ตอนที่ 48 แผนการของสองแม่ลูก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 48 แผนการของสองแม่ลูก
ตอนที่ 48 แผนการของสองแม่ลูก “ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบให้เขาแต่งงานกับชญาภาสิ แค่พวกเขาแต่งงานกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน เมื่อมีลูก เดี๋ยวเขาก็ลืมเองนั่นแหล่ะ” “เอาล่ะ ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้น”นวิยาถอนหายใจ เมื่อรอจนนวิยากลับออกไปแล้ว เขาเดินเข้ามาในห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออกหานพนา “นวิยามาหาผมแล้วนะ เธอรู้เรื่องที่จรีภรณ์มีลูกแล้ว” “อะไรนะ?” ปลายสายเอ่ยถามอย่างตกใจ เพราะเธอเองก็ไม่คิดว่านวิยาจะรู้เร็วขนาดนี้ “แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” อาจารย์ธิพลดูร้อนใจ “แล้วคุณบอกกับเขาไปอย่างไรบ้าง? มีหลุดอะไรออกไปหรือเปล่า?” นพนาถามอย่างกังวลใจ “ไม่มีหรอก เขาดูเหมือนจะกังวลกลัวว่าลูกชายของเขาจะรู้เข้า ผมเลยแนะนำเขาไป บอกให้เขาบอกลูกชายให้รีบแต่งงานกับชญาภา และดูเหมือนเขาจะเชื่อ เรื่องนี้คุณจัดการแล้วกัน ระวังอย่าให้จิรภาสรู้เป็นอันขาด” “โอเค ทางนี้เดี๋ยวฉันหาทางเอง” นพนาวางสายแล้วมองไปยังชญาภา ชญาภาถามอย่างร้อนใจว่าจะต้องทำอย่างไร? นพนาอารมณ์เสียและรู้สึกรำคาญ ตรีภพกลับมาในช่วงบ่าย นพนามองเขาอย่างแปลกใจ พลางเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าในมือมาถือไว้อย่างอ่อนโยน “ทำไมกลับมาตอนนี้ล่ะคะ?” “พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยยุ่งน่ะ ผมเลยกลับมาพักผ่อนซักหน่อย” ตรีภพว่าพลางนั่งลงที่โซฟา ดื่มชาที่นพนาเอามาให้อย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก “เดี๋ยวนี้ได้ไปหาจรีภรณ์บ้างไหมคะ?” นพนาถามอย่างเรียบๆ ทำเหมือนถามเรื่องทั่วๆไป “เปล่า” ตรีภพตอบไปตามความจริง “ทำไมคุณไปไปหาเธอบ้างล่ะคะ? ตัวคนเดียวคงลำบากแย่” นพนาแสร้งทำเป็นกังวลใจ ขณะพูดก็เหลือบมองไปยังชญาภา ตั้งใจเน้นคำว่า ตัวคนเดียวให้เขารู้สึกลังเล “คุณก็ใช่ว่าจะไม่รู้ เขาเกลียดผมจะตาย จะยอมเจอผมไหมล่ะ?” “ก็เพราะแบบนี้ไง คุณถึงต้องไปดูเธอบ่อยๆ” นพนายิ้มให้เขา “ฉันให้แม่บ้านซื้อผลไม้มา คุณเอาไปให้เขาสิคะ ถือว่าไปกระชับความสัมพันธ์ด้วย” ตรีภพไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าลงจิบชา และเมื่อนพนาเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆจึงพูดต่อ “ตอนนั้นเป็นเพราะฉันกับลูก เขาจะเกลียดพวกเราก็สมควรแล้วล่ะค่ะ ฉันอยากจะพยายามชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คุณก็รู้นิสัยของเขาดี” นพนาถอนหายใจ สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกโทษและตำหนิตัวเอง ตรีภพมองนพนาที่เป็นแม่ศรีเรือนให้กับครอบครัว ในใจนึกชื่นชม นึกถึงเมื่อก่อนที่ทุกครั้งเขาจะถูกจรีภรณ์ปฏิเสธกลับมา “จรีภรณ์เอาแต่ใจเกินไป ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ยังเป็นพ่อของเขา ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เขาไม่เคยเรียกผมว่าพ่อเลยซักครั้ง” “ตอนนี้เขาคงยังโกรธอยู่ พวกเราให้เวลากับเขาหน่อยนะคะ รอให้เขาเข้าใจแล้วเขาก็จะให้อภัยคุณเอง” นพนาปลอบใจตรีภพอย่างอ่อนโยน แต่กลับไม่คิดว่าเมื่อตรีภพด้ยินคำว่าให้อภัยจะทำให้เขาโมโหขึ้นมา เขาลุกขึ้นยืน “ฮึ่ย ผมดูแล้วในสายตาของเขาคงไม่มีพ่อคนนี้อยู่แล้วล่ะ จะไม่ให้อภัยก็ช่าง!” พอพูดจบ ตรีภพก็เดินขึ้นไปข้างบน ทิ้งไว้แต่นพนาที่กำลังตะลึงงง รอจนตรีภพเข้าห้องไปแล้ว นพนาถึงได้ตบโซฟาด้วยความเกลียดชัง “แม่ ที่แม่พูดไปหมายความว่าอย่างไร ทำไมถึงช่วยมันพูดแบบนั้นล่ะ?”