ตอนที่ 45 เรื่องใหญ่
1/
ตอนที่ 45 เรื่องใหญ่
Choose เลือกสักทีนายจะรักใคร
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 45 เรื่องใหญ่
ตอนที่ 45 เรื่องใหญ่ เด็กคนนี้เป็นลูกของจรีภรณ์ เธอมีลูกแล้วจริงๆหรือ? ชญาภาไม่อยากจะเชื่อ จนกระทั่งเบื้องหลังของเธอหายลับไปแล้ว เธอถึงหลุดจากภวังค์นั้น “เธอว่า เด็กคนนั้น ใช่ลูกที่เขารับเลี้ยงมารึเปล่า?”ฑิตยาถามเสียงสั่นๆ “เธอคิดว่าอย่างไรล่ะ?”ชญาภาพูดดักทันที ถ้าเด็กคนนี้ถูกรับมาเลี้ยงจริงๆ เธอจะมองไม่ออกเลยหรือว่าไหนลูกแท้ๆหรือลูกที่รับเลี้ยง “แล้วแบบนี้ เด็กคนนั้นจะใช่ลูกของจิรภาสหรือเปล่า?” “เธอพูดอีกครั้งซิ?”ชญาภาหันมาจ้องฑิตยา สายตาความเกลียดชังคล้ายกับจ้องจะเอาชีวิตของเธอ ฑิตยาตกใจจนรีบปิดปากตัวเองลง แล้วรีบถอยออกมา ชญาภาในมุมนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาทำให้เธอกลัว! ชญาภาก็รู้สึกกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ทิ้งฑิตยาไว้แล้วรีบกลับบ้านทันที “แม่ เรื่องใหญ่แล้ว!” เพิ่งเข้ามาในบ้านแต่ชญาภาก็ตะโกนเรียกหานพนาทันที นั่นทำให้นพนาที่กำลังยังดูทีวีอยู่ตกใจ “ดูทำเข้าสิ ยังมีความเป็นลูกสาวผู้ดีอยู่บ้างไหม?” นพนาอบรมลูกสาวตัวเองด้วยความโมโห แต่ชญาภากลับไม่ได้สนใจประเด็นนั้นเลย เธอยังคงพูดต่อไป “แม่ หนูเห็นแล้ว เห็นจรีภรณ์อุ้มเด็กคนนั้น” “อุ้มเด็กแล้วยังไง?” นพนาขมวดคิ้ว ทั้งยังไม่ได้คิดไปในแนวทางนั้น “แต่เด็กนั่นหน้าตาคล้ายมันมากเลยนะแม่ พิมพ์เดียวกันเลยจริงๆ”ชญาภารีบร้อนจนดึงมือผู้เป็นแม่ไว้ “อะไรนะ?” นพนามองชญาภาด้วยอาการตกตะลึง อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงๆ เด็กคนนั้นจะต้องเป็นลูกมันแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่เหมือนขนาดนั้นหรอก แม่ว่าเด็กนั้นจะใช่ลูกของจิรภาสหรือเปล่า? ไหนแม่บอกว่าตอนนั้นคุณนวิยากำจัดเด็กนั่นออกไปแล้วไง ทำไมยังมีอยู่ล่ะแม่?” “หุบปาก” นพนาตัดบทด้วยความโมโห “แม่ ถ้าจิรภาสรู้ เขาต้องยกเลิกงานแต่งกับหนูแน่ๆเลย”ชญาภากำลังจะร้องไห้ออกมา “แกสงบสติอารมณ์ก่อนได้ไหม ให้แม่คิดก่อนสิ” “แม่ หนูกลัวจริงๆนะ หนูไม่มีเขาไม่ได้” "ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ แกร้องไห้แบบนี้จะไปมีประโยชน์อะไร เกิดเรื่องแล้วก็ร้องไห้" นพนามองสภาพลูกสาวตัวเองที่เอาแต่ร้องไห้ จึงกัดฟันว่าไปยกหนึ่ง เห็นแม่ที่กำลังโมโห ชญาภาจึงไม่กล้าร้องไห้ต่อ ค่อยๆหยุดเสียงสะอื้น และนั่งลงอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ นพนาที่เดินไปเดินมา เธอหยุดและหันมาหาทางชญาภา "จิรภาสไม่น่าจะรู้นะ ถ้าเขารู้เขาก็จะไม่หย่ากับมันสิ อีกอย่าง