ตอนที่ 173 ตายใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 173 ตายใจ
ต๭นที่ 173 ตายใจ ในเช้าวันถัดมาเชียนซานก็กลับมาในวังหลวง เมื่อได้ยินข่าวดีจากหว่านเหนียงนางก็ดีใจเสียจนกระโดดโลดเต้น หญิงสาววิ่งไปกอดชูเซี่ยไว้แน่น “ดีเหลือเกิน ดีจริงๆ ในที่สุดข้าก็จะได้มีนายน้อยแล้ว” หว่านเหนียงยิ้มกับภาพตรงหน้า “ดูเจ้าสิ ดีใจอย่างกับเป็นผู้ตั้งครรภ์เสียเอง ถ้าอย่างไรข้าว่านายหญิงก็หาฤกษ์งามยามดีแล้วให้นางออกเรือนเถิดเจ้าค่ะ” ใบหน้าของเชียนซานขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะค้อนขวับใส่หว่านหนียง “พูดจาเหลวไหล ใครว่าข้าจะแต่งงานกับตาซื่อบื้อคนนั้นกัน เขายังไม่ผ่านมาตรฐานของข้าเสียหน่อย” ชิงเอ๋อที่อยู่ข้างๆถึงกับยิ้มออกมา “ใครคือตาซื่อบื้อคนนั้นหรือ เมื่อครู่หว่านเหนียงกูกูไม่ได้กล่าวถึงตาซื่อบื้อนั่นสักคำ ไม่ทราบว่าคนซื่อบื้อของแม่นางเชียนซานคือใครกันเจ้าคะ” คราวนี้ใบหน้าของเชียนซานกลายเป็นสีแดงเข้มทั้งหน้าก่อนจะเอ่ยโวยวายออกมา “พอแล้วพอแล้ว พวกเจ้าแต่ละคนเอาแต่ล้อข้า ข้าว่าหากจะมีใครสักคนสมควรออกเรือน คนผู้นั้นควรจะเป็นหว่านเหนียงจึงจะถูก นางอายุมากแล้วขืนยังไม่ยอมแต่งอีกเกรงว่าคงเป็นแม่ไข่ที่ไม่สามารถออกไข่ได้อีกแล้วล่ะ” หว่านเหนียงหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะทุบนาง “นิสัยไม่ดีใหญ่แล้ว เจ้ากล้าว่าข้าหรือ!” ชูเซี่ยอมยิ้มขณะมองพวกนางทะเลาะกัน ในตำหนักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง มือของนางวางทาบอยู่บนหน้าท้องจากนั้นความกังวลใจก็ถูกแทนที่ด้วยความสุข นางกำลังนึกถึงเด็กที่จะลืมตาดูโลกในภายภาคหน้า ลูกข้างนางกับหลี่เฉินเย่น จนกระทั่งตกช่วงบ่ายก็มีข่าวจากตำหนักหยงหมิงว่าฝ่าบาททรงมีราชโองการแต่งตั้งฉ่ายเวินเป็นหวงกุ้ยเฟย ข่าวแพร่กระจายมาจนถึงตำหนักฉ่ายเหว่ย ชูเซี่ยยังไม่ทันจะกล่าวอะไรเชียนซานก็โมโหเดือดดาลไปหมด นางชักดาบออกมาจากฝักก่อนจะเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “หากว่านางไม่ตายข้านี่ล่ะจะเป็นคนลงมือสังหารนางเอง ให้นางไปเสียจะได้ไม่มีโอกาสไปลงมือทำร้ายใครได้อีก!” หว่านเหนียงถลาเข้าไปปรามนางไว้ “แม่นางที่แสนดีของข้า หากเจ้าบุกไปก่อเรื่องคนที่ลำบากก็ย่อมต้องเป็นนายหญิงของพวกเราไม่ใช่หรือ แล้วพระองค์จะมองนายหญิงเราอย่างไรเล่า อีกอย่าฃ ราชโองการก็ถูกร่างขึ้นแล้วจะให้ฝ่าบาทคืนคำก็คงไม่ได้อีก” เชียนซานเอ่ยอย่างโมโห “ฝ่าบาททรงมีราชโองการให้นางเป็นองค์หญิง แต่พระองค์ก็เคยทรงตรัสว่าจะแต่งตั้งนายหญิงของเราเป็นฮองเฮาเหมือนกันไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้เล่า องค์หญิงกลายเป็นหวงกุ้ยเฟยเสียแล้ว แล้วตำแหน่งฮองเฮาเล่า?” ชิงเอ๋อก็เข้ามาห้ามเชียนซานไว้อีกแรง “ฝ่าบาททรงมีรับสั่งเช่นนี้นั่นย่อมเท่ากับว่านางคงไม่มีโอกาสรอดแล้วไม่ใช่หรือ เราเองก็อย่าเพิ่งทำอะไรตอนนี้เลย ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องวุ่นวายเสียเปล่าๆ” ชิงเอ๋อกล่าวจบนางก็ส่งสายตาให้เชียนซานหันกลับไปมองชูเซี่ย เมื่อเชียนซานหันกลับไปมองชูเซี่ยนางก็ใจเย็นลงมาบ้างและเก็บกระบี่คืนฝัก “นายหญิง ท่านอย่าได้เสียใจไปเลยเจ้าค่ะ ฝ่าบาทคงเห็นว่านางใกล้ตายแล้วจึงไดทำเช่นนี้ ตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยนั้นนางย่อมไร้วาสนาแน่นอนอยู่แล้ว!” ชูเซี่ยส่งเสียงในลำคอ นางเริ่มอับจนคำพูด ผ่านไปสักพักนางจึงค่อยๆลุกขึ้นมาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “ข้าอยากพักสักหน่อย พวกเจ้าห้ามตามเข้ามานะ!” เชียนซานวางใจไม่ลง นางอยากตามเข้าไปในห้องด้วยแต่หว่านเหนียงกลับรั้งนางไว้ก่อนเอ่ยกระซิบเสียงแผ่ว “ให้นางพักอยู่คนเดียวเถิด!” ดวงตาของเชียนซานเป็นประกายเย็นยะเยือกก่อนที่นางจะค่อยๆเอ่ยอย่างแค้นเคือง “หากว่านางไม่ตายข้านี่ล่ะจะเป็นคนจัดการนางเอง!” ดวงตาของชิงเอ๋อฉายแววเจ็บปวด นางเดินหลบออกไปนั่งอยู่ที่ลานกว้างหน้าตำหนัก ในใจของนางรู้สึกทรมานและอึดอัดไปหมด ฉ่ายเวิน ดูท่าว่าแผนร้ายของหญิงสาวผู้นั้นจะประสบความสำเร็จแล้วสินะ แต่ทว่านางก็อยากไปพบศิษย์พี่แล้วเปิดเผย ความช่วยร้ายของหญิงผู้นั้นเหลือเกิน ศิษย์พี่ใส่ใจนางถึงเพียงนี้หากเขารู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นสตรีที่เหี้ยมโหดอำมหิตถึงเพียงนี้เข้าจะผิดหวังเพียงใดนะ ชูเซี่ยเอนกายลงบนเตียง หัวใจของนางเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน นางพยายามกล้ำกลืนน้ำตาที่ไหลเอ่อไม่ยอมให้มันไหลออกมา ก็เป็นเสียแบบนี้ แม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่ได้รักใคร่ในตัวฉ่ายเวิน แต่ทว่าความรู้สึกที่เขามีต่อฉ่ายเวินก็นับว่าฝังลึกลงไปในจิตใจของเฉินเย่นอย่างยิ่ง มันลึกเสียจนแทบจะเทียบได้กับความรู้สึกที่เขามีต่อนางด้วยซ้ำ แม้ว่าความรู้สึกทั้งสองแบบจะไม่เหมือนกัน นางเองก็ไม่เคยคิดว่าความรู้สึกทั้งสองแบบนี้จะมาขัดแย้งกัน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันก็เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นมาแล้วจริงๆ เขามีภรรยาใหม่อีกคนแล้ว ไม่ว่าเขาจะมีโหร่วยเฟย เฉินอวี่จู๋ ฉ่ายเวิน นางก็ไม่ยอมไปไหน ยังทนอยู่เคียงข้างเขาทั้งๆที่ไม่มีฐานะใดๆเลยด้วยซ้ำ แล้วท้ายที่สุดนางได้อะไรกลับมาบ้างเล่า ชูเซี่ยนึกถึงสีหน้าท่าทางของเขาในยามที่ชายหนุ่มโอบกอดร่างของฉ่ายเวินไว้ในอ้อมกอด ดวงตาของเขาฉายแววตำหนิและโกรธแค้นนาง เขาไม่เชื่อใจนางแม้แต่น้อย หรือว่าแท้จริงแล้วในใจของเฉินเย่นฉ่ายเวินสำคัญกว่านางมาตั้งแต่ต้นแล้วกันนะ “ลูกจ๋า