ชญาภาที่ฟังอยู่ด้วยถามอย่างร้อนใจ แต่เธอกลับพูดอะไรไม่ได้ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมคนเป็นมารดาถึงพูดไปแบบนั้น ตามหลักความจริงแล้วแม่ของเธอก็เกลียดจรีภรณ์ไม่น้อยไปกว่าเธอแน่ แต่ทำไมเมื่อสักครู่ถึงพูดออกไปแบบนั้น เหมือนกับกำลังเป็นห่วงผู้หญิงเลวทรามคนนั้นอยู่ นพนาเห็นแผนของตัวเองล้มเหลว เดิมทีที่รู้สึกโมโห แต่กลับเห็นคนเป็นลูกย้อนถามตัวเอง จึงด่าว่าไปในขณะนั้น “เกิดเรื่องขึ้นก็เอาแต่เอะอะโวยวาย แม่กำลังช่วยแกอยู่นะ แต่แกกลับมาสงสัยแม่ตัวเอง ไม่มีประโยชน์จริงๆ แม่เป็นแม่แกนะ แม่จะทำร้ายแกหรือ!” “แต่แม่ หนูเกลียดมัน เกลียดจนอยากให้มันตายๆไปซะ”ชญาภาสาปแช่งด้วยอารมณ์เกลียดชังยิ่งดูน่ากลัวยิ่งนัก “หุบปาก แกดูแกตอนนี้สิไม่เหลือทีท่าของลูกสาวผู้ดีเลยซักนิด” นพนาจ้องมองลูกสาวตัวเอง พลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ในใจนึกเกลียด ผู้หญิงคนนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ ทำให้พวกเขาวุ่นวายกันไปหมด เธอดูผิดไปจริงๆ คิดมาถึงตอนนี้ เธอก็ยิ่งเกลียด และตอนนี้ก็ยิ่งเกลียดตรีภพขึ้นไปอีกด้วย เดิมทีเธออยากจะยืมมือของตรีภพมาเพื่อช่วย เพียงแค่ตรีภพไปหาจรีภรณ์ เขาจะต้องเห็นเด็กนั่น และคนอย่างเขา จะต้องตามถามถึงที่มาที่ไปของเด็กคนนั้นแน่ๆ จรีภรณ์ที่เป็นคนดื้นรั้นหัวแข็ง เธอจะต้องพูดจาเหน็บแนมคนเป็นพ่อ พอถึงตอนนั้นเธอคงยั่วโมโหตรีภพเป็นแน่ ตรีภพเป็นคนใหญ่คนโต ลูกสาวมีลูกโผล่มาแบบไม่มีที่มาที่ไป เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร ถึงเวลาคงจะมีวิธีในการสืบเสาะหาความจริงเข้าจนได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร คำพูดที่มาจากตรีภพ นั่นจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกจะยิ่งแย่ลงอีกด้วย และถึงตอนนั้น หากเด็กนั่นไม่ใช่ลูกของจิรภาสเธอก็ถือโอกาสอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ แต่หากใช่ล่ะก็ เธอจะต้องเตรียมวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า แต่ไม่คิดว่าตรีภพจะไม่หลงกลเธอ กลับโมโหจนขึ้นห้องไปแล้วนี่สิ ทำเธอวุ่นวายใจเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถระบายออกมาได้ “แกซื้อผลไม้ไปเยี่ยมนวิยาไป” นพนาแนะนำลูกสาวตัวเอง พอได้ยินดังนั้น ชญาภาก็ดูมีชิวิตชีวาขึ้นมาทันที ใกล้เวลาอาหารเย็น ชญาภาก็มาถึงบ้านนวิยา ตอนเธอเดินเข้าไป เห็นนวิยากำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น การมาถึงของเธอทำให้นวิยาตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าชญาภาจะมาในช่วงเวลานี้ แต่ปฏิกิริยาตอบกลับมาเร็ว เธอจึงดึงให้ชญาภานั่งลงด้วยกัน “คุณป้าคะ หนูมาโดยไม่ได้แบบไม่ได้กล่าวทักทายก่อน รบกวนรึเปล่าคะ?”ชญาภามองคนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง เธอเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติมาก “ดูพูดเข้าสิ หนูมาหาป้า ป้าก็ดีใจมากแล้วล่ะ มาแล้วยังอุตส่าห์เอาผลไม้มาอีก”นวิยากล่าวอย่างยิ้มแย้มกับชญาภา เดิมทีเมื่อสักครู่ที่ตัวเองกำลังรู้สึกอัดอั้นใจอยู่นั้น ผ่อนคลายลงไม่น้อย “ยินดีค่ะ จริงๆแล้วหนูน่าจะมาหาคุณป้าให้เร็วกว่านี้ แต่พอดีช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งน่ะค่ะ ก็เลยเลยเวลามาจนถึงตอนนี้ คุณป้าไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ?” “เด็กโง่ ป้าจะว่าอะไรล่ะจ๊ะ”นวิยามองท่าทางน่าเอ็นดูของเธอด้วยความพอใจ แต่พอนึกถึงเรื่องที่จรีภรณ์มีลูกแล้วในใจกลับรู้สึกอึดอัด เธอไม่รู้จริงๆว่า หากลูกชายของเธอรู้เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่เธอแน่ใจว่า ลูกชายของเธอคงจะเจ็บปวดมากๆ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะทนเห็นผู้หญิงที่ตัวเองรักที่สุดไปมีลูกกับคนอื่นได้หรอก แม้ว่าเขาจะหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอรู้ว่าลูกชายของเธอไม่เคยลืมผู้หญิงคนนั้นได้เลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกชายของเธอบอกกับเธอว่า เขาหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็รู้เลยว่า ลูกชายเธอตกหลุมรักคนๆนั้นและคงจะไม่มีทางออกมาจากตรงนั้นได้ตลอดชีวิตแน่ๆ เพราะเธอเห็นทุกครั้งที่ลูกชายตัวเองพูดถึงผู้หญิงคนนั้นด้วยแววตาที่ระยิบระยับ ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นเลยเวลาเขามองคนอื่นๆ และแม้ว่าสุดท้ายแล้วลูกชายจะฟังคำของเธอ ถูกบังคับให้หมั้นกับชญาภา แต่ระหว่างนี้ ลูกชายไม่พูดออกมา แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขาเกลียดแม่คนนี้มากแค่ไหน และคงโทษแต่แม่คนนี้ หากไม่ใช่เพราะเธอเป็นแม่ของเขา เขาก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้ แต่ว่าวันนี้เธอมีความสุขแล้วหรือยัง? คนเป็นแม่อย่างเธอ เธอแค่ต้องการหลาน อยากให้ลูกชายของตัวเองใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เธอผิดตรงไหน? ทำไมลูกชายถึงไม่เข้าใจความตั้งใจของเธอบ้าง หรือสำหรับเขาแล้วเธอไม่สำคัญเท่ากับผู้หญิงคนนั้นหรือ? นวิยายิ้มออกมาแล้วถอนหายใจ พวกเขากลายเป็นศัตรูกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ศัตรูที่ใช้ชีวิตอยู่ในชายคาเดียวกัน ชญาภาเห็นท่าทางของนวิยา ในใจคิดว่าจะต้องเป็นเรื่องของลูกจรีภรณ์แน่ๆ จึงถือโอกาสถามออกไป “คุณป้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? มีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า?” นวิยามองชญาภาอย่างลังเล แต่สุดท้ายจึงพูดออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ป้ามีเรื่องจะบอกหนูอยู่เรื่องนึง แต่หนูต้องอย่าใจร้อนนะลูก เดี๋ยวพวกเราค่อยๆคิดหาทางกันอีกที” “คะ เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณป้า?”ชญาภาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราว ตั้งใจถามด้วยความสงสัย “วันนี้ป้าไปเจอจรีภรณ์มา”นวิยาค่อยๆพูดต่อไปอย่างลังเล “ทะเลาะกันหรือคะ?” “ไม่ใช่จ้ะ เขาพาเด็กผู้ชายมาด้วย และนั่นก็คือลูกของเขา” “อะไรนะคะ?”ชญาภาตั้งใจทำเป็นตกใจมองหน้านวิยา แสดงออกทางสีหน้าว่าตนเองไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
已经是最新一章了
加载中