ตอนที่ 44 เขาเป็นลูกของคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 44 เขาเป็นลูกของคุณ
ตอนที่ 44 เขาเป็นลูกของคุณ นวิยาพูดพรึมพรำไม่เท่าไหร่ มองอาหารบนโต๊ะแล้วรู้สึกกินไม่ค่อยลง เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายนับวันยิ่งห่างไกลกันเหลือเกิน ช่วงเช้าที่บริษัท ชนุตต์บอกกับจรีภรณ์ว่าตนเองจะต้องออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ เดิมทีเขาอยากให้จรีภรณ์ไปด้วยกันกับเขา แต่เมื่อเห็นว่าจะไม่มีคนดูแลหนูดี เขาจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดลงไปในที่สุด ก่อนจะเดินทางเขายังโทรหาหนูดี บอกกับหนูดีให้รอเขากลับมาประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้วเขาจะเอาของขวัญไปให้หนูดี หนูดีได้ยินดังนั้นรีบตกลงด้วยความดีใจ และตั้งแต่ชนุตต์ไป หนูดีก็นับวันรอ คอยถามจรีภรณ์อยู่ทุกวันว่าเหลืออีกกี่วันคุณอาชนุตต์จะกลับมา จรีภรณ์ขำท่าทางน่ารักของหนูดี บีบแก้มคนตัวเล็กแล้วบอกไปว่าอีกไม่นานคุณอาของเขาก็กลับมาแล้ว เมื่อทราบข่าวว่าชนุตต์ไปทำงานที่เมืองไห่หนาน ไม่รู้ว่าทำไมจิรภาสถึงอารมณ์ดีขึ้นมาขนาดนี้ หลังจากเลิกงานเขาก็บังเอิญขับรถไปยังบ้านหลังเก่า ในขณะที่เขากำลังจอดรถ เขาเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังเล่นลูกบอลอยู่ไกลๆ เด็กคนนั้นหน้าตาขาวสะอาด ดวงตาเป็นประกาย น่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก จิรภาสเดิมเป็นคนที่ชอบเด็กอยู่แล้ว พอมาเห็นเด็กน้อยคนนี้เล่นอย่างสนุกสนาน ซึ่งทำให้เขาต้องยิ้มตามไปด้วย ในใจรู้สึกหดหู่พลางคิดว่าหากเขากับจรีภรณ์ไม่หย่ากันก่อน ตอนนี้ลูกของเขาทั้งสองคนก็คงจะโตประมาณนี้แล้ว ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น เขาได้ยินเสียงร้องไห้จากทางเด็กคนนั้นดังขึ้น จิรภาสมองไปทางนั้น เห็นเด็กคนนั้นล้ม มองรอบๆไม่เห็นมีคน เขาจึงเดินลงจากรถไป “หกล้มเองใช่ไหม?” จิรภาสมองเด็กน้อยด้วยความอบอุ่น แต่ทำไมกลับรู้สึกคุ้นหน้าเด็กคนนี้จัง “ใช่ครับ คุณอา หนูดีเจ็บ” หนูดีนอนร้องไห้อยู่ที่พื้น ดูเหมือนจะกำลังรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก “หนูชื่อ หนูดี?” จิรภาสอุ้มหนูดีขึ้นมา รู้สึกขำขันกับชื่อของเด็กน้อยคนนี้จึงถามออกไป “ทำไมแม่ของหนูดีถึงตั้งชื่อนี้ให้หนูดีล่ะ?” “แม่บอกว่า ตอนที่หนูดีคลอดออกมาตัวโตแค่นิดเดียว แม่เลยตั้งชื่อให้ว่าหนูดีครับ” “อย่างนั้นหรือ?” จิรภาสขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ไม่รู้ทำไมในใจเขากลับรู้สึกเจ็บปวดแปลกๆ ปกติแล้วเด็กคลอดออกมาตัวเล็ก ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะขาดสารอาหาร “หนูดี” และขณะเดียวกันเสียงอันแสนจะคุ้นเคยกลับดังแทรกขึ้นมา จิรภาสหันกลับไปเห็นจีรภรณ์กำลังรีบวิ่งมายังเขา “แม่” หนูดีเห็นจีรภรณ์แล้วเรียกเธอ จิรภาสรู้สึกตกใจมากมองจรีภรณ์อุ้มหนูดีขึ้นมา หากเขาได้ยินไม่ผิด เด็กคนนั้นเรียกเธอว่าแม่ นี่เป็นลูกของชนุตต์จริงๆหรือ? ชนุตต์ไปทำงานแล้วทำไมต้องฝากลูกไว้ให้จรีภรณ์เป็นคนดู? ไม่ ไม่ใช่สิ เด็กนั้นไม่ใช่ลูกของชนุตต์เมื่อสักครู่ที่เขาเห็นหนูดี เขาก็รู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขากำลังมองอย่างละเอียด ตาโตๆ จมูกโด่ง เหมือนกับจรีภรณ์เสียจริงๆ ว่ากันว่าเด็กผู้ชายโตมาจะหน้าเหมือนแม่ ดูๆแล้วท่าจะจริง เด็กคนนี้จะต้องเป็นลูกของจรีภรณ์แน่ๆ ลูกของจรีภรณ์? จิรภาสมองพวกเขาแล้วนิ่งอึ้งไป “แม่ครับ คุณอาคนนี้เป็นคนอุ้มผมขึ้นมาครับ” หนูดีชี้ไปยังจิรภาส จรีภรณ์หันกลับไปมองเขา แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ“ฟังนะหนูดี ทีหลังอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า” “คุณอาไม่ใช่คนไม่ดีนะครับแม่ เขายังเล่นกับหนูดีอยู่เลย” หนูดีแย้งกลับ จรีภรณ์ไม่ได้พูดอะไรอีก เธออุ้มหนูดีแล้วเดินจากไป หลังจากมองจรีภรณ์อุ้มหนูดีเดินจากไปแล้วนั้น จิรภาสจึงมีปฏิกิริยาตอบกลับ โดยรีบเดินไปดักด้านหน้าจรีภรณ์แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “หนูดีคือลูกของคุณ?” “ใช่!” จรีภรณ์ตอบกลับแล้วรีบอุ้มหนูดีขึ้นไปด้านบน มองตามเบื้องหลังของจรีภรณ์ไป ในใจของจิรภาสรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทำไมเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกของจรีภรณ์กัน เขาคิดมาตลอดว่าเด็กคนนี้คือลูกนอกสมรสของชนุตต์กับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกของเธอ นึกไม่ถึงว่าเธอจะมีลูก และเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของเธอ จิรภาสยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม ยังไงเขาก็นึกไม่ถึงว่าภรรยาที่หย่าร้างกันแล้วถึงสามปี จะมีลูกแล้ว แต่พ่อของเด็กคนนั้นคือใครกัน? ชนุตต์หรือ? ไม่ เป็นไปไม่ได้ จิรภาสส่ายหัวไปมา สมองกำลังค่อยๆประมวลผล ตามที่เขาได้ทำการตรวจสอบดู ก่อนหน้านี้ชนุตต์กับจรีภรณ์ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น มีแค่ช่วงหลังๆมานี้ที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเท่านั้น เด็กคนนี้ไม่มีทางเป็นลูกของชนุตต์แน่ๆ แล้วเด็กคนนี้เป็นลูกของใครกัน? จิรภาศเดินขึ้นรถไปอย่างเงียบๆ เขารู้สึกว่าสวรรค์กำลังล้อเล่นกับเขาอยู่ ระหว่างทางกลับ มือถือของจิรภาสดังขึ้น เขาเห็นว่าเป็นชญาภาโทรเข้ามา ด้วยที่ตอนนี้อารมณ์ไม่ดีอยู่ เขาจึงตัดสายไปในทันที ชญาภาที่กำลังนั่งเหม่อมองมือถือตัวเองอย่างอึ้งๆอยู่บนเตียง เธอไม่อยากจะเชื่อเลย และคิดไม่ถึงว่าจิรภาสจะตัดสายเธอ ทั้งที่ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ทำไมวันนี้ดันตัดสายเธอไปแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเลย “แม่ หนูมีเรื่องจะคุยกับแม่หน่อย”ชญาภาเรียกนพนาที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก นพนาเหลือบมองน้าธยาน์ที่กำลังล้างผลไม้อยู่ แล้วตามชญาภาขึ้นห้องไป “มีเรื่องอะไรหรือลูก?” นพนานั่งลงบนเตียงแล้วถามลูกสาวตัวเอง “แม่ จิรภาสตัดสายหนู” เธอมองหน้าคนเป็นแม่อย่างเครียดๆ “ตัดสายลูก?” นพนามองเธออย่างแปลกใจ “อย่าคิดมากเลย บางทีเขาอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้ลูก” “แต่แม่ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ” “อย่าเครียดไปเลยลูก เขาอาจจะติดธุระจริงๆก็ได้นะ” นพนาปลอบใจชญาภา “ยังไงซะลูกก็หมั้นกันแล้วไม่ใช่หรือ แถมยังกำลังดูฤกษ์กันอยู่อีก เดี๋ยวแม่จะไปกดดันคุณนวิยาเอง ช่วงสองสามวันนี้ลูกก็ซื้อผลไม้ไปเยี่ยมเขาหน่อยแล้วกัน” “ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะแม่”ชญาภาหัวเราะออกมาอย่างดีใจ หลังจากอุ้มหนูดีกลับบ้านแล้ว จรีภรณ์หายใจหอบ เมื่อซักครู่ที่เจอกับจิรภาส เธอพยายามทำเป็นนิ่งๆอุ้มหนูดีอยู่ตรงนั้น แต่จริงๆแล้วในใจเธอเครียดแค่ไหน มีแต่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ เมื่อก่อนเธอกลัวมาตลอด