เจ้าช่างมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาเอาเสียเลย!” หญิงสาวหลับตาลงก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด นางปล่อยให้น้ำตาที่สะกดกลั้นไหลทะลักออกมาในที่สุด ร้องไห้อยู่นานจนเหนื่อยนางก็ค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทรา เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งนางก็พบว่าเวลาล่วงเลยมามากแล้ว ที่ข้างเตียงมีร่างๆหนึ่งนั่งอยู่ เขามองมาที่นางนิ่งๆจนทำให้กระบอกตาของนางเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง นางหายง่วงแทบจะเป็นปลิดทิ้ง “ฉ่ายเวินดีขึ้นหรือไม่” หลี่เฉินเย่นหันกายกลับมามองนางด้วยดวงตาเย็นยะเยือกและแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาจ้องมองมาที่ชูเซี่ยนิ่งๆจากนั้นก็ยิ้มขมขื่น “เจ้าไม่น่าบีบบังคับนางถึงเพียงนี้ เจ้ากำลังทำร้ายนาง!” หัวใจของชูเซี่ยคล้ายกลับถูกบีบแน่น นางรู้สึกเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก สักพักนางจึงค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา “ข้าบีบบังคับนาง? ข้าทำร้ายนาง?” หลี่เฉินเย่นจ้องเขม็งมาที่นาง “หรือเจ้าจะปฎิเสธเล่า หากเจ้าไม่บีบบังคับนางมีหรือว่าตอนนี้นางจะกลายเป็นเช่นนี้ อีกอย่างด้วยฝีมือของเจ้าหากนางจะฆ่าตัวตายเจ้าย่อมห้ามนางได้อยู่แล้ว ชูเซี่ย แท้จริงแล้วในใจลึกๆของเจ้าก็คงอยากให้นางตายอยู่แล้วใช่หรือไม่” ชูเซี่ยรู้สึกว่าหัวใจของนางกำลังบาดเจ็บสาหัส กระบอกตาของนางร้อนผ่าวไปหมด นางสูดลมหายใจลึกๆก่อนเอ่ยออกมา “ไม่ผิด ข้าอยากให้นางตาย ทางที่ดีนางควรรีบตายๆไปเสียที!” ชายหนุ่มตรงหน้านางตวัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของนางอย่างแรงจนหันไปอีกฟาก ไม่ใช่ว่านางหลบไม่ได้แต่นางไม่อยากหลบต่างหากเล่า ต้องทำเช่นนี้นางจึงจะยอมตายใจ แต่ทว่าหัวใจของนางกลับรู้สึกเจ็บเสียจนไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไปจนต้องปล่อยให้มันไหลลงมาอาบแก้มในที่สุด หลี่เฉินเย่นมองฝ่ามือของตนเองอย่างหงุดหงิด เขาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงลงมือทำร้ายนางได้ “ข้าขอโทษ...” ชายหนุ่มรวบร่างของนางเข้ามากอดไว้แน่น เขาวางคางลงบนกลุ่มผมของนางก่อนเอ่ยอย่างเสียใจ “หมอหลวงบอกว่านางคงอยู่ไม่พ้นคืนนี้แล้ว ชูเซี่ย เจ้าเข้าใจบ้างหรือไม่ ในใจของเรารู้สึกเป็นห่วงนางเหลือเกิน เราเพียงแค่คิดว่าต่อให้นางเคยทำอะไรผิดมาเราก็สามารถอภัยให้นางได้อย่างไร้ข้อแม้ ขอเพียงแค่นางรอด ต่อให้ตำแหน่งฮองเฮาเราก็สามารถมอบให้นางได้ นางอยากได้อะไรเราก็มอบให้นางได้ทั้งหมด เรารู้ว่าในใจของเจ้าก็คงไม่ได้อยากให้นางตายใช่หรือไม่ เจ้าไม่ใช่คนโหดร้ายเสียหน่อย” ชูเซี่ยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ตอนนี้หัวใจของนางเจ็บจนชาไปเสียแล้ว