เด็กคนนี้ก็ไม่น่าจะใช่ลูกของจิรภาสด้วย" "แต่ทำไมเด็กนั่นถึงได้โผล่เข้ามาในตอนนี้ล่ะแม่?" ชญาภามองมารดาด้วยความสงสัย "หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีเลศนัยแปลกๆยังไงก็ไม่รู้" "แม่รู้ แม่รู้" นพนาตัดบทอย่างรำคาญ หากเด็กคนนี้เป็นลูกของจิรภาสจริงแล้วล่ะก็ เธอเชื่อว่าจิรภาสจะต้องถอนหมั้นกับชญาภาในทันทีแน่ คงไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ชญาภามองท่าทางร้อนใจของมารดา เธอกัดริมฝีปากตัวเอง ในใจนึกอยากจะฆ่าเด็กนั่นให้ตายๆไปซะ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะทำอะไรวู่วามแบบนั้น เพราะตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าเด็กนั่นเป็นลูกใครกันแน่ หากไม่ใช่ลูกของจิรภาสจริงล่ะก็ ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้จิรภาสตายใจ แต่หากใช่ล่ะก็พวกเขาจะต้องรีบคิดหาหนทางกำจัดเด็กนั่นก่อนที่จิรภาสจะรู้ สิ่งที่เธอคิด นพนาก็คิดเหมือนกันกับเธอ แต่ไม่นาน เธอก็สงบลงซักพักแล้วหยิบมือถือกดโทรออกหาใครบางคน แต่คนในสายกลับปิดเครื่อง นพนาวางสายไปอย่างหงุดหงิด แล้วหลังจากนั้นจึงบอกกับชญาภาว่า"แกอยู่ที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวแม่ออกไปข้างนอกก่อน" "แม่จะไปไหน?" "ไปทำธุระให้แกไง รายละเอียดแกยังไม่ต้องถามตอนนี้หรอก" นพนาตอบกลับไปอย่างรำคาญ เธอเปลี่ยนรองเท้าเสร็จจึงรีบออกจากบ้านไปทันที บ้านของอาจารย์ธิพลอยู่ในซอยเล็กแห่งหนึ่ง ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณในเมืองซูเลยก็ว่าได้ ด้านหน้าคือประตูบ้าน เป็นช่องสำหรับให้มองเห็นคน บางครั้งก็ดูเหมือนเป็นบ้านหลังเก่าๆ ที่ยึดตามหลักฮวงจุ้ย ด้านหลังเป็นที่พัก โดยปกติแล้วเขาก็พักอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าเขาจะทำธุรกิจ แต่น้อยคนมากที่จะรู้จักที่นี่ ปกติแล้วคนที่มาก็จะเป็นคนที่ถูกแนะนำกันต่อมาอีกทอดหนึ่ง ถ้าไม่อย่างนั้นคนทั่วๆไปคงจะหาที่นี่ไม่เจอ หลังจากถึงที่หมาย นพนาจึงหยิบแว่นกันแดดมาสวมใส่ มองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นมีคน เธอจึงรีบลงจากรถ เดินเข้าไปทางประตูหลัง ขณะที่เธอเดินเข้าไปนั้น อาจารย์ธิพลกำลังดูโหงวเฮ้งอยู่ด้านใน เธอจึงได้แต่ยืนรอเขาอยู่ตรงหลังผ้าม่าน เดิมตอนที่เขากำลังลูบคลำคนด้านในอยู่นั้น เหลือบเห็นเงาคนอยู่ด้านหลังผ้าม่าน ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าเป็นใคร จึงหยุดมือลง เมื่อเขาจัดการธุระเสร็จแล้ว เขาจึงรีบเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้ว เขาจึงดึงเอวนพนาเข้ามากอดแล้วจูบเธอ "นี่ คุณจริงจังหน่อยสิ ฉันมาหาคุณเพราะมีเรื่องจะคุยกับคุณ" นพนาผลักเขาออกอย่างโมโห "เรื่องอะไรก็คงไม่จริงจังเท่าเรื่องนี้แล้วล่ะ คุณคิดถึงผมใช่ไหมล่ะ!" เขาจับกดนพนาลงบนเตียง ความอยากความปราถนานี้ดำเนินไปในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น นพนาซบอยู่ที่อกของเขา ในใจคิด อยู่กับเขาสบายที่สุดแล้ว อยู่บ้านเอาเข้าจริงก็เหมือนเอาแต่เฝ้าครองรักษาความเป็นแม่หม้ายของตัวเองไว้ ตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีมาแล้วหลังจากที่เธอวางแผนขึ้นไปบนเตียงของเขา และหลังจากนั้นมาเขาก็ไม่ได้แตะต้องตัวเธออีกเลย คนแบบนี้ เธอจะไม่รักษาตัวไว้เพื่อเขาหรอก หึหึ ในใจของนพนาเธอหัวเราะขึ้นมาอย่างเยือกเย็น เธอมองอาจารย์ธิพลที่มีร่างกายกำยำ แล้วรู้สึกว่าอยู่กับคนแบบนี้สิถึงจะคุ้มค่า อาจารย์ธิพลมองเห็นสายตาที่มีแผนการอะไรบางอย่างในสายตาของนพนา จึงลุกขึ้นมาจุดบุหรี่แล้วถามเธอ คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองมองกลับไปยังอาจารย์ธิพล นึกได้ว่าตัวเองมีเรื่องจะคุยกับเขา จึงลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยกับเขา "จรีภรณ์มีลูกแล้ว" เขานิ่งไป แล้วสูดควันบุหรี่เข้าไปแล้วพูดว่า "เป็นผู้หญิงมีลูก ก็เป็นเรื่องปกตินี่" "แต่ตอนนั้นคุณเคยบอกฉันว่า ชีวิตนี้มันจะไม่สามารถมีลูกได้อีกไม่ใช่หรือ?" นพนาถามโดยแฝงความโกรธเคืองไว้เล็กน้อย "แล้วอีกอย่าง คุณก็บอกกับนวิยาไว้ว่าชีวิตนี้มันจะไม่สามารถมีลูกชายได้" "ก็ตอนนั้นเป็นคุณไม่ใช่หรือที่ให้ผมทำ? เขาจะท้องได้หรือไม่คุณจะไม่รู้เลยหรือ?" เขาถามกลับ "แต่ตอนนั้นคุณบอกว่าถ้ามันกินยาของคุณ มันจะมีลูกยากไม่ใช่รึไง?" "ใช่ที่ว่าจะมีลูกยากน่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีไม่ได้" "แล้วคุณว่าตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี? เรื่องนี้ถ้านวิยารู้ล่ะ" นพนารู้สึกกระวนกระวาย เธอรู้สึกว่าเรื่องบางเรื่องยิ่งยากที่จะควบคุมได้ "คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ไว้ผมจะเป็นคนอธิบายให้เขาฟังเอง" “ดี ถ้าอย่างนั้นคุณจัดการด้วยละกันนะ” นพนาจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง อาจารย์ธิพลไม่คิดเช่นนั้น หัวเราะออกมา พลางสูบบุหรี่จนหมดมวนแล้วกดเธอลงไปอีก นพนารู้สึกวุ่นวายใจ เดิมที่อยากจะขัดขืนเขา แต่ทนเทคนิคอันเชี่ยวชาญของเขาไม่ไหว ไม่นานเขาทั้งคู่ก็เข้าสู่ความปรารถนาของเขาทั้งสอง จิรภาสอารมณ์ไม่ดี นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าจรีภรณ์มีลูกแล้ว เขานอนไม่หลับเลยทั้งคืน หลังจากออกมาจากบริษัท เขาก็มุ่งตรงกลับบ้านทันที เข้ามาในบ้านก็พบว่าแม่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เขาจึงไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินตรงขึ้นไปด้านบน