กลัวว่าวันนึงเขาจะได้เจอกับหนูดี แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเขาก็ต้องรู้อยู่ดีไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้คงจะต้องทำใจเพื่อยอมรับมันให้ได้ แต่ถ้าเขารู้แล้วยังไงล่ะ เธอไม่มีทางยอมรับว่าหนูดีคือลูกของเขาเป็นอันขาด ตลอดชีวิตนี้เธอจะไม่มีทางบอกกับเขาแน่ เธอจะไม่มีทางให้หนูดีรู้ว่าลูกมีคนแบบนี้เป็นพ่อ เขาไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อของหนูดี ตลอดช่วงที่ชนุตต์เดินทางไปทำงานนี้ เขาสั่งให้จรีภรณ์ไม่ต้องมาทำงาน ให้อยู่บ้านดูแลหนูดีแทน วันสบายๆสองสามวันนี้ จรีภรณ์พาหนูดีออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก น้อยมากที่เธอจะได้มีเวลาอยู่เล่นด้วยกันกับลูกแบบนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เธอพาหนูดีออกไปเดินย่อยข้างนอกหลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว แล้วบังเอิญพบกับชญาภา ตอนนั้นชญาภากำลังเดินช็อปปิ้งอยู่กับฑิตยา พวกเธอเห็นหน้าจรีภรณ์แล้วยืนอึ้งมองหน้ากันไปมา ไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่ ฑิตยาเห็นจรีภรณ์แล้วยิ้มเยาะ เธอจำได้ว่าครั้งที่แล้วจรีภรณ์ตบหน้าเธอ เดิมทีความรู้สึกแค้นฝังอยู่ในใจยังหาโอกาสไม่ได้ แต่วันนี้ได้เจอกันแบบนี้ เธอจะปล่อยไปง่ายๆได้อย่างไร จรีภรณ์เห็นสีหน้าที่ดูภูมิอกภูมิใจของฑิตยา เธอคนนี้เหมาะที่จะเป็นทาสเขาอยู่แบบนี้แหล่ะ จรีภรณ์ไม่เคยคิดจะคุยกับเขาอยู่แล้ว พูดแบบไม่น่าฟังก็คือ คนกับสุนัขเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรเสียนี่ก็คงเป็นขาสุนัขของผู้หญิงเลวๆคนนี้ จรีภรณ์จึงทำเป็นมองไปที่อื่นแทน ทำเป็นมองไม่เห็นเขาทั้งสองคน เมื่อเห็นท่าทางหยิ่งยโสของจรีภรณ์ยิ่งทำให้ชญาภารู้สึกโมโหจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เมื่อก่อนเธอดูมีเกียรติสูงส่งไม่มีใครยุ่งกับเธอได้ ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่ว่าถูกบ้านของจิรภาสไล่ออกจากบ้านมาแล้วหรอกหรือ สวยแล้วจะมีประโยชน์อะไร ก็ไม่มีอะไรเลยอยู่ดี ชญาภาแสร้งทำเป็นยิ้มบางๆให้กับจรีภรณ์ แต่มีแค่ฑิตยาเท่านั้นที่รับรู้ได้ว่าร่างกายเธอกำลังสั่นเทา นี่เป็นการแสดงออกเวลาที่เธอโกรธ อยู่กับเธอมานานขนาดนี้แล้ว ฑิตยาเข้าใจความริษยาของเขาดี ฑิตยายิ้มน้อยๆ เธอรู้ว่าโอกาสของเธอนั้นมาถึงแล้ว เธอจึงพูดกระทบเหน็บแนมขึ้นมา “สวยอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร ยังไงก็โดนสามีตัวเองเขี่ยทิ้งอยู่ดี เธอว่าผู้หญิงแบบนี้น่าสงสารไหม?” ชญาภาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มอย่างอ่อนโยนตอบกลับไปเท่านั้น แต่ในใจกลับชอบคำพูดเหล่านี้ และอยากให้ฑิตยาพูดอีก ฑิตยาเห็นว่าชญาภาไม่ได้พูดอะไร รู้ว่าเธอต้องการให้เธอพูดต่อ “ผู้หญิงที่ไม่มีใครต้องการแบบนี้ ควรจะรักษาชีวิตตัวเองไว้ดีๆแล้วล่ะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นนะ ฉันคงจะยอมแก่ตายอยู่ในบ้านดีกว่า ออกไปไหนก็อับอายเขาเปล่าๆ” ฑิตยาที่กำลังพูดอยู่นั้น เห็นจรีภรณ์อุ้มเด็กขึ้นมาแล้วหมุนตัวเดินออกไป ขณะที่เด็กน้อยหันมา นั่นสร้างความตกตะลึงให้กับฑิตยาและชญาภาเป็นอย่างมาก เหมือน เหมือนจริงๆ อย่างกับพิมพ์เดียวกันเลย ชญาภายืนอยู่ตรงนั้นอย่างกับคนโง่ดีๆนั่นเอง สายตาจ้องไปยังเด็กผู้ชายคนนั้น ฑิตยาก็เช่นกัน ตกตะลึงกันจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว
已经是最新一章了
加载中