นางเพียงแค่อยากยิ้มออกมาเท่านั้น หากว่าหญิงสาวผู้นั้นอยากได้ตำแหน่งฮองเฮาเขาก็พร้อมจะยกให้นางสินะ หลี่เฉินเย่น แท้จริงแล้วเจ้าเอาข้าไปวางไว้ที่ใดแล้วกันแน่ หญิงสาวค่อยๆดันร่างเขาออกช้าๆก่อนจะจับจ้องใบหน้าของคนตรงหน้า “ท่านผิดแล้วล่ะ ข้าอยากให้นางตายจริงๆ ข้าเกลียดนางจนไม่รู้จะเกลียดอย่างไร! ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองจึงโหดเหี้ยมอำมหิตได้ถึงเพียงนี้ แต่ทว่าข้าก็อยากให้นางตายจริงๆ” หลี่เฉินเย่นจ้องมองนางด้วยสีหน้าหมองคล้ำ จ้องอยู่เช่นนั้นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ที่แท้เจ้าก็คิดเช่นนี้หรือ เจ้าทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังในตัวเจ้าเหลือเกิน ดูท่าแล้วที่ฉ่ายเวินกล่าวมาคงไม่ผิดสินะ เป็นเจ้าที่ทำให้เฉินอวี่จู๋ต้องตาย!” ราวกับถูกตีกลางแสกหน้า หัวใจของนางเจ็บแปลบไปหมด เจ็บเสียจนหัวสมองของนางเลอะเลือนไปชั่วขณะ เจ็บเสียจนนางถึงกับขาดความยั้งคิดและทำให้หัวสมองขาวโพลน นางเป็นคนทำให้เฉินอวี่จู๋ต้องตาย? ที่แท้แล้วเขาก็มองนางเช่นนี้ใช่หรือไม่ ชูเซี่ยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่แย้มออกมาอย่างอ่อนหวาน “หากว่าข้าเหี้ยมโหดถึงปานนั้นท่านก็ควรสังหารข้าให้ตายไม่ก็ขับไล่ข้าออกจากวังสิจึงจะถูก” หลี่เฉินเย่นส่ายศีรษะ ดวงตาคมจ้องเขม็งมาที่นาง “เจ้าเป็นคนฆ่าเฉินอวี่จู๋ใช่หรือไม่” “ช่างน่าขำเสียจริง ท่านก็เชื่อสนิทใจแล้วว่าข้าเป็นผู้ลงมือแล้วยังมาถามข้าทำไมอีก หากข้าบอกว่าไม่จริงท่านจะเชื่อหรือไม่เล่า” ชูเซี่ยกล่าวยิ้มๆ “แต่ทว่าที่ฉ่ายเวินกล่าวมาก็ไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ทำร้ายเฉินอวี่จู๋เอง!” เป็นนางที่ทำร้ายเฉินอวี่จู๋ นางควรจัดการฉ่ายเวินตั้งแต่แรก หากว่านางสังหารฉ่ายเวินเสียตั้งแต่แรกเฉินอวี่จู๋ก็คงไม่ต้องตาย นางเองก็คงไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ หลี่เฉินเย่นถึงกับกลั้นลมหายใจ “ชูเซี่ย เจ้ามันโหดเหี้ยม!” ชูเซี่ยเอ่ยตอบ “ใช่แล้ว ข้ามันโหดเหี้ยม เช่นนั้นแล้วตอนนี้ท่านจะลงมือฆ่าข้าหรือไม่” หลี่เฉินเย่นมองนาง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ดวงตาจะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นและมีประกายเข่นฆ่าอยู่ในนั้น แต่ทว่าสุดท้ายชายหนุ่มก็หะนหน้าหนีไปทางอื่น “เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีทางลงมือสังหารเจ้าได้และยิ่งไม่มีทางยอมปล่อยให้เจ้าไปจากข้า ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ข้าก็ยังยินดีจะเก็บเจ้าเอาไว้ข้างกายของข้า” น้ำตาของชูเซี่ยหยดลงมา คำพูดเช่นนี้เจ็บกว่าคำพูดก่อนหน้าหลายเท่านัก