงสว่างในตัวเองที่ไม่อาจทำให้ละสายตาได้ อย่างเดียวกัน ดวงตาของกู้เหยาก็จดจ่อไปที่ร่างของโม่ข่าย เธอไม่กล้าเชื่อเท่าไหร่นัก เธอคิดว่านี่อาจเป็นภาพหลอนที่ตัวเองสร้างขึ้นมาก็เป็นได้ ภาพหลอนที่ว่าเวลาตัวเองกำลังอยู่ในวิกฤตการ โม่ข่ายก็มักจะปรากฏอยู่ข้างกายเธอเสมอ ชักนำให้ความสิ้นหวังของเธอกลับมาอีกครั้ง โม่ข่ายจ้องเธอเขม็ง ภายใต้สายตาของคนทุกผู้เขาขยับกายก้าวเท้าอย่างสง่างามตรงไปที่กู้เหยา 
已经是最新一章了
加载中