ตอนที่ 46 เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่
1/
ตอนที่ 46 เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่
Choose เลือกสักทีนายจะรักใคร
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 46 เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่
ตอนที่ 46 เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่ ด้วยเหตุนี้ขณะที่จรีภรณ์ออกไปซื้อกับข้าว เขาเลยดักรอเจอจรีภรณ์ระหว่างทาง “เด็กคนนั้นคือลูกของผมใช่ไหม จรีภรณ์” จิรภาสเอ่ยถามด้วยความร้อนใจและไม่อ้อมค้อม เธอเงยหน้ามองสีหน้าที่ดูอ่อนเพลียของเขา แล้วหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา อะไรที่จะมามันก็ต้องมา เรื่องลูกไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรู้อยู่ดี แต่ยังไงก็ตามเธอจะไม่มีวันบอกความจริงกับเขาแน่นอน นี่คือสิ่งตอบแทนกับสิ่งที่เขาทำกับเธอไว้ในตอนนั้น “ขอโทษนะคะคุณจิรภาส ลูกของฉันค่ะ ไม่ใช่ลูกของคุณ!” “คุณอย่าหลอกผมเลย เขาเป็นลูกของเราสองคนใช่ไหม” จิรภาสถามต่ออย่างไม่เชื่อคำพูดของเธอ จากที่เขาเห็นเด็กคนนั้น เขาคิดว่าน่าจะเป็นลูกของเขาเอง “อา...คุณเหมาะที่จะเป็นพ่อคนหรือคะ?” เธอหัวเราะอย่างเย็นชาเพื่อดักทางเขา “จรีภรณ์ คุณอย่าเล่นแบบนี้สิ เด็กคนนั้นเป็นลูกของผมใช่ไหม?” เขามองจรีภรณ์อย่างร้อนใจ ตอนนี้เขาคาดหวังมากที่จะให้จรีภรณ์บอกกับเขาว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา แต่จรีภรณ์กลับหัวเราะเยาะใส่เขา “ผิดแล้วล่ะค่ะคุณจิรภาส ฉันมีเด็กคนนี้หลังจากที่หย่ากับคุณแล้ว คุณคงไม่บ้าถึงขนาดคิดว่าฉันหย่ากับคุณทั้งๆที่ท้องลูกของคุณอยู่หรอกนะคะ” “ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกผมสิ ว่าพ่อของเด็กคนนั้นคือใคร?”สีหน้าจิรภาสเริ่มมีความโมโหแสดงออกมา เขาไม่เชื่อหรอก ว่า เธอหย่ากับเขาแล้วจะมีลูกกับผู้ชายคนอื่นในทันทีเลยแบบนี้ “พ่อของลูกฉันจะเป็นใคร นั่นไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องรู้ แล้วอีกอย่าง คุณเป็นใครคะ ทำไมฉันจะต้องบอกคุณ” จรีภรณ์รู้สึกกังวลใจ ในใจเธอกำลังรู้สึกกลัว เธอกลัวว่าหากจิรภาสไม่เชื่อแล้วเขาจะเอาลูกไปจากเธอ “จรีภรณ์ ทางที่ดีคุณไม่ควรจะหลอกผม และทางที่ดีคือคุณอย่าให้ผมตามสืบจนเจอความจริง!” “ได้ คุณอยากจะรู้นักใช่ไหม” เธอเอ่ยออกมาด้วยความโกรธแค้น “ฉันไม่ได้แต่งงาน เป็นเพราะว่าคนที่ฉันจะแต่งงานด้วย เขาคนนั้นตายแล้ว เขาตายไปแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันเลยไม่ได้แต่งงาน!” “คุณว่าไงนะ?” จิรภาสรู้สึกว่าหัวสมองตัวเองจะรับรู้อะไรไม่ได้อีกแล้ว เขามองจีรภรณ์ที่มีน้ำตานองหน้าอย่างตกตะลึง จริงๆแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอคลอดหนูดีออกมา เธอก็รู้ว่าไม่ช้าหรือเร็วจะต้องมีวันนี้ ตอนนั้นที่เธอออกมาจากบ้านตระกูลศิริวัชรภัทร เธอไม่เหลือใคร หรือแม้กระทั่งที่จะไปเธอยังไม่มี แต่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เธอทำได้เพียงหางานทำในตอนกลางวัน พอถึงเวลากลางคืนเธอต้องหาที่นอนที่อุโมงค์ใต้สะพาน แต่พอสามวันผ่านไป เธอก็ยังหางานทำไม่ได้ และอีกอย่าง ในตอนนั้นเธอกำลังท้องโต ถึงอย่างไรก็หางานไม่ได้อยู่แล้ว และนับว่าเป็นความโชคดีของเธอที่เธอได้มาเจอคุณอาใจดีคนหนึ่ง สงสารเธอ ให้เธอทำงานล้างจานในห้องครัวของโรงแรมแห่งหนึ่ง ดังนั้นเธอเริ่มใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ในทุกๆวันเธอต้องล้างจานจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว บวกกับที่เธอตั้งท้อง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะผ่านความเหน็ดเหนื่อยเหล่านี้ไปได้ง่ายๆ แม้ว่าคนในห้องครัวคนอื่นๆจะดูแลเธอ คอยช่วยเหลือเธอ แต่ทุกคนก็ต้องมีงาน มีหน้าที่ของตัวเอง ยุ่งกันจนจะเอาตัวเองไม่รอด เมื่อใกล้ถึงวันคลอด เธอรู้สึกกระวนกระวายมากกว่าเดิม จะกินก็ต้องประหยัดให้ถึงที่สุด ซึ่งปกติแล้วแม้แต่เนื้อสัตว์เธอก็จะไม่กิน ในทุกวันจะกินแต่หัวไชเท้า ผักสด กินจนสุดท้ายเธอก็กินไม่ลง เห็นแล้วก็อยากจะอาเจียนออกมา หลังจากนั้นเธอบังเอิญได้มาเจอจิรชัย เธอกับจิรชัยเป็นเพื่อนกันในวัยเด็ก และจิรชัยก็ชอบเธอ เพียงแต่เธอมองเขาเป็นพี่ชายมาโดยตลอด ไม่ได้คิดกับเขาในแบบนั้นเลย และหลังจากนั้นทั้งสองคนก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน ช่วงเวลาที่เรียนในมหาวิทยาลัย จรีภรณ์ชอบกินข้าวต้มถั่วแดง เมื่อจิรชัยรู้ว่าเธอชอบในทุกๆเช้าก็จะเอาไปส่งให้กับเธอ เขาทำเช่นนี้ตลอดระยะเวลาสองปีเต็ม ตลอดจนเธอได้มาเจอกับจิรภาส ตอนที่เธอบอกกับจิรชัยว่าเธอมีคนที่เธอชอบแล้วนั้น จิรชัยจึงไปหาจิรภาสเพื่อพูดคุยกับเขาเกือบทั้งคืน จนสุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย จนกระทั่งจรีภรณ์แต่งงาน เขาเพียงแค่มาดื่มแสดงความยินดีแล้วก็จากไป จนจรีภรณ์หย่า และไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกที่นี่ ตอนที่เขาเห็นจรีภรณ์ที่สภาพร่างกายดูเหนื่อยล้า เขาเองก็ทนเห็นจรีภรณ์ในสภาพนั้นไม่ได้ จึงพากลับไปที่บ้าน ช่วงระหว่างนั้น จิรชัยดูแลจรีภรณ์เป็นอย่างดี เขาอบอุ่นดั่งสายน้ำ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รับรู้ถึงน้ำใจและความใจดีของเขา เพียงแต่เธอเพิ่งจะผ่านการหย่าร้างมา สำหรับเธอความรักทำให้หัวใจของเธอตายด้านไปเสียแล้ว