เขารักนาง นางรู้ดี เขาไม่เชื่อนาง นางเองก็รู้ คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรหากขาดความเชื่อใจกันและกัน หากผ่านพ้นวันนี้ไปเขาและนางก็มีแต่ความเจ็บปวดไม่มีทางจะมีความสุขได้เลย ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านางเป็นคนที่นางรักมากถึงขั้นยอมมอบชีวิตให้เขาได้ เป็นคนที่ทั้งชีวิตนางไม่อาจยอมปล่อยวางได้ แต่ทว่าปล่อยวางไม่ได้แล้วอย่างไรเล่า ระหว่างเขาและนางอย่างไรเสียก็ไม่อาจเดินต่อไปด้วยกันได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินเข้าไปรวบร่างของนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะกระซิบเสียงเหี้ยม “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยุ่ เจ้าตั้งใจจะไปจากข้าใช่หรือไม่ ข้าขอบอกเจ้าไว้เลยว่าเลิกล้มความคิดนี้เสีย ทั้งชีวิตของเจ้าอย่าได้คิดว่าจะไปจากข้าได้ ต่อให้ข้าเกลียดเจ้าข้าก็จะรั้งเจ้าไว้ข้างกายให้ข้าเกลียดตลอดไป” ชูเซี่ยกอดชายหนุ่มตอบก่อนจะร้องไห้ออกมา นางเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด “หลี่เฉินเย่น ท่านไปเถิด ไปหาฉ่ายเวินเสีย อย่าได้มาที่นี่อีกเลย ท่านต้องดีกับนางให้มากๆ ไม่ว่านางจะทำอะไรลงไปทั้งหมดก็เพราะว่านางรักท่าน ในเมื่อท่านกล่าวแล้วว่าท่านสามารถให้อภัยนางได้ทั้งหมด เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไปแล้ว” ชายหนุ่มก้มลงไปกัดบริเวณซอกคอของนางอย่างแรง เจ็บเสียจนชูเซี่ยต้องกัดริมฝีปากของตนไว้แน่น นางปล่อยให้เขาระบายความอัดอั้นออกมาก่อนจะค่อยๆกระซิบข้างๆใบหูของเขา “ท่านไม่เชื่อใจข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ ระหว่างเราพบเจอเรื่องราวด้วยกันมามากมายแต่ท่านกลับให้ไม่ได้แม้แต่ความเชื่อใจกลับข้าเชียวหรือ!” หลี่เฉินเย่นคลายแรงกัดในที่สุดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนาง “ข้าไม่สนว่าที่ผ่านมาเจ้าจะทำอะไรลงไปบ้าง ต่อให้เจ้าจะทำให้เฉินอวี่จู๋ต้องตายหรือจะบีบบังคับให้ฉ่ายเวินต้องฆ่าตัวตายข้าก็ไม่สน ข้าสามารถให้อภัยฉ่ายเวินที่นางลอบวางยาเจ้าได้ ข้าก็สามารถอภัยความโหดร้ายของเจ้าได้เช่นกัน ชูเซี่ย แต่นี้เป็นต้นไปเจ้าอย่าได้ทำให้ข้าผิดหวังเสียใจอีกได้หรือไม่ พวกเราก้าวผ่านเรื่องนี้กันต่อไปเถิด!” “พวกเราสามารถทำเช่นนี้ได้จริงๆงั้นหรือ ท่านเพิ่งมีราชโองการแต่งตั้งให้ฉ่ายเวินเป็นหวงกุ้ยเฟยไม่ใช่หรือ ท่านหมายความว่าจะให้ข้ากับนางใช้สามีร่วมกันใช่หรือไม่ ท่านคิดว่าข้าจะยอมได้เช่นนั้นหรือ” ชูเซี่ยมองเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวด ริมฝีปากของนางแย้มยิ้มขมขื่น “หมอหลวงกล่าวว่านางอาจจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้อยู่แล้ว!” “ข้ามั่นใจอย่างยิ่งว่านางสามารถอยู่พ้นแน่ แผลนั้นไม่สามารถเอาชีวิตนางได้แน่ ข้าขอถามท่านหากว่านางสามารถรอดมาได้จริงๆท่านจะแต่งกับนางจริงๆใช่หรือไม่” ชูเซี่ยถามเขาตรงๆ นางถามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดไม่เปิดโอกาสให้เขาบ่ายเบี่ยงใดๆ หลี่เฉินเย่นจ้องมาที่นาง “เจ้าก็น่าจะรู้ว่าในหัวใจของข้ามีเพียงเจ้าแค่เพียงผู้เดียว อีกอย่างเจ้าสามารถยอมรับโหร่วยเฟยได้ แต่เหตุใดจึงไม่อาจยอมรับฉ่ายเวินได้เล่า” ชูเซี่ยตัดใจได้ในที่สุด นางค่อยๆเอื้อนเอ่ยคำพูดออกใส “ใช่แล้ว ในเมื่อข้าสามารถยอมรับโหร่วยเฟยได้แล้วเหตุใดไม่อาจยอมรับหวงกุ้ยเฟยได้อีกสักคนล่ะ แน่นอนว่าอีกหน่อยข้าก็คงต้องยอมรับนางสนมในวังหลังได้อีกมากมายนับไม่ถ้วนสินะ” “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ดวงตาของหลี่เฉินเย่นเป็นประกายยะเยือก “ไม่ว่าจะโหร่วยเฟย เฉินอวี่จู๋ ฉ่ายเวินข้าก็ล้วนต้องยอมรับ เช่นนั้นต่อไปข้ายังต้องยอมรับใครอีกบ้างเล่า หลี่เฉินเย่น ข้าจะบอกอะไรท่านไว้อย่างหนึ่ง หากวันใดที่ข้ายอมรับได้จริงๆนั่นก็เท่ากับว่าข้าคงหมดรักในตัวท่านแล้ว ข้าเองหากเลือกได้ก็อยากจะยอมรับได้เช่นกัน ตั้งแต่นี้ต่อไปข้าจะไม่สนใจท่านอีกต่อไปแล้ว ท่านไปเถิด กลับไปดูแลศิษย์น้องของท่านให้ดี ต่อจากนี้ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกแล้ว พวกเราไม่ต้องพบกันอีก!” ใบหน้าของชูเซี่ยเย็นชาจนลามไปถึงน้ำเสียงที่นางพูดออกไป หลี่เฉินเย่นยืนขึ้น สายตมคมมองมาที่นางเหมือนมองคนแปลกหน้า “ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าแท้จริงแล้วเจ้าจะเป็นคนใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนี้ ฉ่ายเวินเคยวางยาเจ้าก็จริง แต่ทว่านางเองก็ยอมรับผิดแล้ว เจ้าเองก็ไม่ได้รับอันตรายอะไรไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงไม่ใจกว้างเสียหน่อยเล่า หรือว่าที่ผ่านมาตัวตนของเจ้าเป็นเพียงแค่เสแสร้งแกล้งทำงั้นหรือ” ชูเซี่ยเอ่ยขึ้นอย่างเฉียบขาด “ท่านกล่าวมาได้ถูกต้อง เป็นข้าที่เสแสร้งออกมาทั้งสิ้น เป็นท่านที่โง่เองแต่ตอนนี้ท่านก็รู้ความจริงแล้วสินะ ข้าจะบอกอะไรให้นะ ยังมีอีกมากที่ท่านไม่รู้ ท่านคิดว่าแท้จริงแล้วข้ารักท่านมากนักหรือ ท่านผิดแล้วล่ะ ตั้งแต่แรกคนที่ข้ารักมีเพียงแค่จูเก๋อหมิงเท่านั้น แต่ก่อนข้าก็เคยชอบท่านแต่ทว่าคนที่ข้าอยากแต่งด้วยแท้จริงมีเพียงจูเก๋อหมิง...” ชายหนุ่มตบหน้านางอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ออมแรงแม้แต่น้อย ใบหน้าของชูเซี่ยแดงเป็นปื้น นางพยายามกัดฟันข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้และหันไปมองสบสายตาของเขาที่จ้องมาอย่างเย็นชา “ชูเซี่ย เจ้ามันนางปีศาจ!” หลี่เฉินเย่นกัดฟันพูดด้วยโทสะก่อนจะเดินจากไป! 
已经是最新一章了
加载中