นวิยาเห็นว่าลูกชายไม่สนใจคนเป็นแม่อย่างเธอ จึงวางโทรศัพท์ด้วยความโมโหแล้วเดินขึ้นไปถามลูกชายตัวเอง “ทำไมไม่รับสายชญาภา?” “ผมไม่ว่าง” จิรภาสตอบสั้นๆ “ถึงจะยุ่งก็ต้องโทรกลับไปหาเขาบ้างสิ งานน่ะสำคัญแต่ก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองบ้างสิลูก”นวิยามองหน้าตาซีดเซียวของลูกชายตัวเองแล้วไม่สบายใจ เดิมที่ตั้งใจจะขึ้นมาต่อว่าจิรภาสแต่สุดท้ายแล้วกลับพูดไม่ออก จิรภาสตอบกลับไปเพียงแค่ “อืม” เท่านั้น “ลูก แม่ว่าชญาภาก็ไม่เลวนะ แม่ชอบเขานะ” “แม่หมายถึงอะไร?” จิรภาสหันมามองมารดาตัวเอง “เดือนหน้าวันที่แปด ถือว่าเป็นวันดี แม่ว่า....” “แม่ อะไรๆแม่ก็รู้สึกดีไปหมดทุกอย่าง ในเมื่อแม่ถูกชะตากับเขา ถ้าอย่างนั้นแม่ก็แต่งงานกับเขาเองเลยสิ!” จิรภาสตัดบทไปอย่างหัวเสีย “ลูกก็ พูดอะไรไปทั่ว แม่จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร” “ผมขอล่ะครับ ต่อไปไม่ต้องมาสนใจผมแล้วได้ไหม?” จิรภาสรู้สึกว้าวุ่นใจ เดิมทีเขาอยากจะกลับบ้านมานอนพักผ่อน แต่กลับพบว่าที่บ้านก็หาความสงบมิได้ ดังนั้นจึงรีบล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปข้างนอกอีก เมื่อนวิยาเห็นว่าลูกชายไม่สนใจตนเองเลย จึงรีบวิ่งตามมาด้วยความโมโห “ลูกเป็นทุกข์อยู่แบบนี้ทุกวัน จะทนได้ยังไงกัน” แต่คำตอบกลับเป็นเพียงเสียงสตาร์ทรถตอบกลับมา นวิยาได้แต่ยืนมองรถของลูกชายขับออกจนลับตาไป เธอยืนเหม่อด้วยความเสียใจ ช่วงเวลานึงที่เธอรู้สึกว่า เธอเหมือนกับกำลังสูญเสียลูกชายของตัวเองไป หลังจากที่จิรภาสออกจากบ้านมาแล้วนั้น อยู่ๆเขาก็ขับรถมายังสถานที่ที่จรีภรณ์อาศัยอยู่ ตลอดทั้งคืน เขารู้สึกว่าอย่างจรีภรณ์ไม่น่าจะแต่งงานอีกเป็นครั้งที่สอง จริงๆแล้วเมื่อวานตอนที่เดินออกมาจากที่นั่น เขามอบหมายให้ปณัยไปสืบหาว่าพ่อของหนูดีเป็นใคร แถวๆนี้ นอกจากชนุตต์แล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นจรีภรณ์สนิทสนมกับผู้ชายคนไหนเลย ในเมื่อมีลูกแล้ว ก็ต้องมีพ่อของเด็กด้วยสิ แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่ปรากฏตัวออกมาให้เขาได้เห็นเลย ทำเหมือนกับเป็นอากาศซะอย่างนั้น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกๆ และเขาจะต้องรู้ให้ได้ สิ่งที่เขามอบหมายให้ปณัยไปสืบเรื่องนี้ ในที่สุดวันนี้ปณัยก็โทรมารายงานกับเขา ว่าจรีภรณ์ไม่ได้แต่งงานใหม่ ในเมื่อเธอไม่ได้แต่งงานใหม่ เด็กคนนี้ก็น่าจะเป็นลูกของเขา เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ในใจเขารู้สึกตื่นเต้น และเขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 45 เรื่องใหญ่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A