และยังไม่อยากคบกับใครในช่วงเวลานี้ สุดท้ายเธอเองก็เพิ่งรู้ ว่าที่จิรชัยยังไม่มีใครจนถึงทุกวันนี้นั่นเป็นเพราะเธอ นั่นทำให้เธอค่อยๆใจอ่อนลง ช่วงเวลาที่เธอคลอดลูก ครอบครัวของจิรชัยก็พากันมาดูแลเธอ ทำให้เธอซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ครอบครัวของจิรชัยทำธุรกิจ พ่อแม่ของเขาเห็นจรีภรณ์ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อก่อนรู้สึกเสียดายความรู้สึกระหว่างช่วงนั้น แต่ตอนนี้พวกเขามองเธอเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง และพากันพูดกล่อมให้เธออยู่ที่บ้านตระกูลญาธิดา แล้วยังจะรับลูกของเธอเป็นหลานแท้ๆของตัวเองอีกด้วย เห็นความใจดีของครอบครัวนี้ เธอจึงพยักหน้ารับเป็นการยินยอมที่จะอยู่ที่บ้านหลังนั้นเพื่อเลี้ยงลูกต่อไป ตอนที่คลอดลูกออกมา เด็กมีน้ำหนักเพียงแค่พันกว่ากรัมเท่านั้น หมอบอกว่าเป็นเพราะการบำรุงเลี้ยงดูไม่ค่อยดี ในใจของจรีภรณ์คิดตำหนิโทษแต่ตัวเอง จริงๆแล้วเธอรู้ดีว่า เมื่อตอนที่นวิยาให้เธอกินยาที่ทำร้ายร่างกายเหล่านั้น ซึ่งหลังจากที่เธอตกลูก เธอก็เข้าโรงพยาบาลเป็นเวลาสามวัน ตลอดระยะเวลาสามวันนั้น น้ำตาเธอไหลอาบแก้มทุกวัน ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูดี ต่อมาเธอก็ตั้งท้องอีก นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากแล้ว ดังนั้น สำหรับเด็กคนนี้เธอจึงจะรักและทะนุถนอมเขาให้มากที่สุด หลังจากเด็กน้อยอายุครบหนึ่งเดือนแล้วนั้น จิรชัยก็ประกาศต่อหน้าผู้คนว่าเขาคือพ่อของเด็ก ดังนั้นคนอื่นๆก็ไม่มีใครสงสัยเพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกจังหวะและเป็นไปตามขั้นตอน และหลังจากนั้น ขณะที่พวกเขากำลังดำเนินเตรียมการงานแต่งงาน จิรชัยดันเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เห็นว่าเป็นเหตุการณ์โรงงานแห่งหนึ่งระเบิด คนที่อยู่ในนั้นไม่มีใครรอดชีวิตออกมาเลยซักคน โดยที่ข่าวนี้เป็นเหมือนดังฟ้าผ่า ทั้งพ่อแม่ของจิรชัยเสียใจเป็นอย่างมาก และยิ่งอายุที่มากแล้วของทั้งสอง ทำให้เขาต้องนอนอยู่บนเตียงขยับตัวไม่ได้ จรีภรณ์อยู่ดูแลทั้งสองจนร่างกายของพ่อและแม่จิรชัยดีขึ้น เธอจึงพาหนูดีออกมาจากบ้านตระกูลญาธิดา จิรภาสได้ฟังดังนั้นรู้สึกเหมือนกับเป็นนิทานอาหรับเรื่องหนึ่ง ทำไมเขาถึงนึกไม่ถึงว่า หลังจากที่จรีภรณ์หย่ากับเขาแล้วจะไปคบกับจิรชัย ตอนนั้นเขาคิดว่าหลังจากที่เขาบีบให้จรีภรณ์ออกไปแล้ว เธอจะกลับมาหาเขาอีก แต่เขาคิดผิด เขารอเธอเป็นปีแต่เธอก็ไม่กลับมา หลังจากนั้นเขาได้แต่คอยฟังข่าวคราวของเธอ แต่กลับไม่ได้รับข่าวใดๆของเธอเลย ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ ว่าที่แท้เธอก็ไปหลบอยู่ที่บ้านตระกูลญาธิดา จากที่จิรชัยคอยปกป้องจรีภรณ์นั้น เขาจะปล่อยเธอกลับไปได้อย่างไร โดยเฉพาะตอนที่เขาได้ยินที่เธอไปทำงานล้างจานในโรงแรม ในใจเขาคิดโทษตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เกลียด เกลียดที่เธอมีลูกกับผู้ชายคนอื่น ทำให้เขารู้สึกอิจฉาแทบบ้า อย่างไรก็ตามสาเหตุทั้งหมดนี้ก็มาจากเขา หากตอนนั้นเขาไม่ปล่อยให้เธอจากไป เธอก็จะไม่ได้ไปคบกับจิรชัย ไม่ต้องไปมีลูกกับผู้ชายคนอื่น จิรภาสหลับตาลงอย่างยากลำบาก พลางเอ่ยด้วยความเสียใจ "คุณอย่าหลอกผมเลย" "ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็เชิญคุณไปสืบได้เลย!"จรีภรณ์บอกไปแล้วหันหลังกลับเพื่อเดินจากไป จิรภาสยืนอยู่ตรงนั้นซักพัก มองจนเบื้องหลังของจรีภรณ์ลับตาไป เขาจึงเดินไปยังรถ เปิดประตู และขึ้นรถ จรีภรณ์กลับถึงบ้าน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อสักครู่เธอเครียดและตื่นเต้นมากจนหัวใจแทบจะออกมาเต้นข้างนอก แต่เธอต้องแสร้งทำเป็นสงบนิ่งเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร ตอนนั้นที่เธอตัดสินใจคบกับจิรชัย นั่นเป็นเพราะเธออยากหาพ่อให้ลูกของเธอ เธอไม่อยากให้เมื่อลูกเกิดมาแล้วไม่มีพ่อ หลังจากที่คลอดลูกแล้ว เธอก็อยู่บ้านตระกูลญาธิดา ในตอนนั้นทุกคนล้วนคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของจิรชัยอยู่แล้ว หากเขาจะไปสืบหาข้อมูล ก็คงจะหาความจริงอะไรไม่ได้อยู่ดี เธอปลอบใจตัวเอง หลังจากกลับมาจากทำงานชนุตต์ก็โทรหาจรีภรณ์ทันที ให้เธอไปรับเขาที่สนามบิน แล้วยังบอกอีกว่าเขามีของขวัญมาให้หนูดีด้วย จรีภรณ์ได้ยินดังนั้นก็ถามกลับไปด้วยความแปลกใจว่าทำไมถึงกลับมาก่อนกำหนด ชนุตต์ตอบกลับมาจากทางปลายสายว่าเป็นเพราะเขาคิดถึงจรีภรณ์กับหนูดี จรีภรณ์แขวะกลับไปสองสามคำ แต่หนูดีนี่สิ พอรู้ว่าชนุตต์กลับมาแล้ว ดีใจอยากจะให้จรีภรณ์พาไปรับเขาที่สนามบิน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูดีแล้วนั้น เธอก็พาหนูดีออกไปรับชนุตต์หนูดีดีใจจนพูดไม่หยุดไปตลอดทาง รอจนชนุตต์ที่ใส่ชุดลำลองเดินออกมาจากช่องวีไอพี เมื่อหนูดีเห็นชนุตต์ก็ดีใจจนดิ้นหลุดออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่แล้ววิ่งไปยังชนุตต์ที่เดินออกมา ชนุตต์อ้าแขนรับอุ้มหนูดีขึ้นมา "หนูดีคิดถึงคุณอาไหมครับ?" ชนุตต์ดึงแก้มกลมๆของหนูดีอย่างดีใจ "คิดถึงครับ คุณอามีของขวัญมาให้หนูดีไหมครับ?" "เด็กน้อยนี่ รู้จักแต่ของขวัญนะเรา" ชนุตต์แกล้งทำเป็นโกรธแล้วหยิบของขวัญออกมา หนูดีเห็นแล้วรีบรับไปถือไว้ ดีใจจนไม่ยอมวาง จรีภรณ์เห็นเครื่องบินโมเดลในมือของหนูดี แล้วหัวเราะออกมาพลางเอ่ยขอบคุณชนุตต์ แต่ชนุตต์กลับย้อนถาม "แล้วคุณล่ะ?" "อะไรคะ?" เธอถามกลับ "คุณคิดถึงผมรึเปล่า?"ชนุตต์เอ่ยถามพลางมองหน้าเธอด้วยสีหน้าจริงจัง จรีภรณ์หลบสายตาชนุตต์ด้วยความรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย พอดีกับที่หนูดีเอ่ยขัดจังหวะขึ้น “แม่ครับ หนูดีอยากไปเที่ยวสวนสนุก ครั้งที่แล้วแม่รับปากหนูดีไว้” “ได้สิครับ แม่จะพาหนูดีไปนะ” เมื่อเห็นหนูดีถามขึ้น จรีภรณ์จึงเปลี่ยนประเด็น นั่นทำให้ชนุตต์จ้องเธออยู่พักหนึ่งแล้วก้มหน้าลงถามคนตัวเล็ก “ถ้าอย่างนั้นคุณอาไปด้วยดีไหมครับ” “ดีครับ คุณอาไปนั่งรถไฟเหาะกับหนูดีนะ” “ได้สิ ไปกันเลย”ชนุตต์อุ้มหนูดีเดินไปขึ้นรถ โดยมีจรีภรณ์เดินตามอยู่ทางด้านหลัง ตลอดทางชนุตต์เล่าเรื่องต่างๆมากมายให้หนูดีฟัง โดยเด็กน้อยก็จ้องมองชนุตต์นั่งฟังอย่างตั้งใจ และเมื่อมาถึงสวนสนุกคนตัวโตก็พาหนูดีเล่นอยู่ที่นั่น เนื่องจากจรีภรณ์เป็นโรคกลัวความสูง เครื่องเล่นหลายอย่างเธอจึงเล่นไม่ได้ เลยได้แต่นั่งรอทั้งสองคน เป็นช่วงที่หนูดีกำลังเล่นอย่างสนุก ชนุตต์จึงใช้โอกาสนี้ถามหนูดี“หนูดีครับ คุณอาดีกับหนูดีไหม?” “ดีครับ” หนูพยักหน้าตอบกลับอย่างไม่ต้องลังเล ชนุตต์มองอย่างพอใจ แล้วถามต่อ “ถ้าอย่างนั้น คุณอามาเป็นคุณพ่อของหนูดีดีไหมครับ?” “แต่คุณอามีแฟนแล้วไม่ใช่หรือครับ?” หนูดีหยุดคิดซักพักแล้วเอ่ยถามขึ้น ชนุตต์นิ่งอึ้งไป คิดว่าจรีภรณ์คงจะเป็นคนบอกไปแบบนั้นแน่ เขาจึงเริ่มเกลี้ยกล่อมหนูดีอีกครั้ง “นั่นคุณแม่ของหนูดีล้อหนูดีเล่นต่างหาก จริงๆแล้วแฟนของคุณอาก็คือแม่ของหนูดีไงครับ” “จริงหรือครับ?” หนูดีเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ “จริงสิครับ ไม่อย่างนั้น คุณแม่ไม่พาหนูดีออกมาเที่ยวกับคุณอาหรอกครับ” “ก็ได้ครับ” หนูดีกล่าวอย่างรู้สึกผิดหวัง เมื่อเห็นท่าทางหนูดีดูผิดหวัง เขาจึงรู้สึกหน้าเสีย เจ้าตัวน้อยนี่หมายความว่าอย่างไรกัน? เขาแย่มากเลยหรือ? แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่เขาคิดในใจเท่านั้น ไม่ได้พูดออกมา เห็นดังนั้นจึงพูดกับหนูดีต่อ “ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อพาหนูดีไปกินของอร่อยดีไหมครับ?” เมื่อพูดถึงของอร่อย หนูดีก็ดีใจขึ้นมาทันที บอกมาว่าไม่อยากเล่นแล้วอยากไปกินของอร่อยก็ได้เด็กน้อย เขาบีบจมูกเจ้าตัวเล็กเบาๆ “เจ้าเด็กจอมตะกละ” ขณะที่กำลังไปร้านอาหารนั้น ชนุตต์ให้หนูดีขี่หลังตลอดทาง จรีภรณ์เดินใจลอยอยู่ทางด้านหลังเขาทั้งสอง หากชนุตต์ไม่ได้มีฐานะทางครอบครัวดีขนาดนี้ บางทีตอนนี้เธออาจจะกำลังคบกับเขาอยู่ก็ได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 46 เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A